Gmail on April 21, 2011, 05:44:21 PM
IBM TEAM TO ANALYSE AND MAKE RECOMMENDATIONS FOR HELPING CHIANG MAI BECOME A SMARTER CITY

Project is part of IBM Smarter Cities Challenge grants to assist progressive, forward-thinking municipalities

CHIANG MAI, THAILAND – 20 April 2011: IBM today announced that a team of its executives has begun work with Chiang Mai officials to devise strategies for helping the city to become a preferred hub for medical services and the development of Smarter Food systems.

The city is one of 100 cities that have secured Smarter Cities Challenge grants, where IBM helps municipalities become world-class "Smarter Cities".  The programme to assist 100 cities is being implemented as IBM marks its 100th year as a company.

The engagement in Chiang Mai will see a team of IBM experts work alongside Chiang Mai Creative City Steering Committee and Chiang Mai University to develop a realistic roadmap to help Chiang Mai realise its vision of a smarter city.   Using IBM’s Smarter City Model, the team will spend the next three weeks analysing the current situation and build on existing plans to realise Chiang Mai’s two key priorities: be the preferred medical hub in the region and improving the food supply chain in Thailand’s northern region.

The Medical Hub project, in partnership with the Faculty of Medicine of Chiang Mai University, will enhance the quality of medical care that is available to the community – in both urban and rural areas.  Concurrently, the project aims to turn Chiang Mai into a centre for medical tourism with the infrastructure for supporting international visitors seeking long-term medical care.

The Smarter Food project, in collaboration with the Postharvest Technology Research Institute, Chiang Mai University, aims to improve the food supply chain in Thailand’s northern region and create competitive advantage for Agricultural Producers for both domestic and export markets, through better crop yield forecast, waste reduction, food traceability and water management & food safety.

Five top-performing IBM leaders from the U.S., Netherland and France have formed an "IBM Executive Service Corps" team who commenced their assignment in Chiang Mai on 18  April by talking to Chiang Mai Creative City Steering Committee, Chiang Mai University and civic leaders to better understand local challenges.

Chiang Mai is among 24 cities worldwide selected to receive IBM Smarter Cities Challenge grants in 2011.  IBM is awarding a total of US$50 million worth of technology and services to 100 municipalities worldwide over the next three years as part of a competitive grant programme to help drive successful growth, better delivery of municipal services, more citizen engagement and improved efficiency in selected cities.  The approximate value of each Smarter Cities Challenge grant is equivalent to as much as US$400,000.

In Chiang Mai's case, the team that IBM is putting on the ground is part of its Executive Service Corps, a variant of IBM’s ongoing Corporate Service Corps pro bono community service programme.

Often called a "corporate version" of the Peace Corps, the programme has made a direct economic impact in many of the 20 countries where over 100 teams and over 1,000 employees from IBM with skills in technology, scientific research, marketing, finance, and business development have engaged.  Since its commencement in 2008, the Corporate Service Corps’ mandate and portfolio have been broadened and deepened.  It now includes IBM executives who work in teams with city planners, entrepreneurs, business leaders and governmental agencies to develop road maps that identify the best ideas, most scalable solutions and critical next steps in the economic, social and environmental sustainability of cities.  Focus areas include transportation, public safety, energy, education, healthcare, water resource management and economic development.

“Chiang Mai is a strategic city in the Greater Mekong Sub-region comprising Thailand, China, Myanmar and Laos.  The city has a track record of implementing programmes that tangibly improve the quality of life for its citizens and enhance growth and competitiveness.  This strategic move will create roadmaps for other cities in Thailand to follow,” said Parnsiree Amatayakul, Country General Manager, IBM Thailand.  “The need for better city management around the world has never been greater and IBM is excited at the prospect of helping Chiang Mai to accelerate its growth opportunities in the global medical and food industries."
 

To learn more about IBM's corporate citizenship initiatives, visit: http://www.ibm.com/blogs/citizen-ibm.

To learn more about People for a Smarter Planet on Facebook, visit www.facebook.com/peopleforasmarterplanet.

To learn more about IBM's Centennial, visit www.ibm100.com.
###

Gmail on April 21, 2011, 05:55:22 PM
ไอบีเอ็มส่งทีมผู้เชี่ยวชาญทำวิจัยและนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ช่วยสร้างเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคทางการแพทย์และศูนย์อัจฉริยะด้านอาหาร
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนของไอบีเอ็มเพื่อช่วยพัฒนาเทศบาลเมืองสำคัญๆทั่วโลก

เชียงใหม่ - 20 เมษายน 2554…บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ทีมผู้บริหารระดับสูงที่มีความเชี่ยวชาญจากหลายประเทศทั่วโลกได้เดินทางเข้ามาทำงานร่วมกับคณะผู้บริหารเมืองเชียงใหม่ เพื่อร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ในการสร้างเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคทางการแพทย์ (Medical Hub) และศูนย์อัจริยะด้านอาหาร ( Smarter Food systems ) ไอบีเอ็มมีนโยบายที่จะลงทุนในเมืองใหญ่ 100 เมืองใน 3 ปี เพื่อร่วมกันสร้างเทศบาลเมืองนั้นๆ ให้เป็นเมืองอัจฉริยะระดับโลก และเชียงใหม่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 24 เมืองที่ไอบีเอ็มจะให้การสนับสนุนในปีนี้

ทีมผู้เชี่ยวชาญจากไอบีเอ็มที่เข้ามาในประเทศไทยครั้งนี้ ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูง 5 ท่านจากไอบีเอ็มอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส โดยจะทำงานภายใต้ชื่อ IBM Executive Service Corps  ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มลงพื้นที่ทำงานร่วมกับทีมงานชียงใหม่สร้างสรรค์ ( Chiang Mai Creative City Steering Committee ) ทีมงานจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อสำรวจศักยภาพของเมือง เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจากสถานการณ์ในปัจจุบัน นำมาสร้างแผนงานโดยยึดแม่แบบของสมาร์ทเตอร์ ซิตี้โมเดลที่ไอบีเอ็มทำให้กับเมืองอื่นๆมาแล้ว ทีมผู้บริหารจะใช้เวลาทำงานร่วมกันเป็นเวลา 3  สัปดาห์ เพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์ที่จะทำให้เชียงใหม่บรรลุเป้าหมายหลัก 2 ด้านคือ การสร้างเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ และศูนย์กลางของ Smarter  Food จากผลผลิตภาคการเกษตร 
การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ ไอบีเอ็มจะร่วมกับคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในโครงการนี้ ซึ่งนอกจากคนไข้ในชุมชนทั้งในเมืองและจังหวัดใกล้เคียงจะได้รับบริการด้านการแพทย์ที่มีคุณภาพดีขึ้นแล้ว ยังจะช่วยสร้างเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและคนไข้จากต่างประเทศที่มองหาศูนย์การแพทย์ที่มีมาตรฐานสำหรับเข้ารับการรักษาพยาบาลระยะยาวอีกด้วย

การเป็นศูนย์อัจริยะด้านอาหาร โครงการนี้ช่วยทำให้ห่วงโซ่อาหารจากผลผลิตการเกษตร (food supply chain) ทั้งระบบของภาคเหนือดึขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรรมในระบบจะสามารถประมาณการณ์การเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ดีขึ้น ลดความสูญเปล่าในขั้นตอนต่างๆ มีระบบตรวจสอบแหล่งผลิต รวมถึงการจัดการเรื่องน้ำและความปลอดภัยของอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้กับเชียงใหม่ทั้งในระดับประเทศและการส่งออกผลผลิตอาหารไปยังต่างประเทศ โดยไอบีเอ็มจะทำโครงการร่วมกับสถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เชียงใหม่เป็นหนึ่งใน 24 เมืองที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการไอบีเอ็ม สมาร์ทเตอร์ซิตี้ ชาเลนจ์ (Smarter  City  Challenge )ในปี 2554 ไอบีเอ็มให้การสนับสนุนเงินลงทุนทางด้านเทคโนโลยีและการบริการแก่โครงการทั้ง 100 เมืองในระยะเวลา 3 ปี เป็นจำนวน 50 ล้านเหรียญ โดยคิดเป็นเงินลงทุนสูงสุดประมาณเมืองละ 400,000 เหรียญ

โครงการ Executive Service Corps นี้ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ Peace Corps ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ด้วยความรู้ความสามารถและทักษะทางด้านเทคโนโลยี งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การตลาด การเงิน และการพัฒนาธุรกิจของทีมงานที่เชี่ยวชาญ 100 ทีม และพนักงานกว่า 1,000 คน โครงการเพื่อสังคมที่ไอบีเอ็มจัดทำขึ้นนี้ช่วยสร้างและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับเมืองที่ได้รับคัดเลือกใน 20 ประเทศมาแล้ว

ตั้งแต่เริ่มดำเนินการโครงการในปี 2008  โครงการ Corporate Service Corps นี้ได้พัฒนาการทำงานไปอย่างกว้างขวางและทำงานในเชิงลึกมากขึ้น ปัจจุบันผู้บริหารระดับสูงของไอบีเอ็มได้เข้ามาทำงานร่วมกับคณะผู้บริหารเมือง ผู้ประกอบการ ผู้นำทางธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ ในการคัดสรรความคิดใหม่ๆ และโซลูชั่นที่ดีที่สุดที่จะนำไปสู่ย่างก้าวใหม่ของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นของเมืองอย่างยั้งยืน โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษในเรื่องระบบขนส่งมวลชน ความปลอดภัยของประชาชน พลังงาน การศึกษา การสาธารณสุข การจัดการทรัพยากรน้ำ และการพัฒนาเศรษฐกิจ

นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าว “การขยายตัวของเมืองใหญ่ๆเกิดขึ้นทั่วโลก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องหาวิธีรับมือและการบริหารจัดการเมืองให้ดีขึ้น  ไอบีเอ็มรู้สึกภาคภูมิและพร้อมที่จะได้เข้าไปช่วยสร้างเชียงใหม่ ให้สำเร็จตามเป้าหมายและสร้างกลยุทธ์ในการเติบโตให้ยั่งยืน เชียงใหม่เป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่ประกอบไปด้วย ไทย จีน พม่าและลาว เป็นเมืองที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน มีแผนงานและโครงการต่างๆ ที่ทำขึ้นเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนควบคู่กับการสร้างความสามารถในการแข่งขันมาตลอด   ยุทธศาสตร์แผนงานที่เชียงใหม่จะทำร่วมกับทีมผู้บริหารของไอบีเอ็มในโครงการ Executive Service Corps ครั้งนี้ จะเป็นแม่แบบให้กับเมืองอื่นๆ ในประเทศไทยได้นำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาเมืองให้พร้อมที่จะขยายการเติบโตและรองรับการแข่งขันต่อไป”

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ corporate citizenship initiatives สามารถดูได้ที่เว็บไซท์ http://www.ibm.com/blogs/citizen-ibm.