เอชพี เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ครบวงจรภายใต้แนวคิดโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวก

เอชพี เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ครบวงจรภายใต้แนวคิดโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกใหม่ เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับองค์กรธุรกิจ


 
          เอชพี เผยโฉมผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่รุ่นแรกในอุตสาหกรรมไอที ภายใต้แนวคิดโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวก (HP Converged Infrastructure) ยกระดับการใช้งานและบริการด้านไอทีให้ง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพิ่มความคล่องตัวให้แก่องค์กรธุรกิจต่างๆ
          โซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสนับสนุนลูกค้าก้าวสู่ความเป็นองค์กรแบบ Instant-On Enterprise อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยขจัดปัญหา
          การขยายตัวอย่างไร้ระเบียบของระบบไอที และพัฒนาสินทรัพย์ทางเทคโนโลยีให้เป็นศูนย์ทรัพยากรที่ทำงานร่วมกันและใช้งานร่วมกันบนแพลทฟอร์มการบริหารจัดการเดียว โซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกประกอบด้วยโซลูชั่นเด่นๆ ได้แก่
          โซลูชั่น Converged Systems พอร์ทโฟลิโอใหม่และครบวงจรที่ผนวกรวมระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บริการให้คำปรึกษาและบริการสนับสนุนด้านโซลูชั่นต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันเพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ทำให้ลูกค้ามีความพร้อมและสามารถนำแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ไปใช้งานได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเมื่อเทียบกับเดิมที่ต้องใช้เวลานานเป็นเดือนๆ(1) ทั้งนี้ โซลูชั่น Converged Systems สามารถนำมาใช้งานด้านต่างๆ ที่สำคัญๆ อาทิ การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ การผนวกรวมฐานข้อมูล และการบริหารคลังข้อมูล
          โซลูชั่นสถาปัตยกรรมและพอร์ทโฟลิโอการจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก (Converged Storage architecture and portfolio) คือ การผนวกรวมผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ HP Store360 ที่ปรับขยายได้เข้าไว้ด้วยกันกับผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ HP BladeSystem และ
HP ProLiant พร้อมเสริมประสิทธิภาพการทำงานด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage Consulting)
ใหม่ล้ำสมัย ช่วยลดภาระในการบริหารการจัดเก็บข้อมูล เร่งรัด
          การส่งมอบการบริการได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงข้อมูลหรือการทำงานของแอพพลิเคชั่นประเภทต่างๆ ได้มากขึ้น
          โซลูชั่น Converged Data Center น้องใหม่ในตระกูลผลิตภัณฑ์
          HP Performance Optimized Data Centers (PODs) ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า สามารถติดตั้งและนำไปใช้งานได้เร็วกว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง โดยใช้เวลาเพียง 12 สัปดาห์เท่านั้น ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายเพียง 1 ใน 4 เมื่อเทียบกับศูนย์ข้อมูลแบบเก่า(2) นอกจากนี้ เอชพียังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านระบบศูนย์ข้อมูลด้วยการพัฒนาศูนย์ข้อมูล HP POD 240a ใหม่ หรือที่รู้จักกันในนามว่า “HP EcoPOD” ซึ่งประหยัดพลังงานถึงร้อยละ 95(3)
          โซลูชั่นซอฟต์แวร์ HP Server Automation 9.1 สนับสนุน
          การทำงานของแอพพลิเคชั่นทั่วไปและเสมือนให้เป็นไปอย่างราบรื่นทั่วทั้งกระบวนการ
          บริษัทยูพีเอส (UPS) นำโซลูชั่น HP Converged Infrastructure มาใช้สนับสนุนการขนส่งสินค้าและพัสดุจำนวนวันละมากกว่า 15 ล้านชิ้น พร้อมทั้งเปิดเว็บไซต์ของบริษัทให้ลูกค้าตรวจสอบและติดตามข้อมูลการจัดส่งได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ โซลูชั่น HP Converged Infrastructure ยังทำให้ยูพีเอสสามารถปรับขยายทรัพยากรเทคโนโลยีให้ตรงตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป และสนับสนุนสภาพการทำงานแบบกระจาย (distributed) ของบริษัทได้อย่างดี
          เพิ่มความคล่องตัวให้แก่องค์กรด้วยผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานแบบผนวก (Converged Infrastructure)  เทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง และการสื่อสารเคลื่อนที่มีบทบาทสำคัญใน การกำหนดวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ แนวทางการดำเนินงานระดับองค์กร และวิธีการติดต่อสื่อสารของประชาคมโลก ดังนั้น องค์กรต่างๆ จึงต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วและทันท่วงที โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มความสะดวกคล่องตัวในการทำงาน เพื่อตอบโจทย์
          ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้งาน ลูกค้า และประชากรได้อย่างครบถ้วน อย่างไรก็ตาม การขยายตัวอย่างไร้ระเบียบของระบบไอทีเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความซับซ้อนในการทำงาน ทั้งยังทำให้องค์กรต่างๆ ไร้ความสามารถในการก้าวตามทันความต้องการระดับองค์กรได้อย่างเต็มที่
          ผลการวิจัยล่าสุดที่จัดทำขึ้นในนามของเอชพีบ่งชี้ว่า ผู้บริหารจากภาครัฐและเอกชนร้อยละ 95 คิดว่า ความคล่องตัวเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้องค์กรของตนประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงมากกว่า 2 ใน 3 เชื่อว่า โซลูชั่นเทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดความคล่องตัวขององค์กร(4)
          ดร. เบง เทค เลียง กรรมการผู้จัดการ และผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจ  เอ็นเทอร์ไพรส์ บิสิเนส เอชพี ประเทศไทย กล่าวว่า “ลูกค้าต่างมุ่งหวังให้องค์กรของตนสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและฉับไวให้ตรงตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง ลูกค้าจึงได้หันมาใช้โซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน ดังนั้น การเปิดตัวโซลูชั่น HP Converged Infrastructure ใหม่ในครั้งนี้ จึงเป็นการสร้างมิติใหม่ในการนำระบบคอนเวอร์เจนซ์ที่มีคุณประโยชน์มากมายเพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถบริหารและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
          ระบบแบบผนวกสร้างความคุ้มค่าให้แก่แอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โซลูชั่น HP Converged Systems สนับสนุนการนำโซลูชั่นต่างๆ มาใช้งานได้ เร็วขึ้น โดยสร้างสถาปัตยกรรม ระบบการจัดการ และระบบรักษาความปลอดภัยร่วมบนสภาพแวดล้อมแบบเสมือน คลาวด์ และแอพพลิเคชั่นเฉพาะด้าน ประกอบด้วยโซลูชั่นที่โดดเด่น ได้แก่
          โซลูชั่น HP VirtualSystem เพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนในการทำงาน มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมที่รองรับสภาพแวดล้อมการทำงานของเครื่องเซิร์ฟเวอร์เสมือนและเครื่องเดสก์ท้อปเสมือน ทำให้การใช้งานและบริหารจัดการมีความสะดวกง่ายดาย เนื่องจากมี การผนวกรวมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย ซอฟต์แวร์เสมือน และบริการต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ โซลูชั่น HP VirtualSystem ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยอันล้ำสมัย สามารถบริหารจัดการในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดจากจุดเดียว ทั้งยังสนับสนุนการทำงานร่วมกับ Microsoft® Hyper-V, Citrix Xen และ VMware และเปิดให้มีการอัพเกรดการทำงานสู่ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยใช้โซลูชั่น
          HP CloudSystem ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
          โซลูชั่น HP CloudSystem เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนมกราคม 2554 เป็นแพลทฟอร์มสำหรับการพัฒนาและบริหารบริการคลาวด์ในสภาพแวดล้อมระบบคลาวด์ทั้งแบบส่วนตัว สาธารณะ และไฮบริด
          เสริมทัพด้วยระบบรักษาความปลอดภัย ระบบกำกับดูแล และระบบบริหารจัดการ ทำให้ลูกค้าสามารถให้บริการอย่างเปี่ยมคุณภาพ และมีความเสี่ยงในการดำเนินงานลดลง
          โซลูชั่น HP AppSystem สนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีระบบการบริหารจัดการแอพพลิเคชั่นและการใช้งานที่ทำงานได้ง่ายขึ้น และมีกระบวนการทำงานที่เป็นเลิศภายใต้สถาปัตยกรรมระดับมาตรฐานที่มีต้นทุนในการเป็นเจ้าของทั้งหมดลดลง ทั้งนี้ HP AppSystem ประกอบด้วยโซลูชั่นใหม่หลากหลายประเภท อาทิ โซลูชั่น HP Vertica Analytics System โซลูชั่น HP Database Consolidation และโซลูชั่น HP Business Data Warehouse Appliance ซึ่งจะให้ประสิทธิผลสูงสุดเมื่อใช้งานกับ Microsoft SQL Server 2008 R2
          นอกจากนี้ เอชพียังมีบริการจากหน่วยงาน HP Technology Services ซึ่งเป็นบริการให้คำปรึกษาอย่างครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การวางกลยุทธ์
          การประเมินผล การออกแบบ การทดสอบ การดำเนินการ และการฝึกอบรม
          โดยมีบริการ HP Solution Support ซึ่งเป็นบริการสนับสนุนที่มีศูนย์กลาง
          การติดต่อเพียงจุดเดียวสำหรับโซลูชั่นแบบครบวงจรทั้งหมดที่กล่าวถึงข้างต้น รวมทั้งซอฟต์แวร์จากผู้พัฒนารายอื่นๆ อีกด้วย
          โซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลแบบผนวกของเอชพีขับเคลื่อนให้มีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว
          ก่อนการเข้ามาของเทคโนโลยีเว็บเบราเซอร์และสมาร์ทโฟนต่างๆ ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในขณะนี้ เป็นยุคของสถาปัตยกรรมระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเก่าที่ผนวกรวมอยู่ด้วยกัน ณ จุดเดียว ซึ่งได้นำมาใช้ในการกำหนดปริมาณงานที่สามารถคาดการณ์ได้ ระบุข้อมูลที่มีการจัดระเบียบ และแสดงการเข้าถึงข้อมูลที่ชัดเจน แต่ปัจจุบัน สภาพการณ์ดังกล่าวเปลี่ยนไป เนื่องจากมีปริมาณการใช้แอพพลิเคชั่นที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ อาทิ ระบบคลาวด์ ระบบเวอร์ช่วล-ไลเซชั่น และแอพพลิเคชั่นที่ใช้กับข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เครื่องเซิร์ฟเวอร์ ระบบเครือข่าย และแอพพลิเคชั่นมีการปรับเปลี่ยนไปและนำไปสู่การเปิดมิติใหม่ของการทำอินเทเกรชั่นทั่วทั้งองค์กร
          สถาปัตยกรรมระบบจัดเก็บข้อมูลแบบผนวกใหม่ล่าสุดของเอชพี คือ โซลูชั่นที่ช่วยอุดช่องว่างที่เกิดขึ้นในระบบจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว โดยจะเปลี่ยนแปลงวิธีการเข้าถึงข้อมูลระดับพื้นฐานด้วยการผนวกซอฟต์แวร์จัดเก็บข้อมูลที่ปรับขยายได้
          ไว้บนแพลทฟอร์มระบบฮาร์ดแวร์การจัดเก็บข้อมูลและแพลทฟอร์มเซิร์ฟเวอร์แบบผนวก นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือการจัดการอันล้ำสมัยที่ขยายการทำงานออกไปอย่างกว้างขวางบนสถาปัตยกรรมระบบจัดเก็บข้อมูลแบบผนวกดังกล่าวจะทำให้การให้บริการไอทีมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าสามารถใช้งานและขยายระบบจัดเก็บข้อมูลได้เร็วขึ้นร้อยละ 41(5) พร้อมทั้งลดระยะเวลาที่ใช้ใน
การบริหารงานได้ถึงร้อยละ 90(6)
          โซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก (HP Converged Storage) ช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายประสิทธิภาพและสมรรถภาพในการทำงานได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องหยุดการทำงานของข้อมูลหรือแอพพลิเคชั่นทุกประเภท ประกอบด้วยโซลูชั่นใหม่ดังนี้
          โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลเครือข่าย HP X5000 G2 (HP X5000 G2 Network Storage System) คือ การพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี HP BladeSystem เพื่อเพิ่มความพร้อมในการทำงานของระบบไฟล์เซิร์ฟเวอร์ในองค์กรขนาดเล็ก โดยสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่นาที จึงประหยัดไฟได้ถึงร้อยละ 58 ทั้งยังลดการใช้ระบบทำความเย็นถึงร้อยละ 63 และลดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลถึงร้อยละ 50 (7)
          โซลูชั่นระบบจัดเก็บข้อมูลเครือข่าย HP X9000 IBRIX (HP X9000 IBRIX Network Storage Systems) เก็บรักษาข้อมูลที่ไม่ได้จัดระเบียบได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีฟีทเจอร์เพื่อการตอบรับข้อบังคับใหม่ๆ (compliance) และสมรรถนะในการถ่ายสำเนาข้อมูลแบบสแนปช็อทมากกว่า 1 ล้านภาพ ทั้งยังมีการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่อย่างง่ายๆ ส่งผลให้องค์กรต่างๆ มีความรู้ความเข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางหรือแนวโน้ม การเคลื่อนไหวของตลาด และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และด้วยศักยภาพในการบริการจัดการด้านนโยบาย จึงควบคุมการเคลื่อนไหวของข้อมูลได้อย่างอัตโนมัติ ส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ โซลูชั่น HP X9000 IBRIX ยังเหมาะสำหรับใช้เป็นโซลูชั่นจัดเก็บคอนเท้นท์เพื่อรองรับระบบอีเมล์ ไฟล์ SharePoint ระบบมัลติมีเดีย ระบบจัดเก็บภาพถ่ายทางการแพทย์ (Picture Archive Communications Systems) และข้อมูลในรูปแบบไฟล์อื่นๆ
          ขยายสมรรถนะระบบจัดเก็บข้อมูลด้วยบริการใหม่ๆ
          ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูลตระกูล Enterprise Virtual Array (EVA) รุ่นที่ 5 ของ
          เอชพี ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ HP P6000 EVA ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี
          thin provisioning และซอฟต์แวร์ Dynamic LUN Migration ตลอดจนสนับสนุนเทคโนโลยี Fibre Channel 8Gb, iSCSI 10Gb และ FCoE โดยสามารถจัดการได้ง่าย ทำให้ลูกค้าผนวกรวมข้อมูลจากแอพพลิเคชั่นเข้าไว้ด้วยกันเพื่อการบริหารจัดการอย่างรวดเร็วและลดต้นทุนในการเป็นเจ้าของทั้งหมด
          นอกจากนี้ หน่วยงาน HP Enterprise Services นำเสนอโซลูชั่นจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลชั้นนำระดับโลก โดยนำอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล HP 3PAR มาผนวกรวมกับโซลูชั่น HP Data Center Storage Package โดยมีคุณสมบัติในการเพิ่ม ”ความยืดหยุ่นและคล่องตัว” ในการจัดเก็บข้อมูลให้ตรงกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยี thin provisioning และการจัดเรียงข้อมูลตามลำดับชั้นอย่างอัตโนมัติ ทำให้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล 3PAR เป็นระบบจัดเก็บข้อมูลที่ให้อรรถประโยชน์สูงสุด
          เอชพีมีบริการให้คำปรึกษาด้านการจัดเก็บข้อมูลใหม่ (HP Storage Consulting Services) เพื่อช่วยลูกค้าออกแบบและใช้สภาพแวดล้อมการจัดเก็บข้อมูลแบบผนวก (Converged Storage) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังนำระบบโครงสร้างพื้นฐานการจัดเก็บข้อมูล (storage infrastructure) มาใช้งานได้อย่างเต็มที่ ปกป้องและดูแลข้อมูล และเตรียมพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลให้พร้อมทำงานบนระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง
          โซลูชั่นศูนย์ข้อมูลแบบผนวกรายแรก สร้างมาตรฐานใหม่แห่งอนาคต
          ระบบศูนย์ข้อมูลที่มีสมรรถนะการทำงานสูงยังคงเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การก่อสร้างระบบศูนย์ข้อมูลแบบเก่าต้องใช้เวลานานถึง 2 ปี หรือนานกว่านั้น ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายสูง และกินไฟมากกว่า เอชพีจึงนำเสนอโซลูชั่นศูนย์ข้อมูล HP POD 240a ซึ่งมีประสิทธิภาพดีที่สุดในโลก สามารถนำมาใช้งานได้ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ เทียบกับระบบเดิมที่ต้องใช้เวลานานเป็นปีๆ ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนลงถึงร้อยละ 75 เมื่อเทียบกับศูนย์ข้อมูลแบบเดิมๆ( ทั้งยังกินไฟลดลงถึงร้อยละ 95 ต่อปี โดยมีค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE : Power Usage Effectiveness) เพียง 1.05 เมื่อเทียบกับระบบศูนย์ข้อมูลเดิมที่มีค่า PUE สูงถึง 2.0 (9)
          ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติขับเคลื่อนความคล่องตัวในการทำงาน
          โซลูชั่นซอฟต์แวร์ HP Server Automation 9.1 สนับสนุนระบบการบริหารจัดการแบบอัตโนมัติอย่างครบวงจรตลอดอายุการทำงานของอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์และแอพพลิเคชั่นระดับองค์กรในสภาพแวดล้อมแบบเดิมและแบบผนวก ทั้งยังมีระบบจัดการฐานข้อมูลแบบอัตโนมัติและครบวงจรใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดเดียวที่ทำให้ระบบไอทีลดเวลาในการพัฒนาระบบการทำงานให้เป็นแบบอัตโนมัติอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดอายุการทำงานทั้งหมด

          (1) Based on internal HP testing.
          (2) The HP POD 240a offers a reduction in deployment time and annual energy savings when compared with traditional data centers built from the ground up, based on HP internal engineering analyses. HP Pod-Works allows for the build of multiple PODs simultaneously and features seven staging bays with 3 megawatts of power and network connections to perform customized assembly, testing and shipping, speeding time to value over the industry average, according to HP internal testing.           
          (3) New POD technology from HP offers 95 percent greater energy efficiency compared to a traditional brick-and-mortar data center, based on internal HP testing.
          (4) “The State of Agility,” research by Burson-Marsteller on behalf of HP, March 2011.
          (5) “2010 Scale-Out Storage Survey,” ESG Research.
          (6) Based on documented client results that are subject to unique business conditions, client IT environment, HP products deployed and other factors. These results may not be typical; results may vary.
          (7) As compared to HP’s previous product offering, the X3820 2-Node Network Storage System.
          ( The HPPOD 240a offers a reduction in capital investment costs, savings clients as much as $24.7 million in savings over building a traditional 1.2 megawatt data center.
          (9) Based on HP estimates and analysis of energy savings comparisons between an EcoPOD and traditional data center.