KTAMเปิด2ทางเลือกลงทุนตราสารหนี้ ทั้งใน-ตปท. ชูผลตอบแทน3.10%ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 8 (KTSUPB8) ในวันที่ 15 - 21 มิถุนายน 2554 อายุโครงการ 6 เดือน โดยกองทุนจะลงทุนในเงินฝากหรือตราสารการเงินธนาคารต่างประเทศทั้งสกุล CNY และสกุล USD ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ A - ขึ้นไป เช่น Bank of China ( A1/P1/Stable โดย Moody) Wing Lung Bank ( A2/P1/Stable โดย Moody ) Industrial and Commercial Bank of China (A1/P1/Stable โดย Moody) ประมาณ 70 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชนในประเทศ อันดับเครดิตตั้งแต่ BBB ขึ้นไป ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี
กองทุนนี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น และต้องการผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งตราสารเป้าหมายจะให้ส่วนต่างผลตอบแทนที่ค่อนข้างจูงใจเมื่อเทียบกับการลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือเงินฝากระยะเดียวกัน ทั้งนี้ กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน โดยจะสับเปลี่ยนไปยังกองทุนตลาดเงิน และสำหรับเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศมีความผันผวน โดยเป็นผลจากการอัตราแลกเปลี่ยนที่แกว่งตัว โดยเฉพาะค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงตามตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอจึงส่งผลให้ค่าเงินสกุลอื่นแกว่งตัวตาม ในขณะที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าจากกระแสการโอนเงินออกของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งในช่วงเดือนที่ผ่านมาปรากฎแรงขายทั้งในตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ โดยสวนทางกับกระแสเงินลงทุนของกองทุนเกาหลีใต้ที่ทยอยครบกำหนดไถ่ถอน ดังนั้น จึงคาดการณ์ ว่าค่าเงินบาทจะมีความผันผวนในช่วงนี้ ทั้งนี้ การแกว่งตัวของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ และค่าเงินบาทมีอิทธิพลค่อนข้างสูงต่อค่าดอลล่าร์พรีเมี่ยม และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลบาท
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3เดือน 3 ( KTSIV3M3 ) เสนอขายในวันที่ 13-17 มิถุนายน 2554 อายูโครงการ 3 เดือน เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน เงินฝาก และตราสารหนี้สถาบันการเงิน กองทุนจะเน้นลงทุนใน พันธบัตรภาครัฐในประเทศ 10% เงินฝากธนาคารทิสโก้ และไอซีบีซี 36 % หุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 24% และ ตั๋วแลกเงินของภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป 30% ของมูล่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.70% ต่อปี