KTAMปลื้มพันธบัตรเกาหลีใต้24เดือน ยอดขายทะลุเป้าเดินหน้าขาย1ปี2.85%
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 24 เดือน 1 ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน ซึ่งปิดจำหน่ายเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสามารถระดมทุนได้กว่า 2,900 ล้านบาท ผลตอบแทนประมาณการที่4% ต่อปี และจ่ายคืนผลตอบแทนอัตโนมัติทุก6 เดือน เข้าบัญชีธนาคารตามที่ลูกค้ากำหนด ซึ่งบริษัทได้รับความร่วมมือที่ดีจากธนาคารกรุงไทย และตัวแทนสนับสนุนการจำหน่าย ส่งผลให้นับตั้งแต่ต้นปี บริษัทสามารถระดมเงินลงทุนในกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้ ประมาณ 38,000 ล้านบาท
ส่วนในสัปดาห์นี้ บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 12 เดือน 7 ( KTFIF12M7) อายุโครงการ 12 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2552 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้ (Korea Treasury Bond) หรือพันธบัตรธนาคารกลางเกาหลีใต้ (Monetary Stabilization Bond) ซึ่งมีสถานะเป็นตราสารหนี้ภาครัฐ (Sovereign Status) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุด A1 โดย S&P โดยคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.85% ต่อปี และกองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยกองทุนนี้ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศที่ระดับความเสี่ยงใกล้เคียงกัน และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการลงทุนในระยะยาว
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า การลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้มีแนวโน้มที่อัตราผลตอบแทนจะปรับลดลง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรลดลงซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมทั้งในไทย และในช่วงที่ผ่านมากระแสเงินสดไหลเข้าต่อเนื่องทั้งในภาคการค้าและเงินลงทุน ทำให้สภาพคล่องทางการเงินของเกาหลีใต้ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ผลดังกล่าวทำให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้เมื่อแปลงกลับเป็นสกุลบาทมีทิศทางปรับลดลง ดังนั้น จึงเหมาะสำหรับการลงทุน เพื่อล็อคผลตอบแทน
นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดซื้อขายหน่วยลงทุนรอบใหม่ (Roll Over) ของกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวสท์ 3 เดือน1 (KTSIV3M1) อายุโครงการ 3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เปิดรับคำสั่งซื้อหน่วยลงทุนถึงวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ และรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม นี้ เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารการเงินของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชนในประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment grade โดยคาดว่าผู้ถือหน่วยจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.40% ต่อปี จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในประเทศ ซึ่งทั้ง 2 กองทุนที่เปิดจำหน่ายในขณะนี้ ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย