คาร์ส 2 สายลับสี่ล้อ...ซิ่งสนั่นโลก 29 กันยายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ และในระบบดิสนีย์ ดิจิตอล 3 มิติ, ไอแมกซ์ 3 มิติ
“ผมโตขึ้นมากับความรักในรถยนต์และวัฒนธรรมรถยนต์ของแคลิฟอร์เนียตอนใต้
พ่อผมเป็นผู้จัดการฝ่ายอะไหล่ที่เชฟโรเล็ต ดังนั้น ‘Cars’ ก็เลยเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ สำหรับผม
ทั้งตัวละคร เมืองเล็กๆ ความรักและกำลังใจที่มีให้ต่อกันและกันของพวกเขา และวิถีชีวิตของพวกเขา
ผมหยุดคิดเรื่องของพวกเขาไม่ได้เลย ผมอยากจะเดินทางอีกครั้งไปยังสถานที่ใหม่ๆ ทั่วโลก และผมก็คิดว่า
หนทางในการเข้าสู่โลกใบนั้นน่าจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมรัก นั่นคือหนังสายลับ ผมอดไม่ได้ที่จะผสมผสานโลกสองใบที่แตกต่างกันของเรดิเอเตอร์ สปริงส์ และแวดวงสายลับระดับโลกเข้าด้วยกัน และนี่คือผลที่ได้ครับ”
--ผู้กำกับจอห์น ลาสเซ็ทเตอร์
เกี่ยวกับงานสร้าง
พิกซาร์ อนิเมชัน สตูดิโอส์และวอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ พร้อมลงสนามอีกครั้งใน “Cars 2” เมื่อไลท์นิง แม็คควีน ดาวเด่นแห่งโลกรถแข่ง (พากย์เสียงโดยโอเวน วิลสัน) และรถลากเพื่อนซี้ของเขา เมเตอร์ (พากย์เสียงโดยแลร์รี เดอะ เคเบิล กาย) ได้สตาร์ทเครื่องการผจญภัยครั้งใหม่ในดินแดนต่างๆ ทั่วโลก
ทั้งคู่ได้รับการสนับสนุนจากทีมงานจากเรดิเอเตอร์ สปริงส์ เมื่อพวกเขาเดินทางไปต่างแดนเพื่อสนับสนุนไลท์นิงในการลงชิงชัยเวิลด์ กรังปรีซ์ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ตัดสินตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดในโลก แต่หนทางสู่เส้นชัยก็เต็มไปด้วยหลุมบ่อ ทางอ้อมและเรื่องเซอร์ไพรส์เมื่อเมเตอร์ถูกดึงตัวเครื่องเข้าไปพัวพันกับการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นของเขาเองในแวดวงสายลับระดับโลก
เมเตอร์พบว่าตัวเองต้องเลือกระหว่างการช่วยเหลือไลท์นิง แม็คควีนในการแข่งขันระดับโลก และการถูก “ลาก” เข้าไปพัวพันกับปฏิบัติภารกิจลับสุดยอดที่ควบคุมโดยซูเปอร์สายลับชาวอังกฤษ ฟินน์ แม็คมิสไซล์ (พากย์เสียงโดยไมเคิล เคน) และสายลับฝึกหัดคนสวย ฮอลลีย์ ชิฟท์เวล (พากย์เสียงโดยเอมิลี มอร์ติเมอร์) การเดินทางที่เต็มไปด้วยแอ็กชันของเมเตอร์นำเขาไปสู่การไล่ล่าสุดมันส์ในท้องถนนของญี่ปุ่น อิตาลี ฝรั่งเศสและอังกฤษ ไล่ตามมาโดยเพื่อนพ้องและถูกจับตามองจากรถทั่วโลก ความสนุกสนานสายฟ้าแลบนี้ร่วมสนุกโดยบรรดารถ เรือ รถไฟและเครื่องบินใหม่หลากสีสัน ที่มีทั้งผู้ร้ายที่น่าสะพรึงกลัวและผู้เข้าแข่งขันจากนานาชาติ
