FB on May 28, 2013, 10:04:44 AM
















MAN OF STEEL - Extended Featurette (2013)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ivlJE4Al668" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ivlJE4Al668</a>
« Last Edit: June 05, 2013, 08:55:38 AM by FB »

FB on June 05, 2013, 09:24:16 AM












« Last Edit: June 05, 2013, 09:26:13 AM by FB »

FB on June 05, 2013, 09:28:03 AM













FB on June 08, 2013, 02:32:22 PM
รายการ “บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน ทีวีสเปเชียล” ปอ ทฤษฎี พาเจาะลึกบุรุษนิรนามภายใต้ผ้าคลุมชุดแดง
 
 
 
          ปอ ทฤษฎี พาเจาะลึกบุรุษนิรนามภายใต้ผ้าคลุมชุดแดง ในรายการ
          "บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน ทีวีสเปเชียล"
          9 มิถุนายนนี้ เที่ยงคืนครึ่ง ทางไทยทีวีสีช่อง 3

          เตรียมพบกับ ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ ที่จะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับบุรุษนิรนาม ที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมสีแดง ในรายการ "บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน ทีวีสเปเชียล" พร้อมเจาะลึกเบื้องหน้า เบื้องหลังของ ”Man of Steel – บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน”ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ซูเปอร์ฮีโร่ ที่คนทั่วโลกรอคอยมากที่สุด

          ”Man of Steel – บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหลังถูกส่งข้ามจักรวาลเมื่อครั้งยังเป็นเด็กทารกจากดวงดาวที่กำลังจะล่มสลายชื่อ คริปตัน เขาถูกพบในทุ่งข้าวโพดที่แคนซัส โดยโจนาธานและมาร์ธา เคนต์ ซึ่งนำเขาไปเลี้ยงเป็นลูกที่ฟาร์มอันสุขสงบในเมืองสมมุติอันมีนามว่าสมอลล์วิลล์ เรื่องราวจะดำเนินเรื่องราวอย่างไรต่อไป ค้นหาคำตอบได้ใน

          รายการ "บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน ทีวีสเปเชียล"
          วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายนนี้ เวลาเที่ยงคืนครึ่ง ทางไทยทีวีสีช่อง 3

FB on June 08, 2013, 03:17:14 PM






Man of Steel Official Nokia Trailer (2013) - Superman Movie HD
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=ejXjZ-k6Myc" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=ejXjZ-k6Myc</a>

Man of Steel Official Clip - It Hurts, Doesn't It!? (2013) Superman Movie HD
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=37XYsvHCOoY" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=37XYsvHCOoY</a>

Man of Steel Clip - "A Good Death, Is It's Own Reward" [HD]
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=mFK2i4G41BA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=mFK2i4G41BA</a>
« Last Edit: June 10, 2013, 09:22:15 AM by FB »

FB on June 11, 2013, 08:10:31 AM
นับถอยสู่งานนิวยอร์กพรีเมียร์ Man of Steel ชมกันสดๆจาก นิวยอร์กซิตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2555 เวลาตีห้าเป็นต้นไป
 
 
 
          เตรียมพบกับงานเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่อลังการของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี กับงานพรีเมียร์ Man of Steel ณ นิวยอร์กซิตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาชมกันสดๆ พร้อมกันทั่วโลก ในวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2556 เวลา ตีห้าเป็นต้นไป (ตามเวลาประเทศไทย) ภายในงานจะได้พบกับนักแสดงนำมากมายไม่ว่าจะเป็น เฮนรี่ คาวิล , เอมี่ อดัมส์ , ไมเคิล แชนนอน , เควิน คอสต์เนอร์ , ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น , อานต์เยอ ทรอ , รัสเซล โครว์ พร้อมด้วยผู้กำกับคนเก่งอย่าง แซ็ค สไนเดอร์ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้

          อดใจรอกันอีกนิด ได้พบกับงานอลังการกับงานเปิดตัว Man of Steel สดๆ จากนิวยอร์ก 11 มิถุนายนนี้ ตีห้าเป็นต้นไป

FB on June 11, 2013, 08:25:39 AM
Man of Steel - Exclusive International Online Open End Interviews 'Zack Synder' (Director)
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=avzp8LQ9ibI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=avzp8LQ9ibI</a>

Man of Steel - Exclusive International Online Open End Interviews 'Henry Cavill'
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=-N16RkoBKdo" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=-N16RkoBKdo</a>

Man of Steel - Exclusive International Online Open End Interviews 'Michael Shannon'
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=kvzMxBeIOPA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=kvzMxBeIOPA</a>

Man of Steel - Exclusive International Online Open End Interviews 'K.Costner & D.Lane'
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=GXvofwBC8uE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=GXvofwBC8uE</a>
« Last Edit: June 13, 2013, 08:38:02 AM by FB »

FB on June 13, 2013, 08:40:35 AM
Man of Steel - Exclusive International Online Open End Interviews 'Ayelet Zurer'
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=aZBJA4BO6RE" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=aZBJA4BO6RE</a>

Man of Steel - Exclusive International Online Open End Interviews 'Antje Traue'
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=TYpUoTy61L8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=TYpUoTy61L8</a>

Man of Steel - Exclusive International Online Open End Interviews 'Amy Adams'
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=IqcNm_RGUHI" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=IqcNm_RGUHI</a>

FB on June 13, 2013, 08:58:40 AM
เตรียมพบกับอลังการงานสร้าง งานเปิดตัว Man of Steel ชมกันสดๆจาก กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันพุธที่ 12 มิถุนายน 2556 ห้าทุ่มสี่สิบเป็นต้นไป
 
 
 
          เตรียมตัวกันให้พร้อม เตรียมพบกับงานเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่อลังการของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี กับงานพรีเมียร์ Man of Steel ณ กรุงดอนลอน ประเทศอังกฤษ ชมกันสดๆ พร้อมกันทั่วโลก ในวันพุธที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา ห้าทุ่มสี่สิบเป็นต้นไป (ตามเวลาประเทศไทย) ภายในงานจะได้พบกับนักแสดงนำมากมายไม่ว่าจะเป็น เฮนรี่ คาวิล , เอมี่ อดัมส์ , ไมเคิล แชนนอน , เควิน คอสต์เนอร์ , ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น , อานต์เยอ ทรอ , รัสเซล โครว์ พร้อมด้วยผู้กำกับคนเก่งอย่าง แซ็ค สไนเดอร์ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ อดใจรอกันอีกนิด ได้พบกับงานอลังการกับงานเปิดตัวภาพยนตร์ที่คนทั่วโลกรอคอย Man of Steel – บุรุษเหล็ก ซูเปอร์แมน สดๆ จากกรุงลอนดอน 12 มิถุนายนนี้ ห้าทุ่มสี่สิบเป็นต้นไป

FB on June 14, 2013, 10:47:59 AM
แอดไวซ์ ส่งโปรฯ รับหน้าฝน มอบสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า ซื้อสินค้าที่ร้านแอดไวซ์ รับฟรีของพรีเมี่ยม จากภาพยนต์ “Man Of Steel” ภายใต้ลิขสิทธ์ของ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส
 
 
 
          แอดไวซ์ (Advice) ผู้นำธุรกิจค้าปลีก-ส่ง สินค้าไอทีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย มอบสิทธิพิเศษเอาใจคอหนัง ภาพยนตร์ยิ่งใหญ่แห่งปี “บุรุษเหล็ก ซุปเปอร์แมน” หรือ “Man Of Steel” ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อซื้อสินค้าที่ร้านแอดไวซ์ รวม 2,000 บาทขึ้นไป รับฟรี ของพรีเมี่ยม จากภาพยนต์ ภายใต้ลิขสิทธ์ของ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส พร้อมสานต่อโปรโมชั่นฟรีคูปองแลกติดฟิล์ม, เปลี่ยนเคส หรือลง App เมื่อซื้อ Tablet หรือ Smartphone ที่ร้านแอดไวซ์กว่า 160 สาขาทั่วประเทศ

          โดยรายละเอียดโปรโมชั่นมีดังนี้:
          โปรโมชั่นของพรีเมี่ยมภาพยนตร์: เมื่อซื้อสินค้าที่ร้านแอดไวซ์ มูลค่ารวม 2,000 บาท ขึ้นไปท่านจะได้รับฟรี ของพรีเมียม จากภาพยนต์ ภายใต้ลิขสิทธ์ของ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ระยะเวลาของโปรโมชั่น เริ่มวันที่ 15 - 30 มิถุนายน 2556 หรือ จนกว่าของจะหมด

          โปรโมชั่นฟรีคูปอง: เมื่อซื้อ Tablet หรือ Smartphone (เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ) ที่ร้านแอดไวซ์กว่า 170 สาขาทั่วประเทศรับฟรี คูปองมูลค่าสูงสุด 2,000 บาท (Smartphone รับคูปอง 10 ใบ / Tablet รับคูปอง 6 ใบ) คูปอง 1 ใบ แลกฟรี 1 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ติดฟิล์ม, เปลี่ยนเคส หรือลง App ระยะเวลาของโปรโมชั่น วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2556 โดยคูปองสามารถใช้ได้ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2557 และคูปองไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้

          ลูกค้าที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดีๆจากแอดไวซ์ (Advice) ผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจที่ http://www.facebook.com/AdviceClub หรือที่เว็บ www.advice.co.th

FB on June 15, 2013, 01:50:33 PM
งานเปิดตัว Man of Steel รวมพลสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ซูเปอร์แมน กัน นภัทร ,วีที วิทวัส และ อุ๋ย นนทรีย์







          ผ่านไปแล้วกับงานเปิดตัวภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ยิ่งใหญ่แห่งปี กับซูเปอร์ฮีโร่ที่คนทั้งโลกรอคอยกับภาพยนตร์เรื่อง “Man of Steel – บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน” เมื่อค่ำวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำเอาลานอินฟินิต ซิตี้ ฮอลล์ ชั้น 5 พารากอน แทบแตก เมื่อ น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา พิธีกรของงาน ได้เชิญ กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ ขึ้นมาบนเวที และร้องเพลง รักแท้อยู่เหนือกาลเวลา ทำเอาเหล่าแฟนคลับกรี๊ดลั่นสนั่นฮอลล์กันเลยทีเดียว

          จากนั้นพิธีกรเชิญกูรูผู้รู้เบื้องลึก เบื้องหน้า เบื้องหลังภาพยนตร์ คุณเฮนรี่ ทราน ผู้จัดการทั่วไป วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส (ประเทศไทย) ที่ออกมาเล่าสู่กันฟัง ให้ กัน นภัทร เหล่าสื่อมวลชนและสาวกซูเปอร์แมน รู้ถึงเบื้องหลังการถ่ายทำ ว่าแต่ละขั้นตอนการถ่ายทำนั้น ยากขนาดไหน พร้อมกันนี้ ยังได้เชิญสาวกซูเปอร์แมน ซูเปอร์ฮีโร่ กับสองสุดยอด คนแรกคือ วิทวัส สุนทรวิเนตร์ สุดยอดพิธีกรรายการดัง ตีสิบ และ อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร สุดยอดผู้กำกับภาพยนต์และละครคนเก่ง ที่ออกมาเปิดใจถึงความหลงใหลชื่นชอบซูเปอร์แมน ซูเปอร์ฮีโร่ที่คนทั้งโลกไม่มีใครไม่รู้จัก ก่อนที่จะปิดท้ายถ่ายภาพหมู่ก่อนขึ้นไปชมภาพยนตร์

          เตรียมพบกับ ความอลังการ ความแปลกใหม่ที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับซูเปอร์แมนมาก่อน
          ค้นหาคำตอบได้ใน Man of Steel – บุรุษเหล็กซูเปอร์แมน
          13 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น https://www.facebook.com/ManofSteelThailand

FB on June 15, 2013, 01:57:36 PM
นิวยอร์กพรีเมียร์ Man of Steel คึกคัก แฟนคลับและสื่อมวลชนร่วมงานคับคั่ง









Man of Steel - New York Premiere Highlights Packages
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=J6XNXQ0yKOA" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=J6XNXQ0yKOA</a>

           ผ่านไปแล้วกับงานเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่อลังการของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี กับงานพรีเมียร์ Man of Steel – บุรุษเหล็ก ซูเปอร์แมน ณ นิวยอร์กซิตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาชม ที่มีงานไปเมื่อวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2556 เวลา ตีห้าเป็นต้นไป (ตามเวลาประเทศไทย) ภายในงานเหล่านักแสดงนำมากมายไม่ว่าจะเป็น เฮนรี่ คาวิล , เอมี่ อดัมส์ , ไมเคิล แชนนอน , เควิน คอสต์เนอร์ , ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น , อานต์เยอ ทรอ , รัสเซล โครว์ พร้อมด้วยผู้กำกับคนเก่งอย่าง แซ็ค สไนเดอร์ และ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
« Last Edit: June 17, 2013, 09:20:32 AM by FB »

FB on June 17, 2013, 09:21:37 AM
ซูเปอร์แมน (เฮนรี่ คาวิล) ดังกระหึ่ม ในงานพรีเมีย อลังการงานสร้างงานเปิดตัว Man of Steel ที่ลอนดอน
 










Man of Steel - European Premiere Highlights Packages
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=1gPuulMi9JQ" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=1gPuulMi9JQ</a>

                เปิดตัวกันไปสุดยิ่งใหญ่อลังการของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี กับงานพรีเมียร์ Man of Steel ณ กรุงดอนลอน ประเทศอังกฤษ หลังจากที่ถ่ายทอดสดได้ชมกันแล้วทั่วโลก ในวันพุธที่ 12 มิถุนายน 2556 เวลา ห้าทุ่มสี่สิบเป็นต้นไป (ตามเวลาประเทศไทย) ภายในงานเหล่านักแสดงนำมากมายไม่ว่าจะเป็น เฮนรี่ คาวิล ที่บรรดาเหล่าแฟนคลับทั้งหลาย ไม่พลาดที่จะต้องขอถ่ายรูปคู่ด้วย ตามด้วย เอมี่ อดัมส์ , ไมเคิล แชนนอน , เควิน คอสต์เนอร์ , ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น , อานต์เยอ ทรอ , รัสเซล โครว์ พร้อมด้วยผู้กำกับคนเก่งอย่าง แซ็ค สไนเดอร์ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้

FB on June 18, 2013, 09:45:43 AM
บทสัมภาษณ์ นักแสดงนำ และผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ของ Man of Steel – บุรุษเหล็กซูปเปอร์แมน ที่ทำให้คนทั้งโลกเห็นซูเปอร์แมน ในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อน









           บทสัมภาษณ์ เฮนรี คาวิลล์ (คลาร์ก เคนต์/ ซูเปอร์แมน), เอมี อดัมส์ (โลอิส เลน),  ไมเคิล แชนนอน (นายพลซอด), อานต์เยอ ทรอ (ฟาโอรา), ไดแอน เลน (มาร์ธา เคนต์), รัสเซลล์ โครว์ (จอร์-เอล), แซ็ค สไนเดอร์ (ผู้กำกับ/ ผู้อำนวยการสร้าง), ชาร์ลส์ โรเวน (ผู้อำนวยการสร้าง), เดโบราห์ สไนเดอร์ (ผู้อำนวยการสร้าง), เดวิด เอส. โกเยอร์ (ผู้เขียนบท), ฮานส์ ซิมเมอร์ (ผู้ประพันธ์ดนตรี)

คำถาม: คำถามนี้สำหรับทีมผู้สร้างหนังนะครับ ในการตัดสินใจว่าหนังจะเล่าเรื่องราวตอนใด มีอะไรในตัวนายพลซอดที่ทำให้คุณตัดสินใจอยากเล่าเรื่องราวส่วนนี้

แซ็ค สไนเดอร์: ผมว่าสิ่งหนึ่งที่เจ๋งเกี่ยวกับซอดคือเขาเป็นภัยคุกคามต่อซูเปอร์แมนอย่างแท้จริง เป็นอันตรายร้ายแรงทั้งในแง่กายภาพและอารมณ์ความรู้สึกยิ่งกว่าภัยใดๆ บนโลก เขาไม่เพียงแต่เทียบชั้นกับซูเปอร์แมนได้ในเชิงพละกำลังเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนคนของเขาด้วย ซึ่งในแง่นี้ทำให้เขาเป็นศัตรูที่ยากจะต่อกร

นอกจากนี้ เราต้องการเสนอมุมมองของซอดให้ชัดเจนว่าถ้า [สิ่งที่เกิดขึ้นกับดาวคริปตอน] เกิดขึ้นกับดาวของคุณ และคุณพยายามช่วยคนที่คุณรัก คุณจะยอมทำมากแค่ไหน

คำถาม: คำถามนี้สำหรับเอมี อดัมส์ ซึ่งเป็นโลอิส เลนที่เยี่ยมมาก แต่ก็เป็นโลอิส เลนที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเ อะไรทำให้คุณสนใจบทนี้ และคุณมองว่าโลอิสคนนี้ต่างจากคนก่อนๆ อย่างไร

เอมี อดัมส์: ฉันเติบโตมากับการดูซูเปอร์แมนและรักตัวละครเหล่านี้ แล้วฉันก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเรื่องที่มาทดสอบบทหลายครั้ง นี่เป็นครั้งที่สาม เพราะฉะนั้นขอบคุณมากนะคะแซ็คที่ให้ฉันได้เล่นเป็นโลอิส

แซ็ค สไนเดอร์: ด้วยความยินดีครับ

เอมี อดัมส์: [หัวเราะ] ตอนฉันคุยกับแซ็คเรื่องโลอิสในภาคนี้ สิ่งที่ฉันชอบคือเธอยังคงเป็นผู้สื่อข่าวที่ใจกล้าบ้าบิ่นอยู่เหมือนเดิม แต่เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของทางแก้ ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของปัญหา เธอมีโอกาสเข้าถึงคลาร์กจากภายในและเป็นคนในแทนที่จะเป็นคนนอก ฉันชอบส่วนนี้และมองว่าแนวคิดนี้เป็นเอกลักษณ์มาก

ฉันชอบตรงที่แซ็คอยากให้มันเป็นภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่อลังการ แต่เขาก็ยังมุ่งความสนใจไปยังตัวละครและความเป็นจริง รวมถึงสร้างตัวละครบนพื้นฐานความเป็นจริงเท่าที่จะทำได้ในโลกอันน่าทึ่งที่เขาได้สร้างขึ้น เขาต้องการให้ตัวละครทั้งหมดมีชีวิตจิตใจจริงๆ เราใช้เวลามากมายไปกับการพูดคุยเรื่องเหล่านี้ ซึ่งทำให้ฉันประทับใจในตัวแซ็คมาก
คำถาม: ดนตรีมีบทบาทสำคัญในหนังเรื่องนี้ สำหรับแซ็ค เฮนรี และฮานส์ คุณคิดว่าซูเปอร์แมนฟังเพลงอะไร เขาฟังนักร้องฮิพฮ็อพหรือเพลงอะไรที่ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองสุดยอดบ้าง? [หัวเราะ]

แซ็ค สไนเดอร์: อ้อ คุณหมายถึงเพลงปลุกใจของเขาน่ะเหรอ

คำถาม: ประมาณนั้นล่ะครับ

เฮนรี คาวิลล์: เป็นคำถามที่ดีน่ะครับ แต่ผมยังไม่มีคำตอบตอนนี้ อาจเป็นเพลงประกอบของฮานส์ ซิมเมอร์ก็ได้นะ [หัวเราะ]

แซ็ค สไนเดอร์: อย่างใน Black Hawk Down น่ะเหรอ

เฮนรี คาวิลล์: ใช่ Gladiator ด้วย ไม่สิ นั่นมันต้องให้รัสเซลล์ฟังต่างหากล่ะ [หัวเราะ]

ฮานส์ ซิมเมอร์: ไม่รู้สินะ เป้าหมายคือเราพยายามสร้างดนตรีเพื่อเขาโดยเฉพาะ ผมว่าอย่างนั้นนะ แล้วเราก็หวังว่าได้บรรลุเป้าหมายนั้นแล้ว
คำถาม: มีการใช้ CGI ในหนังเรื่องนี้ แต่ฉากบินนั้นทำกันอย่างไร คุณเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เพราะฉะนั้นคุณต้องไม่ต่อสู้ด้วยวิธีธรรมดา มีการใช้รูปแบบศิลปะการต่อสู้มาผสมกับบางสิ่งที่แตกต่างออกไป คุณช่วยพูดเรื่องนั้นหน่อยได้ไหมครับ

เฮนรี คาวิลล์: ใช่ครับ สำหรับฉากบินเราต้องซ้อมกันอยู่หลายครั้ง ในการบินแบบความเร็วสูงส่วนใหญ่จะใช้แผ่นรองใต้ท้อง เป็นเหมือนแม่พิมพ์ร่างกายส่วนหน้าของผม ให้ผมนอนข้างในนั้น แล้วก็จะมีแกนหมุนพิเศษที่สร้างขึ้นมา เพราะฉะนั้นคุณได้จะภาพผู้ชายในชุดเขียวและฉากเขียวที่เคลื่อนไหวตามการกำกับของแซ็ค ผมแค่ต้องจินตนาการว่ากำลังบินอยู่ เราได้ความช่วยเหลือมากมายจากภาพที่แซ็คคิดไว้และการกำกับของเขา นอกจากนี้ยังมีการใช้ลวดสลิง ซึ่งเราทำในกระบวนการสตันท์ทั้งหมด มันซับซ้อนมากและทีมงานก็ทดสอบมันอย่างดี มีทีมงานอย่างจิม เชิร์ชแมนซึ่งทำงานเรื่องลวดสลิงได้เก่งมาก

ถ้าพูดถึงฉากบิน ส่วนนี้น่าจะสนุกที่สุดสำหรับผม เพราะผมต้องอยู่เหนือพื้นสี่สิบฟุตและอยู่ภายใต้การควบคุมของคนอื่นโดยสิ้นเชิง เยี่ยมไหมล่ะ นี่ล่ะขั้นตอนที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนบินอยู่และกลายเป็นซูเปอร์แมน

คำถาม: ไมเคิล แล้วเรื่องการต่อสู้ล่ะ

ไมเคิล แชนนอน: ผมว่าสิ่งหนึ่งที่คุณต้องไม่ลืมคือบนดาวคริปตอน ซอดไม่ได้มีอำนาจพิเศษอะไร เขาเป็นแค่นายพลคนหนึ่ง เขาฝึกฝนมาเป็นเวลานาน ถูกเคี่ยวกรำมานานบนคริปตอน จากนั้นเขาก็มายังโลกและผ่านประสบการณ์คล้ายกับที่คาล-เอลเคยได้รับ ซึ่งโดยหลักแล้วก็เป็นการปรับตัวกับสภาพแวดล้อม แต่ใช่แล้วล่ะ ซอดฝึกการต่อสู้แบบนี้อาจตั้งแต่เขายังเป็นเด็กเล็กๆ เลยล่ะ

คำถาม: อานต์เยอ คุณเคยเล่นหนังที่มีฉากการต่อสู้ดุเดือดขนาดนี้มาก่อนไหม

อานต์เยอ ทรอ: ไม่ค่ะ ไม่เคยเลย เรื่องนี้น่าจะยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเล่นมาในแง่ฉากแอ็คชัน แต่มันเหมือนการเต้นรำเลยล่ะ ท่าทางได้รับการออกแบบมาอย่างละเอียด และคุณต้องซ้อมท่าเหล่านี้เป็นชั่วโมงๆ นานหลายสัปดาห์และหลายเดือน พอคุณมายืนอยู่หน้ากล้อง มันน่าทึ่งมากที่ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างมารวมกัน ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุด

คำถาม: เฮนรี เราใช้คำว่า “คนต้นแบบ” (icon) กันอย่างแพร่หลายในทุกวันนี้ แต่แน่นอนว่านี่คือตัวละครที่เป็นต้นแบบจริงๆ คุณรู้สึกว่าต้องแบกความรับผิดชอบในการรับบทซูเปอร์แมนหรือไม่ และคุณหาทางเปลี่ยนตัวเองให้เป็นตัวละครต้นแบบนี้ได้อย่างไร

เฮนรี คาวิลล์: อันดับแรก ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นตัวละครต้นแบบ ในการรับบทเป็นตัวละครแบบนี้ คุณต้องไม่พยายามที่จะเป็นต้นแบบเพราะนั่นก็เท่ากับเสียจุดประสงค์ของมันไป ผมว่าความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับบทนี้มันใหญ่หลวงมาก และการได้ตระหนักว่ามันสำคัญมากเพียงใดทำให้ผมอยากทุ่มเททำงานให้เต็มที่เพื่อนำเสนอตัวละครนี้อย่างเหมาะสม มันช่วยได้มากเวลาผมฟิตร่างกายอยู่ในโรงยิม ถ้าผมรู้สึกว่าทำต่อไม่ไหวแล้วหรือยกน้ำหนักไม่ขึ้นแล้ว ผมจะคิดว่า ‘เดี๋ยวก่อนนะ เราต้องดูเหมือนซูเปอร์แมน มีคนมากมายรอให้เราเป็นซูเปอร์ฮีโร่’ เพราะฉะนั้น มันช่วยให้ผมเล่นต่อได้อีกสองสามชุดเพื่อเป็นตัวละครนี้ให้ได้

คำถาม: คลาร์กใช้เวลาทั้งชีวิตหลีกเลี่ยงการต่อสู้ แล้วจู่ๆ เขาก็มาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลือกไม่ได้ คุณคิดว่าเกิดอะไรขึ้นในหัวของเขาตอนนั้น เขาก้าวผ่านมันไปได้อย่างไร

เฮนรี คาวิลล์: เขาก้าวผ่านมันไปได้หลังได้รับคำแนะนำอันชาญฉลาดจากจอร์-เอล ตรงจุดนั้นเองที่เขาต้องทดสอบตัวเอง เมื่อพูดถึงการต่อสู้ มันไม่ใช่การเลือก คุณต้องลงมือทำ สำหรับตัวละครแบบนี้มันไม่ใช่ ‘เอาล่ะ เราต้องเปลี่ยนมุมมองของตัวเองแล้ว’ แต่มันเป็นการตอบสนองไปตามสถานการณ์ ซึ่งการตอบสนองนั้นก็รวมถึงการต่อสู้ด้วย

แซ็ค สไนเดอร์: อย่าลืมว่าเขาออกหมัดแรกก็เพื่อปกป้องแม่ เพราะฉะนั้นมันคล้ายกับว่าเกิดขึ้นโดยสัญชาตญาณ
คำถาม: เอมี ผมทราบมาว่าลูกสาวคุณอายุแค่สามขวบ อะไรสำคัญกับเธอมากกว่ากันระหว่างซูเปอร์แมนกับเดอะ มัพเพทส์

เอมี อดัมส์: คำถามฉันง่ายดีจัง อืม ฉันไม่รู้หรอกนะ ที่จริงต้องพูดว่าเธอชอบตอนเฮนรีใส่ชุดนะ [หัวเราะ] เธอแอบจับบั้นท้ายเขาทีหนึ่งด้วย มันตลกมากเลย

เฮนรี คาวิลล์: เธอทำจริงๆ นะ

เอมี อดัมส์: เธออยากลองแตะชุดนั่นล่ะ แต่เธอสูงเท่าตรงนั้นพอดี พูดอย่างนี้เดี๋ยวโตขึ้นเธอต้องโกรธฉันแน่เลย เธอยื่นมือออกไปแล้วลองแตะดู แต่ตอนนี้เธอติดมิสพิกกี้แล้วล่ะ วันนี้เธอเลยถามว่าฉันจะไปทำงานกับมิสพิกกี้รึเปล่า เพราะฉะนั้นฉันคงต้องตอบว่ามัพเพ็ตส์นะ แต่เธออาจยังไมได้ตัดสินใจก็ได้

คำถาม: เฮนรี ผมคิดว่าเราไม่เคยเห็นคาล-เอลหรือคลาร์กมีปมขัดแย้งเรื่องที่ว่าเขาเป็นใคร มีผลงานคลาสสิกของซูเปอร์แมนที่ช่วยคุณในการสำรวจแนวคิดนี้ไหม

เฮนรี คาวิลล์: ผลงานคลาสสิกของซูเปอร์แมนน่ะเหรอ ถ้าพูดถึงปมขัดแย้งที่เขาต้องเผชิญหรือการเดินทางของเขา มันไม่ได้เกี่ยวกับผลงานคลาสสิกเลย เวลาคุณเห็นคลาร์กเดินทางรอบโลก พยายามค้นหาว่าเขาเป็นใครและเพราะอะไร ผมไม่ได้กลับไปอ้างอิงผลงานต้นฉบับ ผมแค่นึกถึงและนำเอาชีวิตของตัวเองมาใช้ การเป็นนักแสดงเป็นประสบการณ์ที่โดดเดี่ยว นอกจากว่าคุณมีใครซักคนร่วมเดินทางไปกับคุณตลอดเวลา คุณใช้เวลามากมายอยู่กับตัวเองและพบผู้คนใหม่ๆ สร้างครอบครัวชั่วคราวขึ้นมา คุณรักพวกเขา แต่ก็อาจไม่ได้พบพวกเขาอีก นอกเหนือจากงานแถลงข่าวสื่อซึ่งเป็นสถานการณ์ที่แปลกออกไป คุณนำสิ่งเหล่านี้มาใช้กับตัวละคร และสิ่งที่ตรงกับประสบการณ์ของซูเปอร์แมนก็คือการพบคนกลุ่มใหม่ๆ อยู่เสมอ แล้วก็ต้องหายตัวไป แล้วก็ต้องแนะนำตัวเองกับคนกลุ่มใหม่ๆ และพิสูจน์กับคนเหล่านั้นว่าตัวเองเป็นคนดีและพยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง แล้วจากนั้นเขาก็ต้องหายตัวไปอีก ความโดดเดี่ยวแบบนี้ล่ะที่ผมนำไปใช้ แทนที่จะเป็นการกลับไปอ้างอิงงานซูเปอร์แมนแบบคลาสสิก

คำถาม: รัสเซลล์ ในซูเปอร์แมนรุ่นแรกๆ จอร์-เอลจะปรากฏตัวแค่ในช่วงต้นของหนัง แต่ใน Man of Steel เขาเป็นจิตวิญญาณของหนังเลย การรับบทตัวละครนี้ให้ประสบการณ์อย่างไรบ้าง

รัสเซลล์ โครว์: ผมมีเรื่องต้องสารภาพครับ ผมคงต้องบอกว่าผมไม่เคยดูหนังซูเปอร์แมนภาคอื่นมาก่อนเลย ผมไม่มีอะไรให้อ้างอิงในแง่ภาพยนตร์ สิ่งเดียวที่ผมมีก็คือละครทีวีขาวดำยุคทศวรรษ 1950 ซึ่งฉายหลังเลิกเรียนตอนผมเป็นเด็ก เพราะฉะนั้นผมไม่ได้ดึงอะไรมาใช้มากนัก ผมแค่อ่านบท และคิดว่ามันเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนแต่ก็ดีมากๆ ในตัวของมันเอง และผมคิดว่าปัญหาที่จอร์-เอลต้องเผชิญในแง่การตัดสินใจของผู้เป็นพ่อก็เป็นเรื่องน่าสนใจในการรับบทบาท เพราะอย่างนี้ผมถึงได้มาร่วมงานในเรื่องนี้

คำถาม: สำหรับแซ็คและเดวิด คุณทั้งคู่ได้ดัดแปลงซูเปอร์แมนหรือหนังสือคอมิกเล่มอื่นๆ ก่อนหน้านี้มาเป็นหนัง คุณช่วยพูดถึงความท้าทายของการมาทำหนังซูเปอร์แมนและการตัดสินใจที่จะไม่ใส่เล็กซ์ ลูเธอร์มาเป็นตัวละครในหนังภาคแรกได้ไหมครับ

เดวิด เอส. โกเยอร์: จะว่าไปมันก็เป็นความท้าทายครั้งใหญ่นะครับ ผมจำได้ว่าเมื่อห้าหกปีก่อนมีคนถามผมในการทัวร์โปรโมต Batman ว่าผมอยากทำซูเปอร์แมนหรือเปล่า และทุกครั้งผมก็ตอบว่าไม่ มันเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง ผู้คนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของซูเปอร์แมน หลายคนพูดว่า ‘นั่นซูเปอร์แมนของฉันนะ’ แต่ก็มีซูเปอร์แมนเวอร์ชั่นของจอร์จ รีฟส์จากยุคทศวรรษ 50 และซูเปอร์แมนในหนังเรื่อง Lois and Clark และซูเปอร์แมนของริชาร์ด ดอนเนอร์ มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องเคารพตัวละครที่เป็นต้นแบบและเป็นเสาหลักอย่างนี้ แต่เฮนรีก็พูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ขณะเดียวกันคุณก็ต้องเล่าเรื่อง และเมื่อคุณกำหนดได้แล้วว่าตัวละครนั้นเป็นใครและมีปมขัดแย้งอย่างไร คุณก็ต้องปล่อยให้มันนำคุณไป คุณต้องทิ้งสิ่งอื่นๆ ไปให้หมดและไม่กังวลถึงความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ไม่อย่างนั้นมันจะกดทับตัวคุณจนทำอะไรไม่ถูก

