noosuu on May 03, 2011, 12:17:00 AM
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=SNYlZwZWee8" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=SNYlZwZWee8</a>

คอลัมน์ ญ.หญิงบนแผง

คงพอจะทราบข่าวคราวกันบ้างแล้ว สำหรับเรื่องราวของ ด.ญ.ณัชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จ.ตรัง ที่ไปเรียนซัมเมอร์ภาษาอังกฤษ ที่ประเทศสิงคโปร์ และประสบอุบัติเหตุ "รถไฟฟ้าทับขาขาด" ทั้งสองข้าง

ในวัยเพียง 14 ปี หนูน้อยต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายแรงที่แม้แต่ผู้ใหญ่เองยังทำใจได้ยาก ทว่า...ด.ญ.ณิชชารีย์ หรือ น้องธัญ คนนี้กลับมีกำลังใจเข้มแข็งไม่คร่ำครวญเสียใจกับ 2 ขาที่สูญเสียไป

หลังจากมรสุมพัดผ่านเข้ามายัง "ครอบครัวเป็นเอกชนะศักดิ์" เริ่มจะซาลงบ้างแล้ว มติชนได้ขอนัดคุยกับคุณพ่อผู้เข้มแข็ง "นายกิตติ์ธเนศ เป็นเอกชนะศักดิ์" อายุ 55 ปี เจ้าของธุรกิจส่วนตัว และพี่สาว "นางสาวธัญญ์รวี" อายุ 20 ปี ชั้นปี 2 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเอแบค ไถ่ถามถึงความเป็นไปของน้อง ซึ่งคุณพ่อบอกว่า เพิ่งกลับจากไปเฝ้าอาการน้องธัญที่สิงคโปร์ น้องธัญกำลังใจดีมาก ขอขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้น้องมาโดยตลอด
 
จากนั้น ก็ย้อนเล่าถึงเหตุการณ์วันที่น้องธัญประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 3 เมษายน ว่า รู้สึกตกใจจนช็อคกันทั้งครอบครัว แต่ก็ต้องพยายามตั้งสติ เพราะอุบัติเหตุไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องทำให้ดีที่สุด หลังจากทำใจอยู่สักพักจนเข้มแข็งแล้ว อีก 5 วันให้หลัง เขาก็บินไปหาลูกสาวที่สิงคโปร์ เป็นการพบกันครั้งแรกหลังเกิดเหตุ ที่เมื่อพ่อเข้าไปกอดลูก เด็กน้อยก็น้ำตาไหล แต่เพียงนิดเดียวเท่านั้น น้องธัญก็กลับมาร่าเริงดังเดิม และเล่าย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อวันเกิดเหตุให้ฟังอย่างละเอียด


"วันนั้น น้องนัดกับเพื่อนๆ ว่าจะไปเที่ยวกัน น้องก็เดินไปขึ้นรถไฟ ระหว่างรอรถ น้องยืนอยู่หลังเส้นเหลืองซึ่งมีคนเยอะมากยืนอยู่ข้างหลังน้อง แล้วจู่ๆ ก็เหมือนมีแรงผลักให้น้องตกลงไปบนรางรถไฟฟ้า แต่น้องมีสติมาก พอถูกรถทับขา ก็พยายามยกขาทั้งสองออกมาอยู่ข้างรางรถไฟ และเกาะพื้นซีเมนต์ทางเท้าไว้

 
จากนั้น ตะโกนเรียกให้คนช่วยเป็นภาษาอังกฤษว่า เฮลมี เฮลมี แล้วก็หยิบโทรศัพท์ไปแจ้งที่บ้านครอบครัวอุปถัมภ์ว่าประสบอุบัติเหตุรถไฟทับ ระหว่างนั้น ทีมช่วยเหลือก็วิ่งเข้ามา น้องบอกว่า ฟรอมไทยแลนด์ๆ พอทีมช่วยเหลือพาน้องออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ น้องยังห่วงเพื่อนกลัวเพื่อนจะรอ ก็กดโทรศัพท์ไปบอกเพื่อนว่า ไม่ได้ไปตามนัดแล้ว เพราะประสบอุบัติเหตุกำลังไปโรงพยาบาล"
  
และที่โรงพยาบาล ก่อนจะหลับตาลงเพราะฤทธิ์ยาสลบ ด.ญ.ณิชชารีย์ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว เมื่อแพทย์ถามว่า "ตัดขาได้ไหม" และเธอ..พยักหน้าตอบตกลงทันที!

 
"น้องเป็นเด็กเข้มแข็ง คิดดี และคิดบวกตลอด ผมสอนเขาว่า แม้เราจะสูญเสียขาไปแล้ว แต่เรายังมีหัวใจที่เข้มแข็ง อย่าไปมองข้างล่าง แต่ให้มองข้างบนที่เราก็มีไม่แพ้คนอื่น น้องเรียนดีมาตลอด (เกรดเฉลี่ยเทอมล่าสุด 3.93)

 
น้องเป็นที่รักของทุกคน มีน้ำใจ มองโลกในแง่ดี ส่วนนี้น้องมีไม่แพ้ใคร ขอให้เชื่อมั่นในตัวเอง อย่าทำให้ใครสงสาร ให้คิดว่าแค่เราไม่เสียตา เสียมือ เสียแขน เสียสมอง เราสามารถทำทุกอย่างได้เหมือนคนทั่วไป พออธิบายอย่างนี้ เขาก็พยักหน้าเชื่อฟัง"


เพราะความเข้มแข็งเกินเด็กนี่เอง ทำให้ ด.ญ.ณิชชารีย์โด่งดังไปทั่วโลก!! ทุกคนชื่นชมจิตใจของสาวน้อยคนนี้ จนหลายคนยกให้เป็น "ฮีโร่ในดวงใจ" ไปแล้ว

 
นางสาวธัญญ์รวีพี่สาวของน้องธัญ เล่าว่า ทุกวันจะมีคนมาเยี่ยมน้อง ซึ่งมีเกือบทุกประเทศทั้งคนไทย คนสิงคโปร์ อินเดีย แคนาดา นอร์เวย์ บรรยากาศในห้องจะเต็มไปด้วยตุ๊กตาและดอกไม้ ซึ่งของเยี่ยมยอดฮิตอันดับ 1 คือ ตุ๊กตาหมี รองลงมาคือ ช็อกโกแลต


"น้องบอกว่า ชีวิตต้องก้าวต่อไป ทุกวันนี้ยังร่าเริงแจ่มใสอยู่ตลอด ทุกครั้งที่มีคนมาเยี่ยม น้องจะยิ้มแย้มทักทายเป็นอย่างดี ซึ่งภาษาอังกฤษของน้องพัฒนาขึ้นจากการที่มีคนมาเยี่ยมเยอะนี่แหละ และเขาจะชอบแซวหมอ พยาบาล สวยจัง น่ารักจัง มีแฟนหรือยัง" เวิลล์เล่าถึงน้องสาวอย่างเอ็นดู

 

กำลังใจหลั่งไหลมาสู่น้องธัญและครอบครัวไม่ขาดสาย แต่สิ่งที่ครอบครัวเป็นเอกชนะศักดิ์ปลื้มปีติที่สุด เมื่อ "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คุณหญิงอารยา พิบูลนครินทร์ ราชเลขาธิการในพระองค์ อัญเชิญกระเช้าดอกไม้เข้าเยี่ยมพร้อมกับทรงมีเมตตาให้คุณหญิงซักถามเรื่องการเรียนและอาการบาดเจ็บด้วยความเป็นห่วง

 

"ทรงมีรับสั่งผ่านทางคุณหญิงมาว่า หากมีอะไรจะให้ช่วยก็ยินดีช่วย ผมและครอบครัวซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้" กิตติ์ธเนศเล่าน้ำเสียงปลาบปลื้ม


ระหว่างนั้นเอง โทรศัพท์ข้างกายของนางสาวธัญญ์รวีก็ดังขึ้น คนโทร.เข้ามาเป็นสาวน้อยที่อยู่ไกลถึงสิงคโปร์ หลังจากพูดคุยกันตามประสาพี่น้องแล้ว ธัญญ์รวีก็ยื่นโทรศัพท์ให้กับเรา

 

"สวัสดีค่ะ" เราเริ่มทักทายก่อน "สวัสดีค่ะ" เสียงปลายสายแจ่มใสมากๆ "เป็นอย่างไรบ้างคะ" เราเริ่มคำถามแรก "ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว วันนี้ไปนั่งรถวีลแชร์มา เป็นครั้งแรก สนุกมากๆ เพราะอยู่แต่ในห้องเบื่อแล้ว"


"เห็นว่าคนมาเยี่ยมเยอะแยะเลย ชอบไหมคะ" คำถามต่อมา

 

"ชอบค่ะ ตุ๊กตาเต็มไปหมดจะล้นห้องอยู่แล้ว แต่กำลังใจที่สำคัญที่สุด คือ กำลังใจจากสมเด็จพระเทพฯ ค่ะ กระเช้าดอกทานตะวันของพระองค์ยังวางอยู่บนหัวนอนข้างๆ เตียงของหนู ทรงทำให้หนูมีกำลังใจที่จะหาย จากตอนแรกคิดว่า กรรมหนักแล้ว แต่จริงๆ มีบุญหนักกว่า เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดในชีวิต เหมือนได้เกิดใหม่ และพอเกิดมา ก็ได้บุญใหม่ที่หนักกว่าเดิม บุญหนักมากๆ เลย" เสียงร่าเริงเล่า และพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบร้อยว่า

 

"ขอขอบคุณพระองค์ที่ทรงมีพระเมตตากับหนู ขนาดหนูอยู่ต่างแดนก็ทรงมาช่วยเหลือ ขอบคุณมากๆ ค่ะ"

 

เมื่อถามว่า อนาคตน้องธัญอยากเป็นอะไร ก็ได้คำตอบว่า "อยากเรียนสายวิทย์ อยากเป็นจิตแพทย์ หนูไม่อยากเป็นหมอผ่าตัดกลัวผู้ป่วยเจ็บ แต่จิตแพทย์ช่วยผู้ป่วยได้โดยไม่ต้องทำให้เขาเจ็บ"

 แต่อนาคตยังอีกยาวไกล เอาแค่ตอนนี้ น้องธัญบอกว่า "อยากหายเร็วๆ จะได้ไปเที่ยว อยากไปยูนิเวิร์ลแซล ขึ้นรถไฟเหาะแล้ว" น้องธัญทิ้งท้ายก่อนวางสายไป


เธอเป็น "สาวน้อยมหัศจรรย์" ด.ญ.ผู้แข็งแกร่งที่หัวใจเดินได้
ที่มา http://www.matichon.co.th
« Last Edit: May 03, 2011, 12:22:54 AM by noosuu »
เน€เธ‚เธฒ..เธœเธนเน‰เธชเธนเธเธชเธดเน‰เธ™เธ—เธฃเธฑเธžเธขเนŒเธชเธดเธ™เน„เธ›
เน€เธ‚เธฒ..เธชเธนเธเน€เธชเธตเธขเธกเธฒเธเน€เธซเธฅเธทเธญเน€เธเธดเธ™
เน€เธ‚เธฒ..เธœเธนเน‰เธชเธนเธเธชเธดเน‰เธ™เน€เธžเธทเนˆเธญเธ™เน„เธ›
เน€เธ‚เธฒ..เธชเธนเธเน€เธชเธตเธขเธกเธฒเธเธเธงเนˆเธฒ
เน€เธ‚เธฒ..เธœเธนเน‰เธชเธนเธเธชเธดเน‰เธ™เธ„เธงเธฒเธกเธจเธฃเธฑเธ—เธ˜เธฒ
เน€เธ‚เธฒ..เธœเธนเน‰เธ™เธฑเน‰เธ™.. เธชเธนเธเน€เธชเธตเธขเธขเธดเนˆเธ‡เธเธงเนˆเธฒเนƒเธ„เธฃเน†

dangjung on May 08, 2011, 08:04:04 AM
อ่านแล้วได้ใจเลย :'(