ไอบีเอ็มเปิดตัวแผนสนับสนุนด้านการเงินเพื่อโครงการด้านไอทีในประเทศไทย แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจากไอบีเอ็มเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเดินหน้าโครงการทางด้านไอทีสำคัญท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจถดถอย
กรุงเทพฯ 15 กรกฏาคม 2552 ..บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวแผนสนับสนุนด้านการเงินเพื่อโครงการทางด้านไอทีที่สำคัญในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสมาร์ท กริด ด้านการแพทย์ ด้านการประหยัดพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง แผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูด้านการเงิน 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของไอบีเอ็ม ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนในทางการเงินต่อโครงการด้านไอทีที่สำคัญในประเทศต่าง ๆ ในทวีปยุโรป และเอเชียแปซิฟิก ที่รัฐบาลในประเทศนั้น ๆ มีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย การประกาศแผนฟื้นฟู 3 พันล้านเหรียญดังกล่าว ได้จัดตั้งขึ้นภายหลังการประกาศแผนฟื้นฟูด้านการเงิน 2 พันล้านเหรียญฯ ของไอบีเอ็มเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาเพื่อสนับสนุนโครงการทางด้านไอทีในทวีปอเมริกาเหนือ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวนี้ จะทำผ่านหน่วยงานไอบีเอ็ม โกลบอล ไฟแนนซิ่ง (IBM Global Financing – IGF) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้บริการด้านการเงินและลีสซิ่งของไอบีเอ็ม
สำหรับแผนฟื้นฟู 3 พันล้านเหรียญดังกล่าวนี้ ไอบีเอ็มจะมีการแบ่งงบประมาณออกเป็นสองส่วน โดยแบ่งส่วนแรกคือ 2 พันล้านเหรียญฯ สำหรับประเทศในยุโรป และอีก 1 พันล้านเหรียญสำหรับประเทศในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยไม่มีการแบ่งสรรงบประมาณตายตัวกับแต่ละประเทศ งบประมาณดังกล่าวเน้นการสนับสนุนโครงการทางด้านไอทีที่สำคัญ เช่น โครงการทางด้านไอทีที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสมาร์ท กริด (Smart Grid) ด้านการแพทย์ การประหยัดพลังงาน รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง ซึ่งโครงการดังกล่าว อาจอยู่ในระหว่างการรออนุมัติงบประมาณสนับสนุนหรือการช่วยเหลือจากภาครัฐฯ
นางปรัชญาณี ภูมิสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจลีสซิ่ง บริษัทไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวว่า “ไอบีเอ็มเล็งเห็นถึงปัญหาของโครงการทางด้านไอทีที่สำคัญหลายโครงการที่จำเป็นต้องหยุดชะงักในช่วงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจเป็นเพราะความล่าช้าในการเบิกจ่าย การรออนุมัติ หรือแม้กระทั่งการขาดแคลนงบประมาณก็ตาม ซึ่งความล่าช้าของโครงการนั้น ๆ อาจมีผลกระทบต่อโครงการที่สำคัญอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งโอกาสต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว” นอกจากนั้น นางปรัชญาณี ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ด้วยเหตุนี้ ไอบีเอ็มจึงพยายามใช้ศักยภาพที่เรามีอยู่ ซึ่งรวมถึงการเป็นผู้นำทางด้านไอทีที่มีเทคโนโลยีครบวงจร สนับสนุนโครงการทางด้านไอทีที่สำคัญ ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาและความก้าวหน้าของประเทศ เพื่อผลักดันให้โครงการเหล่านั้นสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจมาเป็นอุปสรรค อีกทั้งยังช่วยให้โครงการเหล่านั้นสามารถบริหารกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย”
สำหรับรูปแบบการให้การสนับสนุนทางด้านการเงินของไอบีเอ็มนี้ อาจทำได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ข้อเสนอที่ยืดหยุ่นทั้งในด้านเงื่อนไขการกู้ยืม วงเงิน หรือระยะเวลาการผ่อนชำระ เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและรายละเอียดของโครงการนั้น ๆ นอกจากนี้ทั้งนี้ การขออนุมัติสามารถทำโดยผ่านไอบีเอ็ม หรือผ่านบริษัทคู่ค้าของไอบีเอ็มก็ได้ โดยจะต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาของไอบีเอ็ม ซึ่งรวมถึงการพิจารณาเครดิตของผู้ขอกู้นั้น ๆ ด้วย