คำถาม: ในฐานะนักเขียน เมื่อคุณวิเคราะห์ตัวเรื่องออกมาแล้ว คุณคิดว่าการต่อสู้ที่แท้จริงของคาล-เอลในเรื่องนี้คืออะไร

เดวิด เอส. โกเยอร์: สำหรับผมแล้วมันชัดเจนมาก และมันก็น่าสนใจที่ผมคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ขณะเขียนบท มันเป็นเรื่องราวของพ่อสองคน และระหว่างผมเขียนบทเรื่องนี้ ตัวผมเองก็ได้เป็นพ่อคนและเป็นพ่อเลี้ยง แล้วพ่อผมก็เสียพอดี ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าประสบการณ์ของตัวเองจะกลายมาเป็นอะไรแบบนี้ได้ แต่มองจากมุมนี้ มันก็เป็นเรื่องของผู้ชายที่มีพ่อสองคน และเขาต้องตัดสินใจว่าต้องการสืบเชื้อสายฝั่งไหน พ่อชาวคริปโตเนียนหรือพ่อชาวโลก สุดท้ายแล้วก็เหมือนกับทั้งสองฝ่ายทำให้เขากลายมาเป็นคนอย่างที่เขาเป็น

คำถาม: เฮนรี คุณได้รับอิทธิพลจากนักแสดงคนอื่นๆ ที่เล่นบทนี้มาก่อนหรือไม่ และคุณอยากแสดงให้แตกต่างออกไปอย่างไรบ้าง

เฮนรี คาวิลล์: ผมไม่ได้รับอะไรจากซูเปอร์แมนคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ในแง่การเป็นนักแสดง วิธีการที่ผมใช้และแนวทางที่ผมมองก็คือนักแสดงทุกคนที่เล่นมาก่อนหน้าตีความจากต้นฉบับ ซึ่งก็คือหนังสือคอมิก และผมก็ต้องการการตีความตามแบบของผมเองเหมือนกัน ไม่ใช่เพราะถือตัวว่าเป็นคนสำคัญอะไรหรอกนะ แต่เป็นความรู้สึกว่าการแสดงอาจไม่ต่อเนื่องถ้าผมใช้บุคลิกของคนอื่นและให้อิทธิพลจากคนอื่นมาส่งผลต่อการตีความตัวละคร ฉะนั้นผมจึงตรงไปยังหนังสือคอมิกเลย ผมดูหนังที่เคยทำมาก่อนหน้านี้เหมือนกัน แต่ผมไม่ได้นำการแสดงเหล่านั้นมาใช้กับตัวเอง
คำถาม: สำหรับไดแอน ในช่วงต้นของหนัง โจนาธาน เคนต์ [รับบทโดยเควิน คอสต์เนอร์] บอกคลาร์กว่าเขาต้องเก็บความสามารถของตนไว้เป็นความลับ คุณว่ามาร์ธารู้สึกเหมือนกันรึเปล่า คุณคิดว่ามาร์ธามีมุมมองอย่างไร

ไดแอน เลน: ครั้งแรกที่เธอเห็นชุดซูเปอร์แมน มันก็เป็นคำตอบอยู่ในตัวเองแล้ว ฉันหมายถึงฉันชอบประโยคที่เราคิดกันขึ้นมา ตอนที่เธอบอกว่า ‘ชุดสวยนะลูก’ เพราะมันรอคอยที่จะได้รับการเปิดเผย แล้วจะมีใครที่จะตื่นเต้นไปยิ่งกว่าคนเป็นแม่อีกล่ะ ฉันว่าคงไม่มีแล้ว ถ้าพูดถึงการที่ลูกชายคุณเปิดเผยตัวเองน่ะนะ [หัวเราะ]

เพราะฉะนั้นเธอจึงโล่งใจ ซาบซึ้ง และตกตะลึงอยู่บ้างกับหายนะที่เกิดขึ้นตามมาขณะต้องหนีออกมาจากบ้านที่พัง และฉันชอบการเปรียบเทียบเรื่องการคว้าอัลบั้มครอบครัวออกมานะ อะไรคือสิ่งที่เราจะคว้าออกมาเวลาเกิดทอร์นาโดหรืออะไรก็ตาม เมื่ออะไรแบบนั้นเกิดขึ้นกับบ้านของคุณ มันเป็นความทรงจำและเป็นระบบคุณค่าของชีวิตมนุษย์ และจริงๆ แล้วอะไรกันแน่ที่เป็นระบบคุณค่าของชีวิตมนุษย์ แล้วก็ยังมีตราประทับที่เรามอบให้คลาร์กด้วย

คำถาม: สำหรับไมเคิลนะครับ คุณมีความสามารถในการรับบทร้ายได้ไม่เหมือนใคร คุณนำพลังความชั่วร้ายนั้นมาจากไหน และใครต่อยเก่งกว่ากันระหว่างเอมิเนมใน 8Mile หรือเฮนรีใน Man of Steel

ไมเคิล แชนนอน: ซาตาน [หัวเราะ] นั่นล่ะคือแหล่งพลังความชั่วร้ายของผม ผมถือถังเดินไปที่บ่อน้ำแล้วก็พูดว่า ‘ซาตาน คุณอยู่ข้างล่างนั่นใช่ไหม วันนี้ผมอยากได้พลังความชั่วร้าย’ ผมปล่อยถังลงไปในบ่อ ได้ลาวาขึ้นมา แล้วผมก็ดื่มมัน [หัวเราะ]

มันแสบร้อนนะแต่ผมก็กินยาลดกรดกับยาช่วยย่อยเข้าไป... ไม่รู้สิ คือว่าผมไม่รู้จริงๆ มันคงไม่ได้ห่างไกลจากสิ่งที่ผมเป็นอยู่หรอก ผมก็แค่คนตัวสูงเก้งก้างดูน่าขันเท่านั้นเอง แล้วผมก็ทำสิ่งเหล่านี้โดยไม่ต้องคิดว่ามันเป็นความชั่วร้ายด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องการต่อยในคิวบู๊ มันไม่ใช่ความลับอะไร ทุกคนในห้องนี้คงรู้กันอยู่แล้วใช่ไหมครับว่าผมแข็งแกร่งกว่าเฮนรีมาก เพราะฉะนั้นเราต้องส่งถุงน้ำแข็งไปถึงห้องพักของเฮนรีที่โรงแรมเลยล่ะ [หัวเราะ]

FB on June 18, 2013, 09:46:23 AM
คำถาม: แล้วระหว่างคุณกับรัสเซลล์ล่ะ

ไมเคิล แชนนอน: รัสเซลล์เล่นงานผมหนักเลยในหนังเรื่องนี้ เขาเป็นแกลดิเอเตอร์เชียวนะ คุณจะทำอะไรได้ล่ะ อ้อ แล้วก็ใน 8 Mile ฉากต่อสู้ฉากนั้น โอ้โห มันเก่ามากเลยนะ

คำถาม: สำหรับรัสเซลล์และไดแอน คุณรับบทเป็นพ่อแม่ได้อย่างสมบทบาทและซาบซึ้งมากในสถานที่และช่วงเวลาต่างๆ กัน คุณดึงอะไรมาใช้บ้าง คุณใช้ประสบการณ์จากการเป็นพ่อแม่หรือความรู้สึกที่คุณมีต่อลูกๆ หรือเปล่าในการไปให้ถึงจุดนั้น

ไดแอน เลน: เป็นคำถามที่น่ารักมากและฉันจะพยายามตอบนะคะ ฉันว่าคุณพูดได้ดีเลยเพราะมันเป็นการผสมผสานของหลายสิ่งหลายอย่าง แต่แน่นอนเมื่อคุณเป็นพ่อแม่ มันจะส่งผลต่อทุกสิ่งที่คุณทำ และสถานการณ์ในเรื่องก็พิเศษมาก การมีมนุษย์ต่างดาวมาอยู่ในโรงนาแล้วคุณเลี้ยงเขาขึ้นมา แล้วเขาก็กลายเป็นมนุษย์ตัวอย่างที่งดงามและมีสิ่งอื่นๆ มากมายเกิดตามมา ความท้าทายและเรื่องราวเบื้องหลังที่แซ็ค เควิน และฉันชอบคุยกัน ซึ่งไม่ใช่ส่วนหนึ่งในบท ก็คือการจินตนาการว่าเราจะอบรมบ่มนิสัยเด็กซึ่งมีพลังมากอย่างคลาร์กได้อย่างไร มันสนุกที่ได้คุยกันเรื่องนั้น คุณสามารถเติมคำในช่องว่าง แล้วก็อาจมีเรื่องตลกๆ เก็บไว้เขียนพล็อตในอนาคตก็เป็นได้

