FB on September 20, 2011, 05:30:08 PM
Q.ทราบมาว่าจริงๆแล้วพลอยสนิทกับเป้เหมือนกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมงานกัน
          P. สำหรับคุณปั๊กอาเร่ หรือคุณเป้ อารักษ์นะคะ (หัวเราะ) เราก็เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว ได้เจอกันบ้างตามงานต่างๆ แต่เราก็ไม่เคยร่วมงานกันเลย ซึ่งพลอยเองก็ติดตามผลงานเขานะไม่ว่าจะเป็นการเล่นละครเรื่องแจ๋วใจร้าย ก็ว้าว ร็อคสตาร์เล่นละครได้ด้วยแหะ(หัวเราะ) ก็รู้สึกว่าเจ๋งดี แล้วเขาก็เก่งนะ เป้เขาเป็นคนที่มีความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสูง เวลาเล่น เขาจะไม่เกร็ง แล้วก็ไม่กลัวกล้อง เป้มีการแสดงที่ลื่นไหลมาก บางครั้งที่เวลาเล่นแล้วพลาด เขาก็จะขอเล่นใหม่โดยที่ไม่ให้เทค เออผมขอเอาต่อ แล้วเขาก็เล่นวนหลูบไหม ซึ่งพลอยว่าก็เป็นคุณสมบัติที่ดีนะของนักแสดง เป้เขาเป็นคนที่มีสมาธิก็ถือว่าเป็นคนเก่งเหมือนกันเนาะ ก็อย่าลืมจับตาดูนะค่ะว่าเคมีทางการแสดงของเราทั้งสองคนจะเข้ากันขนาดไหน เพราะว่าพลอยกับเป้เองคือเราทั้งคู่ก็พยายามที่จะทำให้มันออกมาเป็นธรรมชาติที่สุดเหมือนที่คนปกติทั่วๆไปเขาพูดกัน เขาสื่อสารกัน เหรอ ใช่เหรอ มั้ยเหรอ เฮ้ย (ทำเสียงให้ดู) อะไรประมาณนี้ คือทำออกมาให้เหมือนเป็นมนุษย์ที่สุด คือเราพยายาม จริงๆแล้วทั้งหมดเนี่ยะมันคือการแสดง แต่เราก็พยายามทำให้ดูว่ามันไม่เป็นการแสดงอะไรอย่างเนี่ยะ ก็ถือว่าเป็นแผนซ้อนแผนเข้าไปอีก(หัวเราะ) สำหรับพวกเรานะ พวกเราก็เต็มที่นะค่ะ แล้วก็สนุกกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากๆ
          Q.จริงมั้ยว่าพระเอกหนังเรื่อง “30+โสดON SALE” ที่มาลงตัวที่เป้ได้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพลอยด้วย
          P.ตอนที่พลอยอ่านบทภาพยนตร์เรื่องนี้ พลอยแบบเฮ้ย พลอยชอบบทภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ๆ แล้วพี่ต้อย(assistant producer)ที่บ.หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม ก็ถามพลอยว่าเรื่องนี้พระเอกใครดี เขาก็ถามว่าคนนี้ๆเป็นไงดีมั้ย พลอยก็บอกว่าดีๆๆๆๆ เขาก็บอกว่าพลอยติดต่อให้หน่อยซิ พลอยก็เลยโทรหาเป้ บอกว่า เฮ้ยเป้เราจะมีภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง เราเล่น บทดีมากเลยคุณ คุณลองอ่านดูก่อนมั้ย ก็เลยให้พี่ต้อยส่งบทไปให้เป้ลองอ่านแล้วเป้ก็ส่ง what’s app ว่าคุณจะเล่นมั้ย พลอยก็(ยิ้ม) ทำเป็นยังไม่ตอบ (ทำท่าพิมพ์) ทาม....ไม.......เหรอ แล้วก็ทำเว้นช่วงไว้ประมาณหนึ่ง ถ้าคุณเล่นผมเล่น เราก็ทำเป็นนิ่ง ๆ อ๋อ ก็คงเล่นแหละ(หัวเราะ) ก็คือตอบไปอย่างนั้นแล้วเขาก็ แล้วพลอยก็โทรไปว่าเป็นไง เออคุณบทน่ารักนะ อะไรอย่างเนี่ยะ คือเขาก็โอเคนะ คือพลอยว่าเป็นบทผู้ชายที่ จืดเป็นบทผู้ชายที่จะดูแสนธรรมด๊าธรรมดา ดูเหมือนชื่อนะ จืดชืดจริงๆ แต่กลับแซ่บ เออกลับแซ่บโดนใจผู้หญิงทั่วเมืองไทยอย่างแน่นอน
          Q.จริงมั้ยว่าพอได้ร่วมงานกันกับเป้แล้วถือได้ว่ามีอะไรเซอร์ไพรส์เยอะทีเดียว
          P. ก็สำหรับเป้นะค่ะ เราจะเห็นเขาในภาพของนักร้อง ไม่ใช่นักร้องซิ ย้อนกลับไปก่อนที่จะเป็นนักร้องก็คือในมาดของศิลปิน คือมือกีตาร์วงSLUR แล้วเขาก็จะปรากฎกายตามเวทีดนตรีอินดี้ต่างๆ แล้วก็จนมาเป็นละคร จนมาถึงภาพยนตร์ พลอยก็ยังงงๆว่ามาได้ยังไง เร็วมาก คือตอนแรก ช่วงแรกๆพลอยยังจำได้เลยว่าเขาก็มาปรึกษาว่าอืม เขาเล่นบทภาพยนตร์แบบนี้ๆๆดีมั้ย แล้วเราก็ยังจำได้ว่าเราให้คำแนะนำให้คำปรึกษาไปเยอะเหมือนกัน จนมาถึงวันนี้ ผ่านมาแล้วก็มาได้เล่นหนังด้วยกัน คือเราไม่ได้เห็นการทำงานของเขาเลยไง แต่ว่านี่ก็เป็นครั้งแรกที่พลอยได้ทำงานกับเขา พลอยก็รู้สึกว่าเขามีพัฒนาการที่ดีมากๆและก็เปลี่ยนแปลงไปมากๆ แล้วก็เรียกได้ว่ามีความเป็นธรรมชาติสูง แล้วก็เขายืดหยุ่นได้ดีนะกับการแสดง ถ้าเขาฝึกฝนฝึกปรือดีๆ เขาก็คงมีโอกาสที่ดี แล้วเขาก็เป็นคนที่ค่อนข้างเก่ง นอกจากจะเล่นดนตรีแล้ว ก็พูดตรงๆก็ไม่อยากจะเชื่อว่าก็เล่นหนังได้ดีเหมือนกันนะ ก็คือไม่อยากจะเชื่อไง บางทีมันไม่อยากจะเชื่อก็เชื่อว่า เขาก็เล่นหนังได้ดีนะ
          Q.คุยเรื่องเป้แล้วกลับมาคุยเรื่องพลอยบ้าง ใน30+โสดON SALE แฟนๆจะได้เห็นหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่เราไม่เคยเห็นพลอยในหนังเรื่องไหนมาก่อนโดยเฉพาะในบทบาทโรแมนติคคอมมิดี้
          P. หลายอย่างที่ยังไม่เคยเห็นพลอยในหนังเรื่องนี้ก็คงเป็นความที่คล้ายพลอยมากที่สุดนะค่ะ ตลอด16 ปีในการแสดง พลอยสาบานได้เลยว่า พลอยไม่เคยแสดงเป็นตัวเองสักครั้งเลย แต่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่เปิดโอกาสให้พลอยได้แสดงความเป็นตัวเองได้เยอะที่สุดในชีวิตแล้ว แล้วก็อืมได้มีส่วนร่วมหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งกาย เรื่องเสื้อผ้า หน้าผม การออกแบบผมหรือว่าหน้าตาสีสันของเราอยากได้ยังไง คือเป็นเหมือนๆสไตล์ลิสต์เองด้วย หรือแม้แต่เรื่องของการถ่ายรูป คาแรคเตอร์พลอยเป็นช่างภาพ ซึ่งตัวจริงพลอยเองก็ชอบการถ่ายรูปอยู่แล้ว หรือการได้ปีนผา เพราะปกติ พลอยไม่ค่อยได้เล่นกีฬานี้นะ แต่ว่าเรื่องนี้ก็เปิดโอกาสให้พลอยได้ลองได้เล่นกีฬาอะไรใหม่ๆบ้างก็สนุกดี ได้ปีนผาไป ถ่ายหนังไป ก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกมากๆนะค่ะ
          Q.ในฐานะดาราเจ้าบทบาท หลายคนชื่นชมการแสดงของพลอยมากๆไม่ว่าจะเป็นนักแสดงที่ร่วมงานด้วยกันเองหรือแม้แต่ผู้กำกับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถทางการแสดงชนิดกดปุ่มสั่งได้ ท่ามกลางผู้คนนับร้อย ซึ่งตั้งแต่การถ่ายทำวันแรกฉากแรกของภาพยนตร์ ที่ต้องมีฉากที่น้ำตาไหลกลางสนามบินสุวรรณภูมิ แสดงว่าเราเองมีสมาธิในการทำงานทางการแสดงสูงมาก
          P. ก็จริงๆแล้วมันไม่ได้ถึงกับขั้นกดปุ่มนะค่ะ แต่ว่าจริงๆแล้วพอถึงบทที่พลอยจะร้องไห้ยาก พลอยก็จะร้องไห้ยาก มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกของเราในตอนนั้น และอีกอย่างหนึ่งมันตามบทค่ะ บทเขาเขียนมาดีจริงๆ คือมันไม่ได้กดปุ่มร้องไห้ แต่ว่าบทเขาเขียนมาดี แล้วพลอยก็เข้าใจความรู้สึกของทุกขั้นตอนของแต่ละอารมณ์ที่มันจะเกิดขึ้น ณ ตอนนั้น อะไรอย่างเนี่ยะ คือพลอยอาจจะไม่ใช่คนที่กดปุ่มร้องไห้ แต่ว่าสมมติผู้ชายบอกเลิกเอาการ์ดแต่งงานมาให้ใช่มั้ยค่ะจากบทในเรื่อง พลอยก็จะคิดเป็นขั้นตอนเลย อะไรที่มีความสุขมากๆ รอคอยเขากลับมา กลับมา โอ้ย ดีใจจังเลย ผู้ชายเอาการ์ดมาให้ อ๊า มันคาดไม่ถึงไง ตกใจ คาดไม่ถึง อึ้ง ช็อค มันถึงเป็นความรู้สึกที่แบบ มันเหมือนแบบสึนามิซัดมาโครม เฮ้ย มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยะ ไม่ทันตั้งตัว แล้วคือน้ำตามันก็จะค่อยๆออกมาเอง แต่คือไม่ได้ถึงกับคือ พลอยไม่ใช่คนที่แล่นแบบบังคับตัวเองว่าเราต้องน้ำตาไหล แต่ว่าพลอยเน้นที่ความรู้สึกที่มันอยู่ข้างในของเรา ณ ตอนนั้นมากกว่า ว่ากับบทเนี่ยะมันเป็นอะไรอย่างไร ไปตามขั้นตอน คืออาจารย์พลอยสอนมาดีนะค่ะ(หัวเราะ) หม่อมน้อย(มล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล)สอนพลอยมาว่าให้มีสติ อยู่กับปัจจุบัน วินาทีนั้น ตอนนี้ทำให้ดีที่สุด เรื่องของอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่ต้องไปสน แต่เรามีสติอยู่ ณ ตอนนี้ดีที่สุด
          Q.ประมาณว่าอินกับบทกับตัวละครและเพื่อให้ออกมาสมจริงที่สุดบางฉาก ถึงกับขอไม่แต่งหน้าหรือให้มีเมคอัพน้อยที่สุด
          P. ก็จริงๆแล้วในฉากนั้นมันเป็นฉากที่เราร้องไห้มาทั้งคืนแล้ว มันน่าจะเป็นอะไรที่บอบช้ำนะค่ะ พลอยตื่นมาตอนเช้าก็ตาบวมๆอยู่แล้วใช่มั้ยค่ะ พลอยก็เลยบอกว่าขอเลย ขอไม่มีเมคอัพ เพราะผู้หญิงที่มันนอนร้องไห้มาทั้งคืน กลับบ้าน ตื่นขึ้นมาก็ยังอยู่ในชุดนอน ร้องไห้ไม่มีเมคอัพนะ จริงมั้ย? เราก็อยากให้มันจริงที่สุด ก็คือไม่แต่งหน้าเลย ขอ ขอแบบนั้นจริงๆ ขอโทรม ก็โทรมจริง เพื่อให้คนดูได้เข้าใจได้รู้สึกถึง เออ สภาพจริงก็แบบนี้ นึกออกมั้ย มันก็ชีวิต จริงมั้ยค่ะ
          Q.หรือแม้แต่เวลาที่ต้องโรแมนติคกุ๊กกิ๊ก เวลาเขินที่เห็นในหนังนั่นก็เขินจริง
          P. เขินจริง ถ้าเราเจอใครที่เราชอบเราจะเขิน เฮ้ย ถ้ายิ่งอยู่คนเดียวอาการคือ (ทำท่าให้ดู) ตัวแข็ง ตัวแข็งนิ่ง ถ้ามีเพื่อนอยู่ด้วย ผู้หญิงเวลามีเพื่อนอยู่ด้วย เฮ้ยน่ารักอ๊ะแก โห อะไรอย่างเนี่ยะ(ท่าทางดี๊ด๊าผิดสังกต) นี่คือชีวิตปกติของผู้หญิง (ทำท่าเขินมือไม้ไป) แต่ถ้าอยู่คนเดียวจะตัวแข็ง
          Q.นอกจากพลอย เป้ แล้วสีสันที่ขาดไม่ได้เลยในหนังเรื่อง30+โสดON SALEคือเหล่ากลุ่มก๊วนสาวๆวัย30+ที่ได้ตุ๊กกี้ชิงร้อยและเจี๊ยบ พิจิตรา มาร่วมด้วย
          P. ก็กลุ่มก๊วนเพื่อน 30ของพลอยนะค่ะ ก็จะมี เจี๊ยบ มีคุณตุ๊กกี้ สาวแซ่บของเรานะค่ะ คุณตุ๊กกี้ก็จะเป็นผู้หญิงแบบเฟมินิสต์ ต่อต้าน เป็นวีรสตรี เฮ้ยไม่ชอบผู้ชายมาข่มเหงกดขี่ไม่ได้ เว้ย อะไรอย่างเนี่ยะ ส่วนเจี๊ยบก็จะเป็นเพื่อนที่รักเด็ก ไม่สน ไม่แคร์ ไม่ยี่หระ ก็นี่ชีวิตจริง ทำไม ก็ผู้ชายเสนอมาเอง ฉันก็สนอง นึกออกป๊ะ ไม่ได้เรียกร้อง ก็เด็กมันชอบ แล้วไง แล้วแบบคือ พอมาอยู่ด้วยกัน ก็เป็นส่วนผสมที่ลงตัว กับพลอยเองกับพี่ตุ๊กกี้เอง กับเจี๊ยบ ซึ่งเป็นคาแรคเตอร์ผู้หญิงที่แตกต่าง ซึ่งเป็นคาแรคเตอร์ของผู้หญิงซึ่งมีอยู่ในยุคนี้ คาแรคเตอร์แบบพลอย คาแรคเตอร์แบบพี่ตุ๊กกี้ คาแรคเตอร์แบบเจี๊ยบ เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนเป็นแบบนี้หมด ต้องมีผู้หญิงที่เป็นเฟมินิสต์1คน ต้องมีผู้หญิงที่ปากร้ายใจดีพูดมากจริงใจ 1คน ผู้หญิงรักเด็ก แล้วไงละ ก็เด็กมันชอบแล้วไง ก็มีอยู่แล้วชีวิตจริง ซึ่งก็เหมือนกับว่าพวกเราสามคนเป็นตัวแทนของทุกๆคนเลย ของผู้หญิงในประเทศไทย (หัวเราะ) เวลาอยู่ด้วยกันก็สนุกดีนะค่ะ ก็ขำดี เพราะว่าเวลาเล่นไปก็แอบนึกถึงชีวิตจริงของตัวเราเอง หรือว่าเรื่องราวของเราที่เคยผ่านมา หรือเพื่อนของเราที่แอบกินเด็ก (หัวเราะ)คือมันก็ขำ มันก็ตลกดีค่ะ
          Q. เสน่ห์ของหนังเรื่อง30+โสดON SALE นอกจากนักแสดงแล้วที่ขาดไม่ได้เลยคือผู้กำกับภาพยนตร์จากสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก เสนาเพชร
          P. ก็สำหรับตัวพี่เพชรเอง พลอยก็เป็น เรียกว่าไงคือเราเป็นแฟนเขามาตั้งแต่เด็กแล้วนะ เพราะว่าพลอยก็ดูรายการยุทธการขยับเหงือก และดูภาพยนตร์ที่พี่เขาเล่น ก็พี่เพชรก็ AMAZINGมากๆนะก็เป็นแฟนคลับตั้งแต่เด็ก ติดตามดูผลงานมาไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ต่างๆ หรือแม้แต่รายการยุทธการขยับเหงือกนะค่ะ ซึ่งพลอยจะชอบ เป็นbig fan ทุกอาทิตย์จะต้องมานั่งดู และมีความสุขกับการแสดงของพี่เขาที่ทำให้ทุกคนได้หัวเราะ และมุกมันที่มุกมันขำจริงๆในยุคนั้น พี่เขาถือว่าเป็นนักแสดงแบบคอมมิดี้รุ่นแรกเลยนะทั้งขำ ทั้งสุภาพ ทั้งน่ารัก น่าเอ็นดู อะไรเนี่ยะ จนกระทั่งพี่เขาได้มากำกับภาพยนตร์ แล้วพลอยได้ดูนะ แต่ไม่ได้ดูรอบเพรสนะ ดูรอบธรรมดา แล้วเชื่อมั้ยว่าคนตบมือในโรง ในช่วงที่เป็นหนังที่มันขำ แล้วโดนใจคนดู หรือตอนที่ประทับใจ ซึ้งคนตบมือกันทั้งโรง คือพลอยดูแล้วรู้สึกว่าเราภาคภูมิใจในตัวพี่เพชรนะว่าเขาเป็นคนที่เก่ง มีความสามารถ และประสบความสำเร็จ แล้วก็ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการกำกับ บทบาทของนักแสดงในทุกๆขั้นตอน ซึ่งเป็นคุณสมบัติในส่วนที่ผู้กำกับทุกคนควรจะต้องมีในคุณสมบัตินี้ นอกจากจะกำกับภาพแล้วยังต้องกำกับคาแรคเตอร์ พลอยก็ชอบนะ แล้วก็ชื่นชม จนกระทั่งได้มีโอกาสร่วมงานกับพี่เพชรก็เหมือนฝันนะ เพราะว่าวันหนึ่งที่เรานั่งเป็นเด็กตัวเล็กๆคนหนึ่ง นั่งดูทีวีแล้วก็ดูเขาเล่นรายการยุทธการขยับเหงือกมีพี่โน้ต อุดม มีพี่เปิ้ล พี่หอย มีพี่กิ๊ก พี่ตุ๋ย อรุณ คือเราไม่คิดว่าวันหนึ่งเราจะมีโอกาสได้เล่นภาพยนตร์ที่พี่เขากำกับ ซึ่งตอนเด็กๆเราก็ไม่คิดว่าจะมาอยู่ตรงนี้เหมือนกันนะค่ะ ซึ่งก็เหมือนฝันที่เป็นจริงแล้วก็มีความสุขในทุกขั้นตอนในการทำงานนะ เพราะว่าพี่เขาเป็นคนที่แบบเขาจะมีรายละเอียดเล็กๆที่พลอยเองก็คาดไม่ถึงว่าเฮ้ยใช่เลยพี่เพชรมันโดนมากเลย
          Q.จริงมั้ยที่ว่าพี่เสนาเพชรมีวิธีการกำกับเหมือนไม่ได้กำกับ
          P. คือเขาจะให้อิสระในการแสดงที่เราจะดึงคาแรคเตอร์ออกมาได้อย่างเต็มที่นะค่ะ เขาจะไม่ปิดกั้น ไม่อะไรทั้งสิ้น หรือถ้าพลอยมีมุกอะไรที่จะขายเขา พี่เพชรก็จะเออ เอาซิ ซื้อๆๆๆเอาเลย คือพี่เพชรเป็นคนที่ใจกว้างแล้วก็ไม่แคบ
          Q. “30+โสดON SALE” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
          P. จริงๆแล้วสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากจะให้ความบันเทิงแล้ว หรือทัศนคติหรือมุมมองของหนังเรื่องนี้นะค่ะไอ้คำตอบสำหรับผู้หญิงอายุ 30ที่ตามหากันอยู่ มันเหมือนกลับการย้อนกลับไปมองตัวเอง เหมือนกลับไปคิดกับตัวเองว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไรในชีวิต อะไรที่เป็นความสุขที่แท้จริงที่ใจเราต้องการในชีวิต และโหยหามาโดยตลอด เพราะว่าทุกคนคงเจอคำตอบหลังจากที่ได้ดูได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว คงได้ถามใจตัวเอง แล้วนี่เป็นภาพยนตร์ที่อบอุ่นมากๆ และน่ารักที่สุด ที่พลอยเคยเล่นมาในชีวิตแล้ว อยากให้ทุกคนชอบ และมีความสุข และได้รับสิ่งที่ดีจากการที่ไม่ว่าจะเป็นพลอย เป้ นักแสดงทุกคน หรือพี่เพชร หรือพี่ตุ๊กกี้ เจี๊ยบ พี่ต้น ทุกคนที่ถ่ายทอดออกมาจนเป็นภาพยนตร์ อยากให้ทุกคนได้อะไรดีๆกลับไป พลอยเชื่อว่าทุกคนต้องได้ และกลับไปคิดฝันว่าพรุ่งนี้ฉันจะเลิกนึกถึงผู้ชายที่เปอร์เฟ็กซ์ อาจจะหันมาอะไรที่เรียบง่ายก็ได้ ลองดู สำหรับพลอยแล้ว ก็เคยมีสถานการณ์แบบที่เกิดขึ้นในหนังเหมือนกันนะ คนที่เราชอบ ชอบมาตลอด ชอบมานานแล้ว แต่ถ้าวันหนึ่งเราเจอคนที่ใช่สำหรับเราทุกๆอย่าง ระหว่างคนที่ชอบกับคนที่ใช่ พลอยเลือกคนที่ใช่มากกว่าคนที่ชอบ ท้ายที่สุดเราก็ต้องเลือก แต่ต้องรู้ใจตัวเองว่าสิ่งใดที่เราต้องการ เพราะท้ายที่สุดแล้วทุกคนก็อาจจะมีความคิดที่ไม่เหมือนกันนะค่ะ ก็อยากให้ไปดูกันเยอะๆนะคะ “30+โสดON SALE” 13 ตุลาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ

FB on September 20, 2011, 05:31:00 PM
MV UPDATE: เพลงประกอบภาพยนตร์ "30 + โสด on sale" "เพลงเอิ้ว"

MV ภาพยนตร์เรื่อง 30+โสด ON SALE - เพลงเอิ้ว (Official OST.) 

ศิลปิน: ลิปตา

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=NoapUaE30iM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=NoapUaE30iM</a>
 
 


FB on September 27, 2011, 07:45:21 PM
MOVIE GUIDE: 30+ โสด ON SALE (Official Tr.)

ตัวอย่าง 30+ โสด ON SALE (Official Tr.) 

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=pXhVsmQ9jow" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=pXhVsmQ9jow</a>

FB on September 27, 2011, 07:46:34 PM
บทสัมภาษณ์: "เป้ อารักษ์" จาก 30+โสด on sale



          หล่อ เซอร์ แนว แถมโรแมนติคสุดๆ ปฏิวัติลุคส์“คนขายหมูปิ้ง”ที่ชื่อ “เป้ อารักษ์” พระเอกที่อาสาพาสาว “30+” อย่าง “พลอย เฌอมาลย์”ลงจาก “คาน” ใน “30+โสดON SALE” ภาพยนตร์รักอารมณ์บวกบวก เรื่องล่าสุดจาก “ผู้กำกับและเจ้าของเดียวกัน” กับ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก”

          Q. แล้วในที่สุดแฟนๆกำลังจะได้เห็น ลีลาทางการแสดงของ “ปั๊กอาเร่- เป้อารักษ์”ในบทโรแมนติคคอมมิดี้อีกครั้ง
          P.ครับผม เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริครับ ตอนนี้กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่นะครับ เป็นภาพยนตร์โรแมนติคคอมมิดี้เรื่องที่2ในชีวิตชื่อว่า 30+โสดON SALE ครับ ผมรับบทเป็นจืด แน่นอนครับฟังจากชื่อหนังแล้ว จะเป็นแนวอื่นไปไม่ได้ ก็ต้องตลกโรแมนติคอย่างแน่นอน feel good แน่ๆ

          Q. แล้วเป็นไงมาไงถึงได้เข้ามากลายเป็นตัวละครสำคัญในภาพยนตร์เรื่อง30+โสดON SALEนี้ได้
          P.ครั้งแรกที่ถูกทาบทาม จะเป็นเหมือนพี่เพชร คือผมเคยเจอพี่เพชรครับผม พี่เพชรเคยชวนผมตั้งแต่เจอหน้ากันเล็กๆในงานประกาศรางวัลๆหนึ่ง เขาไปในนามของภาพยนตร์เรื่องสิ่งเล็กเล็กฯ ซึ่งผมชอบหนังเรื่องนี้อยู่แล้ว ตอนดูก็เคยคิดว่าใบเฟิร์นเล่นได้ดีมาก แล้วดีแบบดีเว่อร์เลยครับ ตัวภาพยนตร์เองทำออกมาได้ดีมาก น่ารักมาก และกุ๊กกิ๊กมาก เออถ้าเขามาชวนเราเล่นหนัง เราก็คงเล่นนะ แล้วพอดีว่าตอนนั้นพี่วศินมาชวน(หัวเราะ)นะ ไม่ใช่พี่เพชร แต่นั่งอยู่ด้วยกันนะ เฮ้ยว่างๆก็มาเล่นหนังด้วยกันกับพี่สิ ผมก็นี่แหละผกก.สิ่งเล็กเล็กฯชัวร์ๆคนนี้พี่เพชร พอเจอเข้าจริงๆอ้าวนี่พี่วศินนะ ผิดคนครับ (หัวเราะ)แต่ว่าสุดท้ายพอได้อ่านบทแล้ว และผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้อ่านบทหนังเรื่องนี้ผมคิดว่า น่าจะ..... เรียกได้ว่าน่าจะรู้สึกเลยว่า ตัวผมอยากจะมีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้ครับ ผมคิดว่ามันเป็นหนังที่เรียกได้ว่าจะเป็นหนังดี และจะเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ และด้วยประกอบกับนักแสดงอีกคนคือคุณพลอย เฌอมาลย์ มันช่างตรง มันช่างถูกต้อง แล้วตัวบทที่เราจะแสดงก็คิดว่ามันน่าจะทำได้ไม่ยาก หมายถึงตัวจืด คาแรคเตอร์จืด เพราะฉะนั้นในความคิดของเรา ณ ตอนนั้นสุดท้ายแล้วที่เรารู้สึกได้ และบอกกับตัวเองว่าหนังเรื่องนี้เราอยากให้มันเกิด แล้วเราก็คิดว่าเราน่าจะมีส่วนร่วมกับมัน และก็ทำให้มันจบออกมาได้ดี ก็เลยตอบรับเล่นดีกว่า

          Q.มองว่าเสน่ห์ความน่าสนใจของคาแรคเตอร์จืดที่เราได้รับอยู่ที่ตรงไหน และตัวบทเปิดพื้นที่ให้เราเล่นมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
          P.ตัวบทจืด พูดได้ว่ามีความเป็นพระเอ๊กพระเอกสูงมาก แล้วก็มีปมทางด้านความรักมาก่อน แต่ก็พยายามฝืนปมนั้น และก็กลายมาเป็นคนที่คอยดูแลคนอื่น คอยดูแลความรู้สึกคนอื่น เป็นคนดีเลยละ เป็นคนยิ้มแย้ม เราก็มอง เราก็เลยตีความในแบบที่ เรียกว่าง่ายๆคือพี่เพชรบอกเองเลยว่าก็เล่นเป็นเป้นี่แหละ เราก็เล่นเป็นเรานี่แหละ แล้วก็ไม่ได้มีกายภาพมาบังคับมากมายว่าเราจะต้องอย่างสุดเขตต้องงอตัวเพื่อที่จะได้ดูเป็นเนิร์ดที่ดูมันกวนนะครับ แต่ว่ากับเรื่องนี้ก็คืออาจจะวางตัวเป็นตัวเราเลย แต่อาจจะเดินแบบเป็ดๆหน่อย อาจจะเดินแบบไม่ได้สมาร์ทมาก ไม่ได้เท่ห์มาก เพราะจืดมันไม่ใช่คนเท่ห์ เป็นคนที่ธรรมดาที่สุด เป็นเราเหมือนตอนที่เราอยู่บ้าน ตอนที่ใส่กางเกงขาสั้นอะไรก็ได้ ใส่เสื้อยืดอะไรก็ได้ออกมาครับ ผมก็เอาตรงนั้นเข้าไปแทนครับ แล้วก็การพูดการจาก็อาจจะใหญ่กว่าตัวเองหน่อย คือหมายความว่าเพราะเป็นภาพยนตร์โรแมนติคคอมมิดี้ครับ ตลกก็อาจจะเล่นให้มันชัดเจนขึ้น แล้วก็ใหญ่กว่าเดิม ใหญ่กว่าในชีวิตจริง ก็คือไม่ได้ธรรมชาติอะไรขนาดนั้น แต่ก็มีพื้นฐานเป็นตัวเอง ก็ไม่ต้องสร้างอะไรใหม่มากมายขนาดนั้นครับ แล้วพอมาถึงเวลาทำงานก็ไม่ได้ยากอะไร มันเหมือนกับพอเราทำอะไรมาหลายๆอย่าง พอเราเล่นคาแรคเตอร์ที่มันแปลกมาหลายๆเรื่อง มันสามารถดึง เรื่องนี้ๆๆๆๆเอามาใช้รวมกันได้ครับ แล้วสำหรับเรื่องนี้ผมคิดว่าน่าจะใกล้ตัวผมมากๆ มันจะคล้ายๆกับความจำสั้น แต่ความจำสั้นจะออกแนวขวางโลกมากหน่อย จะออกแนวกวน เอะอะไรของมัน แต่ว่าสำหรับเรื่องนี้จะออกแนวกวนแบบกุ๊กกิ๊กน่ารัก แล้วก็มีหลงรักนางเอกอยู่ มีฟีลแอบรักด้วย ฟีลกวนด้วยในเวลาเดียวกันครับผม แล้วเรื่องนี้ไม่ได้เล่นเทคเยอะเลยนะทุกคน จะค่อนข้างชัดอยู่แล้ว แล้วทำงานกันไม่ได้ยากมาก

          Q. ถ้างั้นคงต้องเล่าให้ฟังแล้วละว่าคาแรคเตอร์ของ “จืด”ชายหนุ่มอายุ30ในภาพยนตร์เรื่อง30+โสดON SALE เป็นอย่างไร
          P. บุคลิกของจืด เป็นชายหนุ่มอายุ30 ที่อารมณ์ดี จิตใจดี มองโลกในแง่ดี ชอบช่วยเหลือคนอื่นครับ แล้วก็เรียกได้ว่าใครมีปัญหาอะไรมาถามจืด จืดก็น่าจะช่วยได้ครับ แต่ว่าเรื่องตัวเองช่วยไม่ค่อยได้ ส่วนอาชีพของจืดเรียกได้ว่าสำหรับพระเอกคนนี้เป็นอาชีพที่ไม่ธรรมดาครับ รับรองว่าไม่เคยเห็นในภาพยนตร์เรื่องอื่นนะครับ แต่เราอาจจะเห็นตามข้างทางเต็มไปหมด คืออาชีพขายหมูปิ้งครับ แต่เป็นร้านขายหมูปิ้งที่ไม่ธรรมดาครับคือมีกิตติศัพท์เป็น1ใน100ร้านอาหารที่ต้องชิมก่อนตายครับ คืออร่อยมากครับ(เสียงเน้นมาก) และก็เป็นกิจการที่สืบทอดมาจากคุณย่าโดยตรง แล้วตัวจืดเองก็ทำมาตั้งแต่ 4ขวบ ก็เลยจะผูกผันกับมันมากครับ เป็นสิ่งเดียวที่เลี้ยงชีพเขา และน้องสาว ซึ่งตอนนี้ก็เหลืออยู่กันแค่ 2คนคือจืดกับน้องจี และผมก็เชื่อนะครับว่ามันก็น่าที่จะพอเลี้ยงอยู่นะครับ ถ้ามันอร่อยขนาดนั้น แต่จริงๆแล้ว จืดไม่ได้ขายหมูปิ้งอย่างเดียวครับ เพราะว่าจืดได้รับ คือบ้านจืดทุกคนจะมีจิตสัมผัสพิเศษคือเอาไว้สามารถทายได้ จิตสัมผัสหมายความว่าสามารถรับรู้อนาคตบางอย่าง จืดก็เลยใช้วิธีการดูหมูปิ้ง ใช้จิตสัมผัสเนี่ยะควบคู่ในการขายหมูปิ้ง คือเอาหมูปิ้งมาเป็นตัวแทนของ เรียกว่าอะไรละ เป็นตัวส่งจิตกัน ถ้าใครอยากมาดูหมอกับจืด ก็ต้องกินหมูปิ้งด้วยฮะ เมื่อกินหมูปิ้งแล้วก็จะรู้ว่าเขาคิดอะไร หรือเรื่องราวของเขาเป็นอย่างไร ใช้จิตสัมผัสมาผสานกับอาชีพที่ตัวเองทำอยู่ ก็เหมือนกับว่าแม่นมากๆ และด้วยความเป็นคนอารมณ์ดี ถ้าดูจากการแต่งตัว ก็จะเห็นว่าจืดเป็นคนแต่งตัวสบายๆง่ายๆ แต่แอบมีความเก๋อยู่ด้วยครับ คืออย่างเวลาตอนทำงานก็จะแต่งตัวเสื้อยืด กางเกงขาสั้น เวลาไปข้างนอกก็จะมีความเป็นสตรีทแวร์นิดหน่อย ก็อาจจะเป็นการตอบโจทย์ว่าเอ๊ะคนขายหมูปิ้งอาชีพนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องเชยเสมอไปนะครับ

          Q.แล้วพระเอกที่ขายหมูปิ้งมาเกี่ยวพันกับสาว30+ อย่างพลอย เฌอมาลย์ได้อย่างไร
          P. ความสัมพันธ์ของจืดกับคุณพลอย เฌอมาลย์ ซึ่งรับบทเป็นอิง ก็ได้มาเจอกันที่ร้านขายหมูปิ้งนี่แหละครับ สาว30+อกหักรักคุดถูกบอกเลิกกลางอากาศที่ต้องการจะพึ่งหมอดูตาทิพย์ แต่กลับมาเจอร้านหมูปิ้งเจ้าดังชนิดที่ว่าเป็น1ใน100 ร้านดังที่คุณต้องชิมก่อนตายของจืด พอดีคุณอิงเขาผ่านมา คือเขาจะมาดูหมออีกคนหนึ่ง คือหมอดูตาทิพย์ครับผม แต่พอดีหมอดูตาทิพย์เสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากเดินตกท่อตาย แต่ไม่รู้ว่ามีท่อเปิดอยู่ แต่เป็นหมอดูที่ดังมากครับผม เลยมาที่ร้านหมูปิ้งของจืด เห็นว่าคนเยอะก็เลยมาซื้อหมูปิ้งกิน แล้วเห็นว่า เฮ้ยดูหมอด้วยเหรอ มีจริงๆเหรอ แล้วก็ได้คุยกัน ได้ดูกัน จืดก็เลยรู้ว่าคุณอิงเป็นคนที่เพิ่งผิดหวังกับความรักครั้งยิ่งใหญ่มา คือคบกับแฟนมานานมาก คือยังไงก็ต้องแต่งงานกับคนนี้แล้วละ ไม่ได้ไปมีชู้ ไม่ได้ไปอะไร แต่อยู่ดีๆแฟนกลับไปแต่งงานกับคนอื่น ทิ้งคุณอิงไปเลย แล้วเรื่องราวก็เลยผูก โดยที่ใช้วัยเข้ามาเกี่ยวข้องครับคือนางเอกของเราอายุ30 กว่าแล้วซึ่งมันเป็นวัยที่พร้อมจะ settle down วัยที่พร้อมจะอยู่นิ่ง ลงรากปักฐานกับใครสักคนหนึ่ง แต่กลายเป็นว่าไอ้คนที่เราจะนิ่งด้วยอยู่ๆก็หนีหายไปเลย หนีหายจากเราไปเฉยเลย มันก็เลยกลายเป็นว่านางเอกของเราก็เลยประสบปัญหาใกล้คานครับ จืดก็เลย เนื่องจากว่าจืดมีความอยากจะชอบช่วยเหลือคนอื่นด้วย และจืดก็มีปมของเรื่องราวแบบนี้อยู่ด้วย ก็เลยพยายามที่จะช่วยอิงให้เต็มที่ เรียกได้ว่าพยายามทำตัวเป็นกูรูเลยละ พยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยให้อิงลงจากคานให้ได้ครับ แต่กลายเป็นว่าช่วยไปช่วยมาก็ไปต้องหลุมรักเขาแทน คือช่วยไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเอง แหม ก็เริ่มแอบชอบเขานะ ก็เขาเป็นสาวสวยที่เรียกว่าเก่ง และมีความสามารถทางหน้าที่การงาน ซึ่งมันจะค่อนข้างสะท้อนอะไรหลายๆอย่างในสังคมยุคนี้ครับ คือผู้หญิงอายุ30กว่าที่ค่อนข้างสวย ดูมั่นใจตัวเอง ดูโอเคทุกอย่าง ดูเหมือนว่าจะมีแฟนเยอะแต่ว่าไม่มีแฟน ผิดหวังเรื่องความรัก ไม่รู้จะไปหาใคร แต่ในมุมมองของผม ผมว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นะที่สาวอายุ30แล้วยังไม่มีแฟน ก็โอเคครับประมาณเนี่ยะ

          Q. ถ้างั้นคิดว่าอะไรคือเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ “30+โสดON SALE”
          P. จริงๆผมว่ามีหลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ตัวเรื่องตัวบทที่พูดถึงเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงอายุ 30 ตัวผกก. ไปจนถึงตัวนักแสดง อารมณ์ความเป็นหนังโรแมนติคคอมมิดี้ เยอะครับ เอาเรื่องบทก่อนเลยละกันคือ ที่ผมอ่านบท บทจะพูดถึงนางเอกซึ่งก็คือ อิงกับเพื่อน ซึ่งเป็นตัวแทนของสาวอายุ30จริงๆ ที่กำลังแสวงหาความรัก และที่กำลังต่อต้านความรัก แล้วเขาไม่ได้ใช้แค่อิงคนเดียว แต่เขาใช้พี่ตุ๊กกี้ เขาใช้พี่เจี๊ยบ(พิจิตรา) เขาใช้เพื่อนๆอิงมาเป็นตัวแทน แล้วทำให้เราเห็นว่ามันมีผู้หญิงวัย30+หลายแบบ ซึ่งผมคิดว่าคนดูน่าจะเข้าใจมัน และสัมผัสมันง่ายขึ้น หรือแม้แต่เด็กๆก็เหมือนกันก็น่าจะสัมผัสได้ มันคือความน่ารัก มันใกล้ตัว มันจริงนะ แล้วยิ่งพอมันเป็นเรื่องราวใกล้ๆตัวสำหรับคนไทยในยุคนี้ผมคิดว่าจะยิ่งทำให้สัมผัสได้ง่ายหน่อย เพราะเป็นยุคที่ดูหนังที่พูดเรื่องไกลตัวจะลำบากมากๆเลย ว่าไปแล้วก็เหมือนกับเรื่องสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารักครับ เพราะว่าเป็นการตอบโจทย์ผู้หญิง พูดแทนผู้หญิงในวัยนั้นได้เต็มๆเลยครับ 30+โสดON SALE ก็เหมือนกัน พูดถึงผู้หญิงวัยนี้ แต่ว่าเป็นผู้หญิงในวัยที่ผ่านเรื่องราวในหลายๆวัยมาก่อนแล้ว มันก็เลยพูดได้ว่า ก็น่าจะสื่อสารกับคนหมู่มากได้ดีเลยครับ เพราะพอผมอ่านบทเสร็จแล้วก็รู้สึกว่าเฮ้ยมันน่าจะนี่แหละ เราน่าจะมีส่วนร่วมกับมัน

          Q.ดูจากใบปิดโปสเตอร์ เทรลเลอร์หนังตัวอย่างแล้ว ดูเหมือนว่า30+โสดON SALE พูดถึงเรื่องราวชีวิต ความคิด ไปจนถึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรื่องราวความเป็นผู้หญิงวัย 30+ยุคสมัยนี้แบบเต็มๆเลย
          P. ถามว่าหนังเรื่องนี้เป็นแค่หนังผู้หญิงหรือพูดแค่มุมมองผู้หญิงมั้ย คงต้องบอกว่าเหมือนเป็นการหยิบเอาชีวิตของผู้หญิงมานำเสนอน่าจะใกล้เคียงกว่า เพียงแต่ก็จะเกี่ยวข้องกับผู้ชายด้วย เพราะในชีวิตจริงผู้ชายก็ต้องไปเดทกับผู้หญิงอยู่แล้ว คือเวลาจะกินอะไรอย่างหมูกะทะ เดินห้าง อย่างซื้อของก็ต้องซื้อของเซลล์มาก่อน(หัวเราะ)มันช่างผู้หญิ๊งผู้หญิง ผมก็มีโอกาสได้คบกับผู้หญิง ก็เลยรู้สึกว่าเอ๊ะ ทำไมมันช่างตรงอะไรขนาดนี้ อย่างอยากได้รองเท้าคู่เนี่ยะ แต่อีกคู่หนึ่งละ คือซื้ออีกคู่หนึ่งแต่ก็อยากได้อีกคู่ เนี่ยะมันช่างสวย เอ๊ะแล้วจะซื้อคู่ไหนดี มันเป็นประสบการณ์ที่เจอบ่อยมากครับ หรือพูดถึงเรื่องการดูดวง ก็เชื่อเรื่องดวงอย่างบ้าคลั่ง(หัวเราะ)อะไรประมาณนี้ เม้าท์กันแหลกรานเรื่องผู้ชาย เรื่องอะไร แต่ก็ยังไม่หนักนะครับ เพียงแต่ในความจริงของมันคือนอกจากพูดในมุมของผู้หญิงแล้วยังสื่อสารในมุมของผู้ชายด้วยนะครับ คือเป็นมุมของจืดนะครับ เป็นมุมแอบรักแอบชอบ มันก็น่าจะเป็นความรู้สึกของผู้ชายบางคนที่แบบว่าจะจีบ แต่ไม่รู้จะจีบอย่างไรดี อารมณ์แบบอยากอยู่ด้วยอยากเจอ อะไรอย่างนี้ ขี้งอนด้วย ผู้ชาย ผมว่าผู้ชายขี้งอนกว่าผู้หญิงอีกนะ

