PR on June 02, 2011, 12:32:30 PM
ระดมทีมงานรุมแปลงโฉม “โหน่ง ชะชะช่า” “เมียสุดเลิฟหม่ำ” เนรมิตความสวยหัวจรดเท้าตั้งแต่ตี 5 ทนร้อน ยอมอดข้าว



           อาจจะเคยเห็น “โหน่ง ชะช่า” สวมบทมือปืน,เซียนพระ, นักเลง, เสี่ย แต่คงไม่มีบทไหนแหวก แปลกที่สุดในชีวิตเท่ากับบท “กะเพรา-เมียสุดที่เลิฟ” ของ “หม่ำ” ที่คบหาดูใจกันจนครบรอบฉลอง 14 ปีแห่งสายสัมพันธ์สุดหวานแหววจนยากจะเอื้อนเอ่ยเป็นแน่แท้ เพราะนี่คือบทที่โหน่งน้องรักแห่งแก๊งค์สามช่าจะต้องสวมหัวใจและวิญญาณทางการแสดงด้วยการรับรู้ความรู้สึกแบบหญิงๆ แบบเต็มๆ ตัวเป็นครั้งแรก แถมมาพร้อมลีลาการแสดงแบบจัดเต็ม จัดหนัก จัดถี่กว่าทุกเรื่องที่เคยร่วมงานกับ “หม่ำ จ๊กมก” มาไม่ว่าจะเป็น บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม,โป๊ะแตก,จั๊กกะแหล๋น ฯลฯ เพราะงานนี้นอกจากจะได้เห็นลีลาการแสดงของโหน่ง ชะชะช่าแบบเต็มๆ ไม่มีกั๊กใน “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” แต่ยังพูดได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทและสร้างความแตกต่างทางการแสดงจากหนังเรื่องก่อนๆ โดยสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าจะต้องมาพร้อมกับอุปสรรคนานัปการในการสวมบทดังกล่าว ที่ถ้าเลือกได้โหน่งขอบาย ไม่ว่าจะเป็นการระดมทีมเมคอัพเสื้อผ้าหน้าผมช่วยกันเนรมิตความสวยอยู่หลายชั่วโมงในทุกคิวถ่าย ตั้งแต่เซ็ทผม แต่งหน้า ใส่ขนตา ทาเล็บ เพิ่มความอึ๋ม ฯลฯ แถมยังต้องยอมอดข้าวอีกต่างหาก

          “มันแตกต่างจากเรื่องอื่นๆเยอะเลย อย่างเรื่องที่ผ่านๆ มาก็สบาย ใส่ขาสั้นก็ถ่ายได้แล้ว บางทีไม่ต้องเปลี่ยนชุดเลย ผมเป็นคนชอบใส่ขาสั้นอยู่แล้วคือมันสบายๆ ทุกเรื่องมาถึงก็พร้อมถ่ายได้เลย ปกติผมพี่หม่ำพี่เท่งแทบไม่ต้องแต่งหน้าเลย แค่แป้งเด็กรองพื้นเท่านั้นเอง ก็จะเป็นที่รู้กัน แต่สำหรับเรื่องนี้คือต้องเตรียมตัว ในเรื่องการแต่งตัว เสื้อผ้า ทุกอย่างต้องเข้ากันหมด และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แทบจะไม่ได้กินข้าว เพราะต้องทำโน่นทำนี่ กว่าจะเปลี่ยนชุด หลายอย่าง มันลำบากตรงนี้ คือทุกอย่างทำอะไร ต้องอยู่กับพี่ๆ แต่งหน้าตลอด จะเข้าห้องน้ำก็ต้องถอดเสื้อผ้า ถอดโน่นถอดนี่ ผิดกับทุกเรื่องที่ผ่านมา ที่เราจะดูแลตัวเองได้ เรื่องนี้พี่ๆ ก็จะดูแลเราเต็มที่เลย เกาะติดสถานการณ์ตลอด

          ถามว่าทีมงานที่ต้องมาช่วยเปลี่ยนโหน่งให้เป็นกะเพราเยอะมั้ย อย่างสมมติถ่ายฉากหนึ่งแล้วต้องเปลี่ยนชุด ก็ประมาณ 5-6 คนนะ เกือบ 10 คนนะผมว่า บางทีไม่พอต้องเรียกมาเสริม (หัวเราะ) เพราะถ้าวันไหนถ่ายหลายๆ ฉากหลายชุด ก็ต้องมีประมาณ 10 คนได้ อย่างบางทีถ่ายข้างนอกไม่ได้ถ่ายในสตูดิโอ อย่างของกะเพราก็จะมีถ่ายบนดาดฟ้าตึก ถ่ายบนรั้วกำแพง ถ่ายริมถนนข้ามสะพาน ซึ่งอากาศก็จะร้อนมากด้วย แล้วผมเป็นคนขี้ร้อนด้วย มันก็รู้สึกแบบ เข้าห้องน้ำไม่สะดวกสบาย หรือถึงถ่ายในอินเดอร์ ร้านเสริมสวย หรือในบ้าน ก็ยังพอมีแอร์ มีพัดลม แต่พอแอ็คชั่นก็ต้องปิดหมดเพราะไม่งั้นเวลาอัดเสียงจะมีเสียงพัดลมเสียงแอร์เข้าก็ไม่ได้ สำหรับผมสำหรับคนอ้วนคนหนึ่งที่ต้องมาเล่นเป็นผู้หญิง ต้องมานั่งทาเล็บ แล้วผมเป็นคนที่แบบไม่ชอบมานั่งใส่อะไรแบบนี้อยู่แล้ว มันไม่ใช่ตัวผม แต่ก็ต้องมาใส่ แต่อย่างแต่งหน้าก็โอเค แต่ต้องมาใส่ขนตาด้วยสิ แล้วเสื้อผ้าก็มีหลายชุดเลยที่พี่หม่ำเตรียมไว้ ฝ่ายเสื้อผ้าเตรียมไว้ แต่บางชุดพี่หม่ำก็ว่ามันไม่สวย ภาษาชาวบ้านก็แบบตอแหลไป กำไล สร้อย และการแต่งหน้าก็ต้องเข้ากับการแต่งตัวด้วย ผมว่ามันยาก และอย่างเวลาผมเหนื่อย ผมก็จะกินไงก็ตามประสาคนอ้วน ขี้ร้อน กินจุ อึดอัด อย่างเวลากินอะไรก็กินเยอะ แต่มันก็ไม่ถนัด ด้วยชุด ด้วยการแต่งหน้า ถ้าเลอะเทอะก็ต้องมาแต่งใหม่อีก เลยไม่กินดีกว่า แต่เรื่องนี้จัดเต็มนะ พี่หม่ำจัดเต็ม คือพี่หม่ำอยากให้ทำอะไรคือผมก็ทำเต็มที่ให้เลย ให้แจ่มๆ ไปเลย

          เตรียมพบกับอีกหนึ่งบทบาททางการแสดงที่ผู้กำกับหม่ำ จ๊กมก มั่นใจว่าจะต้องอึ่งทึ่งไปกับลีลาการทุ่มเทความสามารถแบบสุดตัวของ “โหน่ง ชะชะช่า” ในบท “กะเพรา-เมียหม่ำ” ได้ใน “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” 23 มิถุนายน นี้ทุกโรงภาพยนตร์

PR on June 03, 2011, 04:02:27 PM


ถอดความรู้สึกและมุมมอง “ความรัก” ที่หลายคนไม่เคยรู้ ผ่านผลงานการกำกับลำดับที่ 9 ของ “หม่ำ จ๊กมก” อีกแง่มุมอุ่นๆ ซึ้งๆ แต่ขอแอบฮา กับ “ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน” หนังรัก “โดนๆ” ของคนรัก “เพื่อน” พอๆ กับรัก “เมีย”
         
          Q. ทักทายกันก่อน อยากให้พี่หม่ำพูดถึงภาพยนตร์เรื่องล่าสุด โดยเฉพาะบทบาทและคาแรคเตอร์ที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน
          M. สวัสดีครับ หม่ำครับ เจอกันอีกแล้ว ก็ตอนนี้มีภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ผมกำกับชื่อว่า ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน ในเรื่องคาแรคเตอร์ของผมก็คงจะเป็นคนนิ่งๆ เป็นคนที่มีความสุขกับความรัก กับคนสองคน นั่นคือภรรยาและเพื่อนตัวเอง อาชีพก็ทำงานเป็นไกด์ คอยพาแขกเที่ยว แขกทุกประเทศที่ไม่ใช่ ยุโรปกับอเมริกา แขกก็จะติดใจกับผมมาก เพราะผมพาทัวร์ในแบบที่ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา แทนที่จะพาไปยังสถานที่ต่างๆ ดังๆ ผมก็จะพาเขาไปที่ๆ นักท่องเที่ยวเขาไม่เคยไป แต่เป็นสิ่งที่คนบ้านเราเขาชอบ เขาเล่น อย่างเช่น ไปดูปลากัดกัน ซึ่งไม่มีใครเขาพาไปดูหรอก แต่ผมก็พาไปดู พาไปดูขนมของคนไทยเรา อย่างขนมเบื้อง ขนมครก นั่นคือในส่วนของบทบาทคาแรคเตอร์หน้าที่การงาน แต่ส่วนที่เป็นบุคลิกนิสัยตัวตนจริงๆ ของหม่ำในเรื่องนั่นคือในเรื่องของความรักความผูกผันที่ตัวละครตัวนี้มี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ปวดหัว เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะต้องแบ่งความรักออกเป็น 2 ซีก 2 ฝั่ง คือ ฝั่งหนึ่งให้ภรรยา อีกฝั่งหนึ่งให้เพื่อน จนกระทั่งพูดได้ว่าไม่เหลือสักฝั่งสำหรับตัวเอง คือความรักที่มีก็ให้เมียให้เพื่อนไปหมดแล้ว คาแรคเตอร์ในหนังชีวิตตัวเองก็ไม่เคยมีเมียมาก่อนนะ เพิ่งมีเมียคนแรกคือกะเพราซึ่งเล่นโดยคุณโหน่ง ชะชะช่า ซึ่งเราเจอเขาก็รักและเอ็นดูเขา ก็อยู่ด้วยกันมา 14 -15 ปี ก็รู้สึกสงสารและเป็นห่วงเขา ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นกะเทยนะ คิดว่าเขาเป็นผู้หญิงเลยล่ะ แต่กับใหม่ที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เล็กๆ จนทิ้งกันไม่ได้ ไม่ว่ามันจะทุกข์ หรือมันจะสุข เราก็ต้องคอยดูแล บางครั้งเหมือนยิ่งกว่าเพื่อน และบางครั้งก็ไม่ใช่เพื่อน บางทีเหมือนพี่ บางทีเหมือนพ่อ บางทีเหมือนน้อง คือทั้งชีวิตของหม่ำเนี่ยะมีเพื่อนคนเดียวเลยคือใหม่ ถ้ามันทุกข์มันร้อนยังไงเราก็เป็นไปกะมันไปด้วย พูดได้ว่าทุกเรื่องที่ใหม่มีความสุข หม่ำก็จะมีความสุขด้วย และพอใหม่มีความทุกข์ มันก็เหมือนเราอยู่ไม่สุข อยู่เฉยๆ ไม่ได้ ทั้งๆ ที่เราก็พยายามบอกใหม่นะ รู้หมดนะว่าใหม่มีผู้ชายกี่คน ชอบผู้ชายกี่คน คือพยายามบอกพยายามเตือนว่ามึงจะชอบใครมึงก็ดูให้ดีก่อน มันจะมีอยู่ซีนหนึ่งที่ซึ้งๆ มาก คือหม่ำบอกใหม่ว่า มึงอย่าเอาแหไปหว่าน
ผู้ชายเลย พอมึงหว่านเสร็จมึงก็รักเขา ไม่รู้ว่าดีไม่ดีสุดท้ายมันก็จบแบบนี้ที่กูก็ต้องมาคอยปลอบใจอยู่เป็นเพื่อนมึงตลอดทั้งที่กูก็มีหน้าที่การงาน เสียการเสียงาน เสียครอบครัวก็เพราะมึงเนี่ยแหละ พยายามจะบอกมัน ซีนที่อยู่บนตึกมันจะโดดตึกตายไง ไม่ว่ามันจะทำอะไร มันจะโทรหาไม่ว่าเราจะอยู่ไหน กลางวันกลางคืน หรือเราหลับ มันเมาเหล้า ไม่ว่าเราจะอยู่ไหนเราก็ต้องไป ถ่อสังขารไปแบกมันกลับมานอนที่บ้าน จนพ่อแม่ของใหม่รู้สึกว่าคนนี้มันเหมือนไม่ใช่เพื่อนของใหม่ เหมือนสามีมันมากกว่า คือต้องคอยบอกมันตลอด กินข้าวก็ต้องคอยเขียนบอกเอาไว้ บอกว่าตรงนี้มีโจ๊กนะ ในตู้เย็นมีอันนี้นะ ต้องบอกกินหน่อยนะ และต้องบอกให้ไปทำงานได้แล้ว ให้ห่วงตัวเองบ้าง ห่วงงาน ห่วงพ่อห่วงแม่ด้วย เวลาจะไปไหนก็โทรบอกพ่อบอกแม่ด้วย บางทีกูก็ขี้เกียจรับโทรศัพท์พ่อกับแม่มึง คือมันจะพูดยังไงดี มันเป็นเพื่อนกันจนรู้สึกว่าขาดกันไม่ได้ แต่เราก็ขาดเมียเราไม่ได้เหมือนกัน แต่ต้องขอให้เป็นชีวิตของครอบครัวกูสักนิดหนึ่งได้ไหม ตั้งแต่เล็กจนโตมากูไม่ว่า แต่ว่าช่วงนี้กูมีครอบครัวแล้ว เมื่อก่อนกูเคยแบ่งให้มึงห้าสิบห้าสิบ แต่ตอนนี้ต้องขอให้ครอบครัวกูสักเจ็ดสิบ แล้วมึงเอาไปสามสิบได้ไหม เราก็อยากจะบอกมันแบบนั้นแต่ก็กลัวเพื่อนโกรธ คือใครที่มีเพื่อนต้องมาดูเรื่องนี้แหละ ในความเป็นห่วงเป็นใยของเพื่อนนะ

          Q. ดูท่าทางว่าเพื่อนจะมีบทบาทสำคัญและมีอิทธิพลกับชีวิตของคาแรคเตอร์นี้เผลอๆท่าทางจะมากกว่าเมียด้วยซ้ำ ดูเป็นตัวละครที่ความสัมพันธ์ของเพื่อนกับเมียจะเกี่ยวดอง ผูกผันและมะรุมมะตุ้มกันชนิดที่ว่าแยกกันไม่ออกเลยใช่มั้ย
          M. ที่จริงแล้วคำว่า รักเพื่อนมากกว่าภรรยา ก็คงไม่ใช่หรอก รักเท่าๆ กันนี่แหละ แต่เป็นคนนิ่งๆ ในเรื่อง แล้วเราก็ไม่เคยได้คุยกับกะเพรา ซึ่งเป็นเมีย คือเราก็คนสบายๆ บางทีเราก็ไม่กล้าบอกกะเพราว่าเรารัก แต่ก็อยากบอก แต่จริงๆ แล้ว กะเพราน่าจะรู้ใจคนที่อยู่ด้วยกันมา 14 ปี บางทีเราก็รู้สึกได้ว่าเวลาที่เราไปหาใหม่ ตอนที่แบบหลับๆ อยู่ ทำกิจกรรมร่วมกันอยู่ หรือทำอะไรก็ตามที่แสดงความรักต่อกันโดยเฉพาะความโรแมนติก กับกะเพราเนี่ยะ ก็มักจะมีใหม่ชอบมาในช่วงเวลานั้นพอดี เหมือนตอนที่ครบรอบ 14 ปีที่เราอยู่ด้วยกันมา ก็กำลังดินเนอร์กันอยู่ดีๆ ซึ่งมันเป็นอะไรที่จะประจวบเหมาะกันพอดีที่จะทำให้กะเพราคิด ใหม่เป็นเพื่อนหรือเมียมึง มันก็สามารถคิดได้กะเพราเขาก็รู้สึกว่านี่มันอะไรกันนักกันหนา นี่ใช่เมียหรือเปล่า ถ้ากะเพราพูดว่าให้เลือกระหว่างเพื่อนกับเมีย เราก็เลือกไม่ได้หรอก เพราะเรารักทั้งเมียรักทั้งเพื่อน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเรา คือกะเพราเราก็ขาดไม่ได้ ไม่มีทางขาดกะเพราได้ และไม่มีทางขาดใหม่ได้เหมือนกัน ทั้งสองอย่างมันเหมือนเห็บกับหมัด ที่อยู่กันคนละข้าง อยู่ในขนหมาอยู่ตลอด ซึ่งแยกแยะไม่ออกว่าจะเลือกใคร มันเลือกไม่ได้ คือก็ต้องเลือกทั้งสองคน แต่กะเพราอาจจะไม่เข้าใจในเรื่องของการที่มีเพื่อน เพราะกะเพราเป็นคนไม่มีเพื่อน กะเพราก็อาจจะไม่เข้าใจ ก็เลยไม่อยากจะอธิบายให้กะเพราฟัง แต่อยากบอกว่ารักกะเพรามาก แต่ใหม่ก็คือเพื่อน และบอกว่าเป็นเพื่อนอยู่ตลอด แม้แต่ตอนหลังที่มันเข้าใจผิดกันแล้ว ใหม่ก็พยายามบอกว่าไอ้หม่ำ ถ้ากูจะรักมึงจริงๆ มึงจะรักกูไหม เป็นคำที่แบบหยาบคายมากสำหรับเรา ซึ่งเราแบบโกรธมันมากเลย คือทั้งชีวิตก็คือโกรธมันคำนี้
          Q. อย่างนี้ต้องเล่าให้ฟังแล้วว่าเรื่องราวของ “ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน”เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
          M. คือมันไม่ใช่รักสามเศร้านะ คือต้องบอกก่อนว่าหนังเรื่องนี้เป็นความรักระหว่างเพื่อนกับภรรยา ซึ่งตัวภรรยาเริ่ม ตะหงิดๆ กับตัวเอง ว่าหม่ำกับใหม่เนี่ยะมันใช่หรือเปล่า แต่ความรักที่เรามีต่อใหม่กับกะเพรา มันคนละอย่างมันคนละซีก มันคนละเรื่องกันอยู่แล้ว มันเรียกยังไงดี คือนี่ตัวผมเคยมีเพื่อนมานะ เป็นเพื่อนผู้หญิง คือตัวเราก็มีเพื่อนที่โตด้วยกันมา เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เล็กๆ ที่เล่นเรื่อง จั๊กกะแหล๋น ที่เล่นเป็นสมศรี นั่นนะ คือเราจะคอยกันคอยอะไรเหมือนแบบนี้เลย คือมีอะไรก็คอยปรึกษากัน ซึ่งเพราะเรื่องอาจจะเกิดขึ้นจากอันนี้ก็ได้นะ คือเรื่องนี้ก็คือเกิดจากชีวิตจริงนะ เราเคยเจอมาแล้วไง เราก็ค่อยๆ คิด ค่อยๆทำไป เพื่อนที่ชื่อสมศรีมันก็มีผู้ชายมาจีบมาชอบ แต่มันไม่ชอบ เราก็คอยกันให้มัน คือก็ไม่ได้ทำร้ายจิตใจคนที่มาแอบชอบหรอก ก็ค่อยๆ คุย ให้เขารู้สึกดี คือคนที่เห็นเนี่ยะก็นึกว่าเราเป็นแฟนกับสมศรี เหมือนกันเลย อารมณ์เดียวกันแบบนี้เลย แต่ผิดตรงที่ใหม่เนี่ยะมันชอบไปหว่านผู้ชาย เห็นใครหน้าตาดีหน่อยก็ไปรักเขาแล้ว ชอบเขา เขาดีหมด สุดท้ายก็เป็นแบบนี้ กับภาพยนตร์เรื่องนี้มันไม่ใช่รักสามเศร้า แต่เป็นเรื่องของภรรยาผมคนหนึ่ง และเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งจะแตกต่างกันอยู่แล้ว เหตุการณ์มันบังเอิญและเข้าใจผิด กับเมียเรา เราก็ตกบันไดพลอยโจรกับใหม่ เมากัน แต่ทั้งเรื่องคาแรคเตอร์ของหม่ำเป็นคนไม่ดื่ม แต่เพราะความเข้าใจผิดกันนิดหนึ่ง กับภรรยา
          อย่างที่บอกคือสังคมปัจจุบัน ถ้าใครมีปัญหาในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องให้คุยกันซะ ถ้าไม่คุยกันเนี่ยะมันก็จะเหมือนภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ต้องบอกท่านผู้ชมก่อนนะว่ามันไม่ใช่เรื่องดีนะที่เวลาเสียใจอะไรแล้วไปนั่งกินเหล้า มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ทีนี้ใหม่ก็เลยมานั่งกินเป็นเพื่อน ก็เป็นคิวของใหม่บ้างละ เราก็บอกไอ้ใหม่มึงอยู่ไหน มาหากูด้วย ใหม่ก็ตกใจ ไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้เมาหรือกินเหล้า ตั้งแต่เกิดมามันไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้กินเหล้าหรือสูบบุหรี่ แต่วันนั้นมันเมาเละ ใหม่ก็เมาไปด้วย เสียใจกับเพื่อน ก็เลยนั่นแหละ ต่างคนต่างเมา พอมาอีกทีใหม่ท้องเลยทีนี้ เอาล่ะทีนี้ ก็เลยไปกันใหญ่ ฝั่งไอ้กะเพราก็ว่า กูนึกแล้ว มันเป็นความเข้าใจผิดกันทั้งหมดเลย เราก็เข้าใจผิดเมีย เมียก็เข้าใจผิดเรา เมียก็เข้าใจผิดใหม่ ซึ่งใหม่ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย คือตอนที่ใหม่ท้องเนี่ย เราก็นึกอยู่ว่าเอาแล้วบรรลัยแล้ว รู้สึกผิดกับภรรยามาก เมียมันคิดยังไงกับเรา ทั้งๆ ที่เราก็อยากจะบอกว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น จะอธิบายให้ฟังแต่เขาก็ไม่ฟัง เพราะจู่ๆ เราก็หนีเขาไปโดยที่ไม่ฟังสาเหตุของเขา ไม่ฟังเรื่องของกะเพราว่ามันเป็นแบบนี้ ทีนี้เราก็มานั่งนึกว่าถ้าหน้าลูกเหมือนเรา เราจะทำยังไงกับพ่อแม่ของใหม่ ซึ่งเราเรียก ลุงป้ามาตลอด ตั้งแต่ไปบอกพ่อของใหม่ที่เล่นโดยพ่อดมก็คือเป็นลมไปเลย หัวน๊อคพื้นดังก๊อกเลย เพราะเขาไม่เชื่อว่าจะเป็นหม่ำ ยังไงก็ต้องไปดูกันนะครับ ความรักในแบบอุ่นๆ ของผม ความเป็นเพื่อนกับครอบครัว ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราได้เห็นกันบ่อยๆ แต่อันนี้จะเข้าลึกถึงมากกว่าที่ท่านคิด อุ่นๆ ฮาๆ ในแบบฉบับของผม

