พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยธุรกิจบริหารอาคารที่พักอาศัยปี 53 กวาดรายได้รวม 193.5 ล้าน เติบโตจากปี 52 ถึง 20% ชูจุดเด่น “International Standard, Thai Hospitality” รุกธุรกิจปี 54 เชื่อจำนวนโครงการเพิ่มทุกประเภท ดันรายได้ปี 54 ทะลุ 200 ล้าน
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยงานบริหารอาคารที่พักอาศัยสูงเกินเป้าด้วยยอดเติบโตจากปี 52 ถึง 20% หรือ คิดเป็นรายได้รวม 193.5 ล้านบาท เชื่อการเพิ่มขึ้นของโครงการอสังหาริมทรัพย์และการรุกตลาดภูเก็ตในไตรมาส 3 รวมถึงการเติบโตของธุรกิจวิลล่า แมเนจเม้นท์ช่วยกระตุ้นยอดรายได้ปีนี้ทะลุกว่า 200 ล้านบาทอย่างแน่นอน พร้อมเดินหน้าชูจุดแข็งของพลัสในบริการมาตรฐานระดับสากลที่เปี่ยมด้วยความอบอุ่นใส่ใจในบริการแบบไทยๆ (International Standard, Thai Hospitality) รวมทั้งฉีกกระแสการแข่งขันด้วยการเข้าให้ความรู้เจ้าของโครงการที่ยังบริหารเองให้เบนเข็มใช้มืออาชีพ
นางสาวพรรณวดี โพธิหน่อทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจบริหารอาคารที่พักอาศัยของไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ส่วนงานด้านการบริหารอาคารที่พักอาศัย สามารถสร้างผลประกอบการได้เกินกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ โดยมีรายได้รวม 193.5 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 52 ที่มีรายได้อยู่ที่ 162.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจบริหารจัดการอาคารที่พักอาศัยประมาณ 94% นอกจากนั้นมาจากธุรกิจบริการพลัส คอนเซียจ (Plus Concierge) และวิลล่า แมเนจเม้นท์ (Villa Management) ประมาณ 4% และอื่นๆ อีก 2% โดยปัจจัยสู่ความสำเร็จมาจากความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการบริหาร จัดการอาคาร-ที่พักอาศัยของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ครอบคลุมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ โรงแรม อพาร์ตเม้นท์ และสโมสร เป็นต้น โดยปัจจุบันมีโครงการที่รับบริหารทั่วประเทศรวม 126 โครงการ แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 88 โครงการ โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ 37 โครงการ และโรงแรม 1 โครงการ
“พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มองเห็นโอกาสในการเติบโตของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 54 เพราะโครงการอสังหาริมทรัพย์มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด อันเป็นผลมาจากการขยายโครงข่ายคมนาคมทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบกับความต้องการที่พักอาศัยที่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา และสถานพยาบาล ที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น เราจึงเตรียมแผนเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว โดยการมุ่งยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ด้วยการผสานมาตรฐานบริการระดับสากลเข้ากับการให้บริการที่อบอุ่นและใส่ใจทุกรายละเอียดแบบไทย (International Standard, Thai Hospitality) เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนยังมีการเสริมสร้างศักยภาพของทีมงานด้วยการให้ความรู้และการฝึกฝนในด้านพัฒนาการให้บริการอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการเร่งพัฒนาระบบเพิ่มเติมที่จะช่วยให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อการบริการครบวงจรที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี เรายังมีแผนการรุกธุรกิจทำการตลาดที่ภูเก็ต จากการมองเห็นโอกาสและแนวโน้มการเติบโตที่ดีของธุรกิจด้านวิลล่า แมเนจเม้นต์อีกด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้ผลประกอบการในปี 2554 สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาคิดเป็นรายได้กว่า 200 ล้านบาท” นางสาวพรรณวดี กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จากการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การแข่งขันทางธุรกิจบริหารอาคาร ที่พักอาศัยทั้งจากผู้ประกอบการรายเล็กจนถึงรายใหญ่มีสูงขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลให้การแข่งขันในการนำเสนอค่าบริการสูงตามไปด้วย อย่างไรก็ดี ลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท ประสบการณ์ ระบบการจัดการ และความชำนาญของผู้ประกอบการในการเลือกหาบริษัทบริหารจัดการอาคารที่พักอาศัยเป็นหลัก จึงเป็นเหตุผลที่ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เป็นบริษัทที่ได้รับเชิญให้นำเสนอแผนการบริหารอาคารที่พักอาศัยอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
“เราอยู่ในธุรกิจบริหารอาคารที่พักอาศัยมากว่า 15 ปี ที่ผ่านมาบริหารโครงการต่างๆ มาแล้วรวมพื้นที่กว่า 5 ล้านตารางเมตร ทำให้เรามีฐานลูกค้าอยู่มากในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าตลาดนี้ยังมีโอกาสการเติบโต อีกมาก ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เราไม่ได้มองว่าความยากในการดำเนินธุรกิจนี้ คือ การหาลูกค้ารายใหม่ๆ เพราะเรามีลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากฐานลูกค้าเดิมที่ประทับใจการให้บริการและการบอกกล่าวถึงบริการที่มีประสิทธิภาพของพลัสแบบปากต่อปาก แต่เรากลับมองว่าความยากของธุรกิจนี้ที่จริงอยู่ที่การให้ความรู้แก่เจ้าของอาคารที่พักอาศัย ที่ยังคงบริหารเองให้มองเห็นประโยชน์ที่ได้จากใช้บริการบริษัทมืออาชีพเข้ามาบริหาร ซึ่งเรายังได้วางแผนที่ให้ความรู้แก่เจ้าของอาคารที่พักอาศัยอย่างต่อเนื่องไปอีกตลอดทั้งปี” นางสาวพรรณวดี โพธิหน่อทอง กล่าว