          Q. หันมาพูดคุยถึงในส่วนของผู้กำกับบ้าง ทราบมาว่า เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร เป็นผู้กำกับหนังที่ใส่ใจในรายละเอียดต่างๆของภาพยนตร์มากๆทั้งๆที่เป็นหนังผู้หญิง พูดถึงเรื่องราวของผู้หญิง แต่กลายเป็นว่าเข้าใจและให้ความสำคัญกับนักแสดงมากๆโดยเฉพาะการแสดง
          P. ถูกต้องละครับ พี่เพชรเขาเป็นผกก.ที่มีความสามารถมีประสบการณ์เยอะครับผม และเขาทำงานมาเยอะมากในหลายๆสาย แต่หลักๆคือสายทางการแสดง หมายความว่าไม่ว่าจะในสายคอมมิดี้ ,จะเป็นละครเวที ,หรือจะเป็นดราม่า กับหนัง กับภาพยนตร์ คือพี่เพชรทำมาหมดแล้ว คือเขาเข้าใจไปหมดว่าการแสดงจริงๆมันจะออกมาเป็นอย่างไร การแสดงและการที่ทำให้คนดูรู้สึกสนุกและแฮปปี้กับหนังมันเป็นอย่างไร หน้าตานักแสดงต้องสวยต้องหล่ออย่างไร มุมกล้องเขาจะรู้หมด และเรื่องของการแสดง เรียกว่าเหมือนกับพูดให้ผมเข้าใจได้ง่าย ถ้าหากเขาต้องการแบบไหน เขาสามารถสื่อสารคือโค้ชได้เข้าใจอะไรได้ง่ายมากเขารู้ว่านักแสดงต้องการอะไรบ้างก่อนที่จะเข้าฉาก หรือว่าระหว่างเข้าฉากอยู่ว่ามันจะต้องทำอะไร เขาก็จะให้เวลาทั้งหมด

          Q.นางเอกสาวสวยมากฝีมือ คนนี้ไม่พูดไม่ได้ กับการพลิกบทบาทโรแมนติคคอมมิดี้แบบเต็มๆตัวและที่สำคัญเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของเป้อารักษ์กับพลอย เฌอมาลย์ด้วย
          P. ครับคุณพาล เฌอมอยหรือคุณพลอย เฌอมาลย์นั่นเองนะครับ (หัวเราะ) สำหรับผมกับคุณพลอยก็รู้จักกันมาก่อนแล้วครับ แต่เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกันนะครับ อย่างเขาเองก็ถือได้ว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ฝ่ายหญิงที่เรียกว่ามีฝีมือจัดจ้าน รางวัลก็กวาดมาหมดทุกเวทีแล้วเห็นจะได้ ก็ดีใจครับที่ได้ทำงานด้วยกัน ถึงแม้ว่าตัวจริงแล้วคุณพลอยจะอายุมากกว่าผมนิดหน่อย (หัวเราะ) แต่ว่าก็ยังสาวยังสวยอยู่เหมือนเดิมครับผม เรียกว่ายังนิ้งอยู่เลยครับ แล้วก็ทำงานเก่งมากนะครับผม เรื่องนี้เขาก็น่ารักมาก ใครอาจจะว่าเขาแอ๊บ แต่ผมว่าธรรมชาติเขาเป็นแบบนี้ แล้วในเรื่องนี้เราจะได้เห็นคุณพลอยเล่นในหลากหลายอารมณ์มากเลย พูดถึงการทำงานร่วมกันระหว่างผมกับพี่พลอยเคมี(ทางการแสดงคู่กัน) ผมไม่รู้ว่ามันได้รึเปล่านะครับ(หัวเราะ) เพราะว่าเขาก็สวยมากขนาดนั้น แต่ผมก็คือไอ้ตี๋คนหนึ่งนะ แต่ว่าที่เห็นๆก็คือเหมือนว่าผมไม่กลัวเขา และผมก็สนิทกับเขา แล้วก็เราก็เลยเล่นกันได้เต็มที่ ไม่รู้ซิ พอมันไม่เขินไม่อาย มันก็เลยง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นผมคิดว่าน่าจะเข้าใจกันได้ง่ายนะครับ ซึ่งถามว่ายากมั้ย มันก็จะมีซีนที่ยากๆที่มีบทยาว5-6 หน้าที่เราต้องทำการบ้าน ต้องจำไดอาล็อคด้วยเพราะมันเป็นรายละเอียดของเรื่องราวตัวละคร ที่จะสื่อสารให้คนดูรู้แบคกราวน์ของตัวละครไปพร้อมกับใส่ลีลาและคาแรคเตอร์ของตัวละคร ส่วนในเรื่องความสด หรืออิมโพรไวซ์ไอ้ความสดมันก็จะเกิดขึ้นเมื่อผู้กำกับภาพเขาตั้งรันกล้องทิ้งไว้แล้วพี่เพชรผกก.ไม่ยอมสั่งคัทนี่แหละครับ แล้วเราสองคนก็จะเล่นมุกกันแล้วก็จะรัวต่อกันใส่กัน อันนั้นก็จะคือสดนะครับ แต่ว่าเหตุการณ์มันก็จะเกิดขึ้นไม่เยอะมากครับ แต่พี่เพชรจะชอบใช้นะ พี่เพชรจะชอบใช้อะไรที่เรามั่วขึ้นมาเอง อย่างซีนในงานเลี้ยงอยู่ดีๆมีผมพูดอะไรขึ้นมาเพิ่มอันหนึ่ง แล้วพี่พลอยก็มีทำเป็นกินไวน์หมดแก้ว ก็เหมือนกับว่า เอามาใช้ในหนังได้ แต่ถ้าจะบอกว่าเคมีที่ส่งกัน เราก็มีกันมาตั้งแต่ตอนซ้อมแล้วครับ เพราะฉะนั้นบทบาทมันก็จะไม่ได้หนีไดอาล็อคมากครับ แค่แบบว่าเอาให้เข้าปาก แล้วก็หลังจากที่มันยังไม่คัท แล้วเราก็เอามาเล่นกัน ผมว่านะ

          Q.มาถึงบรรดาตัวละครที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับภาพยนตร์ กลุ่มก๊วนเพื่อนสาว30+ของนางเอกทั้ง2คน
          P.แล้วก็กลุ่มผู้หญิงเพื่อนสาว30+ของนางเอกทั้ง 2คนรวมกันเป็น 3สาว30+ คนหนึ่งเป็นจอมขโมยซีนของประเทศนี้ครับ พี่ตุ๊กกี้ครับ ส่วนอีกคนเป็นสาวที่สวยมากพี่พลอยเฌอมาลย์ อีกคนเป็นคนที่รับบทได้หลายแบบมากครับ เรื่องนี้เขามารับบทเป็นสาวที่แบบว่า เป็นตัวแทนของคนอายุ 30 ที่ชอบกินเด็ก ทั้ง 3 จะมีนิสัยที่แตกต่างกัน พี่ตุ๊กกี้เป็นสาวเฟมินิสต์ที่หัวโบราณ พี่เจี๊ยบเป็นสาวที่แรงสุดขีด ส่วนพี่พลอยเป็นสาวที่อยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนสองคนนี้ ว่าจะเลือกไปทางไหน ว่าจะไปทางไหนดี แล้วคำแนะนำของเพื่อนแต่ละคนก็จะใช้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เพราะว่าแต่ละคนก็ไปสุดขั้ว2ทาง มันเป็นตัวแทนมากกว่า สุดท้ายก็เลยมาเชื่อจืด จืดจะช่วยได้ คือต้องบอกว่าการที่ได้ทั้ง 3สาวมารับบทนี้ ต้องบอกว่าพวกเขาก็จะเล่นกันแบบโอ้โหจริงจังมาก มีความเป็นสาว30จริงๆไม่ใช่ว่าดาราคนนี้มารับบทนี้นี้นี้เท่านั้นะครับ

          Q.ฟังดูแล้วน่าจะโดนใจบรรดาสาวๆหลายสิบบวกเลยทีเดียว ถ้าให้สรุปว่า 30+โสดON SALE เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร และต้องการจะบอกอะไรกับคนดู
          P.ในความคิดของผมแล้วสำหรับ 30+โสดON SALE ผมว่ามันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับจังหวะชีวิตมากกว่า ว่าคนเราจะไปทางไหน จะหาความรักเจอมั้ย ความรักเป็นส่วนใหญ่ของชีวิตของคนเรารึเปล่า แล้วก็ทำอย่างไรที่เราจะได้ความรักที่ถูกต้องที่เราชอบจริงๆ มันจะมีสองแบบนะครับ คนที่ชอบ กับคนที่ใช่ มันเป็นจังหวะ จังหวะหนึ่งที่มันเข้ามาครับ ถ้าเราไม่คว้าไว้ มันก็จะหลุดผ่านไป ยังไงก็ขอฝากภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยนะครับ 30+โสดON SALE ก็เป็นภาพยนตร์ที่น่าจะแฮปปี้กันทุกฝ่ายนะครับ ทั้งคนทำ ทั้งคนดูที่น่าจะได้รอยยิ้มจากภาพยนตร์เรื่องนี้ และน่าจะได้ข้อคิดหลายๆอย่าง ได้เห็นชีวิตของคนที่มันจริง แล้วเราเอามาblend มาทำให้มันsoft ให้มันน่าดู ให้มันสนุกสนานครับผม

          Q.สุดท้ายแล้วในฐานะที่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ใกล้เคียงกับเลข 30+โดยเฉพาะสาวๆ รู้สึกอย่างไรเมื่อเวลาหนุ่มๆพูดถึงสาวในวัยอายุ30+ในเชิงเนกาทีฟว่า ป้าบ้าง ซิ้มบ้าง แก่ ทึนทึก
          P. สำหรับผมแล้ว ผมว่าอายุ 30แล้วไงละ แล้วไง ผมยังชอบคนอายุ30 อยู่ตั้งมากมายหลายคนที่สวยๆ คือจริงๆแล้วมันไม่จำเป็นต้องสวยที่หน้าตา รูปร่างหรือผิวหนังหรือแบบว่า... เพราะยังไงก็คงไม่เต่งตึงเท่ากับเด็กๆอยู่แล้ว แต่ว่ามันจะสวยด้วยอย่างอื่นนะครับ สวยด้วยวุฒิภาวะ สวยด้วยการวางตัว สวยด้วยการมีทุกอย่างแล้วนะ เริ่มมีฐานะมากขึ้น เริ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เริ่มคุยรู้เรื่องมากขึ้น เด็กๆชอบผู้หญิงอายุมากจริงๆ ผู้ชายเด็กๆนะ คือแบบว่าเฮ้ยอยากจะรู้โลกของผู้หญิง เพราะผู้หญิงอายุน้อยก็ยังไม่สามารถให้อะไรได้มาก ก็ยังเขิน เรื่องเยอะ แต่ผมคิดว่าผู้หญิงอายุมากมันสามารถตอบโจทย์อะไรเราได้หลายๆอย่าง เราทำตัวงี่เง่า ง๊องแง๊งได้ นี่สมมติว่าถ้าผมเป็นผู้ชายอายุน้อยๆนะ(หัวเราะ) พอดีผมก็เป็นผู้ชายที่อายุไม่น้อยแล้ว แล้วก็นั่นแหละครับ อย่าไปฟังมันครับว่าสาวทึนทึกบ้าง ป้าบ้างนะครับ อยู่ที่คุณ ดูแลตัวเองดี คุณมีแฟนแล้วไงละ ถึงคุณไม่มีแฟนก็ไม่เห็นเป็นไรเลย คุณก็สามารถอยู่กับครอบครัวคุณได้อย่างแฮปปี้อยู่แล้ว ผมคิดว่าการที่เอาอายุมาเป็นตัวเลขแต่คนไทยเขาชอบล้อกันอยู่แล้วไง ไม่ว่าจะเป็นไอ้ดำบ้าง ไอ้ตี๋บ้างไอ้เตี้ยบ้างคือชอบเอาปมด้อยของคนอื่นมาล้ออยู่แล้วครับ มันเป็นค่านิยมของคนไทยที่จะเอาเรื่องอะไรก็ได้มาล้อ เป็นสังคมตลกไง

          Q.คิดว่าพอหนังเรื่อง30+โสดON SALE ฉายออกไปมุมมองที่คนทั่วไปมองสาว30+จะเปลี่ยนไป
          P. ผมเชื่อนะว่าเรื่องนี้น่าจะทำให้คนมองผู้หญิงอายุ30เรียกได้ว่าแฮปปี้ขึ้น แล้วก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น คือเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาได้ง่ายขึ้น แต่ว่าสาวๆ30+ทุกคนครับ แฮปปี้เข้าไว้ครับแฮปปี้เข้าไว้ ทุกคนมีค่าของตัวเองอยู่แล้วครับแล้วอย่าลืมมาดูหนัง 30+โสดON SALE นะครับ 13ตุลาคม นี้ทุกโรงภาพยนตร์ครับ

FB on September 29, 2011, 04:08:29 PM
แถลงข่าวเปิดตัว” 30+โสดON SALE กลางห้างCTW “เป้,พลอย,เจี๊ยบ,ตุ๊กกี้ ,เสนาเพชร” ปะทะ “มนุษย์30+แถม”ระดมยิงมุกกันไม่ยั้ง


 
          ถ้าจะเป็นหนังรักโรแมนติคคอมมิดี้แห่งปีที่พลาดไม่ได้ซะแล้ว แถมยังชวนให้ดูแล้วน่าจะอารมณ์ดีอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกับการหยิบเอาเรื่องจริงในชีวิตของสาวๆวัย 30 ทั้งที่ยังโสดหรือไม่โสดมานำเสนอได้อย่างมีเสน่ห์และน่าดูที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งแค่เห็นเหล่าก๊วนนักแสดงหนุ่มสาวระดับซุปตาร์อย่าง พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ,หนุ่มหล่อสุดเซอร์ เป้อารักษ์ อมรศุภศิริ, เจี๊ยบ พิจิตรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าแม่ขายขำ ตุ๊กกี้ (ชิงร้อย)สุดารัตน์ บุตรพรม มาแท็คทีมถ่ายทอดเรื่องราวของสาววัย30ที่กำลังวิ่งหาความรักที่อยู่รอบตัวรวมไปถึงสารพัดวิธีที่จะถูกนำมาใช้เพื่อให้ตัวเองได้ลงจากคาน ร่วมกันพร้อมกับผู้กำกับเสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร พูดคุยปล่อยมุกยิงกันไม่ยั้งกลางเวทีชนิดที่ว่าทำเอา หัวเรือใหญ่จากฝั่ง “หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม”คุณปัญญา นิรันดร์กุล ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์และ ผู้ควบคุมการสร้าง พาณิชย์ สดสี รวมทั้ง ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายขาย “บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ที่มาให้กำลังใจด้านล่างเวทีถึงกับขำก๊ากกันกลางงานแถลงข่าวเปิดตัว “30+โสดONSALE” เลยทีเดียว

          โดยงานนี้ทางทีมงานเนรมิต ลาน CENTRAL COURT ชั้น1หน้าลิฟท์แก้ว ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นมหกรรม PRIVATE SALE ความโสดสำหรับหนุ่มสาววัย 30+ พร้อมกันนี้ได้ส่งเจ้าตัว “มนุษย์30+” ที่มาพร้อมกับเลขอาถรรพณ์ออกมาคอยตามกวนอกวนใจพี่น้องสื่อมวลชน ที่ต่างสนใจมาร่วมทำข่าวกันอย่างคับคั่ง สร้างสีสันความสนุกสนานในอารมณ์บวกบวกตามสไตล์หนังรักอมยิ้มได้ดีนักแล นอกจากนี้ยังได้มีการแนะนำนักแสดงหน้าใหม่ถอดด้าม ต้น-เดิมพัน อยู่วิทยา ผู้บริหารและนักออกแบบการเงินมารับบทไฮโซหนุ่มเนื้อคู่ตามเสป็คที่อยากได้ของสาว30+ อย่างพลอยแต่เป็นคู่แข่งทางหัวใจของ เป้ อารักษ์ โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการฉายภาพยนตร์ตัวอย่างฉบับเต็มของภาพยนตร์เรื่อง30+โสดON SALE ในงานนี้เป็นครั้งแรก ก่อนที่บรรดานักแสดงผู้กำกับและผู้บริหารทั้งหมดจะร่วมถ่ายภาพด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มโดยมี จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการฝ่ายสื่อสารการตลาด บ.สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนลให้เกียรติขึ้นร่วมถ่ายรูป

          เตรียมพบกับ 30+โสดON SALE ภาพยนตร์รักอารมณ์บวกบวกเรื่องที่ 2 ในชีวิตหลังจากความสำเร็จของสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก จากผลงานการกำกับของ เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร 13 ต.ค.นี้ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วไประเทศ

FB on October 04, 2011, 12:59:06 PM
บทสัมภาษณ์ “เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร” “30+โสด ON SALE”



          ทุกคำตอบที่เค้นจากหัวใจของผกก.อารมณ์บวกบวก
          “เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร”
          จาก “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” มาจนถึง “30+โสด ON SALE”
          ความเหมือนที่แตกต่างของภาพยนตร์โรแมนติคคอมมิดี้
          ที่ดูแล้วไม่อมยิ้มแสดงว่าวันนั้นคุณปวดฟัน

Q. จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นของ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” อะไรคือหัวใจสำคัญที่ส่งผลต่อมาในผลงานเรื่องที่สองอย่าง “30+โสดON SALE”
P. ก็โดยรวมแล้วจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องสิ่งเล็กเล็กฯที่เราได้มานั้น เราเจืออะไรลงไปในนั้นบ้าง ข้อ1คือผมมีความรักระหว่างแม่ลูก เรามีความรักระหว่างเพื่อน มีความรักระหว่างเพศชายเพศหญิง มีความรักระหว่างครูกับลูกศิษย์ มันอบอวลอยู่ในนั้น ซึ่งสายสัมพันธ์เหล่านั้น ผมว่ามันเป็นเกลียวที่ทำให้ทุกอย่างมันออกมาดูดี ซึ่งหนังจะมีทั้งอารมณ์รัก เพื่อนและอมยิ้มไปด้วย และก็รู้สึกว่าพอนั่งดูจบแล้ว ก็มานั่งคิดว่าจุดเด่นของเรื่องสิ่งเล็กๆก็คือมันโดนใจ เคยเป็น เคยทำ และแอบทำ เป็นประสบการณ์จริง คือเราได้ถามน้องคนนั้นแล้วเขาทำ คนอื่นเขาก็ทำๆๆๆกันหมด เราก็รู้สึกว่าเอ๊ะ ถ้า นะ ถ้ามันมีหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ทุกคนเคยทำในอีกวัยหนึ่งละ โตขึ้นมาหน่อย เพราะหลังๆ คือผมจะมีชอบคุยกับผู้หญิง (หัวเราะ) คือกุ๊กกิ๊กไปเรื่อยนะ ผมจะมีรุ่นน้องอายุประมาณ25อัพขึ้นไป เขามักจะมาบ่นกับผมเสมอ ขับรถมาบ้าง มาบ่นมาคุยว่ามีแฟนที่คบกันมา7ปี เป็นรุ่นน้องผมด้วยนะ อกหัก ทำการ์ดแล้วนะพี่ นั่งร้องไห้อยู่ในรถ ทำไมหนูไม่สวยตรงไหน หนูผิดตรงไหน ครอบครัวหนูก็ดี ฐานะหนูก็ดี ทำไมทิ้งหนูไปวะ พี่นะเป็นรุ่นพี่ แม่งนิสัยเดียวกันรึเปล่าวะ เฮ้ย เราก็คอยบอก ซึ่งนี่คืออีกจุดหนึ่งที่คนเป็น และสัมผัสได้ และเขาต้องเคยโดน และนับเปอร์เซ็นต์ที่ผู้หญิงสมัยนี้ที่เก่งขึ้น แล้วก็เชื่อมั่นในตัวเองสูง เพราะฉะนั้นเขามีทุกอย่างดีขึ้นแล้วทำไมเขาไม่มีผู้ชายวะ ถามไปหลายๆคน แม้กระทั่งคนที่ใกล้ตัวมาก สิบปีจะแต่งงาน พอพาไปเข้าบ้านผู้ชาย…เลิกกัน!!! เฮ้ยอะไรวะทำไมเป็นอย่างนี้ ก็เลยมานั่งวิเคราะห์ คุยกันมาแล้วก็รู้สึกว่าอันนี้ก็เป็นอารมณ์ร่วมอีกอันหนึ่งที่น่าจะโดนใจผู้หญิงอีกวัยบ้างเหมือนกันนะ วัยที่รู้สึกว่าตัวเองผู้หญิงถึงพร้อมทุกอย่าง ทั้งฐานะการเงิน คือของผู้ชายไม่ต้องมีหรอก มาเหอะ กูมีพอแล้ว(หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ พอดีเราเองก็กำลังเริ่มทำรีเสิร์ชอยู่ แล้วได้ไปเจอคุณโอ๋(พาณิชย์ สดสีโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์) บ.หัวฟิล์มฟิล์ม พี่ เชื่อมั้ยผมก็คิดไว้ มันมีเรื่องจริงของคนที่เวิร์คพอยท์เลย ทำเป็นอย่างนี้ อย่างนี้ โอ๋มีบทแล้วเหรอ พี่ยังแค่รีเสิร์ชนะ รู้สึกว่ามันน่าทำนะ เออพี่ทำไมเราคิดใกล้เคียงกัน แต่มันเป็นไปได้นะ เพราะจากสิ่งเล็กๆ เราก็มีCASE STUDY ไว้อันหนึ่งละ โอ๋บอกงั้นของผมมีละ โอเค งั้นโอ๋ทำของโอ๋พัฒนาไปก่อน พี่จะเริ่มรีเสิร์ชไปเรื่อย จนมีอยู่วันหนึ่งพอได้มาคุยธุรกิจกันแล้วได้ทำกัน ทุกอย่างเริ่มเอามาจูนกันกับสิ่งที่ผมได้มา กับสิ่งที่เขามี แล้วในหนังเรื่องนี้ใน30+ ผมมองว่า เราต้องอย่าทิ้งในความคิดบวกๆที่มีในสิ่งเล็กๆนั่นคือความรัก ฉะนั้นความรักพี่น้องที่มีความรักเพื่อน ความรักพ่อแม่ ความรักเพศตรงข้าม มันมีเหมือนกัน แต่มันเล่าในอีกกระบวนการหนึ่งของอีกวัยหนึ่ง เพราะฉะนั้นผมก็เลยมองว่าจุดของสิ่งเล็กๆกับของ30+มันจะถูกลิงก์กันคือ1.สิ่งที่คนเคยเป็น และ2.มันมีความรักอยู่ในนั้น และเป็นรักที่บวก และในหนังทุกเรื่องตั้งแต่สิ่งเล็กๆมา ไม่มีใครผิดในภาพยนตร์เรื่องนั้น ใน30+ก็ไม่มีใครผิดเหมือนกัน เราไม่มีตัวอิจฉา เราไม่มีตัวร้าย เราไม่มีคนคิดร้ายที่จะต้องมากร้าวร้าว แต่ว่าไม่ได้คิด ไม่ได้บอก ไม่ได้พูด ไม่ได้กระทำ ไม่ได้ส่งสัญญาณ นั่นคือ ทุกอย่างไม่มีใครผิด แต่เรื่องราวมันก่อให้เกิดเรื่องที่มันน่าสนใจได้ ก็เลยคิดว่าทั้งสองเรื่องเนี่ยะมันมีอะไรที่ลิงก์กันอยู่ และคิดว่ามันน่าจะทำอะไรให้มันรู้สึกว่าเป็นหนังที่ดีได้เรื่องหนึ่ง เพราะมันอยู่บนความตั้งใจที่ดีของทีมงาน

Q. โดยส่วนตัวแล้วสนใจอะไรในผู้หญิงวัย30+ ผู้หญิงวัยนี้มีเสน่ห์ความน่าสนใจอย่างไร ถึงทำให้ตัดสินใจหยิบเอามาทำเป็นหนัง
P.(หัวเราะ) ถ้าถามว่าโดยส่วนตัว สนใจผู้หญิงในวัยไหน คือสนใจทุกวัยครับ (หัวเราะ) แต่จริงๆแล้วส่วนตัวผมรู้สึกว่าผู้หญิงวัยใกล้30เนี่ยะ เขาจะมีอะไรบางอย่างที่จะต้องหาที่พักพิงหรือยึดเหนี่ยว หรือเป็นที่ปรึกษา เพราะว่า ถ้าเลยวัยนี้ไปแล้ว ผมว่าเขาจะเริ่มเข้าใกล้วัยที่เริ่มมีครอบครัวละ เป็นแม่ละ คือความสาวสะพรั่งที่สุด ณ เขตนี้ ผมก็เลยมองว่าสุดเขต…สุดเขตความสาวสะพรั่ง นั่นคือ ทุกคนเมื่อวัยน่ารัก เด็กน่ารัก ทำงานสวยสดใส แต่ถ้ามันใกล้ระหว่าง26-27 ถึง30ต้นๆ เต็มสาว เป็นวัยเต็มสาวที่พร้อมจะก้าวไปสู่การเริ่มต้นจะมีครอบครัว เพราะฉะนั้น ถ้าเปรียบได้กับเป็นเส้นยาแดง ผ่าแปด ซึ่งตรงนี้บางคนมาถึงตรงนี้ปั๊บมันเจอปัญหาก่อนที่จะไปสู่วัยมีครอบครัว หรือตึ้ง ปั๊บไม่มีครอบครัวเลย ตรงเนี่ยะน่าสนใจ แล้วพอผู้หญิงในวัยนี้สังเกตให้ดีเขาจะมีคาแรคเตอร์1.เชื่อมั่นตัวเองสูง 2.กล้าตัดสินใจแต่ข้างในเขา weakมาก บทที่เขาเศร้าไม่มีใครเห็นนะ เพราะเขาเจอปัญหาความรักตั้งแต่สมัยวัยรุ่นมา อกหักมาเยอะแล้ว แต่ ณ ที่เขากำลังจะไปสู่ชีวิตการมีครอบครัวแล้วกูอกหัก กำลังจะก้าวต่อ และที่ผ่านมาถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตรักมา ชีวิตรักลุ่มๆดอนๆ แต่ครั้งนี้การที่เราเลือกคนๆหนึ่งแล้วกำลังจะก้าวไปสู่ชีวิตการมีครอบครัว แล้วไอ้เส้นนี้ทำพัง แล้วผู้หญิงคนนี้ คือพอพังปุ๊บ เขาทำไง? กลับไปเริ่มต้นใหม่เหรอ ไม่ใช่แล้ว หรือว่าจะอะไรวะ ไม่มีเลย ก็ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า เพราะฉะนั้นบางคนเคว้งเลยนะ บางคนก็ปฏิวัติตัวเอง น่าสนใจ ด้วยgap(ช่องว่างหรือความต่าง)ของวัยตรงนี้มันมีอะไรที่น่าสนใจ จากที่เราเคยเห็นผู้หญิงบางคนเรียบร้อย เชย อกหักปึ้ง ตัดผมสั้น โอ้โหใส่แว่นอันเท่านี้ นั่งปลดกระดุม เฮ้ย บางคนใส่สุ่ม นุ่งกระโปรงสั้นมาเลย บางคนแต่งตัวเชย คือลุคส์อะไรไม่สนใจแล้ว อะไรทำให้เขาเปลี่ยนแปลงวะ สุดท้ายที่เล่ามาทั้งหมดคือความรักทั้งนั้นเลย ความรักที่สมหวังและไม่สมหวัง หรือแม้บางคนที่เปรี้ยวมามีรักที่สมหวังกูไม่เที่ยวแล้ว เพราะว่ากูจะมีสามีที่ดี กลายเป็นคนเรียบร้อย ผ่านเส้นนี้ไป เออมีครอบครัวที่ดี แต่บางคนที่เช้ยเชย ปั๊ง โอ้โห อกหัก เปรี้ยว พอเปรี้ยวปั๊บแต่งตัวเปลี่ยนไป มีผู้ชายมาสนใจก็กลายมีครอบครัวที่ดี คือผมว่าตรงช่วงgap(ความแตกต่าง,ช่องว่าง) เนี่ยมันมีอะไรบางอย่างมันเหมือนหลุมดำ หลุมดำของความสะพรั่งของสาว ถ้าคุณรอดตรงนี้ไปได้ คุณก็น่าจะมีครอบครัวที่ดี หรือว่าจะปั้ง แล้วจะคาที่อยู่ตรงนั้น ไปไหนไม่ได้ ติดอยู่ในวังวนของความโสด

Q. เป็นการจุดประกายไอเดียที่น่าสนใจ จนเห็นเป็นโครงสร้างของหนังเรื่องที่2 ที่เล่าผ่านมุมมองของผู้หญิงในวัย30 ที่ทุกอย่างล้วนถ่ายทอดจากประสบการณ์ร่วมที่เกิดขึ้นจริง
P.ก็เราได้คุยกับคุณโอ๋หัวฟิล์ม เขาบอกว่าเขาก็มีเรื่องราวที่มาจากชีวิตจริงเหมือนกันที่คนใกล้ตัวเขาและถ่ายทอดมาเป็นสคริปต์ เรื่องสั้นทรีทเมนต์แล้ว ผมก็เออรู้สึกว่ามันน่าสนใจ เพราะว่าบางทีของทุกอย่างถ้าเกิดมันมาจากเรื่องจริง มันทำอะไรคนก็เชื่อ เหมือนกับสิ่งเล็กๆมันมาจากเรื่องจริง นี่ก็มาจากเรื่องจริง และเป็นเรื่องจริงจากที่หลายๆคนนั้นเป็น และหลังจากที่อ่านบทแล้วหลายๆคนก็เป็นนะ ผมก็ยังคิดเลยว่าการเล่าเรื่องไม่ยากละ เพราะมันมี พล็อตเรื่องของเรื่องจริงอยู่ เพราะฉะนั้นการเล่าเรื่องอะไร แล้วสิ่งที่ผู้หญิงในวัยนี้ทำอะไรมันก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว ฉะนั้นพอมันเป็นเรื่องจริงที่สัมผัสได้มันก็เลยกลายเป็นไอเดียว่ามันน่าจะทำภาพยนตร์ได้ และพออ่านแล้ว ฉันเคยทำ ฉันเคยเป็น กูเคยเห็น ก็เลยน่าจะ แล้วทุกอย่างก็ถูกนำมาประกอบๆกันอยู่ข้างใน อันนี้พอเราได้เรื่องมาแล้วนะครับ ทางหัวฟิล์มก็บอกว่าเนี่ยะบทแบบนี้จะออกมาเป็นอย่างนี้นะ พี่จะทำงานอย่างไร แล้วตัวผมเองก็เพิ่งมาทำงานในหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่2 เพราะฉะนั้นแล้วก็คนที่ผมรู้มือรู้ใจก็คือในทีมงานของสิ่งเล็กๆทั้งหมด แล้วพอดีเขาบอกว่าคนเขียนบทคือคนเดิมนะคือบอลรูม ผมก็บอกว่าก็ดีซิบอลรูมเขียนบทน่ารัก ก็ได้มาพัฒนาบทกัน ก็มีทีมงานผู้ช่วย(ผู้กำกับ)1,2,3 แล้วก็ทั้งหลาย หรือแม้แต่ผู้ช่วย1ซึ่งก็กลายไปเป็นผู้กำกับyes or no ไปแล้วซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะตามเขาได้รึเปล่านะ แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ทางรู้สไตล์ แล้วก็ลองพูดคุยดู ก็เขาก็บอกว่า ถ้าสำหรับพี่หนูเต็มที่เลย ก็โอเค งั้นขอบใจมาก ก็ตามทีมงานทั้งหมดมาให้ ก็ได้ทีมงานเดิม ส่วนทางหัวฟิล์มเขาก็บอกว่าตอนนี้ผมไปคุยกับเสี่ยเจียงเรียบร้อยแล้วนะ เสี่ยก็ชอบด้วยก็ทำกับสหมงคลฟิล์มนี่แหละ แล้วก็พาร์ทเนอร์เดิม ซึ่งจริงๆทางสหมงคลฟิล์มเองก่อนหน้าก็มีไอเดียความคิดเกี่ยวกับพล็อตเรื่องสาว 30อยู่แล้ว ซึ่งก็ตรงกับทางหัวฟิล์มที่มีไอเดียตรงนี้เหมือนกัน ส่วนทางผมอยู่ในขั้นตอนการเหวี่ยงหา ผมได้ไปคุยกับคุณกาละแมร์ คุณนกศิขริน ได้ไปคุยกับคุณนก สินจัย คุณแดง ธัญญา อะไรอย่างเนี่ยะว่าข้อมูลต่างๆเป็นไงบ้าง ในวัยต่อไปน่าทำมั้ย ก็ในระหว่างที่ทำข้อมูลนี้ก็เลยได้มาผนวกกัน แล้วยิ่งเรื่องนี้ได้คุณบอลรูมเขียนบทมาในดราฟท์ที่1มีคุณต้อง(บัวไรนักคิดนักเขียนมือเขียนบทแห่งหัวฟิล์มท้ายฟิล์ม)อยู่ด้วย แล้วพออ่านไปก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันน่าจะพัฒนาได้เร็วกว่าเพราะสิ่งเล็กๆมัน13ร่าง 13ร่างเพราะอะไร เราเล่ามุมผู้หญิงมาตลอดขึ้นมาอยู่สัก2-3ดราฟท์ แล้วก็มาเริ่มมีมุมผู้ชายหลังจากถูกคอมเมนท์ว่ามุมผู้ชายหายไป เราก็ทำไปจนถึง13ดราฟท์ แต่เนี่ยะพอเรามีนักเขียนบททั้งผู้ชายผู้หญิง เพราะฉะนั้นบทที่เราได้มาแทบจะละมุนละม่อมอยู่แล้ว เพราะมันมีทั้งความรู้สึกของผู้ชายและผู้หญิงอยู่ในนั้นอยู่แล้ว ก็แค่ปรับไดอาล็อค ปรับเหตุการณ์ ดึงเข้าดึงออก ความสนุก ความสำคัญอะไร เติมเข้าไป ทำให้อันนี้มันก็น่าจะพัฒนาได้ไว และเราก็ใช้แค่6ดราฟท์ก็เสร็จ เพราะมีมืออาชีพถึง 2คนทั้งชาย และหญิง ก็ทำให้เออออกมาได้ดี ซึ่งก็ทำให้ผู้ลงทุนพึงพอใจ คราวนี้ก็เป็นหน้าที่เราแล้วที่จะทำยังไง ก็คือทำให้มันออกมาดีที่สุดนั่นแหละนั่นก็คือทำตามบทนั่นแหละ เพราะสิ่งเล็กๆ ก็ทำตามบท เพราะฉะนั้นถ้าบทชอบ เราก็ทำตามบท คงมีคนชอบ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรที่แตกต่างจากบทเลย
« Last Edit: October 04, 2011, 01:01:23 PM by FB »

FB on October 04, 2011, 01:02:14 PM
Q.ทราบมาว่า ถึงขนาดพี่จิกประภาส ชลศรานนท์ได้อ่านบทแล้วชอบบทมาก
P. ใช่ชอบจริงๆ ล่าสุดพี่จิกก็มีแอบไปโพสต์ในแฟนเพจในเฟซบุคส์ 30+ว่าบทน่ารัก ซึ่งต้องบอกว่าในตอนอ่านบททีแรก ผมรู้สึกว่าผมเห็น พลอย เฌอมาลย์มาเลย พลอยกระโดดออกมาจากในจินตนาการเลย ทุกคนอ่าน ก็ต้องพลอย เฌอมาลย์คนเดียวเท่านั้นที่จะต้องเป็นนางเอกเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่พลอยผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะผมเห็นพลอยแล้ว แล้วทางหัวฟิล์มก็บอกผมว่าพี่เพชรรู้มั้ยว่าติดต่อพลอยไว้แล้ว ผมก็อ้าวเหรอ เออก็ดีนะซิ ทำงานก็สบายเลย เพราะเรามีจินตนาการเดียวกันแล้ว

Q.นำไปสู่ขั้นตอนที่สำคัญมากคือการคัดเลือกตัวแสดงที่จะมาถ่ายทอดคาแรคเตอร์ตัวละครต่างๆในภาพยนตร์
P. คือต้องเท้าความไปนิดนึงนะ คือผมไปถ่ายภาพยนตร์เรื่องชั่วฟ้าดินสลาย คือผมไปเล่นรับเชิญ แล้วได้นั่งดูก็รู้สึกว่าเฮ้ยพลอย เฌอมาลย์น่ารักมาก หลังจากกองถ่ายสั่งคัทมานั่งพัก กินข้าวกันสนุกสนาน เฮ้ย!พลอยเชื่อมั้ยหนูเล่นหนังคอมมิดี้ได้นะ พลอยบอกพี่บ้าน่าหนูเล่นหนังคอมมิดี้ได้ไง เคยเล่นแต่ละคร แต่พอหนังคอมมิดี้ผมว่ามันเป็นอีกสไตล์หนึ่ง คือผมมองว่า พลอยเล่นได้จริงๆ คือพลอยสดใสร่าเริงมาก พี่บ้าน่า ถ้าพี่ทำหนังคอมมิดี้พลอยเล่นเปล่า เฮ้ยเล่นซิพี่อย่าลืมว่าหนูชอบสิ่งเล็กเล็กฯมาก ก็คุยกันแหย่ๆอย่างงั้น จนเรามาเจอบทที่หัวฟิล์ม บอกว่าได้มีการติดต่อพลอย และมีได้ทาบทามพลอยไว้บ้างแล้ว แล้วพออ่านจากบทได้เห็นตัวละครพลอยขึ้นมาแล้ว แล้วในตัวละครของพลอยเป็นตัวละครที่ชื่ออิง เป็นผู้หญิงที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองระดับหนึ่ง เป็นผู้หญิงสวย น่ารัก เก่ง แล้วก็มีอาชีพทางด้านการถ่ายรูป ชอบถ่ายรูป ชอบการเดินทางท่องเที่ยวอิสระ งานก็เป็นเจ้านายตัวเอง แต่ก็ต้องเป็นคนที่sensitiveเรื่องความรักมาก และก็เป็นคนที่รักใครรักจริง รักนาน ก็เลยทำให้รักแฟนที่คบกันมาถึง7ปี สิ่งที่คาดหวังในอนาคตคือ ที่พ่อบอกไว้คืออยากให้ลูกแต่งงานและมีหน้ามีตาแล้วอยากให้ลูกมีฐานะดี มีฐานะทางสังคมสูง เป็นคนราศีสิงห์ ซึ่งเราพยายามหาราศีที่ตรงคาแรคเตอร์ที่สุดแล้วคือ ราศีสิงห์ เกิดวันพุธ วันพุธเนี่ยะพูดเก่ง พูดปากตรงกับใจ พูดจาโผงผาง แล้วก็ต้องมาเสียใจทีหลัง เอ๊ะนี่มันใช่พลอย ยังไงก็พลอย และเป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง จะวีน จะกิ๊บ จะเกิ๊บ จะฮา จะเหวี่ยง เขาเป็นคาแรคเตอร์พลอยจริงๆ แล้วคุณจะได้เห็นพลอยเล่นบทตัวนี้เล่นเป็นพลอยเลย ก็อยากจะให้ท่านผู้ชมลองดูว่าสิ่งที่เรามองเห็นจากตัวละครตัวนี้ กับที่ท่านผู้ชมได้ดูแล้วเป็นตัวละครตัวเดียวกันมั้ย เพราะทุกอย่างออกมามันมีความเป็นพลอย ความน่ารักสดใส
มาถึงตัวพระเอก พระเอกเรื่องนี้คงความเป็นสไตล์ภาพยนตร์โรแมนติคคอมมิดี้ เป็นผู้ชายเซอร์ๆคนหนึ่งชื่อจืด มองโลกในแง่ดี เฟรนด์ลี่ อายุวัยใกล้ 30แล้วนะครับ แต่อ่อนกว่านางเอกเล็กน้อย ใครเห็นก็อยากคุยด้วย แล้วชอบทำให้คนข้างๆยิ้ม มีน้องสาวอยู่คนเดียวนั่นคือน้องจีนะครับ อาชีพหลักเขาคือขายหมูปิ้งครับ เป็นพระเอกหนุ่มมาดเซอร์ขายหมูปิ้งครับ รู้สึกว่าผู้หญิงเขาอยากจะคุยอยากจะปรึกษา แล้วก็หมูปิ้งเขามีทีเด็ดตรงที่น้ำจิ้มอะไรที่สุดใน1ใน100ร้านที่ต้องชิมก่อนตายนั่นคือหมูปิ้งคุณย่า จุดเด่นของคุณจืดที่ต้องเป็นเป้เพราะว่าดูเป็นคนอารมณ์ดี ดูแล้วขี้เล่นหน่อยๆ สามารถทำให้ผู้หญิงมีความสุขรอบข้างได้ เหมือนผมนี่แหละ(หัวเราะ) ก็เลยมองก็เห็นอยู่ในยุคนี้ก็มีอยู่คนเดียวที่เซอร์อยู่และรั่วได้หน่อยๆ(หัวเราะ) ก็เห็นคุณเป้อารักษ์อยู่ ก็นึกถึง 2คนนี้ก็เป็นสูตรสำเร็จ ซึ่งทั้ง2คนนี้ก็เป็นสูตรสำเร็จที่ดูดี และก็ยังไม่เคยเห็นเขาทั้งคู่เล่นด้วยกันมาก่อน แล้วพอได้คุยกับเป้ เรียกเขามานั่งคุย ก็กลายเป็นว่าเขาเป็นคนที่มีอะไรมากกว่าที่เราคิด ความซน ความครีเอท ความเป็นตัวของตัวเอง ที่เป็นคนเล่นมุกไปแล้วแป๊กบ้างไม่แป๊กบ้าง ชอบ เฮฮา แล้วซน แล้วเฟรนด์ลี่ เออ ตรง ตัวละครตัวนี้ตรง เพราะเขาเฟรนด์ลี่กับทุกคน ก็เป็นตัวละครคุณอิง คุณจืดไป ก็จะมีตัวละครอยู่อีก2คนที่จะมาเป็นเพื่อนรักของนางเอก เราได้2นักแสดงซึ่งเป็นคู่ขวัญจากสิ่งเล็กเล็กฯ ครูอินกับครูอร คุณเจี๊ยบ พิจิตรา กับ คุณตุ๊กกี้ ชิงร้อย คือพอดูแล้ว เรามองว่าใน 3คนในความรักเป็นเพื่อนที่เราต้องการจะผูกอยู่ คือเพื่อนต้องมี 3สไตล์คือ1.อย่างสวยเลย 2.คือหลุดๆหน่อย 3.คือไม่สวย มันจะเป็นความจริงของการรวมกลุ่มของผู้หญิง สาว30 3 แบบที่ต้องมีอยู่ในนั้น อย่างตุ๊กกี้เราเคยเห็นเป็นครูอินมาแล้ว เอ๊ะ ถ้าเป็นคนอีกแบบ นิ่งๆหน่อยๆ ขำๆนิดๆ เป็นคนพูดธรรมดาเหมือนเป็นคนเชยๆนิดๆ ไม่ค่อยแต่งตัวเท่าไหร่ อยู่ในกลุ่มคนสวย แล้วจับคุณเจี๊ยบ พิจิตรามาเล่นเป็นสาวเปรี้ยว เออ มาเล่นเป็นสาว30ที่กำลังหาผู้ชายสักคนที่เป็นฝ่ายเสนอตัว ฝ่ายรุก ใน3คนเจี๊ยบฝ่ายรุก พลอยกำลังทรงอยู่ ตุ๊กกี้เนี่ยะพร้อมที่จะถอยพอแล้วชีวิตนี้ผู้ชายไม่ต้องการหรอก อะไรอย่างเนี่ยะ เพราะฉะนั้นมันก็เลยลงตัว ทั้ง3คนเป็นเพื่อนที่สนิทกัน ที่เลือกคุณเจี๊ยบเพราะว่าคุณเจี๊ยบเขามีสิ่งที่ดึงดูดผู้ชายได้ บอกไม่ถูกเหมือนกัน ทำไมผู้หญิงคนนี้สวย เห็นแล้วน่ารักมากเลย อยากรู้จัก เออแล้วทำไมเขาไม่มีแฟนนะ เป็นผู้หญิงสวยแต่ดูเยอะ จนผู้ชายไม่กล้าใกล้ ทำให้เธอถึงครองความเป็นโสดมาจนถึงปัจจุบันนี้ เยอะกว่าผู้หญิงปกติ เอ๊ะมากไปรึเปล่าว่ะ เอ๊ะโก๊ะไปรึเปล่าวะ เต็มบาทรึเปล่าวะคนนี้ จริงๆเธอสวยนะ และก็มีความรักอิงอยากให้อิงประสบความสำเร็จในชีวิตกับผู้ชายคนหนึ่ง ก็เลยพยายามที่จะชักจูงอิงไปยังที่ต่างๆเพื่อให้รีแล็กซ์สบายใจ เป็นผู้หญิง30ที่ผู้ชายมองเห็นแล้วจะสะดุดเลย ผู้หญิงเขาจะมีงามพิศกับงามผาดนะครับ คือน้องมินท์จะเหมือนกับงามผาดนะครับ เห็นปุ๊บสะดุดก่อนเลย แต่ถ้ามองพิศดีๆเหมือนจะมีโก๊ะๆหน่อยๆ ทำให้ต้องดูเลยว่ากว่าจะศึกษาผู้หญิงคนนี้คงจะต้องใช้วิธีการหลายๆแบบเหมือนที่เราจะรับสภาพความเยอะไปของเธอได้ แต่น้องเจี๊ยบทำออกมาได้น่ารักมากนะครับ เป็นผู้หญิงโก๊ะที่สวยมาก จนอยากมีแฟนเป็นโก๊ะ(หัวเราะ)

          สำหรับน้องย้งยี้นะครับ รับบทโดยคุณตุ๊กกี้ ชิงร้อย อันนี้บทบาทคาแรคเตอร์ของเธอก็คือคงความเป็นเธอไว้ จากสิ่งเล็กเล็กฯก็มาจนถึงปัจจุบันก็คงความเป็นตุ๊กกี้ เป็นเพื่อนที่อนุรักษ์นิยมนะครับ ประท้วงไม่ชอบการกดขี่ข่มเหง ไม่ชอบระบบนายทุนที่ทำลายสภาพแวดล้อม ทำลายทรัพยากรชุมชนที่มีอยู่แล้วก็คิดว่าชีวิตของตัวเองไม่ต้องมีผู้ชายก็ได้ ชีวิตที่มีความสุข อยู่กับโลกความจริง ก็ตุ๊กกี้ก็จะเป็นเหมือนตัวแทนผู้หญิง30อีกแบบหนึ่งที่เป็นเฟมินิสต์ที่เรามองเห็นอยู่ในสังคม ชัดเจนจริงจัง โผงผางและไม่ยอมถูกเอาเปรียบ ก็ถือว่าในตัวละครสาว30น่าที่จะมีตัวละครที่อารมณ์ดีอยู่สักตัวหนึ่ง ซึ่งกระแสตอนนี้ไม่มีใครแซงคุณตุ๊กกี้ไปได้เลย ก็เอาความเป็นตุ๊กกี้มาใส่ ในตัวละครตัวนี้ใส่ความเป็นตุ๊กกี้เลย เหมือนชีวิตประจำวัน ไม่ต้องไปแต่งหน้าเยอะๆ หรือไม่ต้องไปแต่งตัวสีแปลกๆแต่งให้เหมือนเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งซึ่งเป็นแบบนี้จริงๆ ก็เลยได้ตัวละคร3คนนี้ขึ้นมา แล้วตอนที่มาคุยกันตอนฟิตติ้ง เออเขาคุยกันเข้าขากันได้ดี เหมือนเขารู้จักกันมาก่อน แต่อย่างครูอิงครูอร เจี๊ยบกับตุ๊กกี้เขารู้จักกันมาบ้างแล้ว แต่พอมาจูนกับพลอย พลอยเขาเป็นนักแสดงที่มีความเป็นมืออาชีพมาก เขามีการบ้านกับตัวเองมาตลอด และมีการเตรียมตัวมา และมาถึงก็ได้มีการแลกเปลี่ยนทัศนคติ ก็เออ ได้สูตรสำเร็จดีละ ทุกอย่างลงตัวละ สรุปแล้วตัวละครทั้ง3ตัวนี่นะครับไม่ว่าจะเป็นน้องพลอย ,น้องเจี๊ยบ ,หรือคุณตุ๊กกี้นะครับ ทั้ง 3คนทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 3ตัวละครมันเป็นจริง มีความเชื่อว่าทั้ง3คนเขาเป็นเพื่อนกันสนิทมาก แน่บแน่น แล้วก็มีคาแรคเตอร์ที่ไม่มีใครแย่งซีนใครไม่มีใครโดดเด่นกว่าใคร ทุกคนทำหน้าที่ตัวละครได้ดีหมด เจี๊ยบจะล้นๆนิดๆ พลอยจะลังเลๆๆๆ ตุ๊กกี้ก็จะพยายามดึงเพื่อนอย่าให้สูงนัก มันคือทำให้มันมีบาลานซ์ของมันอยู่คือสูงกลางต่ำๆๆอยู่ในเรื่องใครมากใครด้อยก็จะช่วยกันดึงอยู่อย่างเนี่ยะ จะทำให้สูตรสำเร็จหรือการพูดคุยหรือความเชื่อว่าที่ว่าทั้ง3คนเป็นเพื่อนกันจริงเนี่ยะ เออมันดูน่าเชื่อถือนะ แล้วก็เขารักกันจริงๆนะ หลังเลิกกองถ่ายเขานั่งคุยกัน เขาก็กินด้วยกัน แล้วก็เหมือนเขาสนิทกันมานานเลยละ เรารู้สึกว่าเออเป็นเพราะเขาเข้าใจความรู้สึกของตัวละครได้ดี แล้วเขาเข้าใจเรื่องราวได้ดี แล้วก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี ทำให้รู้สึกว่าเขารักกันจริงอารมณ์ที่ว่าคนหัวอกเดียวกันเขาจะช่วยกันในหนัง30+ อย่างใครมีปัญหา เฮ้ยปัญหาของเพื่อนก็เหมือนปัญหาของเรา ก็จะช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยนางเอกให้หลุดพ้นจากความเศร้า หรือการดีไซน์ให้นางเอกไปหาเดทกับหนุ่มใหม่ๆ ที่จะแบบเออหาผู้ชายที่ถูกใจในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค อะไรก็แล้วแต่ มันมีพลังเพื่อนช่วยเพื่อนอยู่เยอะมากนะครับสำหรับสาวๆ คือมันเหมือนจะสั้นๆ นะแต่จริงๆมันบ่งบอกให้รู้ว่าการมีเพื่อนสักคนที่มีความทุกข์เนี่ยะคนที่ช่วยเพื่อนดับทุกข์ได้ก็คือเพื่อนที่อยู่ในวัยเดียวกัน ไล่เลี่ยกัน แล้วช่วยกันจริงจัง และก็พยายามทำทุกอย่างก็ได้เพื่อให้เพื่อนมีความสุข มันเป็นสัญชาติญาณของผู้หญิงหรือของเพื่อนกันเลยนะ ทำอย่างไรก็ได้ให้เพื่อนมีความสุข ช่วยกัน รวมทั้งการเม้าท์ผู้ชายด้วย

Q.ฟังๆดูแล้วคนดูจะได้เห็นการจำลองชีวิตผู้หญิงวัย 30นี้ออกมาจริงๆในภาพยนตร์
P. ใช่ครับ สำหรับ 30+โสดON SALE สรุปง่ายๆด้วยรวมคือเรื่องราวของหนังมันจะรวบรวมชีวิตของผู้หญิงวัยเนี่ยะมาเป็นฉบับย่อว่าเกิดอะไรขึ้น ทำอะไรบ้าง เจออะไรบ้าง และเขามีความสุขสุดท้ายคืออะไร มันจะตอบโทย์ของผู้หญิงที่ไม่ใช่วัยนี้วัยเดียว มันเป็นสูตรสำเร็จของความรักอย่างหนึ่งเหมือนกันว่า ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นวัยไหนก็เหอะ ถ้าคุณมีความรักและอยากจะทำอะไรเพื่อความรัก ทำไปเถอะ แต่มองสภาพความรักในสิ่งที่มันดีแล้วกัน มองความรักในสิ่งที่มันบวก อย่าไปมองความรักในสิ่งที่มันลบ แล้วมันจะดีสำหรับคุณเอง

Q.ในสิ่งเล็กๆจะมีแก๊งเพื่อนนางเอกที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่และถือได้ว่าเป็นจอมขโมยซีนเลยทีเดียวมาจนถึง30+โสดON SALE ก็มีนักแสดงหน้าใหม่ถึง2คนมาถ่ายทอดการแสดงเป็นตัวละครสำคัญ
P.นักแสดงหน้าใหม่ที่เข้ามาในภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือว่าใหม่มาก ถอดด้ามเลยคนหนึ่งเป็นไฮโซ อีกคนเป็นโนเนมเลย พูดถึงน้องต้นก่อน ซึ่งเราคัดเลือก เป็นนักแสดงไฮโซที่แหวกแซงดาราขึ้นมา เพราะระหว่างการแคสท์ติ้งเรามีดารามา 2ท่าน แล้วก็มีคุณต้น1ท่านแล้วเราก็มา weight ความใช่ไม่ใช่ จริงๆไม่จริง ชอบไม่ชอบ ตัวละครตัวไหนน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วดูว่าคนไหนจะเซอร์ไพรส์คนดูที่สุด คนนี้มาจากไหน ไฮโซหนุ่มมาดดี ดูดี คุณต้น เดิมพัน อยู่วิทยา(นักบริหารการเงิน เจ้าของรีสอร์ทลิม่าโคโค่เกาะเสม็ด)ก็แซงขึ้นมาในโค้งสุดท้าย เราก็เออถ้าผู้ชายแบบนี้ดูแล้วไม่ต้องหล่อนัก แต่ก็ดูดีเป็นที่พึ่งได้ เข้ามา ผู้หญิงดูแล้วน่าสนใจมั้ย ก็น่าสนใจเหมือนกัน แล้วน้องต้นก็มีความพยายามเยอะ ถึงแม้เราจะผ่านการคอร์สเวิร์คช็อพไปแล้ว เรียนแอ็คติ้งไปแล้ว น้องต้นก็ยังไปจ้างแอ็คติ้งสอนตัวเองตลอดเวลา ว่างปั๊บก็โทรมาพี่ครับมาช่วยผมหน่อย ทุกฉากทุกซีน แล้วพอซีนที่เขาเข้า เขาจะฟัง แล้วเขาก็ถามว่าพี่ผมเล่นอย่างนี้พอมั้ยครับ ดียังครับ ไม่ดีครับผมขอ ผมรู้สึกไม่ดีครับ ครับครับ อันนี้มากไปใช่มั้ยครับพี่ฯลฯ คือเขาเอาใจใส่ สองวินัยการทำงานเขาดีด้วย และไม่น่าเชื่อว่าคนระดับไฮโซเขามีพื้นฐานจิตใจที่ดีมากเลยนะ สัมมาคาระวะ พูดจา เขาวางตัวเป็นที่รักของทุกคนในกองถ่าย ซึ่งเราก็เออเว้ย ไฮโซบางคนเขาจะมีมาด เขาเฟรนด์ลี่ เขาสนุกสนาน เขากลับเป็นผู้ชายที่เราคิดไว้ว่าเขาเป็นตัวละครตัวนี้จริงๆ พอถึงกลางคืนพอถ่ายเสร็จได้ไปนั่งทานข้าวกันผมบอกต้นหลังจากพูดกับต้นวันนี้นะ พี่เลือกต้นถูกต้องมากเลย ต้นเป็นอย่างที่พี่ต้องการจริงๆ คือเขามีบางอย่างที่เป็นตัวละครในนั้นที่เราต้องการอยู่ ความเป็นคนชอบเที่ยว ความเป็นคนเชื่อมั่น ฐานะดี คือมันตรง คือถือว่าเราได้โชค เราได้คุณต้นมาหนึ่งคน เพราะในตัวคาแรคเตอร์ที่เป็นคู่แข่งของพระเอกเนี่ยะ อย่างแรกเลยคือต้องดูรวย แล้วก็เป็นหนุ่มโสดที่มีการใช้ชีวิตเหมือนเพลย์บอยนิดๆ ด้วยความที่เป็นคนไฮโซ คืออย่างแรกเลยที่มองคือเป็นคนไฮโซก่อนเลย ไฮโซ ดูดี มีการศึกษา หล่อมั้ย ผมมองว่าไม่จำเป็นต้องหล่อเท่าไหร่นัก แต่ขอให้ดูเฮ้ย น่าสนใจ มันเตะตาเราในแว่บแรก เพราะรู้สึกว่าผู้หญิงที่มันเป๋มาเห็นผู้ช่วยคนนี้ เฮ้ย เอาวะ อย่างนี้ก็ได้ อย่างน้อยผู้ชายคนนี้ต้องทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่ามันพึ่งพิงได้ เขาดูแบบไม่ขี้เหร่นัก พึ่งพิงได้ แล้วก็มีความสุภาพ มีอะไรบางอย่าง ด้วยฐานะ ฐานันดรศักดิ์ของเขา เลือกไปเลือกมาก็เหมือนกับเราดูละคร ถ้าลองเป็นไฮโซจริงๆสักคนหนึ่ง แล้วก็ผมก็เอารูปดารากับรูปบุคคลคนนี้ไปเทียบกับผู้หญิงทั่วๆไปดูว่าคนไหนน่าสนใจกว่า อย่าถามเรื่องความหล่อนะนั่นดาราเขาเน้นอยู่แล้ว แต่นี่ใครละพี่ ทำไมละ คิดว่าคนไหนดูรวย คนนี้ ดูรวย ดูน่าสนใจดี ดูเขามีฐานะ เริ่ม เริ่ม มันเซอร์ไพรส์คนดูด้วย เซอร์ไพรส์ทุกอย่าง เอาละวะลองเหวี่ยงจากไฮโซมาสักคนหนึ่ง ที่สำคัญ ต้องแตกต่างจากพระเอกเยอะมาก คือพระเอกมันเซอร์ แต่ไอ้นี่มันรวย รวยจริง จับต้องได้ เทคแคร์ แต่ๆละคนจะมีบางอย่างที่แต่ละคนไม่มีในเรื่องราวนะครับ เลือกเขาคนนั้นขึ้นมาคือคุณต้น รวย บุคลิกดูดี ดูแตกต่างจากพระเอกแน่ๆ เลยคนละคาแรคเตอร์ แต่งตัวเนี๊ยบดูดี หรู แล้วก็พอได้มาเรียกพูดคุยแล้ว เออจริงๆคุณต้นคุณตรงกับตัวละครมากเลยนะ เพราะเขาไปต่างประเทศมาเยอะมาก ชอบถ่ายรูป เล่นกีฬาเอ็กซ์ทรีม เป็นนักธุรกิจ พูดจาหวานครับผมตลอด วันแคสท์ติ้งเขาบอกพี่มีมากกว่า2 มั้ยครับ ถ้ามีมากกว่า2คนผมไม่ไปดีกว่า ผมรู้สึกว่าผมไปผมก็หลุด (หัวเราะ) เขาไม่ใช่นักแสดงเลย แต่เป็นสิ่งที่เขาฝันนะ เขาฝันอยู่2อย่างคือนักร้องและนักแสดง เพราะตอนหนุ่มๆนะมันเป็นอย่างนั้น แต่พอในระดับธุรกิจแล้วเขาเป็นไฟแนนเชี่ยล คิดว่าคงไม่เจออะไรแบบนี้แล้วละ อาชีพแบบนี้แล้วละ พอเราไปเรียกมา เขาก็บอกว่าไม่เชื่อตัวเอง คุณมีบุคลิกบางอย่างที่เราชอบนะ โดยความเป็นตัวละคร ใกล้เคียงตัวจริงมาก แล้วเป็นคนที่ผู้หญิง ผมโหวตมาแล้วนะว่าคุณนะสะดุดตาคนอื่นมากที่สุด พี่ผมไม่หล่อนะ นั่นแหละที่ผมต้องการ สังเกตมั้ยว่าผู้ชายบางคนไม่หล่อนะ แต่ผู้หญิงหลายคนชอบแต่ดูดี มีเสน่ห์บางอย่าง มีอะไรที่มันดูดีนะ ก็เลยเลือกเขามาเป็นคุณต้น อีกคนคือน้องเทวี คนนี้สำคัญมากว่าการเลือกน้องเทวีเราก็แคสท์จากน้องที่หน้าตาหมวยๆหน่อยเพราะต้องเล่นเป็นน้องเป้ 2.ต้องน่ารักพอสมควร 3.ต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างที่บอกให้รู้ว่าพี่น้องคู่นี้รักกันมาก ก็เรียกมาดูหลายคนมาก ก็เกือบจะได้ก็ไม่ได้ คนนี้เกือบจะดี จุดสุดท้ายได้มาเจอน้องเทวีก็ แปลกมากนะ มันเหมือนกับจังหวะที่เจอกับใบเฟิร์น คือในขณะที่ตอนถ่ายภาพนิ่ง ตอนแคสท์ติ้ง จังหวะที่ให้ซ้อมบทไปฝ่ายแคสท์ติ้งก็ทำงานไป ผมก็เดินเข้าไป ตอนใบเฟิร์นก็ถ่ายภาพนิ่งใบเฟิร์นอยู่แล้วก็เล่าเรื่องให้ฟัง นี่ก็ตอบๆๆๆนี่ก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ พอถึงฉากเข้าไคล์แม็กซ์เราก็เล่าไคล์แม็กซ์ให้ฟังไอ้เฟิร์นน้ำตาไหล โป๊ะ ในขณะที่หน้าตาปกติ อยู่ๆก็น้ำตาไหลออกมา เฮ้ยน้องคนนี้ร้องไห้สวยเว้ย เหมือนกันมาเจอน้องเทวี ฝ่ายแคสท์ติ้งกำลังถ่ายๆ เราก็พยายามที่จะเล่าฉาก แต่น้องเทวีจะเป็นเด็กที่เรียนเก่ง เป็นเด็กโปรแกรมวิทย์ เตรียมอุดมด้วย เพราะฉะนั้นเขาจะถามเยอะหน่อย แต่การถามเยอะๆจะไม่ได้มาสร้างความรำคาญ แต่เป็นการถามเพื่อประมวลเหตุการณ์แล้วเขาไปเล่น ทำไมหนูต้องพูดอย่างนี้ ทำไมพี่หนูตายค่ะ เขามีกระบวนการคิด ประมวลข้อมูลทุกอย่างแล้วก็ใส่สมองไว้ แล้วก็ไปพรึ่บ(พี่เพชรทำท่าปั่นสมองกรองข้อมูล) แล้วเล่น แล้วในระหว่างที่เขาเล่น เราก็พยายามพูดๆไป พอถึงฉากที่มันเศร้าๆที่เป็นดราม่า พอพูดปั๊บ เขาร้องไห้หมดสภาพคือร้องไห้เป็นเด็ก มีงอแง มีเช็ดหน้า เราก็เฮ้ยคนนี้น่าสนใจ 1 เขาน่าสงสารเป็นเด็กที่ดูwesk มากนะ แต่ดูสดใส ถึงตอนเศร้าๆเพราะอะไรคือตัวละครตัวนี้ขาดพ่อแม่ อยู่กับพี่ชายสองคน ฉะนั้นเด็กคนนี้เหมือนมีความสุขนะ แต่ว้าเหว่ เพราะพี่เป็นพี่ชาย เพราะฉะนั้นพอเขาเล่นมาพอร้องไห้ได้น่ารักมากผมเลือกเลย แอ็คติ้งไม่รู้เดี๋ยวไปทุบเอา แต่ทางบทที่พอลองพูดแล้วเขาได้ แล้วยิ่งจังหวะการใช้ดราม่าเขาได้ดี ยิ่งน่าสนใจ ก็เลยเลือกน้องเทวีเข้ามา รับรองว่าต้องชอบน้องเขาในความน่ารัก

