happy on May 04, 2011, 01:48:21 PM
TK park ร่วมกับ 5 องค์กรพันธมิตร
จัด“นิทรรศการ พิพิธอาเซียน…A journey through ASEAN”


อุทยานการเรียนรู้ TK park



               ในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 9 เมื่อเดือนตุลาคม 2546 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ผู้นำอาเซียนได้ลงนามในปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน( Declaration or ASEAN Concord ll หรือ Bali Concord) เห็นชอบให้มีการจัดตั้งประชาคมอาเซียนขึ้น (ASEAN Community) ภายในปี ค.ศ.2020 ต่อมาในที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่12 ที่เมืองเชบู ประเทศฟิลิปปินส์ ได้ตกลงให้มีการจัดตั้งประชาคมให้แล้วเสร็จเร็วขึ้นภายในปี ค.ศ. 2015 หรือ พ.ศ. 2558
               จากการลงนามในปฏิญญาดังกล่าว จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงของ 10 ประเทศในอาเซียน ประกอบด้วย  ไทย  ลาว  กัมพูชา  พม่า  เวียดนาม  มาเลเซีย  อินโดนีเซีย  ฟิลิปปินส์  บูรไน และสิงคโปร์ ผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยมีกรอบความร่วมมือ 3 เสาหลัก ได้แก่ ประชาคมความมั่นคงอาเซียน , ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งทั้ง 3 ด้านนี้ เป็นสิ่งที่คนไทยควรเตรียมความพร้อมต่อผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม
               แม้ปัจจุบันประชาคมอาเซียนจะยังไม่เกิดขึ้น แต่กลุ่มประเทศในสมาชิกอาเซียนต่างมีการเตรียมความพร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ดังนั้น คนไทยทุกคนจึงต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวเพื่อเข้าสู่การเป็น
“ประชาคมอาเซียน” หรือ “พลเมืองอาเซียน”

               สำนักงานอุทยานการเรียนรู้(สอร.) สังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้(องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี  จึงร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)  ,  กรมอาเซียน  กระทรวงการต่างประเทศ , สมาคมอาเซียน-ประเทศไทย  , การท่องเที่ยวมาเลเซีย ประจำประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพฯ  และกลุ่มฟิล์มกาวาน จัด “นิทรรศการ “พิพิธอาเซียน…A journey through ASEAN”ขึ้น ระหว่างวันที่ 27 เมษายน - 8 พฤษภาคม 2554 ณ อุทยานการการเรียนรู้ TK park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์  กรุงเทพฯ


                นายปราโมทย์  วิทยาสุข  ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.)กล่าวว่า สบร.เป็นองค์กรของรัฐภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี มีบทบาทหลักในการส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสแสวงหาและพัฒนาความรู้ความสามารถเพื่อเพิ่มความรู้สร้างสรรค์และพัฒนาคุณภาพความคิดของประชาชนและเยาวชน ให้เป็น “คนรุ่นใหม่” ที่พร้อมรับมือกับสถานการณ์โลก ที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
                “ จึงเห็นว่าการติดอาวุธทางปัญญาเพื่อเด็กและเยาวชนนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในปี พ.ศ.2558 หรือ ค.ศ.2015 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ดังนั้น จึงต้องเตรียมความพร้อมเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นพลังสำคัญของชาติให้มีศักยภาพและพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ของการเข้าเป็นส่วนหนึ่งในประชาคมอาเซียน  ซึ่งการจัดนิทรรศการครั้งนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้นอกห้องเรียน”



                 ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.) และผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) TK park กล่าวว่า TK park มีแนวทางการดำเนินงานเพื่อกระตุ้น ส่งเสริมและปลูกฝังนิสัยรักการอ่านการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในโอกาสที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การเป็นสมาชิกของประชาคมอาเซียนในอีก 4 ปีข้างหน้า จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในการเตรียมความพร้อมเพื่อปูพื้นฐานความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน ให้แก่เด็กและเยาวชน  ซึ่งในเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2554 นี้ TK park จึงได้จัดกิจกรรม “นิทรรศการ พิพิธอาเซียน…A journey through ASEAN” ขึ้น


                 ด้าน ศ.ดร.สวัสดิ์  ตันตระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)กล่าวว่า สกว.เป็นองค์กรของรัฐภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี มีบทบาทสำคัญในการสร้างคน สร้างองค์ความรู้ผ่านกระบวนการสนับสนุนทุนการวิจัยและการบริหารจัดการงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ กรณีความร่วมมือกับสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) ที่ดำเนินงานร่วมกันมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548  ถึงปัจจุบัน เป็นช่องทางหนึ่งในการนำผลงานความรู้และผู้รู้ในเครือข่าย สกว. ไปสนับสนุนการสร้างระบบการเรียนรู้ให้คนและสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเยาวชนที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ 
                  “ตลอดระยะเวลาของความร่วมมือทางวิชาการกับสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ที่ผ่านมานั้น ได้นำเอาเนื้อหาข้อมูลจากงานวิจัยมานำเสนอจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการ พร้อมกับจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการในเรื่องราวต่างๆ เดือนละ 1 เรื่อง ณ อุทยานการเรียนรู้ต้นแบบและบริการ TK park และเชื่อมโยงเนื้อหาเหล่านั้นเข้าสู่หนังสือและการอ่าน โดยเน้นให้ความสำคัญกับกิจกรรมฝึกปฏิบัติ ภายใต้แนวคิดการเรียนรู้และค้นพบตนเองผ่านการปฏิบัติจริง จนถึงปัจจุบันมีผลงานวิจัยของ สกว.กว่า 56 เรื่องที่มีการเผยแพร่ร่วมกับสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.)”


                 สำหรับความร่วมมือในการจัดนิทรรศการ “พิพิธอาเซียน...A Journey through ASEAN” ในครั้งนี้  จะกระตุ้นให้เด็ก เยาวชน และครอบครัว ได้เปิดโลกทัศน์หลากมิติกับประเทศเพื่อนบ้านมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการที่อาเซียนกำลังจะมุ่งพัฒนาไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี ค.ศ.2015 เป็นการสร้างความพร้อม เพื่อให้เราอยู่ร่วมกันกับมิตรประเทศอย่างเข้าใจ เท่าทัน และมีความสุข 
                  และหวังเป็นอย่างยิ่งว่านิทรรศการพิพิธอาเซียนในครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้สังคมไทยเกิดความตื่นตัวในการเตรียมตัวสู่การเป็นประชาคมอาเซียนต่อไป






« Last Edit: May 04, 2011, 02:02:51 PM by happy »

happy on May 04, 2011, 02:04:29 PM