MOVIE: "The Ward"
ประเภท Horror / Thriller
คำโปรย Only sanity can keep you alive
กำหนดฉาย 19 พฤษภาคม 2011
เว็บไซด์ภาพยนตร์
http://thewardmovie.com/ บริษัทจัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
อำนวยการสร้าง ปีเตอร์ บล็อค (Saw I-VI, High Tension, Hard Candy)
กำกับ จอห์น คาร์เพนเตอร์ (Halloween, The Fog, Village of the Damned)
นำแสดง แอมเบอร์ เฮิร์ต (Never Back Down, The Informers)
เดเนียลเล่ พานาบาเกอร์ (Friday the 13th, Sky High)
มิก้า บูเรม (Dirty Dancing: Havana Nights, Blue Crush)
ลินซี่ย์ ฟอนเซก้า (Kick-Ass)
การกลับมาครั้งแรกในรอบ 10 ปีของ จอห์น คาร์เพนเตอร์ ผู้กำกับต้นฉบับ Halloween และ The Thing ผลงานจากผู้สร้าง Saw ทุกภาค
เนื้อเรื่อง
ผลงานการหวนคืนสู่การกำกับหนังครั้งแรกในรอบ 10 ปีของ จอห์น คาเพนเตอร์ ที่ให้กำเนิดหนังสยองขวัญสุดคลาสสิกอย่าง Halloween และ The Thing
คริสเต็น (แอมเบอร์ เฮิร์ต) วัยรุ่นเจ้าปัญหาฟื้นขึ้นมาพร้อมกับรอยฟกช้ำและบาดแผลจากการถูกลาก เธอพบว่าตัวเองถูกกขังไว้ในวอร์ดผู้ป่วยโรงพยาบาลจิตเวช เธอสับสนว่าทำไมถึงถูกพามายังสถานที่แห่งนี้ และก็ไม่มีความทรงจำใดๆเกี่ยวกับชีวิตก่อนหน้านี้เลย มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอรู้ในตอนนี้ก็คือ... ที่นี่ไม่ปลอดภัย
หญิงสาวอีก 4 คนในวอร์ดแห่งนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง คริสเต็น พบว่าทุกสิ่งไม่เป็นไปอย่างที่เห็น บรรยากาศหนักอึ้งไปด้วยความลับ โดยเฉพาะตอนกลางคืนเมื่อความมืดเข้าปกคลุม พวกเธอก็จะได้ยินเสียงแปลกๆที่ชวนให้ขนลุก... ดูเหมือนพวกเธอทั้งห้าคนจะไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
ในไม่ช้าเพื่อนร่วมวอร์ดของ คริสเต็น ก็หายตัวไปทีละคนสองคน เธอตัดสินใจว่าจะต้องหาทางออกขุมนรกนี้ให้ได้ ก่อนที่ตัวเองจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป แต่เมื่อพยายามหนี คริสเต็น ก็ยิ่งพบกับเหตุการณ์สุดอันตราย และความจริงอันน่าสยดสยองเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
The Ward กำกับโดย จอห์น คาร์เพนเตอร์ (Halloween, Escape from LA, Starman, The Fog, The Thing) จากบทภาพยนตร์ของ ไมเคิล ราสมุนเซน และ ฌอน ราสมุนเซน นำแสดงโดย แอมเบอร์ เฮิร์ต (Never Back Down, The Informers), เดเนียลเล่ พานาบาเกอร์ (Friday the 13th, Sky High), มิก้า บูเรม (Dirty Dancing: Havana Nights, Blue Crush), ลินซี่ย์ ฟอนเซก้า (Kick-Ass) และ จาเร็ด แฮร์ริส (Mad Men, The Curious Case of Benjamin Button) ในบท ดร. สตริงเกอร์
ทีมงานของ The Ward ประกอบไปด้วยผู้กำกับภาพ ยารอน ออร์บาค (The Joneses, Please Give), ผู้ออกแบบงานสร้าง พอล ปีเตอร์ส (Out of Time, High Crimes) และผู้อำนวยการสร้าง ปีเตอร์ บล็อค จาก Saw ทุกภาค
จุดเริ่มต้น
The Ward ถือเป็นการหวนคืนสู่จอเงินครั้งแรกในรอบ 10 ปีของผู้กำกับสยองขวัญในตำนาน จอห์น คาร์เพนเตอร์ โดยเขาได้กล่าวถึงสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจกลับมาทำหนังว่า "ต้องยกเครดิตให้ มิค แกร์ริส ที่ชวนผมกำกับซีรี่ย์ Master of Horror เมื่อหลายปีก่อน ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองสนุกกับการเป็นผู้กำกับอีกครั้ง โดยครั้งนี้ผมต้องการทำหนังที่ใช้ความคิดในการคลี่คลายปริศนา และนั้นก็ทำให้การเล่าเรื่องใน The Ward เป็นงานที่ทั้งท้าทายและสนุก"
ถึงแม้ว่า The Ward จะมีองค์ประกอบที่คุ้นเคยตามแบบฉบับของหนัง จอห์น คาร์เพนเตอร์ แต่เรื่องราวก็ต้องมีจุดเด่นและความพิเศษพอ ที่จะชักชวนผู้กำกับคนนี้หวนกลับมาสู่จอเงิน และก็เป็นบทภาพยนตร์ที่มาจากสตูดิโอ Echo Lake Entertainment ที่ทำให้ คร์เพนเตอร์ รู้สึกแบบนั้น
ดัค แมนคอฟ หนึ่งในผู้อำนวยการสร้างและผู้บริหารของ Echo Lake เผยว่า "พวกเราต้องการบทภาพยนตร์ที่มีความฉลาด น่ากลัว เล่าเรื่องในพื้นที่จำกัด และมีการศึกษาตัวละคร โดยในฐานะผู้อำนวยการสร้าง สิ่งที่เข้มแข็งที่สุดในบทภาพยนตร์ของ The Ward ก็คือตัวละคร คุณแค่อ่านมันครั้งแรกก็รู้สึกถึงได้แล้ว"
แมนคอฟ พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในบทภาพยนตร์ต่อว่า "ลองนึกว่าคุณถูกบังคับให้อยู่ในโรงพยาบาลบ้า และคุณก็เริ่มสงสัย หรืออาจรู้อะไรบางอย่าง เมื่อคนรอบตัวถูกฆ่าไปทีละคน แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเพราะว่าพวกเขาคิดว่าคุณเสียสติไปเอง และมันก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น เพราะคุณรู้ตัวว่าอีกไม่ช้าเหยื่อรายต่อไปก็คือคุณ"
คาร์เพนเตอร์ เผยถึงการกลับมารับงานกำกับ The Ward ว่า "มันเป็นเรื่องสนุกที่ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง สิ่งแรกที่ผมมองหาก็คือเรื่องราว ถ้าผมเห็นภาพเวลาที่ผมอ่านบท และเข้าใจถึงพื้นฐานของตัวละคร ผมก็ให้ความสนใจ ผมเข้าใจดีว่ากระบวนการสร้างหนังเป็นอย่างไร แต่ผมไม่เคยปล่อยให้ปัจจัยอื่นเข้ามาแทรกในสิ่งที่ผมต้องการทำ หนังที่อยู่ในหัวก็คือหนังที่ผมต้องการทำ"
คอหนังสยองขวัญและสาวกที่ติดตามผลงานของ คาร์เพนเตอร์ ก็คือผู้อำนวยการสร้าง ปีเตอร์ บล็อค ที่มีผลงานอย่าง Saw ทุกภาค รวมถึงผลงานสยองขวัญคุณภาพอย่าง High Tension, Undead, Cronos, Dead Alive และ Hard Candy ก็ได้เข้ามาร่วมทุนสร้างภายใต้สตูดิโอใหม่ที่เขาก่อตั้งอย่าง A Bigger Boat
บล็อค เล่าถึงการเข้ามาร่วมสร้างว่า "เป็นความใฝ่ฝันของผมที่จะสร้างหนังของ จอห์น คาร์เพนเตอร์ โดยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ผมได้ซื้อและสร้างหนังสยองขวัญมาแล้วมากมาย แต่การได้ร่วมงานกับ จอห์น ถือเป็นสิ่งที่เกินกว่าความความหวังของผม ในฐานะสาวกที่ติดตามผลงานของเขา ผมบอกได้ว่า The Ward จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง"
บล็อค กล่าวสรุปว่า "The Ward จะอยู่เคียงข้างกับหนังคลาสสิกของ จอห์น คาร์เพนเตอร์ จะเป็นการสืบสานตำนานของหนังอย่าง The Fog, Halloween และ The Thing และยังเป็นการแสดงให้นักสร้างหนังในปัจจุบันเวทีเห็นว่า หนังสยองขวัญที่แท้จริงนั้นเป็นยังไง"
การคัดเลือกนักแสดง
ถ่ายทำนอกตัวเมือง รัฐวอชิงตัน ในเขตพื้นที่ของโรงพยาบาลโรคจิต อีสเทิร์น วอชิงตัน สเตท (Eastern Washington State) ที่ยังเปิดใช้งานในปัจจุบัน The Ward มีองค์ประกอบของหนัง จอห์น คาร์เพนเตอร์ อยู่ทุกอณู ไม่ว่าจะเป็น ความโดดเดี่ยว วิตกจริต และอันตรายที่มองไม่เห็น เมื่อคนไข้ 5 คนตกอยู่ในอันตราย ภายในเขาวงกตที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือของ คาร์เพนเตอร์ อย่างพิถีพิถัน
ผู้อำนวยการสร้าง แอนดี้ สปอลดิ้ง พูดถึงองค์ประกอบสำคัญของ The Ward ว่า "พวกเราต้องการยกระดับให้เหนือกว่าหนังสยองขวัญทั่วไป สำหรับพวกเราแล้วองค์ประกอบหลักของหนังก็คือ จอห์น คาร์เพนเตอร์ ผู้กำกับที่สามารถถ่ายทำเรื่องราวในจินตนาการ ด้วยสภาพแวดล้อมของทีมงานที่ทำงานกันรวดเร็ว และทีมนักแสดงที่น่าทึ่งที่สุด"
นักแสดงนำของเรื่องก็คือ แอมเบอร์ เฮิร์ต ที่เคยร่วมงานกับสตูดิโอ Echo Lake มาแล้วใน The Joneses ผู้อำนวยการสร้าง ดัค แมนคอฟ เผยว่า "พวกเราดีใจที่ได้ทำงานร่วมกับ แอมเบอร์ อีกครั้ง เธอเป็นนักแสดงที่มีความสามารถ นั้นทำให้เราเสนอชื่อของเธอให้กับ จอห์น พิจารณา"
แอมเบอร์ เฮิร์ต รับบทเป็น คริสเต็น พูดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอเข้ามาแสดงนเรื่องนี้ "นี่คือโอกาสทองที่จะได้ร่วมงานกับตำนานของวงการภาพยนตร์ และอีกสิ่งที่ทำให้สนใจก็คือฉันชอบหนังแนวนี้ The Ward เป็นส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับฉัน ฉันชอบทั้งผู้กำกับ แนวหนัง และบทภาพยนตร์"
เฮิร์ต เล่าต่อว่า "จอห์น คาร์เพนเตอร์ เป็นปรมาจารย์ เมื่อคุณพูดถึงหนังสยองขวัญ ชื่อของเขาก็จะถูกเอ่ยขึ้นมาในบทสนทนา ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นสิ่งที่เขาใส่เข้ามาที่ฉันมองไม่เห็นในบทภาพยนตร์ หนังเรื่องนี้คือตัวตนของเขา มันจะกลายเป็นหนังอีกเรื่องไปเลยถ้าไม่ใช่ผู้กำกับคนนี้ บุคลิกของเขามีความโดดเด่น เขาสามารถแบกหนังเอาไว้ได้ทั้งเรื่อง"
เฮิร์ต กล่าวสรุปว่า "นักแสดงทุกคนต่างก็มีความสามารถและจุดเด่น ฉันรู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นแนวทางของพวกเธอที่หยิบมาใช้ในตัวละคร พวกเราทุ่มเทในการทำให้ตัวละครมีความโดดเด่น และน่าแปลกที่ถึงแม้จะมีนักแแสดงหญิงอยู่ถึง 5 คน พวกเราก็ไม่เคยทะเลาะกันเลย"
ลินซี่ย์ ฟอนเซก้า รับบทเป็น ไอริส พูดถึงประสบการณ์ในการถูกคัดเลือกเข้ามารับบทว่า "การทดสอบบทของฉันควรที่จะเป็นช่วงอาหารกลางวัน แต่ตอนที่ออกมาจากรถฉันก็เห็น จอห์น คาร์เพนเตอร์ นั่งสูบบุหรี่บนม้านั่งนอกร้านอาหาร เขาบอกฉันว่า "เรามานั่งคุยกันข้างนอกดีกว่า" ซึ่งเราก็ได้พูดคุยกันทุกเรื่อง เขาบอกว่าที่เขาเลือกเพราะฉันเป็นคนที่ใช่สำหรับเขา"
ลอร่า-ลีห์ รับทเป็น โซอี้ พูดถึงการเข้ามาแสดงว่า "นี่คือหนังเรื่องแรกของฉัน ฉันรู้จัก จอห์น คาร์เพนเตอร์ มาก่อนแต่ก็ยังไม่ได้ดูผลงานของเขา ก่อนที่จะทดสอบบทฉันได้เลือกหนังของเขามาดูภายในสองคืน และมันก็มีความแตกต่างกันในแนวหนัง อย่างเช่น Christine ที่เต็มไปด้วยความสมจริง หรือหนังหลุดโลกอย่าง Big Trouble in Little China และหนังรัก-แฟนตาซีอย่าง Memoirs of an Invisible Man"
มามี่ กัมเมอร์ รับบทเป็น เอมิลี่ ก็พูดถึงการได้เข้ามารับบทว่า "ฉันได้อ่านบทและรู้สึกชอบมาก เพราะมันทำให้ฉันกัดเล็บตลอดเวลา จากนั้นฉันก็ได้นัดพบกับ จอห์น ในร้านอาหาร เราทั้งคู่คุยกันถูกคอกันทันที แต่ฉันดูหนังของเขาไม่ไหวหรอกนะ เพราะฉันทนดูหนังผีไม่ได้ แต่เขาก็เป็นผู้กำกับที่ยอดเยี่ยมที่ได้ร่วมงานด้วย"
เดเนียลเล่ พานาบาเกอร์ รับบทเป็น ซาร่าห์ เล่าว่า "หน้าที่ของฉันก็คือการช่วย จอห์น เล่าเรื่องออกมาให้ดีที่สุด มันเป็นเวลานับทศวรรษที่ จอห์น ห้างหายจากการทำหนังใหญ่ แต่ก็เป็นเรื่องน่าทึ่งที่เขาสามารถกลับมากำกับเหมือนไม่ได้หายไปไหน และยังทำให้คุณรู้สึกทึ่งตลอดเวลา ฉันหวังว่าแฟนๆที่รอคอยทุกคนคงไม่ผิดหวัง"
มิก้า บูเรม รับบทเป็น อลิซ ก็เผยว่า "ทั้งชีวิตคุณคงแสดงหนังได้ไม่กี่สิบเรื่อง และหนึ่งในนั้นก็ควรจะเป็นหนังของ จอห์น คาร์เพนเตอร์ ฉันเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเขา และหนังที่ฉันชอบที่สุดก็คือ The Thing เมื่อได้อ่านบทฉันก็ชอบทันที องค์ประกอบทุกอย่างดึงฉันเข้าไปในเรื่องราว ความกดดันทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้น และฉันยังสนใจเรื่องจิตเวชอยู่แล้ว และการได้รับบทเป็น อลิซ ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เป็นสิ่งที่ฉันนึกไม่ถึงมาก่อน"
จอห์น คาร์เพนเตอร์ พูดถึงทีมนักแสดงของเขาว่า "นี่คือกลุ่มนักแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทุกคนสามารถสร้างความผูกพันในระหว่างการถ่ายทำ และความผูกพันก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะมันทำให้พวกเธอแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ และทำให้บรรยากาศของการทำงานมีความสนุก เพราะด้วยเนื้อหาและสภาพแวดล้อมที่แต่ละคนต้องเจอเป็นอะไรที่กดดันมาก"
ผู้อำนวยการสร้าง ปีเตอร์ บล็อค พูดถึงทีมนักแสดงว่า "นักแสดงหญิงทั้ง 5 คนเมื่อรวมกันแล้วจะทำให้คุณต้องทึ่ง จอห์น ดูมีความชัดเจนในการถ่ายทอดแต่ละคน เขาดึงเดาจุดเด่นของนักแสดงแต่ละคนออกมาใช้ และก็ยังมอบพื้นที่ให้พวกเธอได้เติบโต จอห์น รู้ว่าหนังสยองขวัญที่ดีจะขับเคลื่อนด้วยตัวละคร และเขาก็ได้มอบความมั่นใจให้กับพวกเธอ"
บล็อค เล่าต่อว่า "นักแสดงทั้ง 5 มีช่วงเวลาที่โดดเด่น มามี่ สามารถแสดงเป็นผู้หญิงร้ายได้อย่างน่าจดจำ ดาเนียลเล่ ก็มีความเซ็กซี่ ลินซี่ย์ ก็มีเสียงกรีดร้องที่น่าขนลุกที่สุด ในณะที่ ลอร่า-ลีห์ ก็แสดงเป็นตัวละครที่ไม่รู้จักโตได้อย่างน่าทึ่ง แต่ก็เหมือนกับทีมบาสเก็ตบอล เมื่อในทีมต้องมีซุปเปอร์สตาร์อยู่ และใน The Ward ก็คือ แอมเบอร์ เฮิร์ต เพราะทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับเธอ เพราะทุกๆฉากต้องมีเธอปรากฏตัว"
คาร์เพนเตอร์ พูดถึงสิ่งที่นักแสดงของเขาต้องทำว่า "นักแสดงต้องสามารถพิสูจน์ตัวเอง เพราะนั้นคือส่วนหนึ่งของงาน ผมไม่ติดใจถ้าพวกเธอจะค้นพบระหว่างอยู่ในกองถ่าย เราสามารถช่วยกันได้ แต่สุดท้ายแล้วผมต้องการให้พวกเธอพร้อมเมื่อถึงเวลาถ่ายทำ หน้าที่ผมก็คือคอยแนะนำ ผมเป็นคนทำงานเร็ว มีฉากที่ต้องถ่ายทำมากมาย ผมต้องการเทคที่ดีสองเทคแล้วถ่ายทำฉากต่อไป แต่บางฉากมันก็ต้องใช้เวลา"
ลอร่า-ลีห์ เล่าถึงประสบการณ์ในการถ่ายทำว่า "ฉันชอบวิธีการทำงานในเรื่องนี้ ฉันไม่ต้องถ่าย 30 เทคเพื่อให้ตัวเองเข้าใจว่าต้องทำยังไง จอห์น ต้องการให้คุณมีการเตรียมตัว เขาบอกให้คุณทำการบ้านมาก่อนและนำสิ่งที่คุณเข้าใจเข้ามาในการถ่ายทำ ซึ่งทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่าถ้าคุณมีการเตรียมตัว บางสิ่งบางอย่างก็จะเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาของมัน และเขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือคุณในการทำงาน"
ฟอนเซก้า พูดถึงผู้กำกับว่า "จอห์น เป็นคนตลก เพราะเขาดูเหมือนพวกหัวโบราณ เช่นทุกคนต้องปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่มีการหยอกล้อเล่นกัน เขาดูเหมือนคนที่คุณเล่นด้วยไม่ได้ แต่กลายเป็นว่า จอห์น แค่แกล้งทำให้ดูเหมือนผู้กำกับสุดเฮี้ยบ คุณจะรู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นคนใจดี และก็คอยดูแลพวกเราทุกคน"
คาร์เพนเตอร์ พูดถึงทีมนักแสดงของเขาว่า "ผมชื่นชมนักแสดงทุกคน เพราะพวกเธอทำให้ผมทำงานเบาลง ผมคิดว่าถ้านักแสดงนำแนวคิดของตัวเองเข้ามา และมีแรงใจในการแสดงเป็นตัวละครที่ได้รับ มันก็จะดีกว่าในทุกขั้นตอน ผมภูมิใจในพวกเธอ และมีความสุขกับผลลัพธ์ รวมถึงนักแสดงอย่าง จาเรด แฮร์ริส ที่เป็นเหมือนผู้บังคับกฏในหนัง"
จาเรด แฮร์ริส รับบทเป็น ดร. สตริงเกอร์ ได้กล่าวชื่นชมผู้กำกับว่า "จอห์น คาร์เพนเตอร์ เป็นคนยอดเยี่ยมมาก เพราะเขาสามารถทำแนวหนังที่ยากให้เป็นเรื่องง่าย เขาไม่ใช่แค่ผู้กำกับหนังสยองขวัญ เพราะหนังอย่าง Starman หรือ Big Trouble in Little China ก็แสดงให้เห็นว่าเขาทำหนังได้ทุกแนว The Ward มีองค์ประกอบของหนังสยองขวัญ แต่มันก็ยังเป็นหนังทริลเลอร์จิตวิทยา ผมคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นประสบความสำเร็จ"
แฮร์ริส พูดถึงการเข้ามาร่วมงานว่า "ผมพบกับ จอห์น ครั้งแรกในวันที่พวกเราเริ่มถ่ายทำ และพบว่าเขาเข้าใจสิ่งที่กำลังตามหาอย่างแน่นอน ผมรู้สึกได้เลยว่าเขาตัดต่อหนังทั้งเรื่องเอาไว้ในหัวแล้ว เขาถ่ายทำส่วนนี้หน่อยส่วนนั้นหน่อย เขาทำงานแตกต่างไปจากระบบของสตูดิโอ ที่ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามตารางงาน เขามีพื้นที่สำหรับเรื่องที่ไม่คาดคิดเสมอ นี่เป็นหนังที่มีการดั้นสดมากที่สุดในอาชีพนักแสดงของผม ผมรู้สึกซาบซึ้งไปกับประสบการณ์ที่ได้รับจากเรื่องนี้"