Q.พี่เพชรมองว่าอะไรคือเสน่ห์ของหนังเรื่อง30+โสดONSALE
P.เสน่ห์ของหนังเรื่อง 30+โสดON SALE ผมว่าถ้าคุณไปชม คุณจะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นการรวมเอาหลายๆอย่างเข้ามาโดยเป็นศิลปะที่มันน่าประทับใจโดยเริ่มตั้งแต่บทภาพยนตร์ที่ดี เรามีนักแสดงที่ดีมีคุณภาพถ่ายทอดความเป็นตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดซึ่งไม่เคยคิดว่าเขาทำได้ขนาดนี้มาก่อน เพราะว่าเขาเล่นเป็นตัวเขาเอง รวมทั้งการเล่าเรื่องชีวิตกับความรัก ชีวิตประจำวันของสาว30+ที่เขาเป็นอยู่คือปัจจุบัน เขาทำอะไรอยู่บ้าง ในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็จะเห็นหมดเลยทั้งช่วงปกติ หรือช่วงอกหัก เหงา เห็นหมด

Q.ถ้างั้นต้องเล่าให้ฟังแล้วว่าเรื่องราวของ 30+โสดON SALE เป็นอย่างไร
P. เรื่องราวของ30+มันเป็นไงมาไงเหรอครับ มันก็เป็นเรื่องราวของผู้หญิงอายุวัยใกล้3 0คนหนึ่งซึ่งบูชาความรักเป็นที่ตั้ง รักใครรักจริง รักแท้รักเดียว แล้วก็หมายมั่นปั้นมือว่า คนนี้คือคนที่ใช่แล้วละ แล้วคนที่ตัวเองชอบด้วย แล้วคิดว่าคงใช่แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ยอมรับแล้ว แต่จู่ๆเธอกลับได้รับการ์ดแต่งงาน การ์ดหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอผิดหวังที่สุดในชีวิต เป๋ มีอาการอกหัก ไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับชีวิต วิ่งหาและทำทุกอย่างที่จะทำให้ตัวเองสบายใจขึ้นได้ หาทางระบายออก ไม่ว่าจะเป็นไปกับเพื่อน ไปหาสถานที่เงียบๆคนเดียวอยู่ หรือสิ่งที่ทำให้ตัวเองสบายใจนั่นคือการไปคุยกับคุณจืดพระเอกที่ร้านหมูปิ้ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เดียวที่ตัวเองสามารถไประบายความรู้สึกของตัวเองได้ว่า ฉันเป็นอย่างนี้ ทำไม เพราะอะไรนะ แกช่วยฉันคิด เธอช่วยฉันคิด พระเอกก็พยายามพูดปลอบใจ หาวิธีที่ให้นางเอกลงจากคานด้วยการเสนอตัวเองว่าจะเป็นคนพาลงไป วิธีที่จะพาเธอลงจากคานได้ก็ใช้วิธีนี้รับรองว่าเนื้อคู่จะต้องโผล่มาแน่ๆ แต่พระเอกจะพานางเอกลงมาจากคานอย่างไรนั้น พระเอกมีอาชีพเป็นหมอดูครับ หมอดูก็พยายามไกด์ทุกอย่างชี้ช่องทาง ให้นางเอกเห็นว่าชีวิตของเธอนั้นตามดวงก็มีโอกาสที่จะมีคู่นะ แต่ควรจะรีบๆซะ แต่ว่ายังไม่เจอเท่านั้นเอง คิดว่าต้องใช้เวลา แต่ยังไงก็ต้องเจอ แล้วในที่สุดเนื้อคู่จริงๆของอิงก็โผล่เข้ามา โผล่เข้ามาในแบบที่ปัจจุบันทันด่วน แล้วเป็นทุกอย่างที่นางเอกรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้แหละมันเปอร์เฟ็กท์มากมีทุกอย่างในแบบที่ตัวเองต้องการแล้วใกล้ตัวเองมากที่สุดคิดว่าคนนี้ใช่แน่นอน เป็นอย่างไรต้องไปดูเอา

Q.ในบทบาทของผู้กำกับทราบมาว่าพี่เพชรเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของภาพยนตร์เลยตั้งแต่มีส่วนร่วมในตัวเรื่อง บทภาพยนตร์ มุกแก๊ก ไปจนถึงโลเกชั่น พร็อพ ฉาก ชุดนักแสดง นอกเหนือจากการกำกับนักแสดง
P.จริงๆแล้วถ้าถามว่ามีส่วนร่วมมากมั้ย ความจริงก็ในทุกกระบวนการตั้งแต่ตอนแรก คือหลังจากที่ได้พูดคุยถึงเรื่องราวของผู้หญิงวัย30แล้วก็ได้มาดูบท ได้มาประชุมมีทติ้งกันแล้วก็พัฒนาบท ได้คุยกับคุณบอลรูม คุณต้อง(บัวไร)ทำจนถึงดราฟท์3-4 แล้วก็ได้มาคุยกับผู้ช่วย1คุณน้องนายนะ จนมาถึงดราฟท์5-6 จนไฟนัลสุดท้ายแล้วก็มาทำงานกัน ดูโลเกชั่น ดูงานอาร์ทดูmood&toneทุกอย่าง เราก็มาประชุมบางอย่างก็เพื่อที่จะช่วยกันให้ได้ลุคส์ออกมาที่มันทันสมัยแล้วก็ดูดีที่สุดสำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะเราอยากให้ลุคส์ออกมาเป็นคนเมืองหน่อยๆ และทันสมัยนิดๆและสีสันสดใส

FB on October 04, 2011, 01:02:54 PM
Q.ใส่ใจในรายละเอียดจริงๆ แม้แต่เสื้อผ้าที่นักแสดงที่จะใส่ในแต่ละฉากแต่ละชุดไม่ว่าจะเป็นฉากร้องไห้,ดินเนอร์ ฯลฯ ต้องผ่านตาผู้กำกับคนนี้คือเก็บหมดจริงๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงผม
P. คือสำหรับตัวละครสำคัญหลักๆในภาพยนตร์ คือเราต้องมีทีมคอสทูม(เสื้อผ้า)มาด้วย จะทำหน้าที่พรีเซ็นท์คาแรคเตอร์นางเอกให้เด่นชัดขึ้นมา เพราะฉะนั้นนางเอกแบบไหนที่จะดูเด่นเป็นสาวมั่น แล้วก็เลยทำให้มีการเลือกออกแบบทรงผมหลายๆแบบนะครับ รวมทั้งนางเอกต้องเป็นสัญลักษณ์ของทรงผมเหมือนฟาร์ร่าห์ ฟอว์เซ็ทเมื่อก่อนหรือใครก็แล้วแต่ เฮ้ยเห็นนางเอกเรื่องนี้ทำทรงผมแล้วน่ารักมาก แล้วต้องอยากทำทรงผมเดียวกับพลอย เสื้อผ้าที่นางเอกใส่น่าจะเป็นแฟชั่นอินเทรนด์ของคนที่ไปดูแล้วเฮ้ยอยากใส่เสื้อผ้าแบบเดียวกับพลอย เพราะฉะนั้นเราก็ต้องมีการประชุมว่าต้องทำแบบนี้นะ น่าจะเป็นแบบนี้นะ และน่าจะเป็นซิมโบลแบบของผู้หญิงที่ชื่นชอบพี่พลอย และทำตัวแบบพี่พลอยได้และก็น่าจะเป็นผู้หญิงที่น่ารักและออกมาเป็นหนังที่น่ารัก ต้องไปดูสถานที่โลเกชั่น แม้กระทั่งการมาทำเวิร์คช็อพ เรียกแอ็คติ้งโค้ชเข้ามา ก็ต้องไปดูแอ็คติ้งโค้ชด้วย ต้องไปสอน เพราะซีนสำคัญ แอ็คติ้งโค้ชเขาอาจไม่ได้อ่านบทละเอียด ไม่ได้เข้าใจกับมันมากเท่าเรา เราก็พยายามไปอธิบายว่าตรงนี้มีที่มาที่ไป น่าจะเป็นแบบนี้ บอกขอบเขตที่เราต้องการให้แอ็คติ้งโค้ชรับรู้จะได้เห็นภาพเดียวกัน สอนนักแสดง นั้นคือคลุกทุกอย่างwrap(ห่อหุ้ม)ให้มันเกิดรวมไปถึงว่าควรทำอย่างไรให้มันออกมาเป็นเรื่องราวที่ดีที่สุดได้

Q.รวมไปถึงการเป็นผกก.ภาพยนตร์ที่ให้ความสำคัญกับการกำกับการแสดงมากเป็นพิเศษ
P. คือถ้าพูดถึงการทำงานในการกำกับของผม ผมรู้สึกว่าผมชอบการทำงานในสไตล์ที่ อย่างเรื่องราวของมันจะเน้นที่แอ็คติ้งออกมา การแสดงออกมาของตัวละคร เพราะว่าหนังมันจะเกี่ยวกับอารมณ์มากกว่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะเรียกอารมณ์ของหนังได้ก็คือนักแสดงต้องสามารถแสดงได้จนดึงอารมณ์คนดูออกมาให้ร่วมไปกับการแสดงละครได้ ผมจะไม่ค่อยสั่งให้นักแสดงทำ ผมจะมองว่าถ้าคุณรู้สึกแบบเนี่ยะคุณจะทำอะไร หรือบางอย่างเราจะทำไกด์ให้ดูว่าน่าจะประมาณนี้ แต่เราไม่รู้ว่าถ้าคุณเป็นผู้หญิงคุณจะทำแบบนี้รึเปล่า หรือถ้ามากกว่านี้น้อยกว่านี้ก็ลองไปดีไซน์ดู แต่ผมให้โอกาสให้อิสระที่นักแสดงจะรู้สึกแล้วอยากจะเป็นอะไร หรืออย่างผมถามคุณพลอยว่าในเหตุการณ์อย่างนี้พลอยอยากจะทำหรือเป็นอะไรนะ เราอาจจะคิดไว้อย่างหนึ่ง ประมาณหนึ่ง แต่พลอยอาจจะไปทำให้มันออกมาลึกกว่านั้น พลอยจะเป็นนักแสดงที่มีการบ้าน คอนทินิวท์ตัวเองมาจากบ้าน มีการเขียนยาทาเล็บยี่ห้ออะไร ลิปสติกสีอะไรไว้ในสคริปต์ แบ่งประโยคการพูดดีไซน์การเล่นมาจากบ้านแล้ว มืออาชีพมาก แล้วน้องเป้เป็นคนที่เสนอๆๆ แล้วถ้าพี่ผมเออเป็นทำแบบนี้ อ้าวไม่ขำเหรอครับ ขอโทษๆๆ ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมเอาใหม่ คือทุกคนมีความตั้งใจ แล้วเวลาเราทำงานแต่ละคนได้มีสิทธิ์ในการออกไอเดีย สร้างภาพ สร้างความสวยงาม สร้างสิ่งที่ถูกต้อง สำหรับเรื่องราวได้ ผมก็ให้เขาได้ใช้สิทธิ์ตรงนั้น ยอมรับในสิ่งที่เขาคิด เพราะเออจริงๆบางทีมุมมองเราแค่นี้นะ แต่นักแสดงที่เขาเอาตัวเองเข้าไปเป็นตัวละคร เขารู้สึกอยากจะทำอย่างนี้ มันก็ต้องยอมรับความคิดเขาบางอย่าง แล้วถ้ามันไม่ใช่ เราก็จะมีการ ไม่น่านะน่าจะเป็นอย่างนี้มากกว่า เราก็จะยกเหตุและผลมาเอื้อกันนะครับ หรืออย่างคนที่ทำเสื้อผ้าทรงผม บางทีซึ่งพลอยเป็นผู้หญิงเราก็ต้องถามพลอยว่าจริงๆแล้วถ้าไปเดทกันพลอยจะใส่ชุดแบบนี้รึเปล่า หรือถ้าเราจะคิดไปถ่ายรูป เราอยู่ในชุดนี้ดีมั้ย ชอบมั้ย คือทำอย่างไรให้กงจักรมันสนุก คือยอมรับในไอเดียของกันและกัน แล้วมาปรึกษากันถ้ามีปัญหาปั๋บเราก็เถียงกันด้วยวิชาการหรือในแง่ของเหตุและผล และมันจะได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด แล้วเอาอันนั้นไปทำงานกัน

Q.เลยเกิดเป็นฉากหนึ่งที่เราจะเห็นพลอยไม่แต่งหน้าเลย ปล่อยโฮแบบโทรมๆ ซึ่งเกิดมาจากการที่ทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำอย่างพลอยคิดเห็นตรงกัน
P. คือจริงๆฉากนั้นเป็นฉากที่ผมตั้งใจเลยว่าอยากจะขอพลอยว่าไม่อยากให้มีการแต่งหน้าได้มั้ย คือแต่เราไม่กล้าบอก เพราะกลัวว่านักแสดงทุกคนเป็นผู้หญิงก็ต้องห่วงเรื่องความสวยงาม แล้วยิ่งจอหนังในโรงภาพยนตร์ใหญ่มาก ก็ยังคุยกับน้องที่เป็นคอนตินิวท์ว่าถ้าเป็นไปได้ ถ้าพลอยอันแรกไม่แต่งหน้ามันจะเวิร์ค เพราะตื่นเช้ามายังไม่ตื่นแล้วหน้ามันก็ตุ่ยๆๆ ด้วยบรรยากาศอะไรต่างๆด้วย คือในเรื่องร้องไห้มาทั้งคืน พอพลอยมาถึง เออพลอยฉากแรกพี่อยากให้พลอยดูเหมือนโทรมๆมามากๆ เหมือนไม่ได้แต่งหน้า พี่พลอยไม่แต่งหน้าให้เลยก็ได้นะ พี่พลอยกะจะบอกพี่เหมือนกันว่าพลอยกะจะไม่แต่งหน้า แล้วจะได้เห็นหน้าโทรมๆตุ่ยตุ่ย แล้วมันจะได้ร้องไห้ดูเป็นผู้หญิงเวลาอกหัก มันเต็มที่ มันไม่ดูแลตัวเอง มันปล่อยสภาพโทรมๆก็เออ เขาเตรียมมาแล้ว แล้วโชคดีที่เราคิดอยู่เหมือนกัน พลอยเขาเต็มใจเล่น และพลอยเขาทุ่มเต็มที่มากกับบทบาทที่ได้ดู ไม่ว่าจะเป็นซีนไหน ซีนอารมณ์ ซีนขำ และยังช่วยนักแสดงคนอื่นๆที่เข้าอยู่ข้างๆในขณะที่เขาลืมบท หรือนักแสดงใหม่ที่ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาจะคอยเตือนติวตลอดว่าต้องทำอะไร น่ารักมากครับ

Q. แฟนๆจะได้เห็นเซอร์ไพรส์หลายๆอย่างในการทำงานของนักแสดงเจ้าบทบาทอย่างพลอยซึ่งไม่เคยเห็นในหนังเรื่องอื่น ที่สำคัญเป็นครั้งแรกที่พลอยได้ถ่ายทอดการแสดงที่ใกล้เคียงกับตัวจริง
P. ก็การแสดงของน้องพลอยที่ผ่านมาสำหรับภาพยนตร์เรื่อง30+ น้องพลอยเป็นนักแสดงที่ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นเป็นตัวเองแต่ว่าทุกอย่างอย่างที่ผมบอกคือพลอยเขามีการดีไซน์มาจากบ้านเรียบร้อยแล้ว ดีไซน์มาจากสคริปต์ ดีไซน์การพูดมาแล้ว ลักษณะการขยับทุกอย่าง แต่ว่ารีแอ็คหรือการกระทำที่เป็นการรับมุก หน้าเหวอ เอ๋อ ไม่พอใจ หงุดหงิด ขวย เขินอายสะเทิ้นเวลามองผู้ชาย พึงพอใจชายหนุ่มด้วย…. เป็นการดีไซน์ที่เล่นเป็นตัวเอง เออคือถ้าเขาเป็นเขาก็ทำอย่างนี้แหละ ก็ต้องมีการดีไซน์นิดนึงเพื่อให้มันเกิดเสน่ห์ คือผมเชื่อว่าเขาไม่ได้เล่นแบบดูกับกระจก แต่เขาเล่นจากความรู้สึก ทำให้ซีนนั้นมันดูธรรมชาติมาก ทุกซีนที่พลอยเข้า ลูกขวย ลูกยิ้ม ลูกแบบงอนๆ ลูกประชดหน่อยๆ ความขี้งอนนิดๆคือเสน่ห์ของผู้หญิงแล้วพลอยมีครบ

Q.ด้วยลุคส์ของหนังที่เป็นโรแมนติคคอมมิดี้ที่พูดถึงชีวิตของสาวเมืองวัย30+ในยุคปัจจุบัน ทำให้ทุกองค์ประกอบที่จะถ่ายทอดออกมามีส่วนสำคัญหมด ไม่ว่าจะโลเกชั่น MOOD & TONE ของหนังเมือง ที่แน่นอนว่าต้องมาพร้อมกับอุปสรรคที่ไม่ง่ายและท้าทาย แต่ผู้กำกับก็ยังยืนว่าจะต้องให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์และสมจริงตามที่ฝันไว้
P. ถามว่าปัญหาหรืออุปสรรคในการทำงานมีมั้ยที่แต่ละซีนในการถ่ายทำในความที่เราเป็นหนังโรแมนติคแบบเมืองๆแล้วก็โมเดิร์นๆหน่อย เพราะฉะนั้นโลเกชั่นแต่ละโลเกชั่นที่เราไปก็ต้องมีการประชุมกันอย่างดีจากทีมงานว่าเรามีเวลาเท่านี้ๆนะ นะเวลาขนาดนี้เราจะทำได้มั้ย เพราะฉะนั้นผมมีหน้าที่อย่างเดียวคือ ผมต้องเชื่อว่าเวลาเท่าเนี่ยะผมต้องทำได้ และเราต้องเรียงคัทในหัวเราให้เร็วที่สุด เพราะในกรณีที่ทำไปแล้วมีปัญหาไม่ได้ดั่งใจช็อตต่อไปแก้ไขควรต้องทำอย่างไรต้องดีไซน์ไว้เผื่อ เพราะเราจะดีไซน์กับผู้ช่วย ถ้าช็อตนี้ไม่ได้เราจะทำอย่างไรต่อไป1-2-3 กันไว้แล้ว เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่ไปจะผ่านโพรเซสของการควบคุม การวางแผน การเผื่อทุกอย่างไว้แล้วไม่ว่าจะเป็นอุปสรรค แดดร้อน ฝน แดดร้อน คน การจราจร การบุกเข้าเมือง แม้กระทั่งทองหล่อเอกมัย ตำรวจ ถนน จราจร เทศกิจ โรงแรมที่เขากำหนดเวลาถ่ายมาเลยว่าเช้าถึง9โมงตรงแค่นี้นี้ 10โมงถึงบ่ายโมงแค่นี้ บ่ายโมงถึงบ่าย3โมงแค่นี้ แต่ละที่ผมมีหน้าที่อย่างเดียวคือต้องทำให้ตรงเวลา แล้วมันก็ดันว่าเราก็ทำได้ตามนั้นโดยที่ผ่านการ พอดีเราได้โชคจากการที่เรามีนักแสดงที่ดีมีฝีมือ สองมีทีมงานที่มีการเตรียมงานที่ดี สามเรามีการประสานงานของเจ้าหน้าที่แล้วก็ความเอื้อเฟื้อของโรงแรมเขาก็ช่วยกันนะ รู้ว่าวันนี้ไปโรงแรมก็ดันมีการไหว้เจ้า เสียงประทัดก็ดังๆโชคดีที่จังหวะที่เขาจุดก็เป็นจังหวะที่เราหยุด หรือจะเป็นวันที่เราไปพระตรีมูรติด้านหน้า เราก็รู้ว่าวันพฤหัสเป็นวันที่มีคนมาไหว้วันพฤหัสกัน แต่ก็ไม่รู้ว่า ณ เวลาตรงนั้นคนจะเยอะมาก แล้วก็ต้องกันคนเพื่อให้เหมือนเป็นตอนกลางคืนดึกๆก็สนุกดีครับ ทำงานออกมาได้ในเวลาที่พอใจ คงเป็นเพราะ1เราได้นักแสดงดี ได้ทีมงานที่ดี แล้วเราก็ต้องอาศัยการตัดสินใจที่มันต้องเฉียบขาดและเฉียบพลันที่พร้อมจะแก้ปัญหาแค่นี้ได้หรือว่าได้พอแล้วตรงนี้มากกว่า อย่างซีนตรงลานพระตรีมูรติ เรามองว่าเวลาตรงนั้นตั้งแต่ทุ่มหนึ่งถ้าหกโมงครึ่งก่อนทุ่มหนึ่งจนถึง2ทุ่มกว่าท้องฟ้าจะสวย สวยมากมันจะทไวไลท์สีบลูๆคือถ้าหลังจากนั้นไปก็จะสีดำละก็จะไม่เห็นเชฟ(รูปทรง)ของตึก มันก็จะเห็นแต่เงาทะมึนๆและแสงไฟๆ เราไปยืนดูตรงนั้นตอนไปดูโลเกชั่น บอกผมต้องการเวลานี้ แล้วมาร์กบอกทีมงานทั้งหมดต้องมาตรงนี้เวลานี้ ไม่ว่าจะถ่ายข้างในเสร็จยังไงก็แล้วแต่ แต่ถ้าถึงเวลาต้องมาตรงนี้เพื่อมาเอาภาพ แสงท้องฟ้าสีนี้โดยเฉพาะเลย แล้วก็เลยได้ภาพอย่างใจจริงๆ เออตอนนั้นมันสวยนะ ลานพระตรีมูรติ แล้วเห็นภาพกว้างท้องฟ้าสีบลูๆ น้ำเงินเข้มๆหน่อยแล้วมีขอบตึกสีดำๆ

Q. กดดันมั้ยที่ภาพยนตร์เรื่องแรกอย่างสิ่งเล็กๆประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล พอมาทำหนังเรื่องที่2ที่ถูกคาดหวังว่าภาพยนตร์จะต้องประสบความสำเร็จเทียบเท่าหรือต้องไม่น้อยกว่าเรื่องที่แล้ว
P. ไม่กดดันเท่าไหร่ แต่ผมเอามาเป็นโจทย์ไว้ในใจว่า เฮ้ยเรื่องที่แล้วเราตั้งใจทำให้ดีแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ตั้งใจทำให้มันดี เพราะฉะนั้นบนพื้นฐานถ้าเรื่องแรกเราทำดี เรื่องนี้ถ้าเราสักเอาแต่สุกเอาเผากินยังไงมันก็ไม่ดี แต่ถ้าเราทำอยู่บนความตั้งใจที่ดีเรื่องนี้ก็ดี เรื่องที่แล้วก็ตั้งใจดี เรื่องนี้ซึ่งล้วนแล้วแต่ตั้งใจทำดีทั้งนั้น เพราะฉะนั้นผลตอบรับผมว่าน่าจะดี แต่ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องสูงขนาดสิ่งเล็กๆมั้ย เพราะว่าสิ่งเล็กๆก็ไม่เคยคาดหวังว่าสูง สิ่งเล็กๆมาจากพื้นฐานคำว่าทำอย่างไรให้มันดีที่สุด ถ่ายทอดออกมาให้มันดีที่สุด แล้วบทมันดี เรื่องราวดี ตัวแสดงดี แล้วสิ่งที่ตอบรับที่มันดี ก็คือเป็นผลประโยชน์หรือเป็นบุญของเรา เป็นโชคของเรา 30+โสดON SALE ก็เหมือนกันครับ เราตั้งใจทำสิ่งที่ดี นำเสนอสิ่งที่ดี แล้วบทดี ตัวละครดี แล้วเราตั้งใจทำงานดี ถ้าคนเข้าไปดูแล้วรู้สึกดีกับมัน รู้สึกอมยิ้มกับมัน แล้วชอบหนัง ปากต่อปากก็จะเป็นโชคของเราหรือเป็นผลบุญของเรา เพราะฉะนั้นถามว่ากดดันมั้ย ความกดดันมันเป็นแค่ความคิด และก็เป็นโจทย์ที่ตั้งว่าเรามีอะไรค้ำหลังอยู่นะว่าอย่าทำหนังไม่ดีนะ อย่าไม่ตั้งใจทำหนังนะ เพราะฉะนั้นเราตั้งใจทำทุกอย่างให้มันดีที่สุด แล้วผมว่าถ้าเราทำดีแล้ว และถ้าคนเห็นว่าเราทำดีแล้ว เขาก็จะชอบในความดีที่เราทำเอง

Q.คิดว่าอะไรคือความเหมือนที่แตกต่างจากสิ่งเล็กๆมาจนถึง30+โสดON SALE
P. ถ้าจะถามผมว่าความเหมือนของภาพยนตร์สองเรื่องนี้มีอะไรที่เหมือนกัน ผมอยากจะบอกว่าเริ่มมาจากอย่างแรกคือความตั้งใจ ทั้งสองเรื่องมันมาจากความตั้งใจที่ดีมากนะครับ แล้วก็ทุกอย่างที่เกิดจากองค์ประกอบที่ดี 2 แล้วก็ 3ความรักในแง่บวกทั้งสองเรื่องนี้มีเหมือนกันหมดเลยไม่ว่าจะเป็นรักพี่รักน้อง รักเพื่อนฝูงรักเพศตรงข้ามแล้วแต่ มันจะมาห่อหุ้มความรักทั้งหมด และสิ่งที่จะเหมือนกันคือรักบางทีมันขาดการสื่อสารมันขาดแมสเสจที่จะบอกกันเลยทำให้เกิดความรู้สึกว่าอันนี้เรารักเขารึเปล่า อันนี่เขารักเรารึเปล่า 4.มันคือโรแมนติคคอมมิดี้จริงๆ คุณจะรู้สึกอมยิ้มแน่ๆผมรับประกัน และถ้าคุณไม่อมยิ้มก็แสดงว่าวันนั้นคุณปวดฟัน คือดูยังไงก็ต้องอมยิ้ม คือสิ่งเล็กๆอมยิ้มยังไง ผมว่า30+ ดูแล้วก็ต้องอมยิ้มอย่างนั้น ถึงแม้การเล่าเรื่องจะเป็นอีกมุมมองหนึ่ง แต่ว่ามันเป็นพื้นฐานที่ว่าดูได้ทุกวัยสำหรับคนที่ชอบความโรแมนติค ชอบความรัก ชอบอยากจะมองโลกในแง่บวก อยากที่จะทำสิ่งดีให้แก่กันอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้หมด

Q. หนังรักบวกๆเรื่องที่2ที่ผ่านการบ่มเพาะอบปิ้งมาจนได้ที่และพร้อมจะเสิร์ฟความสุขกับแฟนๆแล้ว ฝากอะไรกับแฟนๆหน่อยสำหรับ 30+โสดON SALE
P. ก็อยากจะบอกว่า30+โสดON SALE เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่ผม แล้วก็ทีมงาน ผู้ร่วมสร้างต่างๆมีความตั้งใจที่จะนำเสนอสิ่งดีๆภาพยนตร์ที่ต้องการนำเสนอเรื่องราวความรักแบบบวกๆ แล้วก็คิดว่าเป็นหนังที่สร้างคุณค่าทางสังคมได้ บนพื้นฐานของความรัก ความรักไม่ต้องใช้ความรุนแรง ความรักไม่จำเป็นต้องมีความอิจฉาริษยา ความรักไม่จำเป็นต้องมีการชิงดีชิงเด่น แต่ว่ารักในสิ่งที่คุณทำและพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นและมองหาคนที่ใช่นะครับ อย่าหาคนที่ชอบ และมันจะทำให้หลายๆอย่างเป็นไปด้วยดีแล้วก็เน้นเรื่องความรักเป็นที่ตั้ง บอกไม่ถูกคือหนังเรื่องนี้มันจะมีความโรแมนติค ความกุ๊กกิ๊ก อะไรก็แล้วแต่ ผมรู้สึกว่าถ้าท่านผู้ชมได้เข้าไปชมแล้วท่านไม่อมยิ้มเนี่ยะ ผมก็คงคิดว่าท่านก็คงปวดฟันแล้วละ (หัวเราะ) 13ตุลาคมนี้นะครับพบกันแน่ 30+โสดON SALE ครับ

FB on October 04, 2011, 01:03:40 PM
เตรียม ON SALE จับตาดูสาวหวาน “เจี๊ยบ พิจิตรา” พลิกลุคส์ เป็นสาว30+เปรี้ยว เฉี่ยว ฮา แถมชอบกินเด็ก
   


           ติดอกติดใจกันมาในฐานะนักแสดงกับผู้กำกับตั้งแต่ “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก” พอ “เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร” เอ่ยปากชวนให้ สาวเจี๊ยบ พิจิตรา สิริเวชชะพันธ์ รับบทเป็น สาววัย30+ที่มีรสนิยมชอบกินเด็ก แถมออกแนวเซ็กซี่ แต่งตัวจัดจ้าน เป็นสาวสวย เฉี่ยว เปรี้ยว ที่ดูเยอะๆ ล้นๆ ไปหมด จนชายหนุ่มอาจจะกลัวที่เข้าใกล้ งานนี้นอกจากเป็นการแหวกคาแรคเตอร์ประจำตัวที่เป็นสาวเรียบร้อยหน้าหวาน แล้วยังเป็นบทที่ขำก๊ากที่สุดตั้งแต่ทำการแสดงมาในชีวิตอีกต่างหาก แต่งานนี้ได้แรงใจและที่ปรึกษาตัวแม่ที่ซี้ปึ้กส์มาตั้งแต่ร่วมงานกันในสิ่งเล็กๆอย่างตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ

          “จริงๆแล้วตั้งแต่ซีนแรกมันก็ไม่ใช่เจี๊ยบอยู่แล้ว ก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มาเล่นในบทแบบนี้ ซึ่งแบบฮามาก รู้สึกว่า เฮ้อ ขำ แต่เจี๊ยบรู้สึกว่าเป็นกำไรชีวิตนะที่ได้มาเล่นเรื่องนี้ ซึ่งพี่ตุ๊กกี้บอกเจี๊ยบตลอดเลยว่าน้อง…เชื่อพี่ ดี พูดตลอดเลย เพราะว่าแรกๆเจี๊ยบไม่ค่อยมั่นใจไงคะ แม้กระทั่งวันแรกถ่ายกลับบ้านไป พี่ตุ๊กกี้พิมพ์บีบีมาเลยว่าน้องเลิศมากวันนี้ แบบเต็มที่สู้ๆ ซึ่งมันก็โอเค มันก็รู้สึกดีมีกำลังใจขึ้น

งานนี้ถึงแม้จะหนักอกหนักใจอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ด้วยสปิริทความเป็นนักแสดง แถมบทหนังเรื่องนี้ดีจริงๆและที่สำคัญตีแผ่ชีวิต ไลฟ์สไตล์และความรักของสาวสมัยวัย 30+ได้ตรงและจริงใจสุดๆและที่สำคัญ สาวเจี๊ยบยังมั่นอกมั่นใจในฝีไม้ลายมือของเสนาเพชรผู้กำกับและทีมงานว่าจะต้องทำหนังรักโรแมนติคคอมมิดี้เรื่องนี้ออกมาบวกบวกอย่างแน่นอน

          “จริงๆเคยร่วมงานกับพี่เพชรมาตั้งแต่สิ่งเล็กเล็กฯ ก็ค่อนข้างการันตีในคุณภาพและการทำงานของเขาอยู่แล้วนะค่ะ ครั้งแรกที่ทางทีมงานให้บทไปลองดูว่าเป็นอย่างไร ก็ตกใจ ยังถามเลยว่าเป็นเจี๊ยบเหรอ (หัวเราะ) ก็ยังงงๆอยู่ อยากให้เจี๊ยบเล่นเหรอ แต่ว่าทีมงานทุกคนก็บอกว่าพี่เพชรอยากให้เจี๊ยบลองเปลี่ยนมาเป็นอีกคนดูซิ จะทำได้มั้ย ก็เลยลองดู จริงๆถามว่ายากมั้ย ยาก แล้วบทที่เจี๊ยบได้รับเนี่ยะ เจี๊ยบก็ต้องมั่นใจในตัวเองนิดนึง ว่าพี่เพชรเห็นอะไรในตัวเจี๊ยบ แล้วถึงมาให้พลิกคาแรคเตอร์เยอะมากขนาดนี้ค่ะ (หัวเราะ) ตอนแรกก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกัน แต่พอได้เล่นแล้ว มันเริ่มสนุก อาจจะเป็นเพราะว่ามีกลุ่มเพื่อนมีพลอย มีพี่ตุ๊กกี้เล่นด้วย แล้วมันเหมือนเป็นเพื่อนกันจริงๆ มันก็เลยสนุก แล้วมุกก็ยิงกันมั่วซั่วหมด มันก็เลยกลายเป็นยิ่งสนุกไปใหญ่ แต่ก็แฝงความยากอยู่ด้วย
         
          แหมฟังแล้วชักอยากจะเห็นเร็วๆจริงๆเลยว่า สาว30+ ที่ชอบกินเด็กใน สายตาของผกก.เสนาเพชรที่กล้าพลิกคาแรคเตอร์สาวเรียบร้อยหน้าหวานสุดๆอย่างเจี๊ยบพิจิตรามาเซ็กซี่เปรี้ยวฮา จะออกมาเป็นอย่างไร เห็นทีต้องเร่งวันเร่งคือให้วันที่13 ต.ค.นี้มาถึงไวไว เพราะ “ 30+โสดON SALE ” พร้อมหว่านเสน่ห์แบบบวกบวกแล้วทุกโรงภาพยนตร์

FB on October 04, 2011, 01:06:04 PM
“พลอย,เป้,ตุ๊กกี้,เจี๊ยบ” ถูก มนุษย์30+ตามล่า มุก “จี๊ด” ผกก.เซโรงัง แฟนๆล้นทั้งโดด+เต้นร่วมแจมถ่าย MV. “เอิ้ว- 30+โสดON SALE” กลางCTW



          ยืนยันความเป็นหนังรักอารมณ์บวกบวกด้วยภาพใบปิดโปสเตอร์ หนังตัวอย่างเรื่อยมาจนถึงล่าสุดกับ MV ที่นำเสนอภาพสดใสของหนุ่มสาว30+ที่ยังขายไม่ออกจนต้องลุกขึ้นมา SALE ตัวเองได้อย่างน่ารักน่าหยิก สำหรับ “30+ โสดON SALE” ภาพยนตร์รักอารมณ์บวกๆเรื่องล่าสุดจากทีมงาน ผกก. มือเขียนบทและเจ้าของเดียวกันกับ สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก แถมตอกย้ำความซี้ปึ้กส์ของเหล่าบรรดาเหล่านักแสดงระดับซุป’ตาร์อย่าง พลอย เฌอมาลย์,เป้ อารักษ์,ตุ๊กกี้ชิงร้อย ,เจี๊ยบพิจิตรา รวมไปถึงผกก.ภาพยนตร์ เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร ที่ถึงแม้ตัวหนังจะปิดกล้องไปแล้ว ตัวผกก.เองก็เดินสายเข้าแล็บตัดต่อหนังมิกซ์เสียงแต่งภาพในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อเตรียมเข้าฉายในวันที่13ตุลาคมนี้ แต่พอรู้ว่าเหล่านักแสดงต่างเทคิวสุดฮอต มาร่วมกระโดดโลดเต้นถ่ายทำมิวสิควิดีโอ “เอิ้ว” เพลงรักสำหรับคนโสด ซึ่งถูกนำมาเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ แถมยังแต่งโดย เจ้าพ่อเพลงรักอย่าง บอย โกสิยพงษ์ และ ธารณ ลิปตพัลลภ ขับร้องแบบหนุกหนานโดยวงลิปตา งานนี้ต่อให้ติดภารกิจอื่นใด เสนาเพชรก็ไม่วายแอบโดด(ร่ม)มาช่วยกำกับแอ็คติ้งเหล่านักแสดงให้ได้คอนเซ็ปท์หนุ่มสาวโสดวัย 30+ONSALE ในวันที่ถ่ายทำมิวสิควิดีโอ โดยไม่มีบิดพลิ้ว

          โดยงานนี้ทีมงานเล่นยกกองมาถ่ายทำกันถึง บริเวณลานหน้าห้างดังกลางเมืองอย่าง “เซ็นทรัลเวิลด์” ท่ามกลางฝูงชนที่รู้ว่าเหล่านักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ขวัญใจของตน มาถ่ายมิวสิควิดีโอก็เลยมาให้กำลังใจกันเพียบ แถมยังได้ จงดล สุกุลวรภัทร ผู้กำกับหนุ่มที่คร่ำหวอดในวงการโฆษณา และมิวสิควิดีโอจี๊ดๆมากมายอย่างเครื่องดื่มน้ำสีที่มี “ ป็อด โมเดิร์นด็อก อกับวงแทททูคัลเลอร์ เป็นพรีเซนเตอร์ และอยู่เบื้องหลังไอเดียเก๋ๆมิวสิควิดีโอ“เซโรงัง” ของหนุ่มๆวงSLUR นั่นเอง เลยไต่ถามถึงความรู้สึกของ ผกก.สุดครีเอทกับการมาร่วมสร้างสรรค์อารมณ์บวกๆให้กับมิวสิควิดีโอชิ้นนี้ซะเลย

          ผกก. : รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากนะครับ เพราะว่าชอบผลงานพี่เพชรตั้งแต่เรื่องที่แล้ว “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารักนะครับ แล้วได้รับการติดต่อมา ผมก็บอกว่าทำเลยครับโดยไม่ต้องคิดมาก เพราะว่าอย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันผลงานของคนไทยได้ดีขึ้น มีส่วนร่วมรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยครับโดยเป็นคอนเซ็ปท์ของหนังด้วยว่าเป็นเรื่องราวของผู้หญิง30+ แต่ยังโสดอยู่ ที่นี้ต้องออนเซลล์ละ เซลล์ตัวเอง เพราะฉะนั้นพอผู้หญิง30 มันก็เลยมีความรู้สึกว่าไม่ได้ละ ฉันแก่ ฉันเดินไปไหนไอ้เลข30กลายเป็นเลขแสลง มันตามตัวมาตลอด ไม่ว่าจะเปิดหนังสือก็เจอ จะเล่นบีบีก็เจอ เดินไปไหนก็เจอ ก็เลยเจอไอ้ตัว30+ ผมก็เลยคิดภาพนี้ขึ้นมา เห็นไอ้ตัวเนี่ยะ แล้วก็วิ่งตามเราไปทุกที่เลย แต่จนสุดท้าย พอความรักระหว่างของ 2 คนมาเจอกัน ตามในหนังเลย ก็เลยทำให้ลืมไปซะว่าฉันอายุเท่าไหร่

          ส่วนใหญ่แล้วมักได้ร่วมงานกับศิลปิน อย่างเป้อารักษ์เป็นหนที่2 แต่กับซูเปอร์สตาร์สาวสวย30+ทั้ง3แบบ3สไตล์ ร่วมงานกันเป็นครั้งแรก

          ผกก.: กับ3สาวไม่คิดว่าดาราดังขนาดนี้จะทำงานได้น่ารักขนาดนี้เลย สนุกมาก แล้ววันนี้กองเราค่อนข้างอินดี้ ทำงานกันอย่างรวดเร็วแล้วไม่มีบ่นเลย แล้วเรารู้สึกว่าแอ็คติ้งก็ได้ กีมีความน่ารักครับ มีเสน่ห์เลย ผมว่าพี่เพชรคิดถูกแล้วละที่เลือกทั้ง3 คนมาเล่นหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะทราบมาว่าคุณพลอยไม่เคยเล่นหนังโรแมนติคคอมมิดี้เต็มๆตัวมาก่อน และนี่เป็นครั้งแรกที่เล่นมิวสิควิดีโอที่เป็นโรแมนติคคอมมิดี้ด้วย ต้องบอกว่าภูมิใจกันเลย เพราะเขาเล่นได้อย่างไม่เคอะเขิน และเป็นตัวตนของเขาเองด้วย น่ารักครับ สนุกมาก

          เสนาเพชร : นี่แค่ช่วง1วัน แต่ผมอยู่กับคุณพลอยมาตลอดการถ่ายทำหนังทั้งเรื่อง ลองคิดดูละกันว่าผมจะได้สัมผัสถึงความน่ารักของพลอยขนาดไหน ผู้ชมจะต้องได้เจอกับภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วจะรักนักแสดงทุกคนไปกับเรา และที่สำคัญเราแทบไม่ค่อยได้เห็นพลอยเล่นหนังโรแมนติคคอมมิดี้ แล้วยิ่งมิวสิควิดีโอที่เน้นอารมณ์ขำๆ น่ารักแบบนี้ด้วยแล้ว

          งานนี้นอกจากเราจะได้เห็น3สาวกับ1หนุ่มอยู่ในชุดหล่อชุดสวยกันแล้ว ทั้ง4ยังปล่อยหมัดเด็ดแบบเต็มแม็กไม่มีกั๊กกับการเซลล์ตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งไฮไลท์ที่ทั้ง4นักแสดงเข้าไปวาดลีลา ON SALE ตัวเองกันสุดฤทธิ์ ทั้งดิ้น ทั้งเต้น สุดเหวี่ยง อยู่ในตู้ดิสเพลย์เสื้อผ้าซึ่งทีมงานได้เลือกเซ็ทอัพที่ช็อปของแบรนด์เก๋ชั้นนำอย่าง TOP SHOP และพอมาถึงตรงนี้เหล่าแฟนๆก็อดใจไม่ไหวโดดเข้าร่วมแจมในมิวสิควิดีโออย่างเต็มใจโดยไม่ต้องมีการนัดแนะแต่อย่างไร ทำเอาบริเวณลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์วันอาทิตย์นึกว่าเกิดปาร์ตี้หรือคอนเสิร์ตย่อยๆเลยทีเดียว

          ติดตามชมมิวสิควิดีโอสวยๆเก๋ๆกับภาพน่ารักของพลอย,เป้,ตุ๊กกี้,เจี๊ยบและเจ้ามนุษย์ 30+ที่รับรองว่าอาจทำให้เกิดรอยลักยิ้มบุ๋มบนแก้มของคุณๆไปกับ “เอิ้ว” เพลงรักสำหรับคนโสดได้แล้ววันนี้ ทั้งทางฟรีทีวี และเคเบิ้ลทีวีรวมถึงสื่อออนไลน์หรือคลิ๊กไปที่
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=NoapUaE30iM" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=NoapUaE30iM</a>

เพื่อรับชมหรือรับฟังจากคลื่นวิทยุชั้นนำทั่วไป แต่ถ้ายังไม่จุใจก็คลิ๊กไปชมภาพยนตร์ตัวอย่างตัวเต็มฉบับสมบูรณ์ของ 30+โสดON SALE ได้ที่
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=pXhVsmQ9jow" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=pXhVsmQ9jow</a>
« Last Edit: October 04, 2011, 01:07:50 PM by FB »

FB on October 06, 2011, 02:51:08 PM
“ตุ๊กกี้” เพื่อนซี้ “พลอย” ฉีกแนว “เฟมินิสต์สาววัย30+” ทั้ง“ยี้” และ “ไม่ง้อผู้ชาย” เป็นโสดก็ได้ไม่เห็นเป็นไร

 
 
          เป็นนักแสดงตลกหญิงตัวแม่ที่พูดได้ว่าในชั่วโมงนี้หรือชั่วโมงไหนก็ไม่มีใครฮอตแซงเธอไปได้ ตุ๊กกี้ ชิงร้อยฯ(สุดารัตน์ บุตรพรม) ถึงขนาดเป็นตัวเลือกเดียวที่ “เสนาเพชร-พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร” ตั้งอกตั้งใจให้มารับบท“ย้งยี้” เฟมินิสต์หญิงผู้รักความถูกต้อง ตัวแทนของสาว30+ ที่ถึงแม้จะโสดแต่ก็ขอไม่ง้อผู้ชาย และที่สำคัญยืนเคียงข้าง อิง ซึ่งรับบทโดย พลอย เฌอมาลย์ สาว30+อีกคนที่เพิ่งอกหักรักคุดหลังจากถูกแฟนที่คบกันมา 7 ปีหนีไปแต่งงานกับสาวอื่น

          “สำหรับในภาพยนตร์เรื่องใหม่ 30+โสดON SALE ตุ๊กกี้รับบทเป็นย้งยี้ค่ะ เป็นเพื่อนสนิทอีกคนของน้องพลอยค่ะ หรือเรียกสั้นๆว่า ยี้ จริงๆตุ๊กกี้เป็นคนที่มีบรรทัดฐานในการรับเล่นหนังของตัวเองคือ ฉันต้องเล่นหนังอารมณ์ดี เพราะจะเป็นคนเครียดไม่เป็น ชีวิตจริงก็ไม่มีเรื่องให้เครียด คือเป็นตลก ในความคิดของตุ๊กกี้พยายามจะเล่นหนังให้ตลกที่สุดเท่าที่จะตลกได้ เพราะอาชีพนี้คืออาชีพตลก เวลาเล่นอะไรมาคนจะคาดหวังว่าตุ๊กกี้จะออกมาไม้ไหน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกได้เต็มตัวเลยว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่เคยรับบทแบบนี้มาก่อน คาแรคเตอร์ที่ได้รับจะไม่ธรรมดา แต่เป็นตัวจั่วของเรื่อง ย้งยี้เป็นอะไรที่แปลกมาก เป็นสาวอายุ32 เป็นผู้หญิงธรรมดาๆที่มีความเป็นเฟมินิสต์หญิง เป็นตัวแทนของหญิงสาวที่เป็นโสดก็ได้ ขาดผู้ชายไม่เห็นจะตายเลย รักในการประท้วงเพื่อต่อต้านสิ่งที่ไม่ถูกต้องคาแรคเตอร์เป็นนักต่อสู้ แต่ไม่ได้เป็นต่อสู้เพื่อตัวเอง ต่อสู้เพื่อคนอื่น ต่อสู้เพื่อสังคม และที่สำคัญคือรักเพื่อนมาก คอยช่วยเหลือเพื่อนสนิทอย่างพลอยไม่ให้ช้ำใจตายเพราะความรัก

          ต้องถือว่าพี่เพชรเปิดโอกาสให้ตุ๊กกี้ บทมีคืบเราเล่นให้ศอกเลยก็ว่าได้ บทมีแค่ศอกเราเล่นเป็นวาเลยเพราะว่าด้วยตุ๊กกี้เป็นคนชอบแถม ก็จะเล่นไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ยินเสียงว่าคัท ถ้าไม่คัทก็จะเล่นไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นแล้วเล่นหนังกับใครไม่สบายใจเท่ากับคนที่เปิดโอกาสให้นักแสดงได้เล่นอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสุขในการเล่นมาก เป็นภาพยนตร์ที่เปิดโอกาสให้ตุ๊กกี้ได้ทำอะไรที่อยากทำ อยากสวยก็ได้สวย อยากฮาก็ได้ฮา ฮาแบบอมยิ้ม น่ารักๆ”

          เตรียมฮาไปกับ ตุ๊กกี้ชิงร้อยฯในคาแรคเตอร์รับประกันความฮาของสาว 30+ในแบบฉบับตุ๊กกี๊ได้ 13 ตุลาคมนี้กับ 30+โสดON SALE ทุกโรงภาพยนตร์

FB on October 10, 2011, 12:50:27 PM
“เสนาเพชร” การันตี “เจี๊ยบ”จัดเต็ม “ฟิตเนส-โยคะร้อน” ช่วย “พลอย” ลงจากคาน อีกหนึ่งไลฟ์สไตล์สุดฮอตของสาว “30+ โสดออนเซล” ยุคนี้



          เคยถูกมองว่าเป็น “ซิ้ม,แก่,ทึนทึก” แต่นับจากนี้สาว30+ จะไม่ถูกมองข้ามอีกต่อไป เพราะถึงเวลาแล้วที่หนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่จะต้องหันขวับ เพราะเทรนด์สาว “30+โสดออนเซล” กำลังเป็นเรื่องฮอตฮิตแถมกำลังมาแรงแซงทางโค้งแล้วจ้า!!! เพราะสาวๆ30+ทุกคนต่างหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ ทรวดทรง องค์เอว ทั้ง “ฟิต” แอนด์ “เฟิร์ม”ซะขนาดนี้ จนทำให้คุณผู้ชายหลายคนหน้าแตกไม่รับเย็บมาแล้ว ดังนั้น “เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร” จึงไม่รอช้าจับจุดนี้มาเป็นฉากหนึงในภาพยนตร์โรแมนติคคอมเมอดี้เรื่อง “30+โสดออนเซล” กับฉากบริหารเสน่ห์ของสาว30+ด้วยฟิตเนสโยคะร้อนสุดฮอตสุดฮา โดยเป็นฉากที่สาว30+ที่ชอบกินเด็กอย่าง “เจี๊ยบ พิจิตรา สิริเวชชะพันธุ์” พาเพื่อนสาวสุดซี้ที่เพิ่งอกหักรักคุดมาหมาดๆ อย่าง “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” ได้มาพบกับโลกใหม่ๆเพื่อปลิดทิ้งความเศร้า เหงา โศก ด้วยฟิตเนสโยคะร้อนๆที่พร้อมเสิร์ฟโดยหนุ่มๆหน้าอ่อนที่พร้อมอวดแผงซิกส์แพค และโชว์กล้ามปู โดยหวังว่าทุกอย่างในชีวิตของเพื่อนสาวจะดีขึ้นหรืออย่างน้อยๆจะได้เป็นน้ำทิพย์ชโลมใจและอาจเป็นหนึ่งในวิธีที่ให้พลอยเพื่อนสาว (เอ๊ะ หรือตัวเองกันแน่) ได้ลงจาก “คาน” ก็เป็นได้

          “ซีนฟิตเนสจะ เป็นซีนที่เพื่อนรักเพื่อนสนิทอย่าง เจี๊ยบ พยายามบอก เพื่อนพลอย ให้รู้ว่าไม่ต้องไปกลัวขึ้นคานถึงจะ 30+ ก็ยังมองหาผู้ชายหนุ่มๆได้ โดยที่เราต้องแสดงความเป็นกูรู ทั้งที่ตัวเองก็30+แล้ว และก็ยังโสดอยู่เหมือนกัน พยายามบอกว่าบางทีผู้ชายไม่ดีไม่เป็นไร แต่เราทำตัวของเราให้เซ็กซี่เข้าไว้ ในซีนนี้ผมให้น้องเจี๊ยบเขาทำเซ็กซี่เยอะๆหน่อย แต่มันจะออกมาแนวขำๆ มากกว่า มีการทำปากเจ่อ (พี่เพชรทำท่าให้ดู) (หัวเราะ) เจี๊ยบเค้าก็เขินๆแต่เค้าทำออกมาได้น่ารักมากๆ ยิ่งเจี๊ยบเองก็เข้าขากับพลอยที่เล่นซีนนี้ได้สนุกมากๆ ทำให้อารมณ์ของหนังคือใช่เลย เพื่อนซี้2คนกำลังทำตัวเซ็กซี่และเหมือนยิ่งมีเทรนเนอร์หนุ่มหล่อกล้ามโตมาสอนด้วยแล้ว ทั้งคู่เลยต้องแบบอุ้ยว๊าว + ทำท่าเซ็กซี่ ท่าเขิน น่ารักและฮามากเลยเพราะเค้าเล่นได้เข้าขากันสุดๆและมีแถมมุกให้ผกก.ด้วยนะ” พี่เพชร ผกก.กล่าว

          นอกจากผกก.เสนาเพชร จะการันตีและให้คอยจับตาดูการแสดงของพลอย-เจี๊ยบที่ทั้งสนิทสนม เป็นธรรมชาติและเข้าขากันสุดๆแล้ว แฟนๆจะได้เห็นการพลิกบทบาททางการแสดงเป็นครั้งแรกในชีวิตของสาวเจี๊ยบ พิจิตรา ที่ปล่อยฝีไม้ลายมือทางการแสดงในฉากนี้ออกมาได้ทั้งเซ็กซี่ น่ารัก โก๊ะ ฮา ลงตัวสุดๆ และยังโชว์สปิริทสวมชุดฟิตเนสอวดรูปร่างเพอร์เฟ็คท์10 ให้หนุ่มๆทั้งหลายได้ตาค้างอีกต่างหาก เตรียมพบกับอีกหนึ่งฉากสนุกๆจาก 30+โสด ON SALE ที่พร้อม ON SALE แน่นอนแล้ว 13 ตุลาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์

FB on October 11, 2011, 01:32:42 PM
“เป้ อารักษ์” เป็น “หมอดูหมูปิ้ง” ปฏิวัติลุคส์พระเอกโรแมนติค ขออาสาพา “พลอย เฌอมาลย์” สาว30+ลงจากคาน



          สนิทสนมกันพอสมควร ถึงแม้ว่าจะไม่เคยร่วมงานกันมาก่อนก็ตาม แต่“หยอย” คนนี้คือคนเดียวกับ “ปั๊กอาเร่” หรือ “เป้ อารักษ์” นักร้องนักแสดงหนุ่มหล่อตัวเลือกเดียวที่สาว “พลอย เฌอมาลย์” มั่นใจว่าใช่แน่ ถึงขนาดส่งข้อความผ่านมือถือไปชักชวนให้หนุ่มเป้มาเล่นเป็นพระเอกคู่กันด้วยเหตุผลที่ว่า “บทหนังน่าร๊า….กมาก” และบท “จืด” ชายหนุ่มอารมณ์ดี หน้าตาสมชื่อ กวนนิดๆ มองโลกในแง่ดี และชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นตัวละครสำคัญที่ระดมทุกวิถีทาง เพื่อช่วยให้สาวสวยวัย30+อย่างพลอยลงมาจากคานแถมงานนี้พอหนุ่มเป้ได้อ่านบท และตกปากรับคำแล้วถึงกลับกล้าพูดได้ว่าเป็นบทพระเอกที่มีคาแรคเตอร์แปลกและแหวกมาก มั่นใจได้เลยว่ายังไม่เคยปรากฎมาก่อนในหนังโรแมนติคคอมมิดี้เรื่องใดมาก่อน ทำไมนะเหรอจ๊ะ ก็เพราะพระเอกของ 30+โสดON SALE เป็น “คนขายหมูปิ้งที่เป็นหมอดู” หรือสั้นให้ได้ใจความก็คือเป็น “หมอดูหมูปิ้ง” แถมยังเป็นผู้สืบทอดกิจการหมูปิ้งเจ้าดัง ที่มีน้ำจิ้มอร่อยเป็นพิเศษ จนได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน100 ร้านอาหารที่ทุกคนต้องชิมก่อนตาย

          “รับบทเป็นจืดครับ เป็นชายหนุ่มอายุ30 อารมณ์ดี จิตใจดี มองโลกในแง่ดี ชอบช่วยเหลือคน ใครมีปัญหาอะไร จืดช่วยได้ สำหรับอาชีพของพระเอกคนนี้ไม่ธรรมดาครับ รับรองว่าไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหน แต่อาจจะเห็นตามข้างทางไปหมด คืออาชีพขายหมูปิ้งครับ แต่เป็นร้านขายหมูปิ้งที่ไม่ธรรมดาเป็น1ใน100ร้านอาหารที่คุณต้องชิมก่อนตายครับ คืออร่อยมากครับ(เสียงเน้นมาก) เป็นกิจการที่สืบทอดมาจากคุณย่าโดยตรง แต่จริงๆแล้ว จืดไม่ได้ขายหมูปิ้งอย่างเดียวครับ เพราะว่าจืดมีความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือการดูหมอ จืดก็เลยใช้วิธีนี้ควบคู่ไปกับการขายหมูปิ้ง คือเอาหมูปิ้งมาเป็นตัวแทน เป็นตัวส่งจิตกัน ถ้าใครอยากมาดูหมอกับจืด ก็ต้องกินหมูปิ้งด้วยฮะ(หัวเราะ) ก็คือใช้จิตสัมผัสมาผสานกับอาชีพที่ตัวเองทำอยู่ ที่สำคัญคือแม่นมากๆ ซึ่งแม้แต่คุณพลอยเฌอมาลย์ที่เป็นสาว30+เพิ่งถูกแฟนบอกเลิกก็ยังมาพึ่งพาความสามารถของพระเอกหมอดูหมูปิ้งคนนี้แหละช่วยทำให้สมหวังเรื่องความรัก โดยเฉพาะการหาเนื้อคู่”

          แหม คนขายหมูปิ้งเห็นมาเยอะแล้ว แต่พอเห็นหนุ่มเป้ในชุดนี้แล้ว ต้องถือว่าเป็นการปฏิวัติลุคส์คนขายหมูปิ้งได้ขาดจริงๆ ทั้งติสต์ และแนวเลย

          “ (หัวเราะ) ก็ถ้าดูจากชุด ก็จะเห็นว่าจืดเป็นคนแต่งตัวสบายๆง่ายๆ แต่แอบมีความเก๋อยู่ด้วยครับ คืออย่างเวลาตอนทำงานก็จะแต่งตัวเสื้อยืด กางเกงขาสั้น เวลาไปข้างนอกก็จะมีความเป็นสตรีทแวร์นิดหน่อย ก็อาจจะเป็นการตอบโจทย์ว่าเอ๊ะคนขายหมูปิ้งอาชีพนี้เขาก็ไม่จำเป็นต้องเชยเสมอไปนะครับ”

          ตอบได้ดีอย่างนี้ชักอย่างรู้แล้วว่า เสนาเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร จะถ่ายทอดเรื่องราวของคนขายหมูปิ้งแนวๆที่เป็นหมอดูกับสาว30+เก๋ๆออกมาเป็นอย่างไร จะโดนใจแบบสิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารักมั้ย 13 ตุลาคมนี้ 30+โสดON SALE รับรองได้รู้กัน ทุกโรงภาพยนตร์

FB on October 13, 2011, 12:28:06 PM
ยกก๊วนหนุ่มสาวโสดปิดโรงหนังดู “ 30+โสดON SALE” ฟรีแบบEXCLUSIVE



          ครั้งแรกและครั้งเดียวที่ คุณ คุณ คุณ จะได้ดู “30+โสดON SALE” หนังรักอารมณ์บวกบวกที่หนุ่มสาวโสด และไม่โสดเฝ้ารอดูมากที่สุดแห่งปีในแบบ EXCLUSIVE พิเศษสุดๆ โดยยกก๊วนคนใกล้ชิดเพื่อนสนิทของคุณรวม 30 ที่นั่งปิดโรงหนังดูแบบส่วนตั๊ว...ส่วนตัว

          กติกาง่ายสุดๆเพียงพกความมั่นใจไม่ว่าจะเป็นหนุ่มหรือสาวจะ20+ ,30+ ,40+ หรือจะกี่+ ถ้าคุณกล้าพอมาร่วมโชว์ Act โพสต์ท่าสุดSelf กับ Photo Display 30+โสด on sale ณ โรงภาพยนตร์ต่อไปนี้ เอสเอฟเวิลด์ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ ,เอสเอฟเอ็กซ์มาบุญครอง,เอสเอฟเอ็กซ์เซ็นทรัลลาดพร้าว,เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รัชโยธิน,เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์รังสิต,เอสพลานาดรัชดาภิเษก,เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์พารากอน และในบริเวณจุดต่างๆตามสถานที่ ROAD SHOW (รายละเอียดวันเวลาสถานที่ตามกำหนดการแนบท้าย) แล้ว upload ภาพของคุณที่ www.facebook.com/30onsale รีบหน่อยตั้งแต่วันนี้ – 23ต.ค. 2554 (ประกาศผลผู้โชคดี วันที่ 25 ต.ค. 54 และชมภาพยนตร์ในวันที่ 25 หรือ 26 ต.ค.) พิเศษสุดๆแบบนี้จัดเต็มเพียง 3รางวัลเท่านั้น (รางวัลละ 30ที่นั่ง) แอ็คไหนท่าไหนโดนใจเท่านั้นนะจ๊ะที่จะมีสิทธิ์รับรางวัล นอกจากนี้ทุกรูปยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัล T-Shirt จากภาพยนตร์ไปใส่อวดเพื่อนๆก่อนใคร ถ้ารูปของคุณ Cool โดนใจที่สุดในแต่ละสัปดาห์

กำหนดการ ROAD SHOW 30+โสดON SALE

6 ต.ค. เวลา13.00-17.00 น. เมเจอร์ฮอลลีวู้ด
7ต.ค. เวลา08.00-16.00 น. ถนนสีลม(หน้าอาคารเอเชียอาคเนย์)
9 ต.ค. เวลา08.00 – 17.00น. จตุจักร
10 ต.ค. เวลา 08.00 –16.00 น. อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์
11 ต.ค. เวลา 08.00-16.00 น. อาคารไอบีเอ็ม พหลโยธินซอย8
12 ต.ค. เวลา 09.00-16.00 น. ตลาดรวมทรัพย์ (ถนนอโศก)
14 ต.ค. เวลา15.00-18.00 น. สยาม

FB on October 14, 2011, 02:13:24 PM


พลอยตุ๊กกี้เจี๊ยบชวนคนไทยหัวใจบวกบวก ดู “30+โสด on sale” รอบแรก ยกรายได้ช่วยน้ำท่วม
 
          ช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค. ที่สำนักบรรเทาทุกข์สาธรารณภัย เหล่าทีมนักแสดงสาวจาก 30+โสดON SALE นำโดยพลอย เฌอมาลย์, ตุ๊กกี้ ชิงร้อย, เจี๊ยบพิจิตรา แท็คทีมร่วมเป็นอาสาสมัคร ร่วมกับพี่น้องประชาชน นักเรียน นักศึกษาแพ็คข้าวของเครื่องใช้ ยารักษาโรค สิ่งของจำเป็นทั้งอุปโภคบริโภค ฯลฯ และยังใจดีนำข้าวของมาร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทุกภัย พร้อมกับร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบอุทุกภัย แม้แต่พระเอกหนุ่มเป้อารักษ์จะติดงาน แต่ก็ยังร่วมส่งแรงใจและร่วมบริจาคเงินในครั้งนี้ด้วย โดยนอกจากนี้ทางต้นสังกัดใจดีอย่าง สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล และหัวฟิล์มท้ายฟิล์ม ยังใจดีเชิญชวนพี่น้องคนไทยร่วมส่งแรงใจผ่านภาพยนตร์รักอารมณ์บวกบวก 30+ โสด on sale ด้วยการยกรายได้รอบแรกจากการฉายในวันพฤหัสดีที่ 13 ต.ค. นี้ ในแต่ละโรงภาพยนตร์ของแต่ละสาขาในเขต กทม.ร่วมบริจาคสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อหวังให้พี่น้องชาวไทยผู้เดือดร้อนผ่านวิกฤติการณ์ครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด โดยพลอย เฌอมาลย์ นางเอกสาวแสนสวยมากน้ำใจเป็นตัวแทนของเพื่อนนักแสดงและภาพยนตร์กล่าวถึงความตั้งใจดีๆที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

          “ก็ต้องบอกว่าวันนี้ทุกคนเต็มที่มากๆเลย ไม่ว่าจะเป็นน้องๆนักเรียน พี่ๆที่มาช่วยกันแพ็คของ รวมทั้งนำข้าวของเครื่องใช้ ของกิน ข้าวสารอาหารแห้งขนมาช่วยพี่น้องที่กำลังประสบกับความเดือดร้อน ก็จริงๆมันเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติที่เราอาจจะไปแก้ไขอะไรไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้น ผลกระทบรุนแรงมาก อยากให้ทุกคนมีสติใจเย็น เชื่อว่าเราจะผ่านเหตุการณ์ตรงนี้ไปได้ ช่วยกันคนละแรง ช่วยเหลือในส่วนที่เราช่วยเหลือได้ พร้อมกับส่งแรงใจไปยังผู้ประสบภัยในในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกำลังทรัพย์ ข้าวของ หรือแม้แต่มาช่วยกันแพ็คของก็ได้เพราะที่นี้แพ็คกันทั้งวันทั้งคืนตามจิตศรัทธาของเรา นอกจากนี้เองในส่วนของภาพยนตร์ที่พวกเราแสดงกัน30+โสดON SALE ก็มีความตั้งใจดีๆที่จะช่วยเหลือพี่น้องในครั้งนี้ด้วยโดยการนำรายได้จากการขายบัตรในรอบแรกของวันแรกที่เข้าฉายโดยไม่หักค่าใช้จ่ายมาช่วยพี่น้องที่ประสบภัย ทุกท่านที่ซื้อตั๋ว รายได้ตรงนั้นก็จะถูกนำมาบริจาค ก็อยากให้มาช่วยกันดูหนังเยอะๆนะค่ะจะได้ช่วยบริจาคน้ำท่วมด้วยให้มากที่สุดเท่าที่เราสามารถทำได้ค่ะ”