กำหนดเข้าฉายของ “Cars 2” ภาพยนตร์อนิเมชันเรื่องที่ 12 ของพิกซาร์ ตรงกับการครบรอบปีที่ 25 ของสตูดิโอชื่อดังแห่งนี้ และตามหลังจากภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์ปี 2010 “Toy Story 3” จอห์น ลาสเซ็ทเตอร์ ผู้กำกับเจ้าของอคาเดมี อวอร์ด หัวหน้าทีมครีเอทีฟของพิกซาร์ นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสตูดิโอ และซีซีโอของวอลท์ ดิสนีย์ และพิกซาร์ อนิเมชัน สตูดิโอส์ ได้หวนคืนสู่เก้าอี้คนขับอีกครั้งสำหรับการผจญภัย “Cars” ครั้งล่าสุด ภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมกำกับโดยแบรด ลูอิส (ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์รางวัลออสการ์ “Ratatouille”) ผู้เป็นผู้นำในการค้นคว้าและการพัฒนาเรื่องราวเริ่มต้นจนกระทั่งลาสเซ็ทเตอร์สามารถหวนคืนสู่เก้าอี้ผู้กำกับได้ “Cars 2” อำนวยการสร้างโดยเดนิส รีม ผู้คร่ำหวอดในแวดวงวิชวล เอฟเฟ็กต์ (ผู้ช่วยอำนวยการสร้าง “Up”, ผู้ควบคุมงานสร้างฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์ “Star Wars: Episode III — Revenge of the Sith”), คอมโพสเซอร์เจ้าของรางวัลออสการ์ ไมเคิล จิอัคคิโน (“The Incredibles,” “Up”) เป็นผู้สร้างดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่มีกลิ่นไอเซิร์ฟร็อคปะทะทริลเลอร์สายลับ ผสมผสานแนวดนตรีจากทั่วโลก กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น ลึกลับและอารมณ์ แบรด เพสลีย์, ร็อบบี้ วิลเลียมส์, วีซเซอร์, เบนาบาร์ นักร้องชาวฝรั่งเศสและเกิร์ลแบนด์ญี่ปุ่น เพอร์ฟูม ได้ร่วมร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
ผู้ที่ช่วยเสริมสร้างความสนุกและความตื่นเต้นให้กับ “Cars 2” คือทีมนักแสดงชั้นนำที่พากย์เสียงบรรดารถ เรือและเครื่องบินในการผจญภัยทั่วโลกครั้งนี้ โอเวน วิลสันกลับมาพากย์เสียงไลท์นิง แม็คควีน รถแข่งซิ่งสายฟ้าเจ้าของพิสตัน คัพสี่สมัย ที่บัดนี้กำลังจะลงชิงชัยในศึกเวิลด์ กรังปรีซ์ แลร์รี เดอะ เคเบิล กายพากย์เสียงเมเตอร์ (เจ้าของโทว์ เมเตอร์ โทว์อิ้ง แอนด์ ซัลเวจ) เพื่อนซี้ของไลท์นิง แม็คควีน ผู้เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของเรดิเอเตอร์ สปริงส์ บอนนี ฮันท์กลับมาพากย์เสียงแซลลี รถปอร์เช 911 คาร์เรรา สีฟ้าคันสวย ผู้ซึ่งมอเตอร์ของเธอหมุนเพื่อไลท์นิงเท่านั้น นักแสดงชื่อดังไมเคิล เคน เปิดตัวในภาพยนตร์พิกซาร์ในบทฟินน์ แม็คมิสไซล์ สายลับอังกฤษระดับแนวหน้า ผู้เข้าใจผิดว่าเมเตอร์เป็นสายลับอเมริกาที่พรางตัวอยู่อย่างยอดเยี่ยม เอมิลี มอร์ติเมอร์ใส่เอาเสน่ห์ ความเฉลียวฉลาดและความเก่งกาจของเธอเข้าไปในบทฮอลลีย์ ชิฟท์เวล สายลับมือใหม่ ที่รู้จักเคล็ดลับทุกอย่างในคู่มือ จอห์น ทูเทอร์โร นักแสดงผู้คร่ำหวอดในวงการปล่อยล้อฟรีในการพากย์เสียง ฟรานเซสโก้ เบอร์นูลลี แชมเปี้ยนอิตาลี ผู้เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของไลท์นิง โทนี แชลลูบ์, กุยโด้ คัวโรนี, พอล ดูลีย์, ชีช มาริน, จอห์น แรทเซนเบอร์เกอร์, โจ แมนเทนา, ปีเตอร์ จาค็อบสัน, เจสัน ไอแซ็คส์, เอ็ดดี้ อิซซาร์ด, ฟรังโก้ นีโรและวาเนสซา เร้ดเกรฟร่วมพากย์เสียงในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ลูอิส แฮมิลตัน แชมเปี้ยนรถสูตร 1 ตัวจริงและเจฟฟ์ กอร์ดอน นักแข่งนาสการ์ ได้ช่วยเสริมสร้างความสมจริงให้กับเรื่อง ด้วยบทคามีโอของพวกเขา
“Cars 2” นำเสนอในรูปแบบ Disney Digital 3D™ และใช้เทคโนโลยีล่าสุดอย่างเต็มพิกัดเพื่อทำให้ผู้ชมได้นั่งอยู่แถวหน้า (และผ่านมุมมองของรถ) สำหรับแอ็กชันสุดมันส์และฉากตระการตาจากทั่วโลก ช่างเทคนิคที่มากความสามารถของพิกซาร์ได้นำสื่อชนิดนี้ขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์สมัยใหม่ในการสร้างโมเดล ให้แสง เงาและการเรนเดอร์ภาพ
จอห์น ลาสเซ็ทเตอร์: หวนคืนสู่เก้าอี้คนขับอีกครั้ง
ผู้กำกับไม่อาจต้านทานเสน่ห์การแข่งรถหรือการชิงไหวชิงพริบของแวดวงสายลับได้
หลังจากเสร็จงานจาก “Cars” แล้ว จอห์น ลาสเซ็ทเตอร์ก็รู้ว่าเขาอยากจะบอกเล่าเรื่องราวอีกเรื่องหนึ่งกับตัวละครพวกนี้ ที่เขาและผู้ชมรัก และไอเดียสำหรับ “Cars 2” ก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างก่อนที่งานสร้างภาพยนตร์จะเริ่มต้นขึ้นเสียอีก
“ระหว่าง ‘Cars’” ลาสเซ็ทเตอร์บอก “เรากำลังพัฒนาซีเควนซ์ที่ไลท์นิง แม็คควีนพาแซลลี รถปอร์เช ไปเดทครั้งแรก และมันก็จะเป็นที่โรงหนังไดรฟ์อิน เพราะมันเกี่ยวข้องกับรถอย่างมาก แล้วเราก็คิดว่า 'แล้วหนังที่ฉายอยู่เป็นเรื่องอะไรล่ะ' ผมชอบหนังสายลับและผมก็คิดว่ามันคงน่าสนุกถ้าจะได้เห็นว่าหนังสายลับจะออกมาเป็นยังไงในโลกของรถยนต์ เราคิดตัวละครชื่อฟินน์ แม็คมิสไซล์ ผู้ซึ่งจะได้แสดงในหนังภายในหนังเรื่องนี้ ขึ้นมา
“ผมเป็นแฟนหนังสายลับครับ” ลาสเซ็ทเตอร์เล่า “ผมโตขึ้นมากับการดูซีรีส์ ‘The Man from U.N.C.L.E.’ และลูกชายห้าคนของผมกับตัวผมก็ชอบดูหนังสายลับด้วยกัน เราได้ดูซีรีส์ ‘Bourne’ เป็นร้อยๆ รอบเลยครับ ดังนั้น แม้ว่าซีเควนซ์นี้จะเปลี่ยนไป และไลท์นิงและแซลลีก็ไปขับรถเล่นชมวิวในเดทครั้งแรกแทน ผมก็ไม่เคยลืมไอเดียของฟินน์ แม็คมิสไซล์และหนังสายลับเลย ผมคิดในใจว่า 'มันมีศักยภาพเยอะนะ'”
จากนั้นในปี 2006 ระหว่างการเดินทางไปประชาสัมพันธ์ “Cars” ในทั่วโลก ลาสเซ็ทเตอร์ก็รู้ว่า ประเทศที่มีความแตกต่างด้านวัฒนธรรมทั้งหลายเหล่านี้จะเป็นฉากที่เพอร์เฟ็กต์ในการทำให้ตัวละครใน “Cars” ได้มาพัวพันกับเรื่องราวสายลับ
“มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้พาเมเตอร์ไปรอบโลกและนำเขาเข้าไปสู่สถานการณ์ที่จะแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของประเทศนั้นๆ” ลาสเซ็ทเตอร์บอก “ส่วนที่สองของเรื่องราวได้รับการจุดประกายขึ้นมาในตอนที่ผมเดินทางอยู่ครับ ผมมีภาพตัวละครทั้งหมดในหัว แล้วผมก็มักจะหัวเราะกับตัวเองเสมอในตอนที่ผมอยู่ในประเทศต่างๆ เหล่านั้น และจินตนาการถึงว่าเมเตอร์จะทำตัวยังไงในสถานการณ์ต่างๆ หรือประเทศต่างๆ เหล่านั้น ตอนที่ผมอยู่ในปารีส ผมก็จะจินตนาการว่า เมเตอร์จะวนรอบวงเวียนที่ประตูชัยอาร์ค เดอ ทริออมป์ได้ยังไง มันไม่มีสัญญาณแถมไม่มีเส้นแบ่งเลนอีกต่างหาก เมเตอร์จะทำยังไงกับการต้องขับขี่ในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับท้องถนนในลอนดอน เมเตอร์จะทำยังไงถ้าไปหลงทางในท้องถนนที่ซับซ้อนของกรุงโตเกียว ที่ไม่มีป้ายจราจรเป็นภาษาอังกฤษเลย แล้วเมเตอร์จะทำยังไงในอิตาลี ที่ซึ่งสัญญาณไฟจราจรเป็นเพียงแค่ข้อเสนอแนะน่ะครับ”
นอกเหนือจากโอกาสในการได้นำตัวละครเหล่านี้ไปทั่วโลกและได้สำรวจโลกรถแข่งและสายลับระดับโลกแล้ว สิ่งที่ลาสเซ็ทเตอร์ชื่นชอบมากที่สุดคือหัวใจและอารมณ์ขันที่ปรากฏในตัวละครและเรื่องราว
“อารมณ์ขันใน ’Cars 2’ มาจากบุคลิกลักษณะของตัวละคร” ผู้กำกับบอก “และการได้เห็นพวกเขาในสถานการณ์ปลาพ้นน้ำที่น่าสนใจครับ แต่แกนกลางด้านอารมณ์ของเรื่องคือมิตรภาพระหว่างไลท์นิง แม็คควีนและเมเตอร์ ที่ถูกทดสอบในลักษณะที่แตกต่างและน่าสนใจครับ มันเป็นเรื่องที่ว่าสายใยมิตรภาพที่แน่นแฟ้นจะถูกทดสอบได้อย่างไร สิ่งที่อาจจะมั่นคงในที่หนึ่งแลดูแตกต่างไปมากในอีกที่หนึ่ง การนำมิตรภาพไปผ่านการทดสอบภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกันและสถานที่ที่แตกต่างกัน มิตรภาพนี้จะเป็นของแท้และลึกซึ้งขนาดไหนน่ะครับ”
ลาสเซ็ทเตอร์เอ็นดูเมเตอร์เป็นพิเศษ “เมเตอร์เป็นตัวละครที่พิเศษสุด เขาซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และพูดจาแบบขวานผ่าซาก เขาทั้งสนุกและน่ารัก ในตอนที่ตัวละครที่ไร้เดียงสาแบบนั้นพบว่าคนไม่ได้หัวเราะไปกับเขา เหมือนอย่างที่เขาคิดมาตลอดชีวิต แต่กลับหัวเราะเยาะเขา มันก็เป็นภาพที่ทำให้หัวใจสลายที่ได้เห็นว่าเขาเริ่มรับรู้และเรียนรู้ถึงความจริงเกี่ยวกับตัวเอง หรือสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นความจริงเกี่ยวกับตัวเอง มันน่าประทับใจมากๆ เพราะการเดินทางของเขาทำให้มิตรภาพระหว่างเขากับไลท์นิง แม็คควีนแน่นแฟ้นขึ้นไปอีก พวกเขาต่างก็ตระหนักดีถึงเรื่องนั้น เมเตอร์เป็นตัวของเขาเอง มันไม่ใช่เมเตอร์หรอกครับที่ต้องเปลี่ยน แต่เป็นโลกต่างหากที่ควรจะเปลี่ยน”
แบรด ลูอิส ผู้กำกับร่วมกล่าวว่า “การทำงานร่วมกับจอห์นสร้างแรงบันดาลใจให้เราเสมอ เขามีจินตนาการที่บรรเจิด และคุณก็บอกได้ว่ามีโลกใบใหญ่อยู่ในสมองของเขา ในกรณีของ ‘Cars 2’ แล้ว ตัวละครเหล่านี้พิเศษสำหรับจอห์นมาก เรามีความหลังดีๆ ร่วมกันและมีมิตรภาพที่ดี การได้ร่วมงานกับเขาในหนังเรื่องนี้เป็นประสบการณ์เรียนรู้ที่มีความสุขและวิเศษสุดจริงๆ”
ผู้อำนวยการสร้างเดนิส แรมบอกว่า การได้ร่วมงานกับลาสเซ็ทเตอร์เป็นเหมือนฝันที่เป็นจริง และก็ไม่เฉพาะสำหรับเธอคนเดียวด้วย “นับตั้งแต่จอห์นเสร็จจากงานกำกับ ‘Cars’ พิกซาร์ก็เติบโตขึ้นมาก ดังนั้น นักวาดภาพหลายคนที่นี่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ร่วมงานกับเขาในตำแหน่งนั้นมาก่อน มันวิเศษสุดจริงๆ ค่ะ” รีมบอก “เป็นเรื่องเยี่ยมจริงๆ ที่ได้เห็นจอห์นกำกับนักวาดภาพและอนิเมเตอร์และได้ร่วมงานกับแผนกต่างๆ เหล่านี้ ในฐานะผู้กำกับ เขาเป็นคนที่รู้ในสิ่งที่ต้องการอย่างเฉพาะเจาะจง เขามีความรักอย่างเข้มข้น และการได้ร่วมงานกับคนที่มีความรักให้กับสื่อนี้อย่างเข้มข้นก็เป็นเรื่องสนุกมาก และเราก็คงต้องยอมรับว่าเขาเป็นนักเล่าเรื่องที่น่าทึ่ง เขามีหนังเรื่องนี้ในหัวอยู่แล้ว และการมีส่วนร่วมในการเนรมิตภาพนั้นให้กลายเป็นจริงบนหน้าจอก็สนุกมาก มันท้าทายมากๆ แต่ด้วยความที่การร่วมงานกับเขาสนุกมาก มันก็เลยกลายเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานสำหรับทุกคน”