เบบี้มายด์ สานต่อความแกร่งของแบรนด์ หลังจุดกระแส “สัญชาตญาณแม่” ด้วยกลยุทธ์การตลาดครั้งใหม่
เบบี้มายด์ สานต่อความแกร่งของแบรนด์ หลังจุดกระแส “สัญชาตญาณแม่” ด้วยกลยุทธ์การตลาดครั้งใหม่ สะท้อนศักยภาพสินค้าแบบเจาะลึกถึงพฤติกรรมผู้บริโภค นำร่องด้วยกลุ่มแป้งเด็ก “เบบี้มายด์ สวีทตี้พิ้งค์” ย้ำจุดขาย “หอม...ตรึงใจ...ไม่รู้ลืม”
-เผยเตรียมพร้อมกลยุทธ์การตลาดเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างอัตราเติบโต 10% ในปี 54-
เบบี้มายด์ ประกาศรุกหนักต่อเนื่องในไตรมาส 2 หลังไตรมาสแรกประสบความสำเร็จจากแคมเปญ “สัญชาตญาณความเป็นแม่” ประเดิมความสำเร็จครั้งใหม่ด้วยแคมเปญล่าสุด มุ่งสร้างความชัดเจนแก่สินค้า นำร่องในกลุ่มผลิตภัณฑ์แป้งเด็ก “แป้งเบบี้มายด์ สวีทตี้พิ้งค์” ดึง “น้องเก้า จิรายุ ละอองมณี” เป็นพรีเซนเตอร์ และเปิดตัวหนังโฆษณาโดนใจวัยรุ่น ตอกย้ำจุดขายสินค้า “หอม...ตรึงใจ...ไม่รู้ลืม”
นางสาวต้องหทัย กุวานนท์ ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ บริษัท โอสถสภา จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจแบรนด์เบบี้มายด์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 54 มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องและสามารถเติบโตได้มากกว่าตลาดรวมซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 2,400 ล้านบาท เป็นผลมาจากการนำเสนอแคมเปญที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงในช่วงไตรมาสแรกของปี 54 “สัญชาตญาณความเป็นแม่” ผ่านภาพยนตร์โฆษณาที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริง เพื่อตอกย้ำความเป็นตัวตนและความเข้าใจในมหัศจรรย์จากธรรมชาติของ เบบี้มายด์ จากความเป็นจริงแห่งสัญชาตญาณมนุษย์ ส่งผลให้เกิดการจดจำในแบรนด์ได้ดีเยี่ยม และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า แนวทางการสื่อสารที่ถูกพัฒนามาจาก Real insight และสร้าง Touch point อย่างแท้จริง ย่อมสร้างตำแหน่งในใจกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วกว่า และยิ่งถูกนำเสนอด้วย “สัญชาตญาณความเป็นแม่” จึงไม่แปลกที่หลายคนจะจดจำแบรนด์เบบี้มายด์ และเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่านอกจากจะพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพจากธรรมชาติแล้ว เรายังมีความเข้าใจในธรรมชาติของแม่และลูกน้อยอย่างแท้จริง
“จากกระแสความแรงของแคมเปญ “สัญชาตญาณความเป็นแม่” ในไตรมาสแรกทำให้ เบบี้มายด์ สานต่อการจดจำแบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด เราต้องการสร้างให้ผู้บริโภคเห็นถึงศักยภาพของสินค้าอย่างลึกซึ้ง จึงได้สร้างสรรค์แคมเปญล่าสุดเพื่อสะท้อนให้ผู้บริโภคเห็นถึงจุดขายอย่างเป็นรูปธรรม โดยเริ่มที่ แป้งเบบี้มายด์ สวีทตี้พิ้งค์ ที่ต้องการย้ำจุดขาย “หอม...ตรึงใจ...ไม่รู้ลืม” โดยพัฒนาผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด ที่มี พรีเซนเตอร์ “น้องเก้า จิรายุ ละอองมณี” มาเป็นสะพานเชื่อมระหว่างผลิตภัณฑ์และกลุ่มเป้าหมายที่เน้นเป็นกลุ่มวัยรุ่น โดยจะสื่อจุดขายสินค้า “ความหอมจากเชียร์บัตเตอร์...ตรึงใจ...ไม่รู้ลืม” และ ความเป็น Natural’N Mild มาเป็นประเด็นหลักของหนังโฆษณาแทรกเข้ากับเนื้อหาน่ารักๆ ในรูปแบบการรับน้อง ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาในปัจจุบันที่เด็กๆ กำลังเปิดเทอม ซึ่งจากการเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ากระแสตอบรับ ที่พูดถึงอย่างชื่นชมในโลกออนไลน์มีมากเกินคาด โดยประเมินจากการกด Like ใน Online ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็ว ส่วน Offline ก็เป็นที่กล่าวขวัญถึงกันอย่างมาก เพราะด้วยการนำเสนอแบบง่ายๆ และความสดใสน่ารักดูอ่อนละมุนของน้องเก้า จึงทำให้แป้งสวีทตี้พิ้งค์ เข้าไปนั่งในหัวใจของใครหลายคน และไม่แปลก ที่จะมีติดบ้านกันอย่างแพร่หลาย หรือติดกระเป๋าของสาวๆ ในปัจจุบันและนี่คือความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำและยอมรับอีกหนึ่งขั้นของเราในปีนี้” นางสาวต้องหทัย กุวานนท์ กล่าว
“หัวใจหลักของภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของเบบี้มายด์ ในปีนี้ ยังยึดมั่นในปรัชญาของความอ่อนละมุน ว่าปลอดภัยไม่แพ้ (ผ่านการทดสอบด้านผิวพรรณ) และโดยเฉพาะกลิ่นสวีทตี้พิ้งค์ (สีชมพู) เป็นแป้งตัวแรกๆ ที่เราทำการตลาดที่นำความเป็นสินค้าเด็ก ถ่ายโอนสู่ความเป็นสินค้าสำหรับผู้หญิงวัยรุ่น และนำเสนอด้วยกลิ่นหอมที่สดชื่นในแบบของสวีทตี้พิ้งค์ และเพิ่มคุณค่าด้วยสุดยอด Moisturizer อย่าง เชียร์บัตเตอร์ (Shea butter) เสริมสินค้าให้น่าใช้ยิ่งขึ้น ส่วนแนวคิดหลักๆ คือการนำเสนอเรื่องความหอมที่ตราตรึงใจไม่รู้ลืม เป็นกลิ่นหอมที่หญิงสาวคนใดใช้ จะทำให้ชายหนุ่มจดจำและจำได้ เพราะกลิ่นหอมในแบบสวีทตี้พิ้งค์ สามารถสร้างการจดจำได้มากกว่าการได้สัมผัสหรือเห็น เพราะกลิ่นจะส่งผ่านเรื่องการจดจำไปยังสมองด้านการจดจำและสามารถกลับมาหวนคิดได้หากได้กลิ่นนี้อีกครั้ง ซึ่งก็เป็นแนวคิดในการสื่อสารด้านความหอมของแป้งเบบี้มายด์ในครั้งนี้” นางสาวต้องหทัย กุวานนท์ กล่าวถึงเทคนิคการสื่อสารผ่านโฆษณา
ด้านการคาดการณ์รายได้ในปี 2554 พร้อมอัตราการเติบโตของ เบบี้มายด์ นั้น นางสาวต้องหทัย กุวานนท์ กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า “ตลาดรวมของแป้งในไตรมาสแรกมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 4-5% แต่ด้วยการทำตลาดและการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องของแป้งเบบี้มายด์ ทำให้เรามีการเติบโตที่สูงกว่าอัตราเติบโตของตลาด หากพิจารณาถึงภาพรวมการแข่งขัน พบว่า ตลาดแป้งยังคงมีการแข่งขันที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่วนเบบี้มายด์ จะเน้นการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้าง Sustainable Loyalty แต่ก็ต้องมองในหลายๆ ส่วนของ Marketing mixed เพื่อปรับกลยุทธ์อย่างเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปี 2554 แป้งเบบี้มายด์ จะสามารถสร้างอัตราเติบโตประมาณ 10%”