          Q. เห็นเป็นคนตลก ทะลึ่งทะเล้น อารมณ์ดี หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าพี่หม่ำก็มีมุมมองแบบนี้เหมือนกัน
          M. ผมว่าอาจจะเป็นสไตล์ของผมที่ชอบดูหนังมาเยอะแยะ หลากหลายแนว ทุกอย่างที่เป็นหนังผมดูหมด ต้องถามก่อนว่าในวิธีของผม แบบหนังรัก อย่างเรื่องแหยม ก็จะเป็นหนังรักๆ อีกแบบหนึ่ง แต่พอมาถึงวงษ์คำเหลา ก็เป็นอีกแบบหนึ่ง แต่พอมาถึงใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน ยิ่งเป็นคนละอย่างกันนะ มันไม่ได้เล่าถึงว่า ผู้ชายมาแอบรักผู้หญิง หรือผู้หญิงแอบรักผู้ชายนะ แต่ในเรื่องใหม่กะหม่ำฯ คือใหม่หาผู้ชายมาทั้งชีวิตแต่ก็ไม่ได้เลย เพราะไม่เจอผู้ชายที่แบบว่าดีจริงๆ มีความจริงใจจริงๆ แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่อยู่ใกล้ตัวกันทั้งชีวิตไม่เคยมองกัน เหมือนกับประโยคหนึ่งในเรื่องที่แม่ใหม่ซึ่งแสดงโดยแม่แดงฉันทนาก็จะบอกกับใหม่ว่า เรื่องผู้ชายสงสัยจะไม่โดนนะลูก ถ้ามันโดนๆ ไปนานแล้ว จะมีไดอาล็อคของแม่อยู่อันหนึ่งที่บอก คือแม่จะให้กำลังใจตลอด คนที่คว้าหาผู้ชายมาทั้งชีวิตเพื่อที่จะให้เป็นหัวหน้าครอบครัวยังไงก็ไม่เจอหรอก เพราะมันไม่ใช่ไม่โดน แต่คนที่โดนเราอาจจะมองไม่เห็นก็ได้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่องที่พูดลำบาก แม้แต่ตัวละครที่เป็นหม่ำในเรื่อง ผู้หญิงก็มีเยอะแยะ ทำไมไม่ชอบ แต่ทำไมไปชอบกะเพรา เพราะคนมันโดนไงซึ่งไอเดียตรงนี้เกิดจากเรื่องจริงของคนที่เป็นแบบนี้จริงๆ อย่างหน้าปากซอยผมจะมีร้านตัดผมร้านหนึ่งที่ตัดประจำอยู่ ชื่อร้านตาโก้ แฟนเขาก็เหมือนกะเพรา ผู้ชายก็หน้าตาดีมีหนวดเฟิ้ม อันนี้ก็เป็นเรื่องจริงที่เขารักกันมากเลยนะ แต่ในหนังของผมมันจะมีอะไรที่พลิกซ้อนกันอยู่นิดหนึ่ง แต่ถามว่าคาแรคเตอร์ของหม่ำในเรื่องรักกะเพราไหม รักมากรักที่สุดเลย ทุกวันนี้ก็ยังรักและเป็นห่วง แต่มันมีเหตุการณ์บางอย่างที่มันพลิกผันและกลายเป็นเรื่องบานปลายใหญ่โต แต่เรื่องนี้ต้องบอกว่าสงสารกะเพรามากเลยนะ ก็เป็นหนังรักในแบบฉบับของผมนะ คืออาจะมีน้ำตาคลอเบ้าแต่อมยิ้มนะ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่แตกต่างออกจากหนังทุกเรื่องที่ผ่านมา

          Q. ซึ่งจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้พี่หม่ำเองก็เคยทำหนังรักมาก่อนถึง 2 เรื่องด้วยกัน
          M. สำหรับหนังรักอย่าง ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน เมื่อพูดถึงในเรื่องของความแตกต่าง มันจะไม่เหมือนความรักในเรื่องวงษ์คำเหลา หรือเรื่องรักแบบแหยมยโสธร คือมันเป็นความรักที่มากกว่าคำว่าเพื่อน และคำว่าเมีย มันมากกว่าคือคำว่าเมียกับเพื่อน เมื่อรวมกันแล้วมันเหนือกว่าทุกสิ่ง มันไม่สามารถแยกกันได้ว่าคนไหนเมีย คนไหนเพื่อน บางทีกะเพราก็เป็นเพื่อน ใหม่ก็เป็นเมีย คือในเรื่องต้องบอกว่าเป็นห่วงทั้งสองคน หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่แตกต่างจากหนังทุกเรื่องที่ผ่านมา จะบอกว่าเป็นหนังรักโรแมนติกก็ได้ จะบอกว่าเป็นหนังรักที่ใครก็คาดคิดไม่ถึงก็ได้

          Q. มาถึงในส่วนของการคัดเลือกนักแสดงทำไมนางเอกต้องเป็น “ใหม่ เจริญปุระ”
          M. นักแสดง ทำไมต้องเป็นใหม่ คือผมว่าใหม่เหมาะที่สุดที่จะเล่นเป็นเพื่อนในเรื่องนี้ เพราะว่าต้องบอกก่อนว่าตัวเองก็เป็นแฟนผลงานของใหม่ แต่ตอนแรกที่แคสท์นักแสดงยังนึกไม่ถึงใหม่นะ ไปนึกได้เอาตอนที่เมียไปร้องคาราโอเกะร้องเพลงใหม่อัลบั้มพุ่มพวง ตอนนี้บทเสร็จแล้วนะ จะเอาใครดีหว่า ชื่อเรื่องก็ยังไม่ได้คิด พอเห็นใหม่แล้วแบบมันโดนเลย ต้องเป็นใหม่ใช่เลย คือถ้าไม่ใช่ใหม่ก็คือไม่ใช่เลย แล้วโดนจริงๆ ในเรื่อง และใหม่เขาก็กล้าเล่นด้วยเล่นเป็นเพื่อนกันได้ ตบหัว ถีบกัน ได้หมด คือในเรื่องนี้ใหม่จะเป็นเหมือนตัวใหม่จริงๆ คือจะเป็นสาวร็อคๆ หน่อย เป็นสไตลิสต์แฟชั่น แม๊กกาซีน แบบของเขาอยู่แล้ว แล้วในเรื่องนี้คือใหม่เขาจะมีหมดเลยทุกอารมณ์ ทั้งเมา เศร้า ซึม ตลก แต่เขาไม่รู้ตัวหรอก สนุกเฮฮา ร่าเริง ซึ่งเหมาะมากกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ใหม่เล่นดีมาก

          Q. แล้วถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ใหม่
          M. ถ้าเป็นคนอื่นมาเล่นบทนี้ ลุคส์ของหนังจะเปลี่ยนไป มันจะไม่ใช่หม่ำ เป็นหม่ำกับใครก็ไม่รู้ ชื่อก็อาจจะไม่เป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ มานั่งนึกว่า ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน เออ มันใช่ล่ะ ทีนี้มาถึงเมียที่จะเล่นด้วย จะเอาผู้หญิงจริงๆ มาเล่น ผมก็ว่ามันจะไม่มีความแตกต่าง ก็เลยทาบทามโหน่งมาเล่นเป็นเมียไหม โหน่งก็งง ว่าเป็นเมียยังไง ก็คือแต่งผู้หญิงเลย โหน่งก็ว่าเออแปลกดี มันก็ได้เล่นเต็มๆ สักที เพราะมันก็บ่นว่าเล่นหนังผมไม่ได้เต็มๆ สักที มันมากราบเท้าเลยอ่ะ (หัวเราะ) ว่าได้เล่นแบบสมใจมันแล้ว คือตั้งแต่เรื่อง บอดี้การ์ด หรือเรื่องอื่นๆ ก็เอามาแจมๆ เฉยๆ จั๊กกะแหล๋นก็เอามาคลุมหน้าคลุมตา เรื่องนี้ก็ได้เล่นเต็มๆ ล่ะ ซึ่งต้องเป็นโหน่ง เพราะถ้าไม่ใช่โหน่ง หนังก็ไม่มีสีสัน ส่วนตัวผมก็จะนิ่งๆ นะ เป็นคนรักครอบครัวรักเพื่อน เป็นคนที่ไม่ได้ตลกอะไรด้วย แต่มันจะตลก สนุกเวลาที่อยู่ด้วยกัน เกิดสถานการณ์ต่างๆ ตลอด

          Q. คนดูจะได้เห็นใหม่ เจริญปุระลุกขึ้นมาทำอะไรหลายๆ อย่างที่รับรองว่าไม่เคยมาก่อนในหนังของผู้กำกับที่ชื่อว่า หม่ำ จ๊กมก
          M. ครับก็ตั้งแต่ฉากเมาเลยเมาแล้วเมารั่ว คือหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าใหม่เขาเมาเฉพาะเหล้านะ แต่คล้ายๆกับว่าเขาเมาชีวิตมากกว่า เมาผู้ชาย ซึ่งใหม่ก็เล่นได้ดี เล่นได้ชัดเจน ตัวใหม่เองเขาก็เป็นคนไม่ชอบทานพวกแอลกอฮอล์อยู่แล้ว แต่เขาก็เคยเห็นประสบการณ์จากเพื่อน คือเขาต้องเล่นแบบเมาปลิ้น คือถ้าแบบเพื่อนไปไม่ทันคงโดนผู้ชายอุ้มไปไหนก็ไม่รู้ แต่ว่ามันก็ยังมีสติอยู่ที่เมา เพราะยังโทรหาเพื่อนให้เพื่อนไปรับและคิดดูพอมันเมาปุ๊ปก็ต้องพามันไปนอนที่บ้าน และกะเพราเมียเราก็ต้องไปนอนโซฟาข้างล่าง คนเป็นเมียก็ต้องคิดสิ ว่าเออมาอีกแล้ว เมามาอีกแล้ว จนกะเพราก็ทนไม่ไหว ว่านี่บ้านหรือโรงแรมหรืออะไร ซึ่งตัวใหม่เองก็เล่นได้ค่อนข้างดี ผมว่าใช่เลยคือใหม่ แล้วยิ่งเวลาที่เราให้เขาพูดไดอาล็อคที่มันแปลกๆ คือเป็นภาษาพูดกับเพื่อน อย่างเราก็จะบอกว่า “ไม่ใช่เวลาเล่น มึงยังจะมาพูดเล่นอีก” คือมันไม่ควรไง คือตัวใหม่ได้บทไปเขาก็จะเอาไปอ่านไปท่อง ซึ่งบทของผมถ้าอ่านก็คือจะงง ก็ต้องบอกให้เขาลืมไปเลย เพราะเวลาถ่ายจริง ผมจะเป็นคนที่คิดคำใหม่มาเลย เพื่อให้ออกเป็นธรรมชาติที่สุด หรืออย่างในฉากเลิฟซีน คือเราก็ขำ บางทีไม่มีเสื้อผ้า พอเรานึกอยากพูดอะไรเราก็พูด แต่ใหม่ก็จะติดยิ้ม ติดอะไรของเขาไป พอเราเล่น ก็จะขำ ซึ่งใหม่ก็อาจจะไม่เคยได้ยิน ใหม่ก็จะแหยงๆ หู

          Q. ปกติแล้วที่ผ่านมาแทบไม่เคยเห็นใหม่ เจริญปุระในบทรีแล็กซ์ผ่อนคลายสบายๆ เลย จะเห็นบทดราม่าเข้มข้นมากกว่า
          M. คือปกติใหม่เขาจะเล่นหนังแต่แบบซีเรียสทั้งนั้น ดราม่าทั้งนั้น เรื่องก็แบบสบายๆ เรื่องแบบที่เขาไม่เคยเห็นกัน แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับใหม่นะ เพราะเขาก็ไม่เคยเล่น แต่ก็เล่นแบบสบายๆ ฮาๆ คุณแม่ของคุณใหม่ก็มากองบ่อย ทำกับข้าวอาหารใต้มาบ่อยมาก พอมาถึงซีนอารมณ์ก็สงสารใหม่เขาเหมือนกัน คือ มีซีนหนึ่ง เป็นซีนที่เราเลี้ยงลูก ก็เป็นซีนที่ใหม่ต้องคิดว่านี่หรือคนที่โดนสำหรับเรา ใช่เหรอ เลยทำให้เราคิดว่า เราเนี่ยะเป็นห่วงมันขนาดนี้แต่มันยังมาคิดอะไรอีก ที่ใหม่เขาจะต้องนั่งมองเราและก็ยิ้มซึ่งรับรองว่าคนดูจะอินไปกับหนัง

          Q. มั่นใจได้อย่างไรว่าพี่ใหม่จะถ่ายทอดและเล่นออกมาได้อย่างที่เราต้องการ
          M. คือใหม่เขาเป็นมืออาชีพ ต้องทำได้ กว่าจะเล่นก็ไปนั่งคุยกับใหม่เขา 2-3 รอบนะ ถามเขาว่าใหม่เคยมีเพื่อนไหม เพื่อนสนิท ที่แบบ เฮ้ย มึงเป็นไงบ้างวะ เอาแบบนั้นเลยคนนั้นเลยนะ ใหม่เคยถีบเพื่อน เตะเพื่อนไหม เอาแบบนั้นเลยนะใหม่ แล้วในเรื่องนี่ตบหนักด้วยนะ (หัวเราะ) เป็นซีนที่อยู่ในเธค ที่เราเมา ตบเปี๊ยะๆ คืออยู่ในผับไง ก็แบบ มึงไม่ต้องคิดมาก กูเจ็บมาเยอะ มันตบซะจนแบบลืมตัว ส่วนอีกซีนหนึ่ง คือ เอาขวดตีหัว มันใช่เวลาเล่นของมึงหรอไอ้หม่ำ คนจะขำเลยล่ะ เสียงดังสนั่นเลยล่ะ ขวดพลาสติกนะ ผมว่าเรื่องนี้ใหม่เล่นดีกว่าที่เราคิดไว้ ทีแรกกลัวก็ตรงที่ว่าจะไม่กลมกลืนในการถ่ายทอดความเป็นเพื่อนนี่แหละ เพราะว่ามันต้องสนิทกันจริงๆ แต่พอถ่ายวันแรกก็โอเคเลย หายห่วงเลย ซีนแรกนะ ซีนที่ขึ้นบันได กอดคอกันที่เมามาแล้วต้องพาใหม่ขึ้นไปนอนบนบ้าน

PR on June 03, 2011, 04:06:04 PM
          Q. ได้ข่าวมาว่ามีเกิดอุบัติเหตุเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันด้วยในฉากเมา เป็นไงมาไงแล้วใครกันที่เจ็บตัว
          M. คือซีนที่ถอดรองเท้า คือมันลื่น หงายตึ้งไปเลย ดีหัวไม่น็อค ก็ขำ ตลกตัวเองอยู่เหมือนกัน ตากล้องก็ขำกัน ก็ยังถ่ายต่อนะ ถ่ายต่อจนจบ แต่ทีมงานนี่ขำกันแล้ว มันดังตึ๊บเลยไง จุกก็จุก ก็คือในเรื่องเป็นฉากที่เราเมา เป็นคนเมาไง ไม่มีสติ คือทำอะไรแบบพิลึกๆ ซีนนี้ก็เป็นซีนที่เล่นสดเหมือนกันนะ ก็ตั้งใจใส่กันเต็ม แต่ดีที่ใหม่เขายังตามทัน ไอ้เราก็ลื่นหัวคะมำไปหงายหลังเรียบร้อย จนอีกวันที่ถ่ายก็ต้องให้ทีมงานหาหมอมานวดให้ก็กำกับไปนวดเส้นไป (หัวเราะ)

          Q. ตรงไหนที่ทำให้เราเชื่อมั่นว่าทำได้จาก บท แอคติ้ง แววตาหรือทุกเรื่องเลย เพราะย้อนหลังกลับไป 15 ปีพี่ใหม่ไม่ได้เล่นคอมิดี้เลย
          M. ผมว่าใหม่เป็นคนเข้าใจง่ายนะ ผมว่าใหม่ทำได้นะ ในหนังแนวตลกๆ กุ๊กกิ๊กๆ เพราะว่าใหม่เป็นคนที่มีฝีมืออยู่แล้ว ผมว่าเรื่องแค่นี้จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับใหม่ ก็ต้องทำความเข้าใจกับเขา ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมก็ได้คุยต้องให้เขาเข้าใจก่อนว่าเป็นเพื่อนกัน และมีเรื่องอะไรหรือกิจกรรมอะไรบ้างที่ต้องทำร่วมกัน ต้องบอกว่าเราอยู่ด้วยกันแบบสนิทสนมกันมากๆ คือทุกครั้งที่มีเราอยู่ก็คือช่วงที่เพื่อนมีปัญหาตลอด ทุกเรื่องตั้งแต่เด็กจนโต เขาก็เริ่มเข้าใจๆ เขามืออาชีพนะ

