สถาบันอาหาร ทำโครงการ “ครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล”แห่งแรกที่รพ.ศิริราช

สถาบันอาหาร ทำโครงการ “ครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล”
ประเดิมแห่งแรกที่รพ.ศิริราช หวังยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาหารระดับสากล



                      สถาบันอาหาร จัดทำโครงการ “ครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล” หรือ
GMP in Mass Catering for Hospital ประเดิมแห่งแรกที่โรงพยาบาลศิริราช ร่วมกับฝ่ายโภชนาการ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาหารในครัวโรงพยาบาลศิริราชเทียบเท่าระดับสากล เบื้องต้นดำเนินการแล้ว 3 ครัว ได้แก่ หน่วยอาหารทางสายให้อาหาร  หน่วยนมผสมสำหรับเด็ก  และห้องเตรียมอาหารเฉพาะกิจ  คาดภายในปี 2555 จะแล้วเสร็จครบทุกครัว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้ผู้ป่วยและผู้มารับบริการ เตรียมนำเสนอโรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เข้าร่วมโครงการต่อไป ในอนาคตจะขยายโครงการ GMP in Mass Catering ไปยังกลุ่มธุรกิจโรงแรม ภัตตาคาร และร้านอาหารต่างๆ เพื่อความมั่นใจในการบริโภคอาหารอย่างปลอดภัยของประชาชน



                   นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหารกล่าวว่า โครงการ “ครัวอนามัย
อาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล” หรือ GMP in Mass Catering for Hospital เป็นอีกหนึ่งโครงการที่   สถาบันอาหารได้ริเริ่มขึ้นภายใต้แนวคิดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยอาหารในการผลิตอาหารสำหรับประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภคโดยทั่วไป โดยสถาบันอาหารได้เริ่มดำเนินโครงการ GMP  in Mass Catering เป็นครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นที่กลุ่มเด็กและเยาวชนภายใต้ชื่อโครงการ “ครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงเรียน” โดยได้ร่วมกับโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เป็นโรงเรียนนำร่องในการเข้าร่วมกับโครงการดังกล่าวเป็นโรงเรียนแรก นอกจากนั้นยังร่วมกับโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครจำนวน 10 โรงเรียน ซึ่งนับว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
                  “สำหรับครั้งนี้สถาบันอาหารได้รับความไว้วางใจจากโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งมีมาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์ในระดับสากล ได้ให้เกียรติเข้าร่วมโครงการ “ครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล” โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2553 จนปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จในเบื้องต้น 3 ครัวด้วยกัน และเนื่องจากครัวโรงพยาบาลศิริราชมีมาตรฐานความปลอดภัยอาหารในการบริการผู้ป่วยในระดับมาตรฐานอยู่แล้ว สถาบันอาหารจึงได้มุ่งให้ความสำคัญและช่วยดูแลเป็นพิเศษในเรื่องการประเมิน  การสำรวจพื้นที่ และสังเกตการปฏิบัติงานจริงพร้อมอบรมให้ความรู้ให้คำปรึกษา
แนะนำ เพื่อลดการปนเปื้อนต่างๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้   แล้วจึงนำข้อแนะนำใน GMP in Mass Catering ที่ทางสถาบันอาหารจัดทำขึ้นมาประยุกต์ใช้ ซึ่งเป็นข้อแนะนำที่ปรับจากมาตรฐานสากลและข้อกำหนดด้านสุขาภิบาลอาหารภายในประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานครัวโรงพยาบาลศิริราชไปอีกขั้นหนึ่ง ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ระบบมาตรฐานที่เป็นสากล (Codex) โดยสถาบันอาหารจะเข้าดำเนินการอย่างต่อเนื่องในส่วนของครัวอื่นๆต่อไป ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการภายในปี 2555  ขณะเดียวกันก็ได้ขยายแนวคิดดังกล่าวไปสู่โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในลำดับต่อไปเช่นกัน นอกจากนี้ทางสถาบันอาหารยังมีแนวคิดที่จะสร้าง
ความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในอาหารเพื่อผู้บริโภคที่เป็นประชาชนทั่วไปนี้ไปสู่กลุ่มธุรกิจโรงแรม ภัตตาคาร ตลอดจนร้านอาหารต่างๆ ที่เห็นความสำคัญและยึดถือประโยชน์ของผู้บริโภคในด้านความปลอดภัยอาหารอีกด้วย[size=15]นายเพ็ชร กล่าว[/size][/b]



                   รศ.นพ.สุรินทร์  ธนพิพัฒนศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช  กล่าวว่า “การเข้าร่วม
โครงการ“ครัวอนามัย อาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล” ของฝ่ายโภชนาการ โรงพยาบาลศิริราช       กับสถาบันอาหารในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการปลูกจิตสำนึกในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในอาหารให้แก่บุคลากรและทีมงานที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งโดยเฉพาะในส่วนของผู้รับบริการ คือ  ผู้ป่วย  และบุคลากรที่รับบริการอาหารสวัสดิการ  เพราะทางโรงพยาบาลคำนึงถึงความปลอดภัยและคุณภาพของกระบวนการผลิต  และการบริการอาหารเป็นสำคัญ  ขณะเดียวกันบุคลากรและผู้ปฏิบัติงานภายในฝ่ายโภชนาการ  ก็จะได้พัฒนาความรู้  และทักษะ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานอย่างถูกสุขลักษณะ  มีประสิทธิภาพ  และลดความเหนื่อยยากของบุคลากรเอง
 ภายหลังการจัดทำโครงการ GMP in Mass Catering   แล้วนั้น ทางฝ่ายโภชนาการได้นำข้อแนะนำและข้อเสนอแนะของทางสถาบันอาหาร  มาใช้ในกระบวนการผลิตอาหารสำหรับผู้ป่วย  และบุคลากรภายในโรงพยาบาล  ทั้งในด้านการจัดทำเอกสารสำหรับบันทึกข้อมูล  หรือแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลัก GMP  ส่งผลให้ปัจจุบันฝ่ายโภชนาการมีการพัฒนารูปแบบการปฏิบัติงาน  และการบริการที่ดีขึ้น  โครงการดังกล่าวก่อให้เกิดการพัฒนาเจ้าหน้าที่  บุคลากร  และผู้ให้บริการอาหารในฝ่ายโภชนาการ  โรงพยาบาลศิริราชให้เป็นผู้มีความรู้  ความเข้าใจในขั้นตอนการผลิตอาหาร  เพื่อสามารถปฏิบัติงานอย่างถูกสุขลักษณะ  และมีคุณภาพ  เพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วยและบุคลากรภายในโรงพยาบาลศิริราช รวมถึงเป็นการยกระดับมาตรฐานการผลิตและการบริการของฝ่ายโภชนาการ โรงพยาบาลศิริราชอีกด้วย”
 อางไรก็ตามขณะนี้โรงพยาบาลศิริราชอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ครัวเพื่อจะใช้เป็นครัว
ใหม่ในพื้นที่เดิมในอนาคต   ขณะเดียวกันก็ต้องให้บริการอาหารแก่ผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องเหมือนเช่นปกติ  โดยฝ่ายโภชนาการ โรงพยาบาลศิริราช มีโครงการในการปรับปรุงฝ่ายโภชนาการชั้น 1 และชั้น 2 ของอาคาร ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สำหรับการจัดเตรียม และปรุงประกอบอาหารสำหรับให้บริการแก่ผู้ป่วยและบุคลากร  โดยมีงบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 90 ล้านบาท  



                 ด้านนางสมศรี  ลายลิขิต  หัวหน้าฝ่ายโภชนาการ โรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า “ในระยะ
แรกนี้ สถาบันอาหารได้จัดทำโครงการ GMP in Mass Catering  ร่วมกับทางโรงพยาบาลศิริราช  
โดยเริ่มต้นที่  3 ครัว คือ 1)หน่วยอาหารทางสายให้อาหาร  สำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถทานอาหารปกติ
ได้ จำเป็นต้องรับอาหารทางสายจำนวน 300 คน  หรือ 1,200 Feed/วันและจ่ายอาหารทางการแพทย์ให้แก่ผู้ป่วยใน 120 คน/วัน  2)หน่วยนมผสมสำหรับเด็ก  สำหรับให้บริการอาหารแก่เด็กแรกเกิดจนถึง  3 ขวบ จำนวน 120คน หรือ 1,200 ขวด/วัน  3)ห้องเตรียมอาหารเฉพาะกิจ สำหรับจัดเตรียมอาหารสำหรับบุคคลสำคัญในโอกาสต่างๆ ทั้งนี้ยังเหลือครัวที่เป็นเป้าหมายในโครงการต่อไปคือ 1)หน่วยอาหารธรรมดา  2)หน่วยอาหารเฉพาะโรค   3) หน่วยอาหารบุคลากร  4) ห้องสโตร์  และ 5) หน่วยเตรียม
สำหรับในอนาคต ทางสถาบันอาหารได้จัดเตรียมแผนงานที่จะเข้าดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อเนื่องอีกเป็นเวลา 2 ปี ได้แก่พื้นที่การเตรียมและผลิตอาหารธรรมดา อาหารเฉพาะโรค อาหารนานาชาติ  อาหารฮาลาล  รวมถึงพื้นที่ตักจ่ายอาหารและรับประทานอาหาร โดยสถาบันอาหารก็ได้จัดฝึกอบรมภายในและให้คำปรึกษาแนะนำการประยุกต์ใช้ GMP in Mass Catering แก่บุคลากรและทีมงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วบางส่วน เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และนำข้อแนะนำไปประยุกต์ใช้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาครัวใหม่ต่อไปด้วย  ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่สอดรับกับแผนการปรับปรุงครัวใหม่ในปี 2554-2555  ของโรงพยาบาลศิริราช ที่จะได้นำข้อแนะนำจากการทำ GMP in Mass Catering ไปประยุกต์ใช้ทุกพื้นที่ต่อไป”