แต่ฉันรู้สึกว่าความรักที่เราได้มอบให้เวลาคุณรักเด็กที่ต้องการคุณ คุณปลูกฝังให้เด็กเป็นตัวแทนระบบความเชื่อของคุณ แล้วสิ่งนั้นจะปรากฏออกมาอย่างไรและอะไรคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับคุณ สุดท้ายมันจะได้รับการถ่ายทอดออกมาแม้ในเวลาที่คุณไม่ได้อยู่เห็น นั่นล่ะคือความหวังของการเป็นพ่อแม่ เป็นความพยายามแบบเต็มร้อย

รัสเซลล์ โครว์: ผมได้รับประสบการณ์ที่น่าสนใจมากจากการเป็นพ่อในหนังเรื่องนี้ ผมคิดว่าแซ็คหาเด็กทารกมาสี่คนเพื่อมาเล่นเป็นคาล-เอลตอนแรกเกิด และประสบการณ์ที่ได้ก็ต่างออกกไปจากที่ผมเคยได้รับในฐานะคุณพ่อลูกสอง ถึงผมจะเปลี่ยนผ้าอ้อมได้คล่องก็เถอะ คนแรกผายลมใส่ผม ตอนนั้นก็ยังไม่เป็นไรหรอกนะ แต่หลังจากนั้นภายใต้แสงร้อนๆ หลังพักเที่ยงก็มาตามนัดเลย ผมได้สารคริปโตเนียนมาเต็มมือ ฉะนั้นผมได้เรียนรู้มากมาย ผมได้รับประสบการณ์ใหม่ในฐานะพ่อแม่ที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อน ขอบคุณมาก แซ็ค [หัวเราะ]

แซ็ค สไนเดอร์: ผมแค่อยากเพิ่มสีสันให้ชีวิตคุณเท่านั้นแหละ

คำถาม: สำหรับแซ็คและเดวิด ความสวยงามอย่างหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากการเล่าเรื่องที่ไม่เป็นเส้นตรง คุณช่วยพูดได้ไหมว่าคุณได้ความคิดนี้มาตอนไหนและคุณตัดสินใจอย่างไรจึงได้เลือกใช้วิธีนี้

เดวิด โกเยอร์: โดยปกติในการสร้างเรื่องราวที่ไม่เป็นเส้นตรง คุณจะต้องเริ่มจากเรื่องที่เป็นเส้นตรงก่อน เพื่อให้แน่ใจว่ามันสมเหตุสมผล จากนั้นจึงหั่นมันออกเป็นช่วงๆ และนำมาสลับสับเปลี่ยนกัน นั่นเป็นกระบวนการที่เราเริ่มทำตอนที่แซ็คเข้ามา และบางส่วนก็มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างกระบวนการทำงาน

แซ็ค สไนเดอร์: ผมว่ามันเป็นวิธีการมองที่ดีเมื่อคุณอยู่กับคลาร์กและเขาก็เดินทางไปเรื่อยๆ เหมือนคุณค่อยๆ เข้าถึง ‘เหตุผล’ ในความเป็นตัวเขา ผมว่ามันสนุกที่ได้ทำให้เห็นว่าเวลาเขาต้องตัดสินใจ คุณจะได้เข้าใจ ‘เหตุผล’ ว่าทำไมเขาจึงตัดสินใจอย่างนั้น ผมคิดว่าการนำเสนอแบบนั้นช่วยให้เรื่องราวมีแรงส่งต่อไปเรื่อยๆ แล้วคุณก็ได้เข้าถึงเบื้องลึกของผู้ชายคนนี้ในแง่ที่ผมมองว่าน่าสนใจด้วย มันเสริมตัวหนังให้ออกมาน่าสนุกมาก
เดวิด โกเยอร์: ใช่แล้ว และมันก็น่าติดตามด้วยเวลาที่เรากระโดดข้ามจากฉากยานตกในแคนซัส แล้วทันใดนั้นอีกสามสิบสามปีต่อมาเขาก็มาอยู่บนเรือหาปู มันเล่นกับความคาดหวังของคนด้วยนะผมว่า

คำถาม: สำหรับเดโบราห์และชัค เราพูดถึงเรื่องเด็กทารกมาแล้ว หนังเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนลูกของคุณ คุณช่วยปลุกชีวิตให้เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ด้วยประวัติยาวนานถึง 75 ปีได้อย่างไร คุณดูแลมันอย่างไรและทำอย่างไรเพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังคงรักษาวิสัยทัศน์ที่คุณมีต่อโครงการ

เดโบราห์ สไนเดอร์: ฉันว่าเมื่อคุณนึกถึงความยิ่งใหญ่ของตัวละครนี้ ความสำคัญ และความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงที่ตามมา คุณก็อาจทำอะไรไม่ถูกไปเลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ฉันต้องทำคือการแยกส่วนมันออกมาทีละชิ้นๆ แล้วมองเป็นกระบวนการ ฉันหมายความว่าช่วงแรกเป็นเรื่องของการวางโครงเรื่องให้ดี และโดยแก่นแท้แล้วฉันคิดว่าซูเปอร์แมนอยู่มาได้ 75 ปีก็เพราะตัวเรื่อง จากนั้นจึงเป็นการดูแลงานที่ต้องทำในแต่ละวัน และการเลือกหาคนที่เหมาะสมในการสร้างวิสัยทัศน์ของแซ็คให้เป็นจริงขึ้นมา รวมถึงการคัดนักแสดงที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ คนที่สามารถสร้างตัวละครให้มีชีวิตขึ้นมา การเลือกผู้ประพันธ์เพื่อให้ดนตรีมีพลังและสื่ออารมณ์อย่างที่ควรจะเป็น ฉันคิดว่าคุณต้องมองมันในแบบวันต่อวันและชิ้นต่อชิ้น

ชาร์ลส์ โรเวน: หลายสิ่งที่เด็บบีพูดตรงกับผมเช่นกัน ผมโชคดีที่ตอนได้รับการขอให้มาเข้าร่วมโครงการนั้นมีร่างบทอยู่ก่อนแล้ว และผมก็ตื่นเต้นกับศักยภาพของมันมาก ตื่นเต้นเพราะความท้าทาย แล้วก็กลัวเล็กน้อยเพราะความท้าทายนั้น แต่ความกลัวก็ทำให้โครงการนี้ควรค่าแก่การเข้ามาร่วมงาน และเราโชคดีจริงๆ ที่ทุกคนมองภาพไปในทิศทางเดียวกันกับสิ่งที่เราต้องการ อะไรแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้งไป และวิสัยทัศน์ที่เราเดินตามซึ่งโดยรวมแล้วเป็นของแซ็คก็สอดคล้องไปกับภาพที่ทีมงานทุกคนมองเห็น

เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นกระบวนการทำงานที่ดีมาก แม้ว่าเราต้องใช้เวลาในการถ่ายทำนานหลายวัน เกือบสามเท่าของการถ่ายทำปกติ ส่วนกระบวนการโพสต์โพรดักชัน ด้วยเรื่องวิชวลเอฟเฟ็กต์ ก็ทำให้ต้องใช้เวลาเพิ่มอีกมาก มันไม่สำคัญหรอกว่าหนังเรื่องนี้ใช้เงินมากแค่ไหน คุณไม่เคยคิดว่าจะมีเงินมากพอให้ทำทุกอย่างได้สำเร็จอยู่แล้ว แต่มันก็ยังเป็นประสบการณ์ที่รื่นรมย์มากสำหรับผม เพราะไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราทุกคนมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกัน

คำถาม: เคยบ้างไหมที่คุณอ่านบทแล้วคิดว่า ‘เราจะทำฉากนี้ออกมายังไงเนี่ย’ แล้วพอทำได้ก็คิดว่า ‘ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราทำมันออกมาได้’

ชาร์ลส์ โรเวน: ตลอดเวลาเลยล่ะ

เดโบราห์ สไนเดอร์: ฉันคิดว่าสำหรับวิชวลเอฟเฟ็กต์ ทั้งฉากแอ็คชัน ฉากต่อสู้ และฉากบินที่แซ็คจินตนาการไว้และทำงานร่วมกับดีเจ [เดส์ชาร์แดง] ผู้ควบคุมวิชวลเอฟเฟ็กต์ และดามอน [คาโร] ผู้ออกแบบคิวบู๊และผู้ประสานงานสตันท์ ฉากพวกนั้นมันท้าทายและผลักดันขีดจำกัดมากอยู่แล้ว มันอาศัยรากฐานจากสิ่งที่เราเคยทำในอดีตแต่ผลักดันไปไกลกว่านั้นอีก คุณต้องมีศรัทธาในสิ่งที่ทำ เพราะคุณเริ่มด้วยการวางแผนเอาไว้ว่าจะทำออกมาอย่างไร จากนั้นก็ก้าวไปตามแผน แต่คุณไม่รู้แน่ว่ามันจะนำไปสู่จุดไหน คุณต้องพึ่งพาศิลปินและบริษัทวิชวลเอฟเฟ็กต์เก่งๆ ให้ทำมันออกมา คุณต้องศรัทธาในตัวพวกเขาด้วย

คำถาม: เฮนรี คุณช่วยไขความกระจ่างเรื่องที่คนเถียงกันในอินเตอร์เน็ตว่าซูเปอร์แมนโกนหนวดอย่างไรได้หรือเปล่า คุณเห็นคลิปนั้นหรือยัง

เฮนรี คาวิลล์: เห็นแล้วครับ ผมว่าบางอย่างปล่อยให้เป็นความลับไปจะดีกว่านะ ไม่อย่างนั้นจะให้คนทำอะไรกันล่ะถ้าไม่พูดเรื่องลึกลับพวกนี้

คำถาม: กลับมาเรื่องจริงจังกันบ้าง มีประโยคที่จอร์-เอลพูดในหนังว่า ‘คุณต้องให้ความหวังพวกเขา’ ฮาร์วีย์ มิลค์ [ผู้เสนอกฎหมายและเรียกร้องสิทธิของกลุ่มรักร่วมเพศ] ก็เคยพูดไว้เช่นกันว่า ‘คุณต้องให้ความหวังพวกเขา’ และผมรู้สึกว่าตัวละครอย่างซูเปอร์แมนเป็นการสื่อสารถึงคนนอก ถึงเด็กที่ไม่เข้ากับสังคม หรือคนที่ถูกแยกออกไปไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม และผมชอบการเชื่อมโยงในส่วนนี้มาก

เฮนรี คาวิลล์: ใช่แล้ว แต่ผมไม่คิดว่าเขาจะต้องสื่อสารถึงคนนอกเท่านั้นนะ เขาพูดกับทุกคน หรือแนวคิดนี้พูดกับทุกคนก็ว่าได้ เราทุกคนต้องการความหวัง ไม่ว่าเราจะอยู่ในศตวรรษไหน ไม่ว่าเราจะอยู่ในช่วงไหนของชีวิต ไม่ว่าเรากำลังเผชิญกับโศกนาฏกรรมอยู่หรือไม่ เราต้องการแค่ความหวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเรียบร้อยดี และถ้ามีโศกนาฏกรรมและหายนะเกิดขึ้น เราก็ต้องการความหวังว่าเราจะฝ่าฟันมันไปได้ ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้สื่อสารเฉพาะกับคนนอกและคนที่อยู่ตามลำพังเท่านั้น แต่เป็นการพูดกับทุกคน

คำถาม: แซ็ค คุณร่ายมนตร์อะไรถึงได้งานนี้มา คุณนำเสนอวิสัยทัศน์แบบไหน และเกิดอะไรขึ้นบ้างในการสร้างหนังเรื่องนี้ให้สำเร็จขึ้นมาได้

แซ็ค สไนเดอร์: ที่จริงผมไม่รู้เหมือนกัน ผมกับเด็บบีกินอาหารกลางวันกับคริส [โนแลน] และเอ็มมา [โธมัส] แล้วเราก็คุยกันถึงโครงการซูเปอร์แมน ผมจำได้ว่าที่จริงตอนแรกที่เรานัดพบกัน เราพูดกันประมาณว่า ‘นี่ กินข้าวกลางวันกันไหม แล้วถ้าเราคุยกันเรื่องซูเปอร์แมน จะแปลกรึเปล่า’ แล้วเราก็คิดว่า ‘ได้เลย ไม่แปลกหรอก ซูเปอร์แมนเจ๋งอยู่แล้ว’

พูดตามตรงผมกังวลเรื่องซูเปอร์แมนนะในแง่การทำหนัง เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ผมสนใจ ขณะเดียวกันผมก็กลัวด้วยเพราะซูเปอร์แมนก็คือซูเปอร์แมน แล้วตอนนั้นมันก็ดูเป็นงานที่ใหญ่มาก ถึงผมจะพูดได้ว่าหลังอ่านบทของเดวิดและคุยกับคริสแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลในเรื่องบทหรือเรื่องแนวคิดเลย แนวคิดมีความตรงไปตรงมาและมีความเชื่อมั่นมาก ซึ่งผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเกิดความเชื่อมั่นเหมือนกัน มันทำให้ผมรู้สึกว่า ‘โอเค มีบางอย่างในนั้นที่เราสนใจ และเราคงต้องทิ้งความกลัวตัวละครต้นแบบนี้ไปซะ’ เพราะผมชอบซูเปอร์แมนมากในฐานะตัวละครและติดตามเขามาตลอดหลายปี ผมกลัวก็เพราะผมให้เกียรติต่อความเป็นตัวละครนี้และศักยภาพที่เขามี ผมว่าเดวิดทำงานได้เยี่ยมมากในการเขียนบท มันปรากฏให้เห็นในตัวงานและเราก็ต้องเดินตามมันไป

เพราะฉะนั้นผมคิดว่าวิสัยทัศน์ที่ผมมองก็คือมันจะต้องเป็นหนังซูเปอร์แมนแบบไม่เกรงใจใครที่เราอยากทำแต่ไม่มีใครทำมาก่อน ในระยะหลังผมมักรู้สึกเสมอว่าคนพยายามประนีประนอมมากไปหน่อยในการเสนอภาพซูเปอร์แมน ทั้งในแง่การแต่งกาย ความเป็นมาของเขา หรือวิธีการที่เขากลมกลืนไปกับสังคม เราแค่อยากพูดว่า ‘ไม่ใช่นะ นี่คือตำนาน นี่คือสิ่งที่มันเป็น มันควรเป็นอย่างนี้’ ผมว่านี่ล่ะเป็นหนังแบบที่เราสร้างขึ้นมา เราต้องการยกย่องเขาให้ขึ้นไปอยู่ในที่ที่ควรจะอยู่ และไม่ว่าการทำอย่างนั้นจะเป็นการสร้างความสำคัญมากเกินไปหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ แต่นั่นเป็นสิ่งที่เราอยากทำ มันจึงเป็นความสนุกที่ได้ทำหนังเรื่องนี้ออกมา

คำถาม: ดนตรีในหนังเรื่องนี้เยี่ยมมาก

แซ็ค สไนเดอร์: ขอบคุณครับ ผมทำงานหนักมากเลย อ้าว ไม่ใช่ผมนี่... [หัวเราะ]

คำถาม: แซ็คและฮานส์ช่วยพูดถึงการร่วมงานกันในการทำดนตรีประกอบให้หนังเรื่องนี้ได้ไหมครับ

แซ็ค สไนเดอร์: ได้เลยครับ วันหนึ่งผมหยิบกีตาร์มาแล้วทุบมันทิ้งเพราะเล่นไม่เป็น อ้อ ไม่ใช่ สิ่งเดียวที่ผมจะพูดก่อนปล่อยให้ฮานส์พูดคือเมื่อเราประกาศว่าจะทำหนังเรื่องนี้ เวลาคุยโทรศัพท์แล้วคุณคิดว่าจะได้คุยเรื่องประมาณว่า ‘อ้อ คุณทำหนังซูเปอร์แมนอยู่เหรอ เยี่ยมเลย คุณจะทำมันออกมาแบบไหนล่ะ’ อะไรทำนองนี้ แต่กลับกลายเป็นว่า ‘คุณจะใช้ดนตรีจากภาคก่อนหรือเปล่า จะใช้ของจอห์น วิลเลียมส์หรือเปล่า’ แล้วผมก็ตอบประมาณว่า ‘ให้ตายเถอะ เรายังไม่ได้ถ่ายซักเฟรมเลย ผมไม่รู้หรอก’