          Q. สำหรับในส่วนของตัวละครที่เป็นเมีย ซึ่งเล่นโดยโหน่ง ชะชะช่า
          M. คือเรื่องนี้ต้องบอกโหน่งก่อน ว่าต้องเป็นผู้หญิงจริงๆ นะ ไม่ใช่กะเทยนะ ต้องเล่นให้เชื่อให้ได้ว่าเป็นผู้หญิง จะเล่นแบบชิงร้อยไม่เอานะ เล่นสวยนะเอาแบบสวยเลย พี่ก็เล่นเป็นผัวจริงๆ ด้วย ก็บอกให้เขาเข้าใจ โหน่งก็โอเค มีร้องไห้ มีหลายอย่าง ต้องไปดูในหนัง ซึ่งตัวละครกะเพราตัวนี้มันจะต้องใช้อารมณ์มากๆ ในเรื่องความเป็นห่วงเป็นใยผัว ห่วงครอบครัวมันเป็นเรื่องใหญ่นะ โหน่งก็บอกได้พี่ๆ ทำได้ ก็ลองถ่าย เขาก็โอเคนะ เป็นเหมือนเมียจริงๆ เลย แล้วเราก็รู้สึกนะ ตอนที่นั่งตัดหนัง ช่วงที่เขานั่งรอผัว และคิดว่าผัวเข้าใจเราผิดเรื่องอะไร ซีนนี้โหน่งเล่นดีมากเลย สงสารโหน่งเลย หัวอกผู้หญิงที่รอผัวซึ่งไม่รู้ด้วยว่าผัวเป็นอะไรไม่ยอมกลับบ้าน แค่ไปเห็นภาพอะไรที่มันแบบไม่ใช่ ทั้งๆ ที่เขาจะอธิบายแต่เรากลับไม่ฟัง และไปขอเลิกเขาเลย ผู้หญิงเขารับไม่ได้นะ คำว่าเลิก สุดท้ายเขาก็เก็บอารมณ์ไม่อยู่ โหน่งก็เล่นดีมากเรื่องนี้ แล้วต้องบอกว่าอุปสรรคสำคัญในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่กะหม่ำ คือการที่ต้องถ่ายทำในช่วงหน้าร้อน เดือนมีนา เมษา แล้วโหน่งเขาต้องแต่งหน้าเยอะ พอเหงื่ออกขอบตามันก็ไหล ช้าตรงที่แต่งตัวนี่แหละที่ต้องทำให้โหน่งสวยด้วย พอเหงื่อไหลมันเลอะก็ต้องไปแต่งใหม่อีกเป็นชั่วโมง เรื่องเล็บเรื่องอะไรอีก ที่ต้องทำให้มันดูเหมือนผู้หญิง ต้องทำให้ได้ว่าเขาไม่ใช่กะเทยนะ ต้องให้รักเหมือนผู้หญิง สงสาร มันจะลำบากอีตรงนี้แหละ แล้วต้องบอกว่าเรื่องนี้จะเปลี่ยนคาแรคเตอร์จากเรื่องอื่นๆ ที่โหน่งเคยเล่นมา มันคนละอย่างกัน มันเหมือนหนังชีวิตเลยนะ ที่ผัวไม่เข้าใจ ในแบบฉบับบของผมนะ ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังอุ่นๆ ความฮามันมีอยู่แล้วแหละ แล้วหนังเรื่องนี้เป็นหนังอารมณ์ด้วย ถ้าฮาก็คือฮาด้วยอารมณ์ของหนังของเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวละคร

          Q. มีหม่ำมีโหน่งแล้วก็ต้องมีเท่ง เถิดเทิงขาดไม่ได้เลย
          M. เท่งที่มาในเรื่องนี้ก็ไม่เหมือนกับทุกๆ เรื่อง ซึ่งต้องไปคอยดูในหนังว่าเขาเป็นอะไร ตอนแรกคนจะไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นอะไร แต่พอเฉลยจะรู้ อยากให้คอยจับตาดูเวลาที่เท่งกับโหน่งเข้าซีนด้วยกัน มันจะเล่นหลุดกันสองคน แต่ก็ปล่อยให้เขาเล่นไปก่อน แล้วค่อยไปว่ากัน มันก็เล่นของมันไปเรื่อย (หัวเราะ) ไม่ห่วงคนตัดต่อ หรือใครหรอก เหมือนว่ามันอยู่ของมันสองคน แต่พอมาตัดเป็นภาพรวมแล้วก็โอเค อุ่นๆ ในเรื่องความมีมนุษยสัมพันธ์ ที่เป็นตัวตนของเท่ง ก็ต้องไปชมกัน

          Q. มีนักแสดงที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับตัวละครในหนังใหม่กะหม่ำ โดนกะโดนอีกหลายๆ คนเลยทีเดียว
          M. ในเรื่องก็จะมีพี่ชลิต จะเป็นบอสของคุณใหม่ ซึ่งทำงานเกี่ยวกับพวกโฆษณา จะฮาตรงพี่ตุ่ม และจะมีดางรุ่งอีกคนนะ ชื่อ บิวตี้ (โฆษณากาแฟเนเจอร์กีฟ) ก็จะฮา เป็นเลขาของพี่ตุ่ม (ชลิต เฟื่องอารมณ์) ซึ่งพี่ตุ่มก็ไม่ต้องบอกอะไรแกมาก คุณปั๋งประกาศิต โบสุวรรณ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะเอาตัวจริงของคุณปั๋งมาเลยล่ะ มาเป็นตากล้อง ซึ่งก็เข้าทางเขา เป็นทางเขาอยู่แล้ว ปั๋ง ประกาศิต แล้วทั้ง3คนในพาร์ทของฝั่งออฟฟิศใหม่ผมว่า คือ พี่ตุ่ม ปั๋ง และบิวตี้ คือจะเป็นอะไรที่เข้าขากันดี และเข้ากับใหม่ด้วยอีกคนหนึ่ง คือเหมือนจูนกันมาแบบชัดเจนมากเลย ซึ่งเป็นซีนในสตูดิโอเป็นซีนอารมณ์ ก็โอเค ส่วนพ่อแม่ของใหม่รับบทโดยแม่แดง และพ่อดม (อุดม ชวนชื่น) แม่แดง (ฉันทนา กิติยพันธ์) ก็เคยร่วมงานในวงษ์คำเหลามาแล้ว แกก็เข้าใจงาน เวลาแกเล่นก็จะยิ้มไปด้วยตลกไปด้วย คือคำไม่น่าพูดผมก็ให้แกพูดไง ซึ่งบางทีก็ถามว่าเอ๊ะ หม่ำคำนี้แปลว่าอะไรคืออะไร แต่แกก็แล่นได้ โอเค พ่อดมก็นิ่งๆ เล่นเป็นพ่อ

          Q. ทราบมาว่าเรื่องนี้พี่หม่ำมีต้องเล่นกับเด็กและกำกับเด็กด้วย
          M. ต้องมีถ่ายกับเด็ก คือโดยปกติ เวลาผมถ่ายหรือทำงานกับเด็กคือเราจะเป็นคนหงุดหงิดไง ก็จะให้ผู้ช่วยเขาคอยประกบ โดยเรามีความต้องการอยู่ในหัวแล้วว่าอยากได้อารมณ์เป็นแบบนี้ๆ ก็เหมือนกับเล่นกับงู กับหมา อย่างเด็กเขาก็ไม่รู้เรื่อง บางทีก็อยากเล่นแบบชองเขา อยากกินนม ก็ไปว่าเขาไม่ได้ เพราะเขาเป็นเด็ก เลยให้ทีมผู้ช่วยเขาคอยประกบ คอยตะล่อม ก็โอเค ซึ่งในหนังก็จะมีเด็กหลายแบบ หลายช่วงอายุอย่างเด็กเล็กๆ และ 4-5 ขวบ เด็ก 4-5 ขวบเนี่ยะแหละตัวดี กำลังซนเลยล่ะ

          Q. คิดว่าเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ตรงไหน อย่างไร และตอนที่เริ่มต้นคิดโปรเจ็คต์หนังเรื่องนี้ขึ้นมา อะไรคือสิ่งที่อยากให้คนดูได้รับจากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้         
          M. ผมมองว่าเป็นเรื่องของความรักมากกว่า ความรักกับเพื่อน รักกับครอบครัวและภรรยา เสน่ห์มันอยู่ตรงนี้แหละ ถ้าใครมีเพื่อนที่รัก อย่าพลาด และเป็นคนที่รักครอบครัวด้วย อย่าพลาดเรื่องนี้ และใครที่เป็นคนคิดมาก พยายามปรับความเข้าใจซะกับครอบครัว เพราะมันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ ส่วนถ้าเป็นเรื่องที่อยากจะให้คนดูได้รับจากหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องของความอบอุ่น ของครอบครัว ของคำว่าเพื่อน ที่มีต่อเพื่อน ที่ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อนให้ได้ เพื่อนจะตายยังจะตายกับเพื่อน โดยที่ไม่ห่วงเมียด้วย คิดดูว่าจะทำยังงั้นทำไม เพราะถ้าทำแบบนั้น กูก็ไม่มีเพื่อนแล้ว ชีวิตนี้ก็มีเพื่อนอยู่คนเดียว ถ้ามึงเป็นอะไรก็ขอเป็นด้วยดีกว่า คือเวลาคนที่มีปัญหาจริงๆ คนที่คิดถึงก็คือเพื่อนนะ พ่อแม่นี่มักจะมาทีหลังนะ นี่คือเรื่องจริงของคนเลยนะ จะต้องเป็นเพื่อนที่เราสนิทและเรารักมากๆ ผมว่าเป็นเรื่องจริง เหมือนกัน ตอนวัยรุ่นมีปัญหาก็มักจะคุยกับเพื่อนก่อน คือมันเป็นปัญหาของเรา ไม่ใช่ของพ่อแม่ ผมว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆนะ ก็อย่างในหนัง
          ขนาดตอนคลอด เราก็ยัอยู่เป็นเพื่อนตลอด เรารู้สึกว่ามันคือเพื่อน และก็จับมือมันให้มันเบ่ง อยู่เคียงข้างตลอด และพ่อแม่มันก็มาไม่ทันด้วย เหมือนกับว่าเราเนี่ยะเป็นทุกอย่างสำหรับมันในตอนนั้นเลยละ และมันก็พูดตลอดว่า หม่ำอย่าทิ้งกู อย่าไปไหนนะ

          Q. มาถึงตรงนี้ยังยืนยันว่าเป็นหนังตลกที่มีสัดส่วนในเรื่องการถ่ายทอดอารมณ์ที่มันอุ่นๆ ซึ้งๆ ตีตื่นขึ้นมาเยอะกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ที่เคยทำ
          M. คือเรื่องจะเป็นยังไง เราก็ยังไม่ลืมตัวเราด้วย คือก็ต้องมีแปะหัวแปะหน้าไว้ เป็นนิสัยไง เพราะไม่อยากให้คนซีเรียส เครียด ถึงบอกว่าทำหนังเครียดไม่เป็น และหนังรักแบบดราม่าก็ทำไม่เป็นหรอก แต่ก็ไม่แน่นะ เพราะเริ่มๆ มาล่ะ เริ่มจะเปลี่ยนแนว ยกตัวอย่างซีนคลอดลูก ซึ่งใหม่ก็ต้องใช้อารมณ์มากๆ คือเขาต้องรู้สึกว่าเขาคลอดลูกจริงๆ นึกถึงตอนที่เราแบบปวดท้อง เจ็บท้อง ก็บอกว่าให้ใหม่ลองนึกเอาล่ะกัน เพราะพี่ก็ไม่เคยท้องเหมือนกัน (หัวเราะ) ทีนี่มันก็จะมีซีนตลกๆที่สอดแทรก คือในฉากนี้เรามีพี่ค่อมมารับเชิญเป็นซีนที่เกิดขึ้นในห้องคลอด

          Q. อารมณ์ประมาณว่าดราม่า แต่พี่หม่ำก็ไม่วายที่จะสอดแทรกมุกแก๊กขำๆ ในแต่ละฉากด้วย
          M. ครับ อารมณ์ผมก็ยังขำ แล้วมันทิ้งไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมันจะต่อเนื่องกับซีนที่เราจะเล่าเส้นเรื่องในส่วนของตัวละครกะเพราด้วย คือเล่าเรื่องของตัวละครทั้งสาม จุดพลิกผันของตัวละคร และก็พยายามจะใส่มุกใส่แก๊ก คือซีนนี้คนดูจะขำไปด้วยสงสารไปด้วย แล้วเราต้องเล่นด้วยและต้องกำกับด้วยซึ่งสำหรับซีนนี้ คืออันนี้ผมว่าก็ฮามาก คือเราก็บอกใหม่ๆ ลองเบ่งๆ ดู ใหม่ก็บอก พี่หนูไม่เคยมีลูก พี่ก็บอกลองนึกเอา คือปกติทุกซีน เราสามารถเล่นแทนให้ดูก่อนได้ แต่มาเป็นซีนคลอดลูก เรานึกไม่ออก ไม่เคยท้อง แต่ใหม่ก็เล่นออกมาได้ดี

          Q. พูดถึงสไตล์การกำกับภาพยนตร์แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่อย่างพี่หม่ำเป็นนักแสดงมาก่อน และเป็นนักแสดงตลกด้วยก็จะให้น้ำหนักในการกำกับทั้งในส่วนของภาพรวมของหนังและการกำกับการแสดง
          M. คือทุกเรื่องที่ผมกำกับ ผมจะเล่นให้นักแสดงดูก่อน เป็นเรื่องปกติของผมนะ อยากให้เขาเล่นในแบบที่ผมอยากได้ แต่ถามว่าผมต้องเหนื่อย 2- 3 เท่า เพราะผมก็ต้องกลับไปนั่งดูมอนิเตอร์ด้วย แต่มันก็เป็นอะไรที่ผมชอบไง เพราะผมเป็นคนที่ชอบดูหนัง บางทีมานั่งนึกยังอายเลย คิดดู ไปเล่นให้พี่ชลิตดู สอนพี่ตุ่มเป็นกะเทย (หัวเราะ)

          Q. นั่นเป็นเพราะความสนใจใส่ใจของเรา
          M. คือมันไม่ได้เป็นเรื่องของความใส่ใจหรอก แต่มันเป็นเรื่องของความคิดความรู้สึกที่เรามีต่อภาพยนตร์มากกว่า เราเป็นดารามาก่อนเป็นตลก เป็นพิธีกร เลยเป็นเรื่องที่เราได้เปรียบ และชอบดูหนังด้วย พอมาทำเลยทำให้เรารู้สึกได้ว่ามันเป็นฟิล์ม มันไม่ชิงร้อย ไม่ใช่บิ๊กหม่ำ ก็ต้องแยกแยะออกให้ถูก

          Q. ทั้งๆที่ตัวเราเองก็ไม่ได้ร่ำเรียนมาทางด้านนี้
          M. จริงๆ แล้วผมว่าคนที่เรียนหรือไม่ได้เรียนภาพยนตร์มา ผู้กำกับหลายๆ คนก็ไม่ได้เรียนด้านนี้มา แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่า ว่ามันต้องเป็นแบบนี้ๆ เราก็รู้สึกได้เพราะเราเป็นคนดูหนัง ผมว่าผมไม่เข้าใจวิธีการมันนิดๆ หน่อยๆ แค่นั้นเอง นอกนั้นก็เรื่มๆ เข้าใจใช้คำใช้ภาษาไม่ถูกแค่นั้นเอง แต่พอเราเลาให้ทีมงานฟังเขาก็จะเข้าใจผม เพราะเราก็ใฝ่ที่จะเรียนรู้อยู่แล้ว คนอยากได้เรียนรู้ กับ คนไม่อยากเรียนรู้มันก็ต่างกัน คือมันต้องคิดไว้ก่อนแล้วตั้งแต่ก่อนที่จะเปิดกล้องถ่ายทำ บทเสร็จปั๊บ เราต้องรู้ว่ากล้องตรงไหน ภาพยังไง เราไม่รู้เรื่องการจัดแสง แต่ก็บอกได้ว่าเราอยากได้แสงประมาณไหน อารมณ์ของแสงแบบไหน ก็เอาแบบหนังเรื่องนี้ เราก็เอาหนังมาให้เขาดู โทนหนังแบบนี้ก็ต้องใช้แสงแบบนี้อย่างหนังเรื่องนี้ก็ต้องเป็นแสงแบบอุ่นๆ เพราะเป็นความรักของเพื่อน กับความรักครอบครัว ขาวๆ ฟ้าๆ ไหม มันก็ต้องมีในหัวเราด้วย รวมไปถึงโทนลุคส์สีสันของเสื้อผ้า ผมต้องบอกฝ่ายเสื้อผ้าว่า ใหม่เขาเป็นคนร็อคๆ ก็เอาเสื้อผ้าแบบตัวตนเขาเลย ให้เป็นปัจจุบันของเขา ให้เขาเอาชุดเขามาเลย เรื่องเสื้อผ้าจะได้ไม่ต้องพะวง แต่ส่วนกะเพราคือต้องเวอร์ขึ้นมา เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างตัวใหญ่ เสื้อผ้าก็ต้องแนวบราซิล จาไมก้าหน่อยไหม แตกต่างจากความเป็นจริง ส่วนผมก็จะเป็นแบบเรียบๆ ทำงานเป็นไกด์ เสื้อผ้าก็ไม่ต้องเน้นมาก กางเกงขาสั้นใส่หมวกหน่อยหนึ่ง เพื่อเปลี่ยนลุคส์บ้าง เพราะหนังเรื่องอื่นผมของผมสั้นไง ทุกอย่างก็พยายามที่จะสื่อจะถ่ายทอดออกไปให้ดีที่สุด ลงตัวที่สุด สื่อความหมายให้คนดูเข้าใจ อย่างลายเสื้อของเราที่เป็นไกด์ก็จะมีลายยีราฟ ดูแล้วก็เหมือนตัวเราด้วย ก็ต้องไปดูเอาว่าลายเสื้อ ที่เป็นลายไพ่กับยีราฟ มันมีความหมายยังไงในหนัง เพราะจะอยู่ในเหตุการณ์ในฉากที่แตกต่างกัน ก็เล็กๆ น้อยๆ อะไรที่เราคิดได้ทำได้ เราก็พยายามเต็มที่

         
          Q. ท้ายนี้ก็อยากให้ฝากผลงานด้วย
          M. ก็อย่าลืมนะครับ วันที่ 23 มิถุนายน ไปชมกันครับ อุ่นๆ ใสๆ ฮาๆ แบบฉบับของเพื่อน เรื่อง ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดนครับ

PR on June 06, 2011, 06:12:40 PM
ระดมทีมงาน “ใหม่หม่ำฯ” เนรมิตซีนโรแมนติค “14 ปีสวีทวี๊ดวิ้ว หม่ำ-โหน่งพร่ำรำพันลำนำรักกับดินเนอร์สุดฮา”

 

          บางคนตามหารักแท้มาทั้งชีวิต เจอคนที่ใช่ก็กลับไม่โดน ส่วนเวลาเจอคนที่โดนก็กลับไม่ใช่ แต่ถ้าถามเหตุผลว่าแล้วคนแบบไหนกันที่จะทั้ง “โดนและใช่” แน่นอนว่าร้อยคนก็ร้อยความคิด แต่สำหรับ “หม่ำ”ที่มี “ใหม่” เป็นเพื่อนหญิงซี้สุดสุดแล้ว ก็คงมีแค่เพียง “กะเพรา” (รับบทแบบทุ่มสุดตัวโดย โหน่งชะชะช่า) เท่านั้นที่อยู่ในใจมาตลอด และนี่เป็นที่มาของฉากสวีทหวานระหว่าง “หม่ำกับกะเพรา” ที่มาไพรเวทดินเนอร์ฉลองความรักความสัมพันธ์ที่เบ่งบานกันมาตลอด 14 ปีแบบเอ็กซ์คลูซีฟส่วนตัวสุดๆ โดยงานนี้ผกก.หม่ำสั่งทีมงานระดับพระกาฬทั้งในส่วนโปรดักชั่นดีไซน์ ฝ่ายออกแบบงานสร้าง ทีมอาร์ท ประสานงานประสานงาแท็คทีมร่วมกับทีมเสื้อผ้า-หน้าผม ที่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มือโปรเฟซชั่นแนลเข้าขากันสุดๆเพราะล้วนผ่านมือร่วมงานกันมาตั้งแต่ แหยมยโสธร,วงษ์คำเหลา ฯลฯ ชนิดที่ว่ามองตาก็รู้ใจ ไก่มองตีนงู งูเห็นนมไก่กันเลยทีเดียวจัดเต็มทุกองค์ประกอบฉาก พร็อพข้าวของทั้งหมดทุกอย่างที่ปรากฏในฉากต้องออกมาเป๊ะๆๆ ทั้งแก้วไวน์ เชิงเทียนสุดหรู ให้เข้ากับบรรยากาศดินเนอร์ 14 ปีแห่งความหลังของ “หม่ำ-กะเพรา” ที่ต้องเริ่ดสุดๆ แถมเสื้อผ้าหน้าผมของทั้งหม่ำ และโหน่งคัดสรรมาแบบจัดเต็มโดยเฉพาะหมวกปีกกว้างสุดเท่ห์เก๋เริ่ดของกะเพรา โดยฉากนี้คนดูจะได้เห็นภาพความรักความหลังและการพรั่งพรูถ้อยคำรักที่ต่างเอ่อล้นออกมาจากปากของทั้งตัวหม่ำเองและตัวกะเพราไม่ว่าจะเป็นลำนำรัก คำพร่ำเพ้อพรรณาสารพัดที่ต่างสรรหากันมาบรรยายสรรพคุณที่ต่างฝ่ายต่างมีต่อกันอย่างไม่จบสิ้น ชนิดที่รับรองว่าคนดูจะฮาไปกับฉากนี้อย่างต่อเนื่องแบบนั่งไม่ติดเก้าอี้อย่างแน่นอน

แต่ถึงฟังดูแล้วเหมือนว่าจะเป็นฉากสวีทแหวววี๊ดวิ้วหวานสุดสุดในแนวทางของหนังโรแมนติค-คอมิดี้ แต่ขอโทษ เมื่อนี่คือหนังของผู้กำกับตลกซุปตาร์มือ 1 สุดทะเล้นอย่าง “หม่ำ จ๊กมก” ย่อมไม่มีอะไรที่ธรรมดาสามัญตามสูตรเป๊ะอย่างแน่นอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งลีลาการปล่อยมุกกันไม่เว้นวายของทั้งตัว “หม่ำ จ๊กมก” เอง และ“โหน่ง ชะช่า” ชนิดที่ว่าต่างฝ่ายต่างไม่มีการยินยอมปล่อยให้หลุดมุกกันไปแม้แต่เม็ดเดียวกันเลย

          “ก็สำหรับซีนนี้ โหน่งว่าเป็นโรแมนติคซีนแบบจ๋าๆ เลยทีเดียว อารมณ์ประมาณว่าดินเนอร์เพ้อรำพันซึ่งทั้งคู่มาทานข้าวมื้อค่ำฉลองกันกับความรักตลอดระยะเวลา 14 ปีที่คบกันมา มันเป็นฉากที่น่ารักๆ คือสามีตามใจภรรยา ต่างคนต่างอยากเซอร์ไพรส์พูดถึงเรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมา มันก็เหมือนชีวิตคู่ที่เกิดขึ้นจริง แต่ในเรื่องนี้ 14 ปีก็คือ 14 ปีแห่งความหลังที่กะเพราะและหม่ำอยู่ด้วยกันมา ก็ต่างฝ่ายก็จะเอื้อนเอ่ยวาจากันพูดถึงว่า เออ หม่ำจำได้ไหม เราเจอกันที่ไหน เราเคยทำความประทับใจอะไรให้กัน ซึ่งซีนนี้เสน่ห์มันอยู่ที่คำรักจากปากของกะเพรากับหม่ำนี่แหละ ไม่รู้คิดกันได้ไง (หัวเราะ) แหมแล้วแต่ละคำนี่ไม่น่าเชิญชวนให้มาอยู่ในซีนอะไร ฉลองอะไรหวานๆ อย่างนี้เลย ซึ่งต้องไปดูไปฟังในซีนนี้กัน แล้วเล่นกันเองก็ขำกันเองนะทั้งโหน่งทั้งพี่หม่ำ และสุดท้ายมาอีกละ มีตัวมารเข้ามาคือพี่ใหม่มาทำให้เกิดเรื่องอีกแล้ว แหมคือมันกำลังดีๆ กันอยู่ กำลังสร้างความรู้สึกประทับใจกันอยู่ดีๆ ในฉากนี้ กำลังจะมีความสุขกันแท้ๆ แล้วอีกนิดเดียวเอง ทำใหเหตุการณ์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งอันนี้ก็ต้องไปดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น เฮ้อ!! ให้มันได้ซะอย่างนี้ตลอด!!! อีใหม่ อีปาติ้งแกซ” (เสียงอุทานของโหน่ง)”

เกิดอะไรขึ้นในฉากหวานๆโรแมนติคแต่ฮากันแบบไม่ต้องหลบต้องซ่อนของหม่ำโหน่งและแถมพกด้วยก้างชิ้นโตอย่างใหม่ เห็นทีต้องไปสัมผัสกันดูในโรงภาพยนตร์กับ “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” 23 มิ.ย.นี้ทุกโรงภาพยนตร์จ้า

Google on June 08, 2011, 06:58:17 PM
“โหน่งชะชะช่า” ทุ่มสุดตัว พลิกคาแรคเตอร์ 108 ตลบ ใน “ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน”


 
          “โหน่งชะชะช่า” ทุ่มสุดตัว พลิกคาแรคเตอร์ 108 ตลบ ใน “ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน” จับตาดู “กะเพรา-เมียหม่ำ” ทั้ง “ใช่” และทั้ง “โดน” บทเดียวที่คนดูจะทั้ง รัก สงสาร และฮาน้ำตาเล็ดไปพร้อมๆ กัน

          Q. โหน่ง ชะช่าผ่านผลงานในวงการบันเทิงมากี่ปีแล้ว ทราบมาว่าผ่านบทบาทการแสดงในงานภาพยนตร์มาก็ไม่น้อย ครั้งนี้แฟนๆ จะได้เห็นบทบาทที่แตกต่างไปจากเดิมของ “โหน่ง ชะชะช่า”อย่างไรบ้าง
          N. โหน่ง ชะชะช่านะครับ ผมอยู่ในวงการมาก็ 20 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่อายุ 11 ตอนนี้ก็ 38 ย่าง 39 แล้ว เข้ามาตอนแรกก็เต้นหางเครื่องเพลงลูกทุ่ง ส่วนงานหนังแต่ละเรื่องที่ผ่านมาก็หลากหลายคาแรคเตอร์ เป็นทั้งคนเมา เป็นเซียนพระ เป็นนักเลง ฯลฯ เป็นอะไรที่หลากหลายเหมือนกัน บางครั้งผมก็กลับมานั่งไล่ดูแต่ละเรื่องที่แสดงผ่านไปแล้ว ก็มานั่งคิดนั่งปรับนั่งนึกว่าเราจะไปพัฒนาต่ออะไรอย่างไร เพราะอย่างเวลาที่ผมเห็น พี่นก ฉัตรชัย พี่นก สินจัย อาเอกสรพงษ์ ชาตรี รุ่นใหญ่ๆ รุ่นครูรุ่นพี่ที่ว่าเอ๊ะทำไมเขาเปลี่ยนคาแรคเตอร์ไปเรื่อยๆ หลากหลาย ทำไมเขาทำได้ และทำได้ดีด้วย ก็เหมือนเป็นครูบาอาจารย์นะ เหมือนให้เราเจริญรอยตาม ผมก็จะเอาแต่ละจุดของรุ่นพี่ๆ แต่ละคน เอามาใส่ในตัวเอง มาประยุกต์กับตัวเองเหมือนกันหรืออย่างที่เห็นเวลาผมแต่งหน้าเอ็ฟเฟ็คท์ ใส่เสื้อผ้าอะไรแบบนี้ ผมก็จะเป็นคนแต่งเองนะ ออกแบบเอง คือโดยส่วนตัวผมรักผมชอบสนใจในงานด้านนี้อยู่แล้ว อย่างพอผมเห็นผู้ชายอ้วนๆ ก็นึกว่าทำไมเขาใส่เสื้อผ้าแบบนี้ ทำไมไม่ใส่แบบนั้น จริงๆ ต้องใส่แบบนี้ หรือรองเท้าแบบนี้ เหมือนเราจินตนาการให้เขาไป หรืออย่างตอนผมถ่ายละครกับ พีท ทองเจือ เห็นเขาหล่อ แต่พอจะใส่เสื้อผ้าแบบเขา มันก็ไม่ได้ไง ก็เหมือนภาพยนตร์เรื่องนี้แหละ มันไม่น่าจะเป็นผู้หญิงจริงๆ ถ้าเป็นกะเทยก็ต้องเรียกกะเทยควาย แต่เรื่องนี้ผมเป็นผู้หญิงจริงๆ เล่นเป็นเมียพี่หม่ำ

          Q. งั้นต้องเล่าให้ฟังแล้วละว่าบทบาทที่ได้รับของ“โหน่ง ชะช่า”ใน“ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน”ที่ว่ากันว่าโดดเด่นมากๆเป็นอย่างไร
          N. ครับ พูดถึงบทกะเพราที่ผมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” จริงๆ แล้วบทที่เล่นในหนังเรื่องนี้โดดเด่นมาก หมายความว่าโดดเด่นกว่าเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา เอาตั้งแต่ในเรื่องของเสื้อผ้าหน้าผมการแต่งตัว จะแต่งตัวเยอะ ชอบสีสัน และก็มีครอบครัวเหมือนคนอื่นทั่วไป เพียงแค่ไม่มีลูก ส่วนกะเพราในเรื่องก็จะมีอาชีพเป็นช่างเสริมสวย ซึ่งในร้านเสริมสวยก็จะมีเพื่อนๆ อย่างพี่กิ๊ก (โคกคูนตระกูลไข่) น้องเป้ยที่เป็นช่างเสริมสวยด้วยกัน โดยจะมีพี่หม่ำที่เล่นเป็นผัวจริงๆ และที่สำคัญก็จะมีตัวที่เปรียบได้กับตัวมาร คือในเรื่องโหน่งกับพี่หม่ำจะรักกันมาก อย่างพี่หม่ำก็จะตามใจกะเพรา แต่จะขัดใจกันอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องเพื่อนที่รับบทโดย พี่ใหม่ เจริญปุระ คือที่ผ่านมาในชีวิตก็จะอยู่กันเป็นคู่รักที่มีความรักที่โรแมนติกมาก แต่ทุกๆ ครั้งที่จะโรแมนติกกันเนี่ยะก็จะมีพี่ใหม่เข้ามาพัวพันตลอด จนอดคิดไม่ได้ว่าตกลงแล้วระหว่างเพื่อนกับเมียพี่หม่ำจะเลือกใคร พี่ใหม่จะเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวเราเหมือนขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง ทำให้เราคิดว่าพี่หม่ำเหมือนไม่แคร์เมีย คือแคร์แต่เพื่อน เลยทำให้กะเพราคิดว่าหม่ำไม่รักกะเพรา เรื่องการหึงหวงในเรื่องมีน้อย ประเด็นคือเหมือนหม่ำไม่ห่วงเมีย ห่วงแต่เพื่อนเกินไปรึเปล่า

          Q. ดูจากลักษณะแล้วหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นกะเทยร่างยักษ์ ใช้กำลังหรือวี๊ดว๊ายกระตู้วู้ฮู้ เหมือนที่เราเคยเห็นในหนังตลกทั่วไปรึเปล่า
          N. ไม่ใช่นะ จริงๆ แล้วตัวกะเพราจะเป็นผู้หญิงรักความสงบ ไม่ตบไม่ตี ไม่มีปากเสียงกับใคร ก็จะมีบ้างที่จะเม้าส์กับเพื่อนหรือลูกค้าที่มาที่ร้าน เพราะลูกค้าจะติดกะเพรามาก เพราะบริการดีคุยเก่ง ไม่เคยทะเลาะกับใครถึงแม้จะตัวใหญ่แต่ใจดี ก็คือจะมีที่น้อยใจพี่หม่ำบ้าง อย่างบางทีนอนๆ กันอยู่ก็จะมีแบบพี่ใหม่โทรมาอยากให้ออกไปหา ถึงจะ ตี3ตี4 พี่หม่ำก็ต้องออกไป ไม่แคร์ความรู้สึกของเมียบ้างเลย แต่ในเรื่องนี้คือตัวกะเพราก็ไม่ได้โกรธนะ แค่คิดอย่างเดียวน้อยใจ ว่าทำไมผัวเราแคร์เพื่อนมากกว่าเมีย คือถ้าถามว่าในใจของพี่หม่ำถ้ามีพี่ใหม่อยู่ในใจ ก็คือมีโหน่งอยู่ในใจด้วย แต่เหมือนพี่หม่ำเขาจะแคร์เพื่อนมากกว่า จริงๆ แล้วพี่หม่ำไม่รู้เลยว่าเมียนะคิดอยู่นะ

          Q. ย้อนกลับไปตอนที่พี่หม่ำทาบทามแล้วพูดถึงตัวละครกะเพราที่อยากให้เราเล่น
          N. พี่หม่ำมาบอกก่อนเลยเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องใหม่กะหม่ำฯ เกี่ยวกับคาแรคเตอร์ของโหน่งว่าต้องเป็นแบบนี้นะ คือ 3 คน โหน่ง พี่หม่ำ และพี่ใหม่ คาแรคเตอร์จะแตกต่างกันไป การแต่งตัวของโหน่งในเรื่องนี้ คือบางคนจะคิดว่าเหมือนในชิงร้อยไหม แต่คือเรื่องนี้การแต่งตัวจะแตกต่างออกไป เพราะจะแต่งเป็นผู้หญิง เล่นเป็นผู้หญิงเลย อารมณ์ก็มีทั้งขำ เศร้า สนุก มีอยู่ในตัวของผู้หญิงคนนี้ทั้งหมดเลย บางคนมองว่าแบบนี้ก็เคยเห็นแล้วในชิงร้อย แต่จริงๆ แล้ว เวลาแต่งในชิงร้อยจะอีกอารมณ์หนึ่ง จะเน้นสนุกสนานเฮฮา แต่นี่คือแต่งเป็นผู้หญิงจริงๆ เนียนเลย ได้เมคอัพช่างแต่งหน้าช่างผมที่มาตั้งใจแต่งให้สวยเลย แล้วตอนพี่หม่ำบอกทีแรกจริงๆจะมีเลิฟซีนด้วยนะ (หัวเราะ) แต่โหน่งว่าน่าจะเป็นแบบน่ารักๆ ดีกว่านะพี่หม่ำ เป็นอารมณ์อย่างพี่หม่ำเอาอกเอาใจเมียมากกว่า คือเราจะคุยกันตลอดตั้งแต่ตอนอัดชิงร้อยแล้วเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ตัวละคร เรื่องราวของหนัง

          Q. ที่สำคัญคือแตกต่างจากหนังพี่หม่ำทุกเรื่องที่โหน่ง ชะชะช่า เคยเล่นมา
          N. เล่นหนังพี่หม่ำมาก็ทุกเรื่องเลยนะ แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยเยอะ เข้ามาแจมบ้างนิดหน่อย แต่เรื่องนี้คือเต็มๆ ของโหน่งเลย พี่หม่ำบอกเรื่องนี้พี่จัดเต็มให้โหน่งเลย เป็นเรื่องที่โหน่งต้องมาเช้ามากเพื่อมาแต่งตัว ทาเล็บ ทำผม ทุกอย่างต้องเป็นผู้หญิงเลย คืออย่างถ้าเป็นเรื่องอื่น ถ้านัด 9 โมง โหน่งไป 9โมงก็ทัน แต่เรื่องนี้ถ้านัด 9 โมง โหน่งก็ต้องมา ตี5 หรือ6 โมง คือต้องมาก่อนเพื่อเตรียมตัวก่อนถ่าย และพี่หม่ำก็จะบอกตลอดว่าอย่างพรุ่งนี้โหน่งต้องถ่ายฉากไหนบ้าง เพื่อที่จะทำให้เราได้คิด เหมือนฉากที่เราต้องมีปากมีเสียงกันไม่ใช่ทะเลาะนะ คือแค่น้อยใจผัว พี่หม่ำก็คุยกับเราว่า ควรจะเป็นยังไง คำพูดควรใช้แบบไหนที่จะเหมาะแบบผัวเมียคุยกัน แล้วจะไม่หยาบจนเกินไป ไม่ใช่มาด่ากัน เรื่องนี้ไม่มีด่ากัน แค่เหมือนผัวเมียอยู่ด้วยกัน เพียงแต่มีตัวพี่ใหม่เข้ามาที่ทำให้เกิดเรื่องต่างๆขึ้นมา ตัวพี่ใหม่เข้ามาก็เลยเหมือนกับว่าทำให้พี่หม่ำลืมเมียไปชั่วขณะ ไม่คิดถึงหัวอกเมียเลย

          Q. ที่เห็นชัดๆ และเป็นไฮไลท์มากๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องชุดเสื้อผ้า หน้าผม การแต่งตัวของบทกะเพราที่ได้รับค่อนข้างโดดเด้งมากๆ
          N. มันแตกต่างจากเรื่องอื่นๆเยอะเลย อย่างเรื่องที่ผ่านๆ มาก็สบาย ใส่ขาสั้นก็ถ่ายได้แล้ว บางทีไม่ต้องเปลี่ยนชุดเลย ผมเป็นคนชอบใส่ขาสั้นอยู่แล้วคือมันสบายๆ มาทุกเรื่อง มาถึงก็พร้อมถ่ายได้เลย เพราะปกติผม พี่หม่ำ พี่เท่งแทบไม่ต้องแต่งหน้าเลย แค่แป้งเด็กรองพื้นเท่านั้นเอง ก็จะเป็นที่รู้กัน แต่สำหรับเรื่องนี้คือต้องเตรียมตัว ในเรื่องการแต่งตัว เสื้อผ้า ทุกอย่างต้องเข้ากันหมด และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แทบจะไม่ได้กินข้าว เพราะต้องทำโน่นทำนี่ กว่าจะเปลี่ยนชุด หลายอย่าง มันลำบากตรงนี้ คือทุกอย่างทำอะไร ต้องอยู่กับพี่ๆ แต่งหน้าตลอด จะเข้าห้องน้ำก็ต้องถอดเสื้อผ้า ถอดโน่นถอดนี่ ผิดกับทุกเรื่องที่ผ่านมา ที่เราจะดูแลตัวเองได้ เรื่องนี้พี่ๆก็จะดูแลเราเต็มที่เลย เกาะติดสถานการณ์ตลอด ถามว่าทีมงานที่ต้องมาช่วยเปลี่ยนโหน่งให้เป็นกะเพราเยอะมั้ย อย่างสมมติถ่ายฉากหนึ่งแล้วต้องเปลี่ยนชุด ก็ประมาณ 5-6 คนนะ เกือบ 10 คนนะผมว่า บางทีไม่พอต้องเรียกมาเสริม (หัวเราะ) เพราะถ้าวันไหนถ่ายหลายๆ ฉากหลายชุด ก็ต้องมีประมาณ 10 คนได้ อย่างบางทีถ่ายข้างนอกไม่ได้ถ่ายในสตูดิโอ อย่างของกะเพราก็จะมีถ่ายบนดาดฟ้าตึก ถ่ายบนรั้วกำแพง ถ่ายริมถนนข้ามสะพาน ซึ่งอากาศก็จะร้อนมากด้วย แล้วผมเป็นคนขี้ร้อนด้วย มันก็รู้สึกแบบ เข้าห้องน้ำไม่สะดวกสบาย หรือถึงถ่ายในอินดอร์ ร้านเสริมสวย หรือในบ้าน ก็ยังพอมีแอร์ มีพัดลม แต่พอแอ็คชั่นก็ต้องปิดหมดเพราะไม่งั้นเวลาอัดเสียงจะมีเสียงพัดลมเสียงแอร์เข้าก็ไม่ได้ สำหรับผมสำหรับคนอ้วนคนหนึ่งที่ต้องมาเล่นเป็นผู้หญิง ต้องมานั่งทาเล็บ แล้วผมเป็นคนที่แบบไม่ชอบมานั่งใส่อะไรแบบนี้อยู่แล้ว มันไม่ใช่ตัวผม แต่ก็ต้องมาใส่ แต่อย่างแต่งหน้าก็โอเค แต่ต้องมาใส่ขนตาด้วยซิ แล้วเสื้อผ้าก็มีหลายชุดเลยที่พี่หม่ำเตรียมไว้ ฝ่ายเสื้อผ้าเตรียมไว้ แต่บางชุดพี่หม่ำก็ว่ามันไม่สวย ภาษาชาวบ้านก็แบบตอแหลไป กำไร สร้อย และการแต่งหน้าก็ต้องเข้ากับการแต่งตัวด้วย ผมว่ามันยาก และอย่างเวลาผมเหนื่อย ผมก็จะกินไงก็ตามประสาคนอ้วน ขี้ร้อน กินจุ อึดอัด อย่างเวลากินอะไรก็กินเยอะ แต่มันก็ไม่ถนัด ด้วยชุด ด้วยการแต่งหน้า ถ้าเลอะเทอะก็ต้องมาแต่งใหม่อีก เลยไม่กินดีกว่า แต่เรื่องนี้จัดเต็มนะ พี่หม่ำจัดเต็ม คือพี่หม่ำอยากให้ทำอะไรคือผมก็ทำเต็มที่ให้เลย

          Q. ทราบมาว่าบทกะเพราเป็นบทที่เข้มข้น เน้นอารมณ์ จะดราม่าตลอดเมื่อเทียบกับตัวละครอื่นๆ ในเรื่องไม่ว่าจะเป็น เศร้า สุข น้ำตาไหลชนิดที่ว่าพี่หม่ำบอกว่าคนดูจะรักและสงสารกับตัวละครตัวนี้แต่ก็จะอดขำและหัวเราะไม่ได้
          N. ในเรื่องนี้โหน่งก็เจอแบบเน้นๆ หลายฉากหลายซีนเลย ซึ่งก็ยากมากเช่นฉากฆ่าตัวตาย คือในฉากนั้นจะมีหลากหลายอารมณ์จะเศร้า เสียใจ ร้องไห้ ทุกอย่างมันรวมในฉากที่จะฆ่าตัวตาย บางทีคนเรามาถึงจุดหนึ่งหาทางออกไม่ได้ คิดไม่ออก ก็เลยตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย เพราะทุกอย่างประดังเข้ามา อย่างฉากกระโดดตึกนั้นเป็นซีนอารมณ์นะ แต่มันค่อนข้างจะตลกและก็น่าสงสาร แต่ในใจก็คิดนะว่าจะฆ่าตัวตายเหรอ ? ทุกอย่างมันรวมกันหมดในฉากนี้ แต่มันจะออกมาน่ารักน่าสงสารก็ตรงที่ผู้ชายคนหนึ่งมาเล่นเป็นผู้หญิง แล้วจะฆ่าตัวตายจากการคิดน้อยใจสามีแต่พอตัดสินใจฆ่าตัวตายแล้วมันก็ดัน.......ไม่บอกต้องไปดูเอาเอง ในเรื่องคนดูจะสงสารตรงที่เราจะฆ่าตัวตายแต่สุดท้ายคนก็จะฮากับอีกมุมหนึ่งของหนังที่ผู้กำกับต้องการนำเสนอออกมา มันจะคละเคล้ากันไปมีเศร้า เสียใจ หัวเราะ ซึ่งไอ้เรื่องแบบนี้ก็มีแต่คุณพี่หม่ำนี่แหละคิดได้ (หัวเราะ) หรือจะเป็นโรแมนติคซีนซึ่งมีอยู่ฉากหนึ่งที่เล่นกับพี่หม่ำเป็นฉากกินข้าว เป็นฉากความรัก 14 ปีที่คบกันมา มันเป็นฉากที่น่ารักๆ คือสามีตามใจภรรยาต่างคนต่างอยากเซอร์ไพรส์พูดถึงเรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมา มันก็เหมือนชีวิตคู่ที่เกิดขึ้นจริง แต่ในเรื่องนี้ 14 ปี คือ 14 ปีแห่งความหลังที่เราอยู่กันมา เราก็พูดถึง จำได้ไหมเราเจอกันที่ไหนเราเคยทำความประทับใจอะไรให้กันและสุดท้ายมาอีกละ มีตัวมารเข้ามาคือพี่ใหม่มาทำให้เกิดเรื่องอีกแล้ว คือมันกำลังดีกันอยู่รู้สึกประทับใจฉากนี้ กำลังจะมีความสุขกันแล้วอีกนิดเดียว ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมันป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เราเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

          Q. ฟังๆ ดูแล้วตัวหนังก็จะคลุกเคล้าไปด้วยเรื่องโรแมนติคและคอมิดี้ที่มีอารมณ์ความดราม่าของเรื่องราวเข้ามาเกี่ยวข้อง
          N. ก็จะโรแมนติคแล้วก็ขำ ไม่รู้เป็นอะไรของคุณหม่ำเขาจะอารมณ์นี้ตลอดทั้งเรื่องคือจะมีเรื่องความฮาแทรกทุกเหตุการณ์ ถามว่าจริงๆแล้วหนังเรื่องนี้เป็นหนังคอมิดี้ดราม่า โรแมนติกนะ แต่มีทรอดแทรกไว้ตลอด เวลาพอดราม่าปั๊บ โรแมนติกปุ๊บ ก็ตามมาเลยจะสลับกันคือหาเรื่องให้คนดูยิ้มขำอีกละ ดูแล้วไม่เบื่อเพราะจะมีหลากหลายอารมณ์ ลำดับการเดินเรื่องดีมาก ส่วนตัวรู้สึกชอบ เดินเรื่องแบบสวย หรืออย่างมีซีนที่พี่หม่ำมาบอกเลิก คือเวลาคนเราบอกเลิกกัน ยังไงก็ต้องซีเรียสใช่มั้ยครับ แต่ทำไมมันกลับกลายเป็นซีนที่ฮาแล้วก็ขำก็ไม่รู้ ซึ่งตอนถ่ายซีนนี้น่าจะถ่ายกันอยู่หลายเทคเหมือนกันกว่าจะผ่านไปได้ มันเป็นเรื่องเศร้าที่ไม่น่าสนุกสนาน แต่กลับสนุกสนานอยากให้ไปดูเพราะซีนนี้ทั้งฮาทั้งเหม็น (หัวเราะ)

          Q. นอกจากที่ต้องเข้าฉากกับ “พี่หม่ำ” และ “พี่ใหม่” แล้ว “โหน่ง” ยังต้องมีเข้าฉากกับ “พี่เท่ง เถิดเทิง” ด้วย
          N. คือในภาพยนตร์เรื่อง ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน จะมีอีกหนึ่งตัวละคร ซึ่งแสดงโดยพี่เท่ง เถิดเทิง ซึ่งเป็นตัวละครที่สำคัญในเรื่องเหมือนกัน เล่นเป็นโกสน ซึ่งเป็นเพื่อนของกะเพรา เป็นเพื่อนรักกันมาก คืออย่างถ้าจะบอกว่าใหม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของหม่ำ กะเพราก็เป็นทุกอย่างของโกสนเหมือนกัน โกสนเป็นตัวละครที่เหมือนกับว่าพระเจ้าส่งมาเพื่อพิสูจน์ความรัก

          ความสัมพันธ์ของตัวละครทั้ง 3 คน คือหม่ำ ใหม่ และกะเพรา ซึ่งบอกได้เลยว่าการทำงานกับพี่เท่ง และพี่หม่ำ เราจะทำงานกับแบบรู้ทางกัน ง่ายๆ สบายๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ในเส้นเรื่องของหนัง เหมือนอัดชิงร้อย แต่ละคนต่างเตรียมทำการบ้านมาเล่น ให้มันเกิดมุกขึ้นมา เรื่องนี้พี่หม่ำก็เปิดโอกาสปล่อยผมกับพี่เท่งเล่นกันเลย 2 คน แบบเท่งโหน่งจัดมาเลย แต่พี่หม่ำเขาก็จะมีโครงมีแบบแผนให้นะว่าตัวโกสนคาแรคเตอร์ต้องเป็นแบบนี้นะ กะเพราต้องแบบนี้แล้วจะเติมอะไรก็ปล่อยให้เราสองคน เติมไปเติมมา จนพี่หม่ำบอกว่า พอล่ะ เอออยากได้แค่นี้ (หัวเราะ) เหมือนคุยกันมากกว่าระหว่างพี่เท่งกับผม เหมือนมันรู้ธาตุแท้กัน พี่หม่ำก็เชื่อว่าเราสองคนเนี่ยะทำให้พี่เขาได้

          Q. แต่ยืนยันและรับรองว่า “โหน่ง” เจอ “เท่ง” ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
          N. ก็หลายๆ เรื่องนะที่มักจะประกบกับพี่เท่ง แต่เรื่องนี้มาเจอกับพี่หม่ำ แล้วเรื่องนี้คือคาแรคเตอร์ของผมกับพี่เท่งแตกต่างกัน ก็เป็นแนวที่ไม่เคยได้เห็นในหนังเรื่องอื่น ระหว่างพี่เท่งกับผมที่เป็นเพื่อนกัน เป็นภาพที่ผมอยากให้ดูเองดีกว่า และจุดสำคัญของเรื่องก็อยู่ตรงพี่เท่งด้วย นี่นึกถึงบทที่แกเล่น ก็แค่นึกหน้าแกก็ขำแล้วพี่เท่ง (หัวเราะ)

          Q. ในมุมมองของ “โหน่ง ชะชะช่า” แล้วคิดว่าเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ตรงไหนอย่างไร
          N. จริงๆ แล้วภาพยนตร์เรื่องใหม่กะหม่ำโดนกะโดน เป็นภาพยนตร์แนวรักโรแมนติก เป็นหนังที่แตกต่างจากหนังเรื่องอื่นที่พี่หม่ำเคยทำมาหลายๆเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องในเมืองเลย แทบจะไม่มีต่างจังหวัด ก็คือถ่ายกันในเมือง เนื้อเรื่องก็อยู่ในเมือง เป็นปัจจุบัน ที่เรามองเห็นภาพเลย ที่แบบตื่นเช้ามาเขาทำยังไงกัน คุยกับเพื่อนยังไงกัน ซึ่งแตกต่างจากเรื่องอื่น เช่น แหยมยโสธร หรือหนังบู๊อย่างบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม เรื่องนี้จะเป็นรักโรแมนติกที่เห็นได้ถึงความแตกต่างเลย แค่โปสเตอร์ก็น่าจะบอกได้แล้วว่าเป็นหนังเกี่ยวกับอะไร แต่ยอมรับว่าฮานะ ชอบๆ ก็ยังบอกพี่หม่ำเลย พี่หม่ำก็บอกว่าอารมณ์ของหนังกำลังพอดีเลย กำลังน่ารัก ดูแล้วขำ มีความสุข ไม่ต้องเยอะมากมาย เรื่องนี้ดูง่ายนะ และฮา น่าบอกต่อ เป็นเรื่องระหว่าง เพื่อนกับเมีย

          Q. งั้นต้องเล่าให้ฟังแล้วว่า “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
          N. เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนยุคนี้เลยที่มีทั้งความทุกข์ ความสุข โศกเศร้าเลย ร่าเริง สนุกสนาน และตัวละครที่พี่หม่ำวางไว้อย่างกะเพราก็เป็นโหน่ง พี่ใหม่ พี่หม่ำ และโกสนทั้งหมดทำให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมา มันทันยุคทันสมัยด้วย มันมองออกได้ง่ายๆ ซึ่งหมายความว่าคนๆ หนึ่งไม่เคยมีความรักเลย เคยเครียด เคยเสียใจหลายๆ อย่างมันจะรวมอยู่ในนี้ก็คือพี่ใหม่ตามหารักแท้ คนที่ใช่มาทั้งชีวิต ส่วนพี่หม่ำก็เป็นสามีคนหนึ่งที่อยู่กับภรรยาหรือกะเพราอยู่ไปอย่างมีความสุข แต่สุดท้ายเพื่อนต้องมาทำให้ครอบครัวเขาเหมือนจะแตกแยกซึ่งก็คือพี่ใหม่ ส่วนโกสนก็เป็นตัวละครอีกตัวหนึ่งที่เข้ามาในชีวิตของหม่ำกับกะเพรา ไม่รู้ซิพอ 4 คนมารวมกันมันไม่พูดถึงคนไหนก็ไม่ได้ มันก็มีเรื่องให้พูดถึง พูดถึง 4 คนนี้มันก็เข้ากับ

          เรื่องราวของคนในยุคปัจจุบันที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของเพื่อนกับเรื่องคนรัก ใหม่กับหม่ำเป็นเพื่อนกันแต่สุดท้ายเวลาเมาทีไรใหม่ก็ไปนอนอยู่ที่บ้านของหม่ำกับกะเพราทุกที คือเวลาเมาทีไรพี่ใหม่ก็ชอบโทรให้พี่หม่ำไปรับ เป็นอย่างนี้มาทั้งชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งไปเมากันอีท่าไหนไม่รู้ แต่สุดท้ายพอตื่นขึ้นมาต่างคนต่างก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แล้วพี่ใหม่ก็ท้อง แล้วใครจะเป็นพ่อของเด็ก แล้วตัวกะเพราจะคิดยังไง คือเป็นเพื่อนกันแล้วท้องได้ไง บอกเราว่าเป็นแค่เพื่อน แล้วโกสนคือใครเข้ามาในชีวิตครอบครัวเราได้ยังไง ก็อยากให้ลองติดตามมากกว่า เพราะถ้าเล่าหมดอาจจะไม่สนุก

          Q. มีหลายๆ องค์ประกอบของหนังเรื่อง “ใหม่กะหม่ำฯ” ที่พูดได้ว่าแปลก แหวก และน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคาแรคเตอร์ของกะเพราเอง มุมมองการนำเสนอของพี่หม่ำในฐานะผู้กำกับรวมไปถึงการแสดงในบทที่ฉีกออกไปของซุป’ตาร์ดิวาสาวอย่าง “ใหม่ เจริญปุระ”
          N. คือปกติโหน่งเป็นคนชอบพี่ใหม่อยู่แล้วชอบทั้งเสียง ลุคส์ หน้าตา ชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นตัวของพี่ใหม่เหมือนละครที่เราดูมา เราก็เจอพี่ใหม่ตั้งแต่เด็กๆ ตอนยังสาวๆ จนทุกวันนี้ก็ยังสาวยังสวยเหมือนเดิม ทั้งตอนดูในโทรทัศน์จนถึงตอนนี้มันรู้สึกเหมือนอย่างที่คิดไว้เลย คือเขาเป็นคนน่ารักจริงๆ เป็นคนอัธยาศัยดีจริงๆ เขาถึงได้อยู่วงการนี้มานานมากเป็นร็อคเกอร์ที่เก่ง เป็นนักร้องก็เก่ง เป็นนักแสดงก็เก่งทุกอย่างเก่งหมดมันเป็นความประทับใจที่เราได้เจอกับเขา ได้ร่วมงานกับเขา แล้วเขาก็พูดกับเรา คือมันอารมณ์ที่ว่าเราได้ทำงานกับคนที่เราชื่นชอบมาตลอด มันต้องเก็บความรู้สึกนั้นกลับบ้าน พอถึงบ้านมันก็จะคิดถึงเขาตลอดเวลา เขาเป็นนักแสดงที่น่ารักคนหนึ่ง เป็นพี่สาวที่น่ารักมากๆ แล้วเรื่องนี้คือพลิกคาแร็กเตอร์เขาเลย เรื่องที่ผ่านๆ มามันก็นางเอกจ๋า ร้องไห้อะไรประมาณนี้แต่เรื่องนี้เขาสุดๆ ผิดกับตัวจริงมากๆ เขาทำได้ เขาเก่งแล้วในเรื่องคาแรกเตอร์พี่ใหม่ก็คือ บู๊ ซ่า บ้า บิ่น หลุดโลก แต่ก็มีมุมเศร้ามุมซึ้งของพี่ใหม่ที่จะสมหวังหรือไม่สมหวัง ทำไมต้องกินเหล้าทุกๆ อย่างมันจะอยู่ในตัวเขา แล้วยิ่งเห็นพี่ใหม่มาเล่นคู่กับพี่หม่ำด้วยแล้ว ผมว่ายังไม่มีใครเคยเห็นแค่หม่ำกับใหม่มาเจอกันผมว่ามันก็เป็นอะไรที่แปลกละ แต่เรื่องนี้มันมีอะไรที่แปลกกว่านั้นเยอะ เหมือนซีนแรกที่เราเจอกันผมก็เจอพี่ใหม่พี่หม่ำมันก็ยังเขินๆกันอยู่ แต่มันก็ไม่ยากกับผมพี่หม่ำและพี่ใหม่ ขอให้มีการแนะนำมาแล้วทุกอย่างมันจะง่าย เจอพี่ใหม่ครั้งแรกก็เป็นซีนโต้เถียงกัน แต่เป็นการโต้เถียงแล้วพี่ใหม่ไม่รู้ตัว เพราะพี่ใหม่มาถึงห้องนอนแล้วแบบเมามาเลย พร้อมกับฉายาที่เราเติมมุกให้คือ ใหม่ทองหล่อ (หัวเราะ) คือเขาเมาแล้วหลุดโลก แล้วมีปะทะคารมเฉือนปากเฉือนคอกันสนุก ก็ลองคิดดูไอ้เราเป็นภรรยาเจ้าของบ้านแท้ๆ แต่ต้องไปนอนโซฟา คิดดูละกัน มันเป็นความน้อยใจที่คิดว่าทำไมสามีเราเป็นแบบนี้ เพราะระหว่างเพื่อนกับภรรยาเห็นเพื่อนสำคัญกว่าพาเพื่อนไปนอนบ้าน แต่กลับให้ภรรยาลงไปนอนโซฟาข้างล่างให้เพื่อนขึ้นไปนอนบนเตียงที่เราเคยนอนด้วยกันทุกวันๆ ผมว่าถ้าเป็นเรื่องจริงผู้หญิงทุกคนก็น่าจะคิดว่า ทำไมต้องแคร์เพื่อนมากกว่าภรรยาด้วยนะ ซึ่งไม่รู้ว่าไปสะท้อนชีวิตจริงใครบ้างรึเปล่า (หัวเราะ)

          Q. ภาพเวลาที่ “ใหม่กะหม่ำ” เข้าฉากด้วยกัน ความลงตัวความเข้าขากันทางการแสดง ที่ “โหน่ง” สัมผัสได้ในตอนถ่ายทำ
          N. ความรู้สึกที่โหน่งมองเวลาเขาเล่นด้วยกันนะ รู้สึกว่าก็จะมีเขินๆ เหมือนกันนะ เหมือนพี่หม่ำมาถามผมครั้งแรกว่าสนิทกับพี่ใหม่หรือเปล่า พี่หม่ำก็เรียกพี่ใหม่ว่าพี่ พี่ใหม่ก็เรียกพี่หม่ำว่าพี่ เรียกพี่กันหมดเลย (หัวเราะ) เนี่ยะขนาดชีวิตจริงยังสับสนกันเลย แล้วในเรื่องมันจะเป็นยังไง พอเวลามาเจอกันก่อนถ่าย ต่างคนต่างสวัสดีกัน ไม่มีใครเป็นน้องเรียกพี่กันหมด แต่นั่นก็คือนักแสดงตัวจริง คือเป็นการอ่อนน้อมถ่อมตน ถึงได้อยู่วงการจนถึงทุกวันนี้ได้ คือผมบอกได้เลยว่าผมชื่นชอบคุณจริงๆ คุณใหม่ ผลงานเรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ผมจะจารึกไว้เลยนะ ว่าผมได้เคยร่วมงานกับพี่ใหม่ เพราะคือผมชื่นชอบพี่ใหม่มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วครั้งนี้ก็ได้มีโอกาสร่วมงานกัน เป็นความปลาบปลื้มใจด้วย ที่เป็นคนที่เราชอบและได้มาเล่นหนังเรื่องเดียวกัน

          Q. ให้พูดอะไรถึงผู้กำกับที่ชื่อหม่ำ จ๊กมกคนนี้
          N. อย่างพี่หม่ำ เป็นคนอยู่ไม่สุข เดี๋ยวคิดโน่นคิดนี่ แล้วแก๊กแต่ละแก๊กก็ไม่เหมือนคนอื่นจะฮาตลอด คิดอะไรได้ก็มาละ ไม่รู้ว่าคิดหรือเปล่า (หัวเราะ) ว่าคนอื่นเขาจะทำกันได้ไหม แกจะเอาไว้ก่อนละ พวกทะลึ่งทะเล้น แล้วแกเป็นคนขี้อำ แกสมองไว แค่มองรู้ละจะเล่นอะไร แกเป็นคนขี้อำด้วย พอคิดอะไรได้ก็ทำเลย เอาใส่เข้าไปเล ทะลึ่งทะเล้นอะไรพวกนี้

          Q. ท้ายนี้ให้ฝากผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของโหน่ง ชะชะช่าที่แฟนๆ จะได้ชมกัน “ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน”
          N. ก็ฝากภาพยนตร์เรื่องนี้ของพี่หม่ำด้วย เพราะเป็นภาพยนตร์ที่ผมก็ทุ่มเทเหมือนกัน แต่ที่ผ่านๆ มาผมก็ทุ่มเทกับผลงานทุกอย่างที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นในชิงร้อยชิงล้าน หรือละคร และอย่างหนังเรื่องนี้ผมก็ทุ่มเทมากๆ รู้สึกว่าเล่นแล้วอินไปด้วย พี่หม่ำอยากให้เล่นเป็นผู้หญิง ผมก็จะเล่นเป็นผู้หญิงแบบผู้หญิงจริงๆ คือโดยปกติผมเองเป็นคนอย่างนี้ ไม่ว่าจะในชิงร้อยเราไม่เคยตีลังกา เหมือนพวกสตั้นท์แมนที่พี่ๆ เขาตีกัน ผมก็ต้องทำนะ อย่างเรื่องนี้ต้องเล่นเป็นผู้หญิง ที่มีผัวแบบนี้ มีเพื่อนเป็นแบบนี้ มีเพื่อนผัวแบบนี้ เราก็ต้องเล่นแบบนั้นจริงๆ คือต้องอินกับบทไปด้วย ผมถือคติดว่าการทำงาน การแสดง เล่นก็ต้องเล่นให้เต็มที่ ถ้าเล่นเป็นคนตัวดำก็ต้องมาตัวดำ ให้เนียนและอินไปกับบทนั้นเลย ถ้าเล่นแล้วมัวติดหล่อติดสวยคนดูก็ไม่ประทับใจ ไม่อินไปกับเราด้วย อย่างนั้นไม่ชอบ เหมือนเราเล่นไม่เต็มที่ ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้เป็นหนังของพี่หม่ำ แล้วผมเต็มที่ แต่ผมเต็มที่กับทุกเรื่องกับหนังของทุกคน ผมก็เต็มที่กับงานทุกอย่าง งานไม่ดีผมก็ทำใหม่นะ ไม่ใช่ว่าไม่ดีแล้วปล่อยผ่านๆ ไป เพราะพอมาดูเป็นจอใหญ่ แล้วมันรู้สึก รู้สึกว่ามันไม่เต็มที่ ก็แก้ไขไม่ได้ เวลาทำก็ต้องเต็มที่เลย ก็อยากให้คนดู ดูแล้วมีความสุข และประทับใจ โดยเฉพาะเรื่องนี้ผมทุ่มเทมาก ก็อยากจะฝากให้ดูกันเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นการพลิกคาแรคเตอร์มาเล่นเป็นผู้หญิงจริงๆ มีครอบครัวจริงๆ มีเพื่อนที่รักกัน และมีเพื่อนที่ไม่เข้าใจกัน ที่เป็นเหมือนหัวใจสำคัญของหนังเรื่องนี้มัน เหมือนมีคติสอนใจให้เราได้คิด ในชีวิตครอบครัวอาจจะมีเรื่องของมือที่ 3 เข้ามา แต่เราจะหาวิธีที่จะรับมือ ทำความเข้าอกเข้าใจกันอย่างไร ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังตบตีแย่งแฟนแย่งเพื่อนกันนะ แต่เป็นเรื่องเพื่อนและแฟนที่มาเกี่ยวพันกัน เข้ากับเหตุการณ์เข้ากับยุคเข้ากับสมัยเลยทีเดียว ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน 23 มิถุนายนนี้ทุกโรงภาพยนตร์

Google on June 10, 2011, 11:44:57 AM
3 ซุป’ตาร์ขำก๊ากไอเดียโปสเตอร์ “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” สุดฮา ทีมงานเนรมิตเตียงใหญ่ยักษ์ขนาด KING SIZE ให้ “ใหม่-โหน่ง” เปิดสมรภูมิศึกชิง “หม่ำ” ยับเยินคาเตียง




 
         ปิดกล้องไปอย่างราบรื่นแถมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อย วันนี้เลยมีภาพเบื้องหลังการถ่าย “โปสเตอร์-ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน”ที่มาพร้อมบรรยากาศสบายๆ รีแล็กซ์สุดๆ แถมได้อารมณ์คอมมิดี้โรแมนติคที่แปลกใหม่ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ทั้งคึกคักครื้นเครงกันน่าดูเมื่อ 3 ซุปตาร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง “หม่ำ-ใหม่-โหน่ง” พร้อมใจกันกระโดดขึ้นเตียงแอ็คท่ากันมันส์สุดชีวิต โดยทีมครีเอทีฟ-อาร์ทไดเรคเตอร์ที่ออกแบบกระแทกไอเดียอันบรรเจิดด้วยการเนรมิตเตียงนอนขนาด King-Size บิ๊กเบิ้มให้ 2 สาว ใหม่ เจริญปุระที่รับบท “ใหม่เพื่อนสนิทชอบเมาปลิ้น” และโหน่ง ชะชะช่า เพราะต้องมาแต่เช้าให้ทีมเมคอัพหน้าผมและฝ่ายเสื้อผ้ามะรุมมะตุ้มแปลงโฉมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ากลายเป็น“กะเพรา เมียหม่ำที่แต่งหญิงครบเครื่องแถมขี้หึงมั๊กมั๊ก” กระโดดขึ้นไปเปิดศึกบนเตียงสร้างสถานการณ์ด้วยการใช้หมอนเป็นอาวุธเพื่อแย่งชิง “หม่ำ จ๊กมก” ที่มาในมาดหนุ่มสุขุมลุ่มลึกในชุดนอน อยู่ตรงกลางระหว่างสังเวียนเพราะต้องเป็นฝ่ายเลือกว่า ระหว่างเพื่อนสนิทกับเมียรัก จะต้องเลือกใคร ? ซึ่งเป็น 1 ในหลากหลายไอเดียที่ทั้ง 3 จะต้องแอ็คท่าอินคาแรคเตอร์กันสุดๆ หลังจากผ่านการถ่ายทำในบทดังกล่าวมาแล้วจากการถ่ายทำภาพยนตร์

          งานนี้เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทั้ง 3 ตลอดการถ่ายทำโปสเตอร์ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เนื่องจากจะต้องมีการถ่ายทำในหลากแอ็คติ้งหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบนเนอร์สิ่งพิมพ์แขวนขนาดใหญ่ในโรงภาพยนตร์ก็มีถึง 5-6 แบบไปแล้ว ยังไม่รวมกับสื่อติดตั้งที่บ่งบอกถึงคาแรคเตอร์ภายใต้คอนเซ็ปต์โดนกันอีก ทำให้หนักตกมาอยู่ที่ทีมเมคอัพจะต้องแปลงโฉมซูเปอร์สตาร์ทั้ง 3 ในแบบฉบับบู๊ฮาโทรมได้อีก ประมาณว่าเหมือนกับเพิ่งผ่านสมรภูมิเจอศึกหนักมาหมาดๆ งานนี้เลยได้เห็นดิว่าสาวอย่างใหม่ เจริญปุระถูกจับทำผมกระเซอะกระเซิง ขนตาหลุดหล่นลงมาแปะบนหน้าชี้โด่ชี้เด่ ปากลิปสติกเลอะแก้มภายใต้คอนเซ็ปท์โดน....ทิ้ง, ส่วนโหน่งชะชะช่า ที่นอกจากแต่งหญิงได้สาวโพดโพดแล้ว ยังต้องแต่งเลอะอีกต่างหาก และโหน่งก็ไม่ทำให้ทีมต้องผิดหวัง และแน่นอนว่าเมื่อกล้องพร้อมไฟมา ตัวตั้งตัวตีอย่างหม่ำเองก็ไม่ด้อยหน้ากว่าใคร ภายใต้คอนเซ็ปท์โดน....แย่ง เพราะต้องมีการทำลายเสื้อ ฉีกขาดเป็นรู แต่งหน้าเลอะประมาณว่าเพิ่งผ่านสมรภูมิการฉุดกระชากมาหมาดๆ ภายใต้ข้อความประจำตัวว่าโดน..... (แต่จะโดนอะไรต้องไปหาความหมายในโรงภาพยนตร์กันเอาเองนะจ๊ะ) และเพื่อให้เห็นภาพแบบชัดเจนแจ่มแจ้งไปเลย งานนี้หม่ำ จ๊กมกเลยถูกจับถอดเสื้อและเอาผ้านวมมาพันรอบตัวโดยปล่อยให้ปลายผ้านวมทั้ง 2 ข้างกำลังถูก 2 สาวแย่งชิงกันพัลวัน แต่ที่ดูเหมือนจะถูกใจสาวใหม่สุดๆ ก็คือการที่ทีมงานยกเตียงตั้งขึ้นและให้ทั้ง3ต้องไปยืนโพสต์แอ็คท่าด้วยการยืนแต่ทำให้เหมือนกับว่านอนอยู่บนเตียงแล้วให้ช่างภาพถ่ายจากมุมมองด้านบน รู้สึกว่าเก๋เท่ห์ซะไม่มี งานนี้ลองมาฟังความเห็นของเหล่าซุปตาร์ทั้งสามถึงความรู้สึกจากการถ่ายทำโปสเตอร์ในวันนี้กันดู

          ใหม่ : ก็ชอบนะคะ วันนี้เป็นฉากเตียงด้วย มันดูออกฝรั่งๆดี ดูเป็นภาพถ่ายที่มีอารมณ์อยู่ในนั้นด้วย เพราะเป็นการถ่ายทำโปสเตอร์ที่แต่ละคนจะต้องคงคาแรคเตอร์ของตัวละครในเรื่องไว้ในภาพๆนี้ อย่างโหน่งนี่ต้องยอมรับเลยว่าแอ็คท่าและแสดงออกมาได้เหมือนกับตัวละครในเรื่องมากๆเลยค่ะ
          โหน่ง : สำหรับผมรู้สึกอึดอัดมากเลยกับการถ่ายทำ เพราะชุดอึดอัดมากเลย เป็นเพราะว่าตอนถ่ายทำน้ำหนักขึ้น ปรากฎว่าพอเอาชุดนี้ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ใส่ในหนังมาใส่ถ่ายโปสเตอร์กลับกลายเป็นว่าเกือบใส่ชุดไม่ได้
          หม่ำ : ไม่ใช่หรอกเพราะตัวโหน่งอ้วนไง ไม่ได้เกี่ยวกับชุดเลย ชุดนะดีอยู่แล้ว แหมเล่นกินด้วยถ่ายด้วย น้ำหนักก็เลยขึ้นกันทุกคนเลยครับ
          พี่ใหม่ : เหมือนใหม่เลยค่ะ เพราะตั้งแต่ถ่ายเรื่องใหม่กับหม่ำ น้ำหนักขึ้นมา 6 กิโล งบโภชนาการเยอะมากเลยค่ะ
          หม่ำ : จริงๆ แล้วเหมือนเป็นการจำลองฉากในหนังฉากหนึ่งที่เราแสดงด้วยกัน ก็จะมีอารมณ์คล้ายๆอย่างนี้
          โหน่ง : คือเราสองคนในเรื่องใหม่กะโหน่งเราไม่ถูกกัน แต่ไม่ได้เกลียดกันนะ
          หม่ำ : ผู้หญิง 2 คน แย่งกัน ก็ถูกใจครับ นานๆ จะได้ทำหนังแบบนี้ครับ รู้สึกว่าเออ เราคงหน้าตาดีเหมือนกัน เขาสองคนเลยแย่งกัน (หัวเราะ) พูดเล่นครับ จริงๆ ก็เป็นคอนเซปท์ของเรื่องที่เราจะต้องเกี่ยวข้องกับผู้หญิง 2 คนที่เป็นคนสำคัญในชีวิตคือเพื่อนกับเมีย ถ่ายหนังถ่ายโปสเตอร์มาหลายเรื่องก็ยังไม่เคย ถ่ายบนเตียงแบบนี้ หรือกระทั่งต้องมาใส่ชุดนอน แล้วมีฉีกขาดอีก ส่วนใหญ่จะถ่ายสูท รองเท้าหนังเท่ห์ อันนี้ไม่ใช่เลย มีสาวๆ มาแย่งผมกัน แล้วอยู่บนเตียงแบบนี้ ก็สนุกสนานดี
          ใหม่: จริงๆ พี่หม่ำแกก็หล่อเป็นธรรมชาติของแกดีนะ หล่อโดยที่ไม่ต้องแต่ง ผู้หญิงยังแย่งกันขนาดนี้ เพราะฉะนั้น ก็ต้องไปดูกันว่า จริงๆ แล้วมีอะไรลึกๆ ในเรื่องที่มากไปกว่านั้นอีกเยอะมากๆ
          โหน่ง : ชอบครับ ชอบ แปลกดี สนุกครับ แต่มันอึดอัดตอนนั่งบนเตียง ตอนนอนไม่เป็นไร มีครบเลยนั่งนอนยืน
แหมนี่แค่ถ่ายโปสเตอร์ก็ยังสนุกสนานอารมณ์ดีขำกระจายกันขนาดนี้ หนังทั้งเรื่องไม่ต้องห่วงเลยเพราะงานนี้สาวใหม่สมาชิกคนล่าสุดที่เพิ่งได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้กำกับหลายร้อยล้านอย่างหม่ำ จ๊กมก ยืนยันว่าทำงานกับพี่หม่ำขำทุกฉากทุกคิว ไม่มีวันไหนที่ไร้เสียงหัวเราะเลยทีเดียว
          ใหม่ : คือใหม่รู้สึกภูมิใจใจตัวพี่หม่ำจริงๆ เขาไม่ใช่แค่ตลกตัวพ่อนะคะ เขามีดีมากไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับก็ดี พิธีกรก็ดี ร้องเพลงก็เริ่ดสะแมนแตน ดีใจและต้องขอบคุณพี่หม่ำที่เลือกใหม่มาเล่น ก็อยากฝากหนังเรื่องใหม่กะหม่ำโดนกะโดนด้วย ก็นานๆ ทีจะได้มาเล่นหนังตลกกับเขา ได้รับเกียรติมาก และเราจะได้เป็นดาวตลกคนใหม่หรือเปล่า
          โหน่ง : โอ้โห อย่างงี้ต้องไปดูกันนะครับ 23 มิถุนายน ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน ต้องไปดูกันให้ได้ และเป็นนักร้องสาวร็อคที่โหน่งชื่นชอบมานาน ถือว่าเป็นร็อคตัวแม่เลยนะ ได้มาประกบกับผู้หญิงที่เราชื่นชอบนะ ส่วนตัวพี่หม่ำกับทั้งบ้านก็ชอบพี่ใหม่อยู่แล้ว ก็มาดูกันครับกับอีกบทบาทหนึ่งของพี่ใหม่และรสชาติที่รับรองขำปนซึ้งครับ

Google on June 10, 2011, 11:46:54 AM
“เท่ง เถิดเทิง” อีกหนึ่งขั้วแห่งความสนุกที่ขาดไม่ได้ สัมผัสอีกแง่มุมในอารมณ์ขำปนซึ้งจากผู้กำกับ “หม่ำ จ๊กมก”
 

 
          “เท่ง เถิดเทิง” อีกหนึ่งขั้วแห่งความสนุกที่ขาดไม่ได้ สัมผัสอีกแง่มุมในอารมณ์ขำปนซึ้งจากผู้กำกับ “หม่ำ จ๊กมก” ที่ “เท่ง เถิดเทิง” การันตีอยากให้ทุกคนได้ดู“ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน”

          Q. สวัสดีทักทายกันก่อน ทราบมาว่ามีผลงานหนังเรื่องใหม่มาให้แฟนๆ ได้ชมกัน ที่สำคัญเป็นหนังพี่หม่ำกำกับด้วยและพี่เท่งได้รับบทในแบบที่ไม่เคยเล่นมาก่อนด้วย
          T. สวัสดีครับ ผมเท่ง เถิดเทิงครับ กับภาพยนตร์เรื่องใหม่ชื่อน่ารักด้วย ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน เป็นผลงานการกำกับเรื่องที่ 9 แล้วของผู้ชายที่ชื่อว่าหม่ำ จ๊กมก เป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่พี่หม่ำอยากนำเสนอ เป็นภาพยนตร์ความรักของคนเมืองในยุคปัจจุบัน เรื่องของเพื่อนกับเมีย ผัว และมือที่ 3-4 ที่มันมายุ่งเกี่ยวพันอีรุงตุงนังไปหมด แต่ดูๆ ไปแล้วแอบมีอารมณ์ขำปนซึ้งครับ สำหรับบทบาทที่ได้รับนะครับ รับบทเป็นโกสน พูดได้ว่าเป็นบทที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ภาพที่เห็นของเท่งส่วนใหญ่ก็คงต้องเป็นวัยรุ่นหรือไม่ก็นักเลงใช่มั้ยครับ แต่ถ้าดูจากระดับการแต่งตัวที่มาในลุคส์แบบนี้แล้วคงไม่ใช่นักเลงละ เพราะทั้งเรื่องจะเล่นเป็นคนที่แต่งตัวเนี้ยบมากเลย ทุกอย่างต้องเนี้ยบตลอด แล้วเวลาเข้าฉากก็ต้องสุขุม เงียบ พูดเพราะ การศึกษาดี รักสงบ อ่อนโยน เพราะในเรื่องโกสนจะเป็นคนเรียบร้อย เป็นคนไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร ถามว่าตัวละครตัวนี้สำคัญไหม เป็นตัวละครสำคัญมากเลย เพราะว่าเป็นตัวละครที่ถูกส่งมาเพื่อทดสอบความสัมพันธ์ของตัวละครทั้ง 3 ตัวในเรื่องนั่นคือ หม่ำ ใหม่ ซึ่งเขาเป็นเพื่อนกัน และโหน่งที่เล่นเป็นเมียของพี่หม่ำ ทำให้ต้องพบกับจุดเปลี่ยนในชีวิต แต่จะเป็นอย่างไร ไม่รู้ ไม่บอก ขออุบไว้ก่อน ต้องไปติดตามเอาในภาพยนตร์ ในเรื่องโกสนจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากของโหน่ง เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กมัธยมเลย แต่โหน่งเล่นเป็นเมียของพี่หม่ำ ซึ่งตัวพี่หม่ำเองก็จะมีเพื่อนที่สนิทมากคือใหม่ อารมณ์ก็จะประมาณว่าถ้าใหม่คือเพื่อนซี้ปึ้กส์ที่เป็นทุกอย่างของหม่ำ โกสนก็เป็นทุกอย่างของกะเพราที่รับบทโดยโหน่งเช่นกัน แล้วตัวละครทั้งหมด4ตัวละครก็จะมาเกี่ยวพันกัน ด้วยเรื่องราวความรัก ความสุข ความเหงาที่มีทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ก็ยังคิดว่าเออ คนเขียนบทก็ช่างคิดเนาะ เข้าใจเขียนเรื่องดี เข้ากับเรื่องราวชีวิตผู้คนในยุคปัจจุบันดี

          Q. ตอนที่พี่หม่ำมาชวนเล่นกับที่ได้อ่านบทครั้งแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง
          T. ทีแรกพี่หม่ำบอกจะให้เล่นบทเป็นโกสน พอเราฟังชื่อตอนแรก เราคิดว่าจะให้ไปขายก๋วยจั๊บ หรือ เกาเหลาอะไรหรือเปล่า (หัวเราะ) พออ่านบทแล้วไม่ใช่ เราเองก็ไม่เคยรับบทแบบนี้มาก่อน และแน่นอนว่าคนดูก็น่าจะไม่เคยเห็นบทแบบนี้มาก่อน ตอนที่ได้อ่านบทครั้งแรกก็มีความรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้น่าสนใจ พอพี่หม่ำบอกบท อธิบายคาแรคเตอร์ตัวละครเท่านั้นแหละ เราก็โอเคเลย ส่วนมากที่ผ่านมาคนก็จะเห็นเท่ง เป็นนักเลงหัวไม้ แต่ในเรื่องนี้จะมาแนวสุภาพเลยตรงกันข้ามเลย ชุดก็เรียบร้อยมาก รองเท้า ดูเนี้ยบเลย ติดกระดุมคอ ทุกฉากต้องแต่งตัวเนี้ยบมาก อารมณ์ก็ต้องสุขุม นุ่มมาก แน่นอนเลยว่าอยากเล่น ตอนอ่านบทเสร็จก็รู้สึกว่าสนุกแล้ว แต่พอได้มาถ่ายทำ ได้สวมบทบาทของตัวละคร ได้เห็นพี่หม่ำเป็นตัวละครแบบนี้ โหน่งก็รับบทแบบนี้ เห็นใหม่เป็นตัวนี้ ก็รู้สึกว่าแปลก สนุกและน่าสนใจดี เชื่อว่าพอท่านผู้ชมได้ดูแล้วจะรู้สึกถึงความสุขแบบอุ่นๆ จะมีกลิ่นไอของความรัก ขำไปอมยิ้มไปดูแล้วรู้สึกว่า ถ้าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นกับเราบ้างจะเป็นยังไง

          Q. ทราบมาว่าต้องเล่นเป็นเหมือนคู่ปรับกับพี่หม่ำด้วย
          T.ในภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณใหม่กับคุณหม่ำเขาจะเป็นเพื่อนกัน ส่วนผมก็จะสนิทกับโหน่ง แต่ในเรื่องนี้ ผมกับพี่หม่ำเจอกันก็จะไม่ถูกกัน ตัวคาแรคเตอร์ก็ต่างกันแล้ว พี่หม่ำจะเป็นคนใจร้อน อย่างผมก็จะเป็นคนใจเย็น สุขุม เจอกันตั้งแต่ครั้งแรกก็ไม่ถูกกัน และการเจอกันครั้งแรกนั่นแหละ เป็นการปะทุของเรื่องเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเรา แต่อย่างที่บอกเราไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยทำให้หม่ำกับใหม่ และหม่ำกับโหน่งเกิดเป็นเรื่องพัวพันกันขึ้นมา สนุกครับ และก็มีอารมณ์ซึ้งด้วย เป็นกลิ่นอายของความเป็นจริงในยุคนี้

          Q.บรรยากาศการทำงานของ “หม่ำ เท่ง โหน่ง” มาเจอกันในหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง
          T.ทุกครั้งที่เราถ่ายหนังด้วยกัน อารมณ์สดเกิดขึ้นแน่นอน ผู้ช่วยไม่ต้องมาช่วยอะไรเลย บางทีก็เล่นกันยาวมาก และก็สั่งคัทกันเอง แต่ในเรื่องนี้จะเป็นการเจอกันแบบจังๆ เลย ไม่ใช่เจอกันแค่แวบๆ ต่างคนต่างมีคาแรคเตอร์ ต่างคนต่างเชือดเฉือนกัน การอ่านบทก็เป็นการอ่านไกด์ไลน์ว่าเราจะต้องไปไหนกันบ้าง ส่วนไดอาล็อคคืออารมณ์สดหมดเลย แต่คือเราสั่งทุกคนว่าห้ามขำกัน เวลาถ่ายก็มีแอบขำกัน เราก็ขำด้วยนะ ขำอยู่ในเรื่อง ด้วยอารมณ์สดของโหน่ง ของพี่หม่ำ สนุก รู้สึกบางทีอยากจะเข้าฉากให้มันยาวๆ พอคัทแล้วเราก็ยังคุยกับพี่หม่ำเลยว่าฉากนี้สนุกดี พี่หม่ำก็ว่า เออ ฉากนี้ไม่อยากตัดออกเลย มันเสียดาย สนุก อารมณ์สดมันเกิดขึ้น

          Q. ฟังๆ ดูแล้วเหมือนพี่เท่งจะอารมณ์ค้างนะเนี่ยะ
          T. คือจะว่ายังไง ผมหมั่นเขี้ยวมาตั้งแต่ จีวรบินแล้วมั้ง เป็นพระเล่นอะไรไม่ได้เลย แต่พอมาถ่ายวันนี้ มันรู้สึกเหมือนกับปล่อยผี และเราก็อยากเล่นๆ อะไรแบบนี้ ในอารมณ์ของผมของพี่หม่ำที่เป็นผู้กำกับมาแล้ว เราก็จะมองเห็นภาพ อ่านบทก่อนเลยว่าอะไรเป็นยังไง พอมาถ่ายกันจริงก็ถ่ายกันยาวเลย เราเลยรู้สึกว่า สงสัยจะอารมณ์ค้างมาตั้งแต่จีวรบิน เล่นแบบนี้รู้สึกว่ามันไม่มีกรอบไง แต่จีวรบินเราโดนตีกรอบด้วยการเป็นพระ อันนี้คาแรคเตอร์ค่อนข้างชัดเจน เราก็เล่นได้เลย แบบนุ่ม สุขุมนะ แต่มีวาทะที่แบบเชือดเฉือน

          Q. อย่างนี้แล้วเวลาที่ เท่ง เถิดเทิง เข้าฉากกับโหน่ง ชะชะช่ายิ่งไม่ต้องพูดถึง
          T. เวลาเข้าฉาก ไม่ว่าจะเป็นโหน่งหรือพี่หม่ำ ในแก๊ง 3 ช่า ทุกคนเราอยู่กันมานาน โดยเฉพาะโหน่งที่อยู่ด้วยกันมาก่อนแก๊ง 3 ช่าด้วยซ้ำ รู้ใจรู้ไส้รู้พุงกัน แม้กระทั่งในละคร หรือในหนังก็ตาม ต้องเอาไอ้เท่งไอ้โหน่งคู่กัน อยู่ด้วยกัน ถามว่าชอบไหม เราก็ชอบ คือแทบไม่ต้องหามุกอะไร คือมันชิงไหวชิงพริบกันตรงนั้นเลย ตรงหน้ากองเลย แต่เราก็เล่นตามเรื่อง ที่มีสิ่งแวดล้อมที่เห็นจริงๆ โหน่งเป็นผู้หญิงที่เปิดร้านเสริมสวย ก็มีร้านสริมสวยจริงๆ เล่นโยนกันไปโยนกันมา แน่นอนว่าเรารู้ไส้รู้พุงกัน อย่าว่าแต่อ้าปากเห็นลิ้นไก่ ของผมกับโหน่ง อ้าปากก็เห็นลำไส้ใหญ่ เห็นยันกะเพาะเลยละ

          Q. ฟังๆ ดูแล้วบทโกสนกับกะเพรา ต้องเป็นเท่ง เถิดเทิงกับโหน่งชะชะช่าเท่านั้น
          T. บทของโกสนกับกะเพราเนี่ยะ คือถ้าเอาคนอื่นมาเล่น ผมว่าก็น่าเสียดาย คือ ความกลมกล่อมกับความสนุกมันหายไป และมันออกจะดูเป็นแบบเครียดไปเลยนะ และอารมณ์กุ๊กกิ๊กมันจะไม่มี พอเป็นผมกับโหน่งมันเหมือนกับลงตัว และพอเรามาถ่ายจริงๆ ก็แบบว่าใช่ สนุก

          Q. แต่ที่พิเศษและทำให้หน้าหนังดูแตกต่างไปจากหนังเรื่องอื่นๆ ของพี่หม่ำมากๆ เลยก็คือการได้ซุปตาร์ดิวาอย่างใหม่ เจริญปุระมาเป็นนางเอก         
          T. สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน แน่นอน หม่ำจะเป็นใครไปไม่ได้มีอยู่หม่ำเดียว ส่วนใหม่ก็คือ ใหม่ เจริญปุระ ซูเปอร์สตาร์ ซูเปอร์ดิวา ที่มีความหลากหลาย ทั้งในแง่ของความเป็นนักร้อง นักแสดง ละคร ภาพยนตร์ การเดินแบบ เพราะฉะนั้นการที่พี่หม่ำเอาคุณใหม่มาร่วมงานในเรื่องนี้ ตัวผู้กำกับหรือตัวนักแสดงเองก็ต้องคัดแล้วในการรับงานหรือเลือกงานแต่ละชิ้นว่าตัวบทตัวหนังมีอะไรที่น่าสนใจ อย่างที่ผ่านมาเราจะได้เห็นคุณใหม่ยืนถือไมค์บนเวที เย้วๆ แต่ภาพที่จะได้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณจะได้เห็นในมุมขำๆ ของคุณใหม่ และโหน่งในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นกะเทยนะ เล่นเป็นผู้หญิงเลย จะไม่มีจริตจะก้านดีดดิ้งที่แบบกระเทยวี๊ดวิ๊วเลย ส่วนคาแรคเตอร์ผม ก็ไปดูกันว่าทำไม พี่หม่ำถึงเอาผมมาเล่นเป็นผู้ชายนุ่มๆ สุขุม ไม่หาเรื่องใครค่อนข้างจะสงบเรียบร้อย ซึ่งเป็นเสน่ห์และจุดเด่นคาแรคเตอร์ของตัวละครตัวนี้

          Q. สำหรับภาพรวมของหนังเรื่องใหม่กะหม่ำโดนกะโดน ที่บอกว่าเป็นหนังอุ่นๆ ในแนวตลกโรแมนติกคอมมิดี้แตกต่าจากหนังทุกเรื่องที่ผ่านมาของผู้กำกับที่ชื่อว่าหม่ำ จ๊กมกเป็นอย่างไร
          T. ในแง่ของตลกที่มากำกับหนัง ผมมองว่า แต่ละคนก็จะมีเส้นทางแนวคิดของแต่ละคน บางทีดูหนังดราม่าแล้วเราก็อยากทำหนังดราม่าบ้าง แต่เราก็อย่าหนีตัวเอง คือเราเป็นตลกพอคนดูเห็นเราแล้วก็อยากขำ แล้วแน่นอนหนังเรื่องนี้พี่หม่ำเขาก็อยากจะทำแบบที่เขาอยากทำ คือหนังตลกคอมมิดี้ กลิ่นไอของความรักมาเจือปน มีกลิ่นไอของผู้คนในสังคมนี้ที่มีอยู่จริงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพื่อนหรือของแฟน ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องในเมือง เป็นสังคมในเมือง เป็นสังคมยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าการตีแผ่เอาเรื่องบางอย่างมาให้ท่านผู้ชมได้ดูได้สัมผัสกัน โดยแฝงความสนุกเอาไว้ และแฝงชีวิตจริง ทำให้มันมีอารมณ์สนุกซึ้งๆ ซึ่งจริงๆ แค่เห็นพี่หม่ำตีหน้าเศร้าก็ขำแล้ว แต่ทุกคนจะอินไปกับพี่หม่ำนะ ผมถึงบอกว่าคนดูจะน้ำตาซึมพร้อมกับอมยิ้ม ไปๆ มาๆ เรื่องนี้ของพี่หม่ำจะค่อนข้างแปลกกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา แตกต่างมากเลย ในบางช็อตในบางซีน จะเห็นในบางมุกของพี่หม่ำ จะเห็นความผิดหวัง และจะเห็นผมในอารมณ์เอิบอิ่มที่สมหวังกับที่สิ่งที่ตัวโกสนต้องการ เห็นสีหน้าของโหน่งที่เล่นเป็นเมียถ่ายทอดความรู้สึกถึงอารมณ์ของตัวบทได้อย่างชัดเจน คือผมว่าดูแล้วน้ำตาแทบจะซึม แต่ซึมไปด้วยพร้อมกับมีการอมยิ้ม เหมือนกับว่าดูๆ ไปเราอาจจะอินเหมือนเป็นตัวละครตัวนี้ไปตามเนื้อเรื่องจะพาไปด้วยอารมณ์ซึ้งอย่างมีความสุขในที่สุดด้วย

          Q. ท้ายนี้การันตีฝีมือการกำกับหนังรักของผู้กำกับคนนี้หน่อย
          T. แน่นอน เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ 9 ของพี่หม่ำแล้ว แต่ละเรื่องก็จะมีลายเซ็นต์ที่ชัดเจน แล้วก็สามารถการันตีความสนุกสนาน ได้ ส่วนในเรื่องนี้ก็จะเสนอในแนวของความรักบ้าง ความรักของคนในเมือง เป็นความรักที่มีอารมณ์ตลกด้วย หลากหลายอารมณ์อยู่ในแง่มุมเดียวกัน อยากจะบอกว่าผู้ชายคนนี้มีแง่มุมอุ่นๆ แบบนี้อยู่ด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ แต่ผมกับโหน่งหรือหลายๆ คนที่คลุกคลีกับพี่หม่ำมาจะรู้กันดี อย่างครั้งหนึ่งเราเคยไปต่างจังหวัดด้วยกัน ผม โหน่ง พี่หม่ำ อยู่ในรถตู้คันเดียวกัน แล้วผมก็ให้เด็กไปซื้อหนังมาสักเรื่องหนึ่ง อยากดูหนังดราม่า ก็ได้เรื่อง จอห์น คิว มาดู ดูได้สักครึ่งเรื่อง ระหว่างรถวิ่งไป มันเป็นภาพที่คนไม่เคยเห็นมาก่อน ผม พี่หม่ำ โหน่ง นั่งดูหนังแล้วน้ำตาไหลไปด้วย โหน่งโทรหาเมีย บอกรีบซื้อหนังเรื่องนี้มาดูด่วนเลย นี่ก็คือมุมหนึ่งที่ทำให้เราอยากทำหนังแนวดราม่าบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะร้องไห้ทั้งเรื่อง หนีความเป็นตลกรึเปล่าไม่นะ เพราะเราหนีความเป็นตัวเราไม่ได้ ทำหนังแนวดราม่าก็ช่าง ทำหนังแนวซึ้งๆ ก็ช่าง แต่การซึ้งก็ต้องมีการปนยิ้ม ปนความสนุกสนาน โดยที่ได้มาด้วย หม่ำ เท่ง โหน่ง มาเล่นด้วยกัน มันจะร้องไห้ทั้งเรื่องไม่ได้ แน่นอนว่าคนดูต้องอยากเห็นเราในแบบที่ไม่ใช่มาแว๊บๆ ในครั้งนี้แต่ละคน มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน มาเจอกัน มาเชือดเฉือนกัน อยู่ไลน์ของความเป็นเรื่องที่สนุก ถ่ายแล้วบอกตรงๆว่าไม่อยากหยุด ถ่ายแล้วเราอยากเดินไปทั่ว เพราะว่าเราแต่งตัวหล่อ (หัวเราะ) ไปดูครับแล้วจะได้อะไรหลายๆ อย่างจากผู้ชายคนนี้ครับ ในภาพยนตร์เรื่อง ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน ฟังแล้วดูฉงนนะครับ ไปหาคำตอบกันครับว่า4 คน เป็นอะไรกัน เกี่ยวข้องกันอย่างไร แต่รับรอง สนุก ซึ้ง อมยิ้มครับ

Google on June 14, 2011, 05:16:57 PM
“เท่ง เถิดเทิง” ยกนิ้ว “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” หนังรักไอเดียแหวกแปลกดูแล้วอมยิ้ม แถมรับบทคู่ปรับ“หม่ำ”

 
       
          จับซุปตาร์ดิวาสาวอย่าง “ใหม่ เจริญปุระ” พลิกบทบาทมาเล่นขำ แถมยังเอา “โหน่ง ชะชะช่า” มาแต่งหญิง ยังยังไม่สะใจงานนี้พี่ใหญ่แห่งแก๊งสามช่าอย่าง “หม่ำ จ๊กมก” ยังเอาตลกอัจฉริยะแห่งเอเชีย “เท่ง เถิดเทิง” มาถอดคราบนักเลงรับบทหนุ่มหล่อสุภาพมาดเข้มเนี๊ยบชนิดที่ว่าฉีกบทบาทเดิมๆ ที่เราเคยเห็นกันเลยทีเดียว แถมยังเป็น 1 ใน 4 ตัวละครสำคัญของหนังรักโรแมนติคคอมมิดี้ขำปนซึ้ง โดยรับบทเป็น “โกสน” ที่ต้องมาเกี่ยวพันอีรุงตุงนังกับเรื่องราวความรักที่นอกจากจะอมยิ้มสอดแทรกความฮาแล้ว เผลอๆ อาจจะน้ำตาไหลเพราะความซึ้งโดยไม่รู้ตัวใน “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” หนังเรื่องล่าสุดจากผลงานการกำกับของ “หม่ำ จ๊กมก” ซึ่งงานนี้ทำเอาหนุ่มเท่งเองถึงกับซูฮก และยกนิ้วให้ผกก.หม่ำที่มีไอเดียไม่สิ้นสุดและไม่หยุดอยู่กับที่สรรหาความสนุกสนานเบิกบานมาให้ผู้ชมได้หรรษาขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

“ทีแรกพี่หม่ำบอกจะให้เล่นบทเป็นโกสน พอเราฟังชื่อตอนแรก เราคิดว่าจะให้ไปขายก๋วยจั๊บ หรือ เกาเหลาอะไรหรือเปล่า (หัวเราะ) พออ่านบทแล้วไม่ใช่ เราเองก็ไม่เคยรับบทแบบนี้มาก่อน และแน่นอนว่าคนดูก็น่าจะไม่เคยเห็นบทแบบนี้มาก่อน ตอนที่ได้อ่านบทครั้งแรกก็มีความรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้น่าสนใจ พอพี่หม่ำบอกบท อธิบายคาแรคเตอร์ตัวละครเท่านั้นแหละ เราก็โอเคเลย ส่วนมากที่ผ่านมาคนก็จะเห็นเท่งเป็นนักเลงหัวไม้ แต่ในเรื่องนี้จะมาแนวสุภาพเลยตรงกันข้ามเลย ชุดก็เรียบร้อยมาก รองเท้า ดูเนี้ยบเลย ติดกระดุมคอ ทุกฉากต้องแต่งตัวเนี้ยบมาก อารมณ์ก็ต้องสุขุม นุ่มมาก แน่นอนเลยว่าอยากเล่น ตอนอ่านบทเสร็จก็รู้สึกว่าสนุกแล้ว แต่พอได้มาถ่ายทำ ได้สวมบทบาทของตัวละคร ได้เห็นพี่หม่ำเป็นตัวละครแบบนี้ โหน่งก็รับบทแบบนี้ เห็นใหม่เป็นตัวนี้ ก็รู้สึกว่าแปลก สนุกและน่าสนใจดี เชื่อว่าพอท่านผู้ชมได้ดูแล้วจะรู้สึกถึงความสุขแบบอุ่นๆ จะมีกลิ่นไอของความรัก ขำไปอมยิ้มไปดูแล้วรู้สึกว่า ถ้าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นกับเราบ้างจะเป็นยังไง”

          แถมงานนี้ยังต้องรับบทเป็นเหมือนคู่ปรับกลายๆ กับพี่ใหญ่แห่งแก๊งสามช่าด้วย สนุกเลยละทีนี้ ซึ่งไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นหม่ำกับเท่งต้องมาเชือดเฉือนความฮาปะทะความสนุกร่วมกัน

          “ในภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณใหม่กับคุณหม่ำเขาจะเป็นเพื่อนกัน ส่วนผมก็จะสนิทกับโหน่ง แต่ในเรื่องนี้ ผมกับพี่หม่ำเจอกันก็จะไม่ถูกกัน ตัวคาแรคเตอร์ก็ต่างกันแล้ว พี่หม่ำจะเป็นคนใจร้อน อย่างผมก็จะเป็นคนใจเย็น สุขุม เจอกันตั้งแต่ครั้งแรกก็ไม่ถูกกัน และการเจอกันครั้งแรกนั่นแหละ เป็นการปะทุของเรื่องเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเรา แต่อย่างที่บอกเราไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยทำให้หม่ำกับใหม่ และหม่ำกับโหน่งเกิดเป็นเรื่องพัวพันกันขึ้นมา สนุกครับ และก็มีอารมณ์ซึ้งด้วย เป็นกลิ่นอายของความเป็นจริงในยุคนี้”

          เตรียมตัวพบกับอีกหนึ่งรสชาติของรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในแบบฉบับหนังรักอุ่นๆ จากฝีไม้ลายมือของเหล่าซุปตาร์ ใหม่หม่ำโหน่งและเท่งได้ใน “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” 23 มิถุนายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

Google on June 14, 2011, 05:46:41 PM
หม่ำ สปิริทแรงโชว์ซึ้งอยู่เคียงข้าง ใหม่ ในวันที่เมาเสียใจ บนตึกสูงนับ 10 ชั้นในคืนที่กรุงเทพฯ หนาวเพียง 10 กว่าองศา



          เป็นฉากโรแมนติคจี๊ดๆ สะกิดหัวใจพองโตใน “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” ภาพยนตร์โรแมนติคคอมิดี้ที่ได้อารมณ์อุ่นๆ ซึ้งๆ ตามที่ ผู้กำกับหม่ำ จ๊กมกตั้งใจให้คนดูสัมผัสได้ถึงความรู้สึกผูกพันที่เหนียวแน่นระหว่าง “ใหม่” เพื่อนรักสาวเปรี้ยวที่พออกหักรักคุดทีไรเป็นต้องเมาปลิ้น และมีเพียง “หม่ำ” เพื่อนชายสุดซี้ที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกต้องมาคอยยืนอยู่เคียงข้างปลอบประโลมเพื่อนคนนี้ตลอดตั้งแต่มัธยม มหาลัยจนบัดนาว

          โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากนี้เป็นเหตุการณ์ที่ใหม่ทนกับบาดแผลแห่งความช้ำชอกใจครั้งล่าสุดไม่ไหว เพราะมันเกินจะทน คนอะไรจะอกหักซ้ำซากมาได้ทั้งชีวิต จึงตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่างกับตัวเองหลังจากพึ่งพาเครื่องดื่มจำพวกแอลกอฮอล์เป็นเพื่อนปลอบใจ ก่อนจะยกหูกริ๊งกร๊างถึงเพื่อนหม่ำ ในขณะที่ตัวเองตัดสินใจยืนปล่อยใจบนริมขอบตึกสูงนับ 10 ชั้นท่ามกลางความมืดมิดของท้องฟ้ายามราตรีโดยมีฉากหลังคือแสงสีของตึกสูงในกรุงเทพฯด้วยความเปล่าเปลี่ยวใจ ผู้กำกับหม่ำ กำกับฉากนี้โดยปล่อยให้ซุปตาร์ดิวาสาว “ใหม่ เจริญปุระ” ยืนทำอารมณ์ดราม่าเศร้าเหงาจิตพร้อมกับถือขวดไวน์เพียงลำพังได้ภาพสมความตั้งใจ ก่อนที่ตัวเองจะต้องเข้าฉากพร้อมกับปล่อยประโยคเด็ดที่เป็นไฮไลท์ของซีนแบบซึ้งๆ เพื่อปลอบโยนไม่ให้เพื่อนใหม่คิดสั้นซึ่งเป็นซีนหวานๆ ที่สาวใหม่ชอบมากที่สุด

          “ในหนังใหม่กะหม่ำฯ จะมีอยู่ซีนหนึ่งบนดาดฟ้า ใหม่จะชอบมาก พี่หม่ำก็จะเขียนเป็นบทยาวมาก ตอนที่ถ่ายทำก็หนาวมากเพราะเป็นช่วงที่กรุงเทพหนาวมากเลย แถมยังได้บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอก ถ่ายเห็นมุมกรุงเทพหมด และคำพูดในฉากนี้มันก็ซึ้งๆ ด้วย ประมาณว่าไม่ต้องไปตามหารักแท้หรอก ควรจะอยู่เฉยๆ และปล่อยให้รักวิ่งเข้ามาหาเราดีกว่าไหม ก็เลยรู้สึกว่าชอบซีนนี้ที่สุดเลย คือถ้าเปรียบความรักของหนังเรื่องนี้ก็เหมือนจิ๊กซอว์ ที่มันจะค่อยๆ ถูกต่อขึ้นมาทีละชิ้น หม่ำในเรื่องคือเพื่อนเก่า เพื่อนแก่ ยามทุกข์ เขาก็เป็นคนคอยเก็บศพเรา หรือไม่ว่ายามไหน ที่ท้อแท้ สุดท้ายแล้ว ก็มีเขานี่แหละ มันเป็นความรักที่อุ่นๆ ดีค่ะ สำหรับใหม่แล้ว ใหม่คิดว่าคนสมัยนี้อาจละเลยลืมมองไปว่าคนที่สำคัญที่สุดก็คือคนที่อยู่ข้างเรา บางทียามฝนตกมีเพื่อนไปรับเรา ยามที่เรารถเสีย รถตายอยู่ ไม่มีใครเหลือเลย ก็เป็นเขาที่ช่วยเหลือเรา สิ่งเหล่านี้ใหม่ก็คิดว่ามันปะติดปะต่อและสร้างให้ความรักเจริญเติบโตและงอกเงย สุดท้ายตัวเราเองที่เป็นคนค้นหามันเจอได้ด้วยตัวของเราเอง”

          แหมซึ้งซะขนาดนี้ แต่กว่าจะได้โลเกชั่นถูกใจ ทีมงานภาพยนตร์เฟ้นหาทั่วกรุงเทพ จนมาได้ที่ตึกสูงแห่งหนึ่งแถวเจริญกรุง-บางรักซึ่งมองเห็นแสงสีของตึกสูงในแบบพาโนรามา และในวันที่ถ่ายทำถือได้ว่ามีคิวการทำงานที่มาราธอนต่อเนื่องมากๆ เพราะต้องย้ายโลเกชั่นถ่ายทำถึง 2-3 โลเกชั่นตั้งแต่เช้า จนกระทั่งพลบค่ำถึงได้ถ่ายทำฉากสำคัญดังกล่าว แต่ที่เหนือความคาดคิดทีมงาน ผู้กำกับหม่ำ จนถึงนักแสดงนำอย่างสาวใหม่คือ เป็นการถ่ายทำกลางฤดูร้อนในค่ำคืนที่กรุงเทพหนาวที่สุดเพียง 10 กว่าองศา แถมงานนี้นางเอกใหม่ของเราต้องนุ่งมินิสเกิร์ต ส่วนพระเอกหม่ำต้องนุ่งกางเกงขาสั้นทนหนาวกันเลยทีเดียวต้องยกให้สปิริทของทั้งคู่จริงๆ

          23 มิถุนายนนี้ เตรียมพบฉากซึ้งปนขำ และการแสดงแบบเข้าขากันของ 2 ซุปตาร์ใน “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ รับรองว่าอีกไม่นานเกินรอ

Google on June 14, 2011, 05:49:10 PM
          MV ให้ฉันดูแลเธอ โดย ใหม่ เจริญปุระ ประกอบภาพยนตร์เรื่อง "ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน"
          "ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน"
          นิยามความรักสุดจี๊ดในยุค 2011
          จากมุมมองและผลงานการกำกับลำดับที่ 9 ของ "หม่ำ จ๊กม๊ก"
          เรื่องของเพื่อนรักก็คือ.....เรื่องของเรา
          เมื่อความรักของเพื่อน........ กลายมาเป็นเรื่องรักของเรา
          แล้วคุณคิดว่า....จากเพื่อนที่เรารัก จะสามารถเปลี่ยนสถานะได้หรือไม่???

          เรื่องราวมิตรภาพ ความรัก ของ "เพื่อนรักเพื่อน" ที่พร้อมให้ เติมเต็มความสุขและคุณค่าของชีวิตของเพื่อนโดยไม่มีข้อแม้ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล/หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม/บั้งไฟฟิล์มและบาแรมยู จับ "หม่ำ-ใหม่-โหน่ง" มาบรรเลงความสนุกเพื่อสร้างความสุขให้กับแฟนๆรับปีกระต่ายฮาเฮ พร้อมด้วยพาเหรดซุป'ตาร์ร่วมบันดาลสีสันแห่งอารมณ์เปื้อนยิ้มกันถ้วนหน้า เท่ง เถิดเทิง, ตุ่ม-ชลิต เฟื่องอารมณ์, ค่อม ชวนชื่น, ปั๋ง ประกาศิต, แอนนา ชวนชื่น, โจอี้, พ่อดม ชวนชื่น, แม่แดงฉันทนา

          23 มิถุนา นับถอยหลังฮาถึงเวลา โดนเต็มๆ
 
 <a href="http://www.youtube.com/watch?v=TwO6gCERqtU" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=TwO6gCERqtU</a>

Google on June 17, 2011, 04:05:35 PM
อยากให้ “โดน” หม่ำชวนดู ยันเรื่องจริงใกล้ตัว หนังรักสำหรับ “คนรักเมียและเพื่อน” ต้องไม่พลาด







          เป็นเซอร์ไพรส์แบบจัดหนักเลยทีเดียวสำหรับ “คนที่ใช่ทำมั้ยไม่ยักกะโดน ส่วนคนที่โดนทำมั้ยถึงไม่ใช่สักที”จนกลายมาเป็นนิยามรักสุดจี๊ด ณ พ.ศ.นี้ ที่ผกก.ตลกร้อยล้าน “หม่ำ จ๊กม๊ก”หยิบเอาประเด็น ถ้าต้องเลือกระหว่าง “เพื่อน” กับ “เมีย” คุณจะเลือกใคร? ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ ถึงขนาดหลายคนเกิดข้อสงสัยว่าตกลงเอาเรื่องราวมาจากชีวิตจริงของใครรึเปล่างานนี้เจ้าตัวยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าคือที่มาของไอเดีย “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” หนังรักตุงนังเรื่องล่าสุด 
 
          “เป็นเรื่องจริงที่หลายคนพอได้ฟังเรื่องแล้วบอกเลยว่า “โดน” เลยละ ถ้าภาษาวัยรุ่นเขาก็บอกว่าอินเทรนด์มากๆ แต่จริงๆ ผมว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และก็เกิดมานานแล้วนะ เรื่องเพื่อนกับเรื่องเมียเรื่องแฟนเนี่ยะ ปัญหาโลกแตก อย่างของผมนี่ ถามว่านอกเหนือจากงานแล้วก็มีเรื่องเพื่อนกับครอบครัวนี่แหละที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา และพูดไม่ได้นะ กับภรรยาสุดที่รักเนี่ยะ ถ้าพูดขึ้นมาเป็นเรื่องเลย ไปไหน อยู่ไหน ทำไมยังไม่กลับ บอกไปกับเพื่อน โดนเลย ไปกันจังกับเพี่อนเนี่ยะ กี่โมงกี่ยาม เผลอๆ มาหึงเพื่อนซะงั้น”

          ยืนยันว่าเป็นหนังรักที่เจ้าตัวตั้งและอยากทำให้แฟนๆ มาลองดูกัน ซึ่งรับรองว่าไม่เหมือนกับ “แหยมยโสธร” และ “วงษ์คำเหลา” อย่างแน่นอน แต่ยังคงฝีไม้ลายมือในการเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แถมยังแอบเหยาะด้วยว่าสำหรับเรื่องนี้รับรองดูแล้วอมยิ้มอาจจะขำปนซึ้ง รู้สึกอุ่นๆ น้ำตาคลอๆ แบบไม่รู้ตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับ เพื่อน และ ครอบครัว 
 
          “คือเรื่องจะเป็นยังไง เราก็ยังไม่ลืมตัวเราด้วย ในส่วนของอารมณ์ขันก็ต้องมีตลอด เพราะเป็นนิสัยด้วยไง ไม่อยากให้คนซีเรียส ถึงบอกว่าทำหนังเครียดไม่เป็น และหนังรักแบบดราม่าจ๋าแบบหนักๆ เค้นน้ำตาขนานนั้นก็ทำไม่เป็นหรอก แต่ก็ไม่แน่นะ แต่กลับเรื่องนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องของความรักมากกว่า ความรักกับเพื่อน รักกับครอบครัวและภรรยา เสน่ห์มันอยู่ตรงนี้แหละ ถ้าใครมีเพื่อนที่รัก และเป็นคนที่รักครอบครัวด้วย อย่าพลาดเรื่องนี้ สิ่งที่อยากให้คนดูได้รับจากหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องของความอบอุ่น ของครอบครัว ของคำว่าเพื่อน ชีวิตนี้ผมว่ามีหลายคนเลยที่ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เพื่อนได้ เพื่อนจะตาย ก็ยังจะตายกับเพื่อน โดยที่ไม่ห่วงเมียด้วยนะ คิดดูซิ หรือชีวิตนี้ก็มีเพื่อนอยู่คนเดียว ถ้ามึงเป็นอะไรก็ขอเป็นด้วยดีกว่า คือเวลาคนที่มีปัญหาจริงๆ คนที่คิดถึงก็คือเพื่อนนะ พ่อแม่นี่มักจะมาทีหลังนะ นี่คือเรื่องจริงของคนเลยนะ จะต้องเป็นเพื่อนที่เราสนิทและเรารักมากๆ เหมือนวัยรุ่นเวลามีปัญหาก็มักจะคุยกับเพื่อนก่อน ผมว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆ นะ ก็อย่างในหนังขนาดตอนใหม่คลอด เราก็ยังอยู่เป็นเพื่อนตลอด เรารู้สึกว่ามันคือเพื่อน และก็จับมือมันให้มันเบ่ง อยู่เคียงข้างตลอด และพ่อแม่มันก็มาไม่ทันด้วย เหมือนกับว่าเราเนี่ยะเป็นทุกอย่างสำหรับมันในตอนนั้นเลยละ และมันก็พูดตลอดว่า “หม่ำอย่าทิ้งกู อย่าไปไหนนะ”

          แค่ฟังก็รู้สึกได้ถึงร่องรอยของความรักที่ดูอุ่นๆ อย่างที่ผกก.หม่ำ จ๊กมก แยบๆ ไว้จริงๆ แต่ถ้าอยากสัมผัสกับอารมณ์ขำปนซึ้งแบบจัดเต็มกับอีกแง่มุมของรสชาติโรแมนติคคอมิดี้จากสองมือและก้านสมองของผู้ชายชื่อหม่ำ 23 มิ.ย. นี้ เตรียมพบกับ “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” ได้ทุกโรงภาพยนตร์

Google on June 22, 2011, 06:56:33 PM
          เปิดตัว “ใหม่หม่ำรอบปฐมทัศน์” ฮากระจาย ทั้งหนังบนจอและโชว์บนเวที ใหม่ไว้ลายซุปตาร์ดิวาดิ้นสะบัด “โหน่ง-หม่ำ” ไม่น้อยหน้า พร้อม เท่ง-จั๊กจั่น-แม่แดง ร่วมเซอร์ไพรส์วันเกิด พ่อดม ชวนชื่น



          ระเบิดความสนุกสนานผสมผสานรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะด้วยอารมณ์ซึ้งๆ อุ่นหัวใจที่ทั้ง “ใช่” และ “โดน” ไปเต็มๆ แถมงานนี้เรียกเสียงปรบมือจากบรรดาผู้ชมในรอบปฐมทัศน์เปิดตัว “ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน” ผลงานการกำกับลำดับที่ 9 ของ “หม่ำ จ๊กม๊ก” ตลกตัวพ่อที่นางเอกซุป’ตาร์ ใหม่ เจริญปุระ ให้ฉายาว่า “king of comedy” เพราะพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า หนังตลกเรื่องล่าสุดของผู้กำกับหม่ำเรื่องนี้มีเซอร์ไพรส์ชนิดที่ว่าหลายๆ คนอาจคาดไม่ถึง เผยให้เห็นอีกแง่มุมความสามารถในการกำกับภาพยนตร์ที่เน้นอารมณ์โรแมนติคเป็นหลักได้อย่างลงตัวสุดๆ

          งานนี้ทำเอาพื้นที่บริเวณชั้น 8 โรงภาพยนตร์เอส.เอฟเวิลด์ ซีเนม่า เซ็นทรัลเวิลด์ แคบลงไปทันที เมื่อเหล่าสื่อมวลชนจากทุกแขนงต่างให้ความสนใจ ร่วมทำข่าวงานเปิดตัว และร่วมชมภาพยนตร์เรื่อง “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” กันอย่างคับคั่ง ภายใต้คอนเซ็ปท์ปาร์ตี้รวมพลคนโสด สิงห์ กระทิง เก้ง กวางที่ “หม่ำ จ๊กม๊ก” จัดให้กับ “โหน่ง-ใหม่” โดยเฉพาะ แถมยังได้ “เท่ง เถิดเทิง”มาร่วมแจม เรียกเสียงฮากันท้องแข็ง ตั้งแต่งานเปิดตัวบนเวทีจนถึงเรื่องราวบนจอภาพยนตร์เลยทีเดียว เมื่อถึงเวลาพี่ใหญ่แห่งแก๊งสามช่าสั่งโชว์ชุดพิเศษให้เป็นของขวัญกับทั้งคู่ ทางด้านซุปตาร์นักร้องนักแสดงเอนเตอร์เทนเนอร์มือ1 อย่างใหม่ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังสะบัดลีลาร่วมแจมกับหนุ่มๆ ก่อนที่ของขวัญดิ้นได้จะรีเทิร์นกลับสู่พี่หม่ำ-น้องโหน่ง แต่เพื่อไม่ให้หนุ่มๆ สาวๆ หัวใจวายด้วยความคึกคักไปเสียก่อน พิธีกร เป้ วิศวะ ก็ได้เปิดตัวเหล่านักแสดงรับเชิญย้ำว่าแค่บางส่วนที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับภาพยนตร์ก็ขึ้นมาร่วมแจมกันอย่างครึกครื้นนำโดย แม่แดงฉันทนา กิติยพันธ์ ที่หยุดร้องเพลงเพื่อมาร่วมงานวันนี้โดยเฉพาะควง พ่อดม อุดม ชวนชื่น ซึ่งเกิด

          วันนี้พอดี พร้อม สาวบิวตี้ พรีเซนเตอร์กาแฟชื่อดัง พร้อมด้วย สาวจั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข นางเอกวงษ์คำเหลา1ใน3นางเอกหนังรักของผกก.หม่ำ ที่มาร่วมเป็นอีกหนึ่งความเซอร์ไพรส์อันหลากหลายที่จะปรากฎในภาพยนตร์ เรื่องใหม่กะหม่ำโดนกะโดน ถือเค้กขึ้นมาให้พ่อดมโดยมีเหล่านักแสดงร่วมร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์กันอย่างชื่นมื่น

          นอกจากนี้ภายในงานยังมีการมอบของรางวัลให้กับสื่อมวลชนผู้โชคดีที่ร่วมสนุกกับปาร์ตี้ในงานที่ให้แขกร่วมเลือกโหวต “คนที่โดนคนที่รักโดยไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก” ก่อนที่ทั้งหมดจะถ่ายภาพร่วมกับบรรดาผู้บริหารและพันธมิตรผู้สนับสนุนหลักของภาพยนตร์นำโดย คุณปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบ.เวิร์คพอยท์เอนเทอร์เทนเมนท์ จำกัด(มหาชน), คุณเตือนใจ เตชะรัตนประเสริฐ รองประธานกรรมการ บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, ปรัชญา ปิ่นแก้ว และพาณิชย์ สดสี ผู้ควบคุมงานสร้างของภาพยนตร์, คุณสุพัฒน์ งามวงศ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บ.เอสเอฟเวิร์ลซีเนม่าซิตี้ จำกัด และคุณภาสินี ปรีชาธนาพล ผู้อำนวยการฝ่ายสายงานสื่อสารองค์กร บ.ไทยประกันชีวิต จำกัด ร่วมถ่ายภาพพร้อมกับเหล่านักแสดงและผู้กำกับร่วมพิสูจน์อารมณ์รักโรแมนติคขำปนซึ้งไปกับอีกรสชาติของภาพยนตร์จากฝีมือของหม่ำ จ๊กม๊กกับ “ใหม่กะหม่ำโดนกะโดน” ได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์