AIT เดินหน้าจ่ายปันผลปี 51 หุ้นละ 2.75 บาท สุดปลื้มขึ้นแท่นหุ้นปันผลสูงสุดปี 52
ผู้บริหาร AIT ไม่หวั่นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ยันเดินหน้ารักษาอัตราผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น พร้อมลุย จ่ายเงินปันผลประจำปี 51 หุ้นละ 2.75 บาท เผยวันที่ 22 พ.ค.นี้ เดินเครื่องจ่ายสำหรับงวดครึ่งปีหลัง หุ้นละ 1.50 บาท ยอมรับปลื้มบทวิจัยสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ยกเป็นหุ้นปันผลสูงสุดประจำปี 2552 หลังข้อมูลโบรกเกอร์คาดการณ์ปันผลตอบแทนจากผลการดำเนินงานปีนี้สูงถึง 16.7%
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ารักษานโยบายจ่ายเงินปันผล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับ ผู้ถือหุ้นแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากการถดถอยของเศรษฐกิจโลกโดยในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ บริษัทฯ กำหนดจะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี2551 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้ว สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกในอัตราหุ้นละ 1.25 บาท ทำให้ในปี 2551 บริษัทฯ สามารถจ่ายปันผลได้สูงถึงหุ้นละ 2.75 บาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 29 เมษายน 2552
“การจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ เป็นไปตามนโยบายที่จะจ่ายไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่งในช่วงปี ที่ผ่านมา AIT จ่ายปันผลในอัตราที่สูงกว่านโยบายมาต่อเนื่อง เพราะเราไม่มีปัญหาด้านกระแสเงินสด ส่วน การจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในปี 2551 ที่เราสามารถจ่ายได้สูงนั้น เนื่องจากเราไม่มีแผนลงทุน ขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก เพราะต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจยังไม่เอื้ออำนวยจากสถานการณ์เศรษฐกิจ ที่ชะลอตัว บริษัทฯจึงสามารถตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เราได้กันเงินส่วนหนึ่งไว้แล้ว เพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นและเราเห็นโอกาสในการลงทุน” นายศิริพงษ์กล่าว
ส่วนการที่บทวิจัยจากสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ซึ่งรวบรวมจากบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกหรือ SAA Consensus ระบุว่า หุ้น AIT เป็นหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุดสำหรับผลกาดำเนินงานในปี 2552 โดยคาดการณ์ว่า อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลหรือ Dividend Yield จะอยู่ที่ 16.7% นั้น นายศิริพงษ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มั่นใจในผลงานของบริษัทฯ และไม่ได้รู้สึกกดดันว่าจะต้องพยายามสร้างผลตอบแทนให้ได้มากๆ เพราะที่ผ่านมา AIT ได้พยายามทำงานอย่างเต็มที่และดูแลผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว ซึ่งขอให้ผู้ถือหุ้นมั่นใจในศักยภาพและความแข็งแกร่งของบริษัทฯ
ประธานกรรมการบริหาร AIT กล่าวด้วยว่า แม้ว่า บริษัทฯ จะได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจ ชะลอตัว แต่ก็ไม่มากนักเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น เนื่องจากสัดส่วนรายได้ยังคงเน้นไปที่งานภาครัฐถึง 80% ขณะที่งานภาคเอกชนมีเพียง 20% ซึ่งเชื่อว่า หลังจากนี้งานภาครัฐจะเริ่มทยอยเปิดประมูลตามแผนที่ รัฐบาลวางไว้ โดยเฉพาะงานด้านวางระบบเน็ตเวิร์คที่ภาครัฐวางแผนการลงทุนไว้อย่างต่อเนื่อง