เรารู้ว่ามีดนตรีประกอบอยู่แล้วและมันเป็นงานที่โดดเด่นมาก แต่ปรัชญาของเราคือเราต้องการทำให้เหมือนกับว่าไม่เคยมีการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มาก่อนเลย เราอยากทำเหมือนกับว่าเราพบหนังสือคอมิกอยู่ใต้เตียงแล้วก็พูดขึ้นมาว่า ‘เอ้อ นี่น่าจะเป็นหนังที่ดีได้นะ เราน่าจะนำซูเปอร์แมนมาทำเป็นหนัง’ เพราะเราใช้มุมมองแบบนั้น จึงไม่มีการคัดเอาองค์ประกอบจากผลงานก่อนหน้ามาใช้ เราจะไม่พูดว่า ‘น่าจะดีนะถ้าเราายืมสองสามอย่างมาจากตรงนี้’ ทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากศูนย์หมด

เราพูดกันแต่แรกแล้วว่า ‘คริส เวลาคุณไปคุยกับฮานส์เรื่องหนังอีกเรื่องหนึ่งน่ะ คุณช่วยบิดแขนหรือติดสินบนให้เขามาทำหนังซูเปอร์แมนด้วยได้ไหม’ ผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วคริสพูดอะไร แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร เขาก็ตอบตกลง [หัวเราะ]

ฮานส์ ซิมเมอร์: ที่จริงผมเป็นเจ้าสาวที่เล่นตัวเหมือนกันนะ เพราะไม่เหมือนรัสเซลล์ ผมเคยดูหนังซูเปอร์แมนภาคอื่นมาแล้ว และคิดว่าดนตรีของจอห์น วิลเลียมส์นั้นเยี่ยมมาก ดังนั้นมีบางสิ่งที่เกิดขึ้น ใช่ คริสพูดกับผมว่า ‘เอาน่า คุณทำหนังซูเปอร์แมนได้’ ผมก็ได้แต่พูดว่า ‘ไม่ได้หรอก ผมทำหนังซูเปอร์แมนไม่ได้ เพราะสิ่งที่ต่างกันเลยก็คือ ตอนคุณเดินเข้าไปที่ Warner Bros. พร้อมแนวคิดเรื่องหนังซูเปอร์แมน คุณน่ะมีแนวคิดอยู่ แต่ผมไม่มีอะไรเลย’

จากนั้นแซ็คกับผมก็เริ่มคุยกันและมันกลายเป็นวิสัยทัศน์ของแซ็คทั้งหมดเลย เหตุผลเดียวที่มีดนตรีประกอบขึ้นมาได้ก็เพราะเขาเหมือนกับว่าจูงมือผมไปแล้วบอกว่า ‘นี่คือสิ่งที่ผมอยากทำ’ แล้วผมก็ตอบว่า ‘อืม ผมรู้สึกได้’ และอีกเรื่องหนึ่งคือเขาเป็นศิลปินที่เก่งมาก เขาขีดเขียน เขาวาดรูป ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ดีมากสำหรับผม และเดวิด ผมว่าคุณคงยกโทษให้ผมเรื่องนี้นะ เพราะผมเริ่มทำงานนี้โดยพูดว่า ‘ผมไม่อยากอ่านบท เล่าเรื่องมาเลย’

เดวิด โกเยอร์: แซ็คกับผมก็เริ่มกันอย่างนั้นแหละ เราวาดรูปกัน

ฮานส์ ซิมเมอร์: เพราะตอนนั้นผมรู้แล้วว่าอะไรอยู่ในหัวของเขา และเรารู้อยู่อย่างหนึ่ง สิ่งนั้นก็คือผมรู้ว่าการเป็นคนต่างประเทศรู้สึกอย่างไร ผมรู้ว่าการเป็นคนนอกรู้สึกอย่างไร ผมไม่ได้มีพลังสุดยอด แต่นอกจากนั้นแล้ว...

เดวิด โกเยอร์: ไม่เอาน่า

ฮานส์ ซิมเมอร์: [หัวเราะ] อีกสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึก ซึ่งผมคิดว่าทั้งแซ็คและผมมองว่าสำคัญก็คือแนวคิดเรื่องความหวัง ความคิดที่ว่าเราต้องการเฉลิมฉลองบางสิ่ง เราเฉลิมฉลองอเมริกาซึ่งไม่ได้รับการพูดถึงอย่างนี้มานานแล้ว และพูดอย่างตรงไปตรงมาจากใจจริง จากนั้นก็มาถึงจุดหนึ่งหลังผัดวันประกันพรุ่งมาสามเดือน แซ็คก็พูดว่า ‘นี่คุณได้อะไรบ้างหรือยัง’ [หัวเราะ] ผมก็ตอบว่า ‘อ่า... ผมมีแผ่นโพสต์อิตที่คุณเอาไปแปะตู้เย็นได้นะ’ เขาตอบว่า ‘ผมชอบโพสต์อิต ผมชอบโน้ตขีดๆ เขียนๆ นี่แหละ ผมจะไปเจอวันอังคารนะ’ จากนั้นเขาก็มาสารภาพว่า ที่จริงแล้วคริสบอกเอาไว้ว่า ‘ถ้าคุณไม่ไปบ้านซิมเมอร์คุณจะไม่มีทางได้ฟังอะไรหรอก’ [หัวเราะ] นั่นล่ะวิธีการที่เราทำดนตรีประกอบกัน

แซ็ค สไนเดอร์: มันตลกดี เพราะสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจคือมีเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในหนังและดนตรีประกอบก็ช่วยสนับสนุนเหตุการณ์เหล่านั้นได้อย่างดีเยี่ยม แต่สิ่งที่ผมคิดว่าฮานส์ทำได้อย่างน่าทึ่ง และเราพูดถึงเรื่องนี้กันก่อนที่ผมจะได้ฟังตัวดนตรี เราพูดว่า ‘มันคงดีนะถ้าเพลงประกอบของซูเปอร์แมนให้ความรู้สึกอ่อนน้อม ถ้ามีความอ่อนน้อมในเพลงธีมของซูเปอร์แมน ถ้าคุณทำได้นะ’ ซึ่งมันยากมาก มันเป็นเรื่องนามธรรม ผมแค่พูดว่า ‘ความอ่อนน้อม ช่วยทำให้มันเป็นดนตรีหน่อย ไม่ว่ามันจะหมายความว่ายังไงก็เถอะ’ โชคดีนะที่ผมไม่ใช่นักดนตรีเพราะผมคงไม่มีทางทำแบบนั้นกับเขาใช่ไหม ‘โอ้ จะดีมากเลยถ้าเพลงประกอบฟังดูอ่อนน้อม’ ผมคงหัวเราะ แล้วเขาก็อาจจะพูดว่า ‘ตานั่น ผมอยากฆ่าเขาจริงๆ’ แต่คุณก็ได้ฟังแล้ว มันมีสิ่งนั้นอยู่ในดนตรี

เขาบอกว่าเขาไม่มีพลังพิเศษ แต่คุณได้ยินสิ่งนั้นอยู่ ไม่ว่าจะใช้โน้ตกี่ตัวก็ตามแต่ แต่มันมีความอ่อนน้อมอยู่ เหมือนกับพอฟังถึงตรงนั้นแล้วก็รู้สึกได้เลยว่า ‘โอ้ มันฟังดูอ่อนน้อม’ เขาทำให้มันเกิดขึ้นในดนตรีด้วยวิธีการอะไรซักอย่าง

ฮานส์ ซิมเมอร์: ผมมีหลายเรื่องให้รู้สึกอ่อนน้อมและผมก็เล่นเปียโนเอง สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าต้องอ่อนน้อมถ่อมตนก็คือฝีมือการเล่นเปียโนของผม [หัวเราะ] มันแปลกดีเพราะนักเปียโนฝีมือเยี่ยมหลายคนพยายามเล่นเพลงนี้ แต่ฟังดูแล้วมันไม่ใช่ ต้องใช้คนที่เล่นมือขวาไม่เก่งอย่างผมเนี่ย [หัวเราะ]

Man of Steel – บุรุษเหล็ก ซูเปอร์แมน
13 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/ManofSteelThailand