YAHOO on March 30, 2011, 08:26:24 PM
  KTAM เปิดขาย2กองทุนตราสารหนี้ทั้งใน-ต่างประเทศ 

           นายสมชัย     บุญนำศิริ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ในวันนี้ (30มี.ค. ) บริษืเปิดจำหน่าย 2 กงอทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ   ได้แก่  กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์  บี ( KTSUPB )    อายุโครงการ 6 เดือน  มูลค่าโครงการ   1,000  ล้านบาท  เสนอขายถึงวันที่ 4  เมษายน 2554  เป็นกองทุนที่ เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลังของรัฐบาลอิสราเอล (A/A1/Positive โดย S&P) ประมาณร้อยละ 75 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  และส่วนที่เหลือ ลงทุนในตั๋วแลกเงินของสถาบันการเงินหรือกิจการเอกชนในประเทศ    โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ  2.80%  ต่อปี   และเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

             นอกจากนี้  ยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 1

( KTFIX3M1 )   ถึงวันที่ 1 เมษายน 2554   อายุโครงการ 3 เดือน  มูลค่า 2,000  ล้านบาท  เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรภาครัฐในประเทศ  ประมาณ 99%  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก  ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.10%  ต่อปี

                ทั้งนี้   หากลูกค้าที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังกองทุนประเภทตราสารทุน   บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเคแทม ยูเอส ทริกเกอร์  ฟันด์  ( KTUR )    ถึงวันที่ 4 เมษายน 2554 นี้     อายุโครงการประมาณ  11 เดือน หรืออายุโครงการอาจต่ำกว่า 11 เดือน  หากเกิดเหตุตามเงื่อนไขการเลิกกองทุน  โดยบริษัทสามารถเลิกกองทุนได้ก่อนครบอายุโครงการ  หากมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11.30 บาท ต่อหน่วยเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน   หรือมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 11.10 บาท ต่อหน่วย  และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมดในสกุลเงินบาท  ณ วันทำการใด   เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000  บาท  มูลค่าที่ตราไว้หน่วยลงทุนละ 10 บาท 

                กองทุนจะเน้นลงทุนในอีทีเอฟหุ้นที่จดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา  ที่สะท้อนผลการดำเนินงานของตราสารทุน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ  65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และลงทุนในต่างประเทศไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน  โดยส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งทุน  ตราสารแห่งหนี้  เงินฝาก  และ /หรือ ตราสารอื่นใด ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนด