ซีพีเอ็นม่วนใจ๋ พร้อมเปิดศูนย์การค้าแห่งที่16"เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย"

ซีพีเอ็นม่วนใจ๋ พร้อมเปิดศูนย์การค้าแห่งที่16"เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย"ยิ่งใหญ่ 30มีนาคม2554

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน)หรือ ซีพีเอ็น บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อนการค้าปลีกชั้นนำของประเทศไทย เดินหน้าแถลงความพร้อมในการเปิด ศูนย์การค้าแห่งใหม่ล่าสุด แห่งที่16 "เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย"สุดยอดไลฟ์ส"ตล์ช้อปปิ้วแห่งแรกใจกลางเมืองเชียงราย ในวันที่30มีนาคามนี้

ซีพีเอ็นยังคงดำเนินกลยุทธ์ Industr-Leader Stategy ขยายกิจการอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ เพื่อนขยายสาขาไปยังหัวเมืองต่างๆให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และในปีนี้มีโครงการที่จะเปิดศูนย์การค้าใหม่ร่วม 3ศูนย์คือ เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย เซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก เซ็นทรัลพลาซา พระราม9 ส่วนในปี2555 มีเซ็นทรัลพลาซา สุราษฐ์ธานี และเซ็นทรัลแฟสติวัส เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งที่2ของซีพีเอ็นที่เชียงใหม่

สำหรับงานเปิดตัวในวันที่30มีนาคานี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ มีอีเว้นท์และกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย พร้อมมีดารา และเซเลบริตี้ชื่อดัง อาทิ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, มาริโอ เมาเร่อ, ไอซ์-อภิษฎา มาร่วมงาน ซึ่งเราตั้งใจให้งานนี้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของเชียงรายภายใต้ธีมCharm of Enchanting Lanna สะท้อนวัฒนธรรมและศิลปะประกอบสำคัญ คือ ศิลปะวัฒนะธรรม(Art & Culture) แฟชั่น (Fashion) และการเฉลิมลอง(Celebration)

วางศิลาฤกษ์โครงการเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย



         นริศ เชยกลิ่น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชี และ บริหารทรัพย์สิน บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา จัดงานวางศิลาฤกษ์โครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ซึ่งมีมูลค่าโครงการก่อสร้าง 1,600 ล้านบาท โดยพระเทพวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล) เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา ประกอบพิธี มีผู้บริหารระดับสูง ดร.ณัฐกิตต์ ตั้งพูลสินธนา ธีระชาติ นุมานิด กุญฑล บุญกระจ่าง ปณิดา สุขสีดากุล และ อมร อมรกุล ร่วมงาน ณ โครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
 
รายละเอียดจากภาพ
คนที่ 5 จากซ้าย -นริศ เชยกลิ่น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชี และ บริหารทรัพย์สิน บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา
คนกลาง -พระเทพวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล) เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา
คนที่ 2 จากขวา - ดร.ณัฐกิตต์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช้วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา
คนที่ 4 จากซ้าย - ธีระชาติ นุมานิด ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารโครงการก่อสร้าง บมจ.เ.นทรัลพัฒนา
คนที่ 3 จากซ้าย -ปณิดา สุขสีดากุล ผู้อำนวยการฝ่ายบรืหารทรัลสิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา
คนที่ 3 จากขวา-อมร อมรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา และ บริหารทรัพย์สิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา
คนที่ 1 จากขวา -กุญฑล บุญกระจ่าง ผู้อำนวยการการฝ่ายการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา
คนที่ 1 จากซ้าย สุพิชญา สุรคุปต์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา

กลุ่มเซ็นทรัลเตรียมอัดฉีดงบกว่า 20,000 ล้าน เดินหน้าโปรเจคใหม่ ตั้งเป้าโต 12% ยอดขายไม่ต่ำกว่า 133,500 ล้าน

          เผยยุทธศาสตร์ธุรกิจระยะสั้น-ยาว สู้ Challenge 2011 ด้วยการ “ดำเนินการฟื้นฟูปรับปรุง แสวงหาพันธมิตรควบกิจการ เพิ่มมูลค่า ขยายสาขา พัฒนาช่องทางใหม่ ก้าวไปสู่อินเตอร์ และรับผิดชอบต่อสังคม”

          โชว์ผลงานเด่นปี 53 ยอดขายทะลุเป้ากว่า 119,000 ล้าน อัตราเติบโตกว่า 8%

          วันนี้ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด นำโดยนายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร CMB (CEO Management Board) ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนในโครงการต่างๆ ของธุรกิจในเครือปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าโต 12 % โดยประมาณการณ์ยอดขายปี 2554 ที่ 133,500 ล้านบาท พร้อมเผยยุทธศาสตร์ธุรกิจระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อรับมือกับ Challenge ปี 2011 ของกลุ่มฯ ด้วยยุทธศาสตร์ “ดำเนินการฟื้นฟูปรับปรุง แสวงหาพันธมิตรควบกิจการ เพิ่มมูลค่า ขยายสาขา พัฒนาช่องทางใหม่ ก้าวไปสู่อินเตอร์ และรับผิดชอบต่อสังคม” พร้อมแถลงผลงานเด่นปี 2553 ยอดขายรวมทั้งกลุ่มฯ กว่า 119,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 8% จากปีที่ผ่านมา แม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และปัญหาการเมืองในประเทศ ที่ทำให้ต้องปิดเซ็นทรัลเวิลด์กว่า 9 เดือน และปิดห้างเซนเพื่อปรับปรุงใหม่ก็ตาม

          นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า “ปี 2553 มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้น โดยเฉพาะวิกฤตครั้งประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อคส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทว่าด้วยประสบการณ์และความเข้มแข็งของกลุ่มฯ รวมถึงความสามัคคีของผู้บริหารและพนักงาน ตลอดจนลูกค้าที่ยังคงให้การสนับสนุนธุรกิจของกลุ่มฯ ด้วยดี เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เรายังคงดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายและกลยุทธ์หลักที่พร้อมจะนำบทเรียนครั้งสำคัญนี้มาปรับใช้ และนำมาเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์สำหรับการก้าวต่อไปในปี 2554 และในอนาคต นี่คือจุดท้าทายครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งในการดำเนินธุรกิจของเรา เป็น “Our Challenge 2011” ที่เราพร้อมจะปรับวิกฤตให้เป็นโอกาสและก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งและมั่นคงยิ่งขึ้น”

          “ภาพรวมของสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ มีแนวโน้มว่ากำลังฟื้นตัว น่าจะส่งผลดีต่อการลงทุน แม้ว่าภาวะทางการเมืองและสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศจะยังคงดำเนินอยู่ แต่เราหวังว่านโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะมีส่วนช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และช่วยให้เกิดการขยายตัวของภาคการบริโภค ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการจัดกิจกรรมและโครงการ เพื่อส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและคู่ค้าของเรา และเพื่อให้กลุ่มเซ็นทรัล มีการเติบโตตามเป้าหมาย เราได้ยึดหลักมุ่งมั่นอุทิศตนทำงานเพื่อส่วนรวม ยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ ความยุติธรรมและการมีจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจ เพื่อความมั่นคงอย่างยั่งยืน” นายสุทธิธรรม กล่าว

          กลุ่มเซ็นทรัลได้กำหนดนโยบายในการทำธุรกิจปี 2554 โดยเน้น “ดำเนินการฟื้นฟูปรับปรุง แสวงหาพันธมิตรควบกิจการ เพิ่มมูลค่า ขยายสาขา พัฒนาช่องทางใหม่ ก้าวไปสู่อินเตอร์ และรับผิดชอบต่อสังคม” ซึ่งยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล ในปีนี้แบ่งเป็น ยุทธศาสตร์ระยะสั้น และยุทธศาสตร์ระยะยาว

          สำหรับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจระยะสั้น หรือการจัดการกับธุรกิจที่ได้รับกระทบจากเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อค ซึ่งกลุ่มฯ พร้อมที่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่พันธมิตรทางการค้าและลูกค้า โดยมุ่งสร้างความเข้มแข็งตลอดจนนำปัญหาหรือวิกฤตที่เกิดขึ้นมาปรับเป็นโอกาสที่ จะเรียนรู้ทบทวนและป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยความไม่ประมาท รวมไปถึงการยืนหยัดที่จะให้บริการคู่ค้าลูกค้าในระดับสากล และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและความมั่นคงอย่างยั่งยืนให้กับสังคมไทยและประเทศชาติ โดยมีแนวทางการดำเนินงานโดยปรับเพิ่มหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการเฉพาะกิจซึ่งทำหน้าที่ดูแลเรื่องกิจการวิกฤต (Crisis Management Board) โดยมุ่งแก้ปัญหาหรือลดปัญหาผลกระทบจากเหตุการณ์

          ในส่วนของยุทธศาสตร์ทางธุรกิจระยะยาว กลุ่มฯ ยังคงยึดแนวทางในการเติบโตทางด้านธุรกิจอย่างต่อเนื่องด้วย
 
          1. การควบรวมกิจการ หรือ M&A (Mergers & Acquisitions) ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ส่งผลให้กลุ่มฯ ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อธุรกิจและกลุ่มฯ ได้แก่ Synergy การผสานประโยชน์ร่วมกัน ด้วยการใช้ทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ทำให้สามารถลดภาระต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล

          2. มุ่งสร้างคุณค่าทางธุรกิจ Value Added ด้วยการระดมความรู้ความสามารถและใช้ประสบการณ์ต่างๆ ที่มีอยู่มาพัฒนาปรับปรุงโครงการให้เกิดมูลค่าเพิ่ม อาทิ การขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ให้ทันสมัยเข้ากับไลฟสไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ การเปิดช้อปปิ้งออนไลน์ (www.central.co.th) และการขายตรง (Direct Sale)

          3. การพัฒนาด้วยการขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ ตามภารกิจของ CMB ประการหนึ่งในการทำธุรกิจของกลุ่มได้กำหนดว่าจะสร้างองค์กรให้เป็นสถาบันที่ยอมรับทั้งภายในประเทศและในระดับสากล ดังนั้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจึงมีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่องในปี 2554 และไปลงทุนทำธุรกิจในประเทศจีนเพื่อเป็นการบุกเบิกธุรกิจค้าปลีกไทยในต่างประเทศเนื่องจากเห็นว่าประเทศจีนเป็นประเทศใหญ่มีพลเมืองจำนวนมาก เศรษฐกิจมีความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีวัฒนธรรมประเพณีคล้ายๆกับประเทศไทย ซึ่งข้อนี้ก็ดังที่ท่านได้ทราบกันบ้างแล้วว่าเราไปเปิดห้างเซ็นทรัลเมื่อเดือนพฤษภาคมในปีที่ผ่านมา

          ในปี 2554 กลุ่มเซ็นทรัล ยังคงมีแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเปิดตัวโครงการใหม่ เซ็นทรัลแอมบาสซี่ บนที่ดินของสถานทูตอังกฤษ การขยายศูนย์การค้า เชียงราย พิษณุโลก พระราม 9 สุราษฎร์ธานี และเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ รวมถึงการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ห้างเซน เซน ทาวเวอร์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และ เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี การลงทุนในโครงการใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ อาทิ เชียงราย พิษณุโลก พระราม 9 บางแค และ Tops Daily รวมถึงการใช้งบลงทุนในการปรับภาพลักษณ์สาขาต่างๆ ของทุกแบรนด์ เพื่อให้ดูทันสมัยอยู่เสมอ รวมไปถึงการขยายสาขาในต่างประเทศ มีการเปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และห้างฯเซนที่เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน รวมทั้งยังมีแผนการศึกษาลู่ทางการลงทุนในประเทศจีนเพิ่มเติม นอกจากนี้มีแผนรับบริหารจัดการโรงแรมในประเทศอีก 8-10 แห่ง โดยจะเลือกเฉพาะโรงแรมที่ดีมีคุณภาพในขนาดที่เหมาะสมก่อน และมีการลงทุนในโครงการต่อเนื่องของ Centara Grand Beach Resort Phuket

          นอกจากนี้ยังมีการลงทุนใน แบรนด์ใหม่ๆ ซึ่งได้แก่ The Terrace, Cold Stone and Chabuton และการเพิ่มสาขา KFC, Mister Donut และ Auntie Anne’s

          ด้านความรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม หรือ CSR ในปีนี้ กลุ่มยังคงดำเนินตามแผนแม่บท 4 ด้าน คือ ด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านความเท่าเทียมทางสังคม ด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ด้านความพอเพียงทางเศรษฐกิจโดย จะผลักดันการทำงาน CSR เพื่อช่วยเหลือสังคมด้านการศึกษา สาธารณกุศล และสิ่งแวดล้อมให้เกิดผลและเป็นรูปธรรมมากขึ้น และในโอกาสที่ปีนี้ปีเป็นมหามงคลของไทยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา ซึ่งทางกลุ่มเซ็นทรัลจะร่วมมือกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระพิเศษนี้ร่วมกับรัฐบาลและประชาชนชาวไทย

          สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2553 กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (CRC) กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (CPN) กลุ่มธุรกิจค้าส่ง (CMG) กลุ่มธุรกิจโรงแรม(CHR) และกลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลเรสตอรองส์กรุ๊ป (CRG) ใช้งบลงทุนไปประมาณ 12,700 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ไปในการลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีทั้งการเปิดโครงการใหม่และปรับปรุง สำหรับการลงทุนในโครงการใหม่ อาทิ โรงแรมฮิลตัน พัทยา ซึ่งเป็นส่วนเพิ่มเติมจาก ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช ซึ่งเปิดไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2553 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2554 และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2554 มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ส่วนออฟฟิศให้เช่า ลงทุนในโรงแรม Centara Grand Beach Resort Phuket ซึ่งเป็นโรงแรมใหม่

          สำหรับผลประกอบการในปี 2553 กลุ่มธุรกิจทั้ง 5 กลุ่ม มียอดขายรวมกันทั้งสิ้น 119,000 ล้านบาท สำหรับยอดขายที่ได้คิดเป็นอัตราเติบโต 8% จากปีที่ผ่านมา

          ในปี 2553 กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัล ได้รับรางวัลเกียรติยศ อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ได้รับรางวัล “Best of the Best” (ศูนย์การค้าสุดยอดแห่งความเป็นเลิศ) ประจำปี 2010 จากสมาคมศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (International Council of Shopping Centers: ICSC) ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลได้รับการเสนอชื่อติดอันดับ 1 ใน 5 ของห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วโลก “Department Store of the Year” ในงานประชุมสุดยอดห้างสรรพสินค้าโลกประจำปี 2010 (Global Department Store Summit 2010) ณ นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา TRIS Rating ได้คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ที่ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ CPN ที่ระดับ “A+” พร้อมแนวโน้ม “คงที่” สะท้อนความแข็งแกร่งของบริษัทในฐานะผู้นำในธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าในประเทศไทย นอกจากนี้ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ได้รับรางวัลศูนย์การประชุมยอดเยี่ยม (Best Meeting and Conventions Hotel) จากงาน TTG Travel Awards 2010

ซีพีเอ็นม่วนใจ๋ พร้อมเปิดศูนย์การค้าแห่งที่ 16 “เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย” ยิ่งใหญ่ 30 มีนาคมนี้


 


          - เดินกลยุทธ์ Industry Leader ขยายธุรกิจต่อเนื่อง ครอบคลุมหัวเมืองทั่วประเทศปีนี้และปีหน้า
          - วางหมากให้ เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย เป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่เติมเต็มจังหวัดให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
          - ออกแบบเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ให้สวยงามเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัด เป็นส่วนหนึ่งของความภูมิใจของชาวเชียงราย

          บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น บริษัท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกชั้นนำของประเทศไทย เดินหน้าแถลงความพร้อมในการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ล่าสุด แห่งที่ 16 “เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย” สุดยอดไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์แห่งแรกใจกลางเมืองเชียงราย ในวันที่ 30 มีนาคมนี้

          นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจและโครงการก่อสร้าง ของ ซีพีเอ็น กล่าวว่า “ซีพีเอ็นยังคงดำเนินกลยุทธ์ Industry-Leader Strategy ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ เพื่อขยายสาขาไปยังหัวเมืองต่างๆ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศซึ่งเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย เป็นศูนย์การค้าแห่งที่ 16 ของซีพีเอ็น และในปีนี้เรามีโครงการที่จะเปิดศูนย์การค้าใหม่รวม 3 ศูนย์ฯ คือ เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย เซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก และ เซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 ส่วนในปี 2555 มีเซ็นทรัลพลาซา สุราษฐ์ธานี และเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าแห่งที่ 2 ของซีพีเอ็นที่เชียงใหม่”
 
          สำหรับซีพีเอ็น การพัฒนาศูนย์การค้า คือ แรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา กระจายการลงทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น สร้างงาน สร้างความเจริญในท้องถิ่น ทั่วประเทศให้มากขึ้น ศูนย์การค้าของของซีพีเอ็นไม่เพียงที่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังมุ่งหวังให้เป็นสถานที่ที่คนในท้องถิ่นสามารถเข้ามาดำเนินของชุมชน เปิดกิจการของตนเองสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น พัฒนาฝีมือแรงงาน รวมถึงศักยภาพในการค้าขาย และการดำเนินธุรกิจได้ด้วย

          นางสาววัลยา กล่าวว่า “เราเล็งเห็นว่าเชียงราย เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีศักยภาพมากในภาคเหนือ มีการเติบโตด้านเศรษฐกิจ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง จีน และกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง สามารถเชื่อมกันได้ง่ายทั้งเรื่องการค้าและการท่องเที่ยว มีประชากรกว่า 1.2 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวกว่า 1.65 ล้านคน ตามข้อมูลจากสำนักงานสถิติจังหวัดเชียงรายในปี 2552 ซีพีเอ็นจึงตัดสินใจพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย เพื่อต่อยอดให้เชียงรายที่มีศักยภาพสูงอยู่แล้วแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่เติมเต็มให้จังหวัดที่มีศักยภาพสูงอย่างเชียงรายมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กสำคัญของจังหวัดที่จะดึงดูดให้ทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวมาที่เชียงรายมากขึ้น”

          ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย มีมูลค่าการลงทุน 2,400 ล้าน ตั้งอยู่บนทำเลทองของจังหวัดเชียงราย บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (พหลโยธินสายใหม่) และถนนพหลโยธินสายเก่า เป็นเส้นทางสำคัญของจังหวัด มีพื้นที่ 52 ไร่ พื้นที่โครงการทั้งหมด (GFA) ประมาณ 110,000 ตารางเมตร

          นางสาววัลยา กล่าวเสริมว่า “เรามองว่าศูนย์การค้าจะเป็นสถานที่เติมเต็มประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิตแบบ More Rewarding Experience ให้กับลูกค้า ทำให้การใช้เวลาอยู่ในศูนย์การค้าเป็นเหมือนการได้มาพักผ่อน เราตั้งใจให้เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย เป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์แห่งแรกกลางเมืองเชียงราย เป็น Lifestyle Hub ที่ครบครันที่สุดของเชียงราย”

          ซีพีเอ็นให้ความสำคัญกับการออกแบบและดีไซน์อย่างมาก ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ การันตีจากรางวัลด้านการออกแบบระดับโลกหลายรางวัล ซีพีเอ็นตั้งใจอย่างมากในการออกแบบเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ให้สวยงามเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัด ให้เป็นหน้าเป็นตาเป็นส่วนหนึ่งของความภูมิใจของชาวเชียงราย

          นางสาววัลยา กล่าวว่า “เราออกแบบศูนย์การค้าแห่งนี้โดยผสานความทันสมัยให้เข้ากับบรรยากาศท้องถิ่นได้อย่างลงตัว นำความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและศิลปะวัฒนธรรมล้านนาที่ทรงคุณค่าของชาวเชียงรายมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ อาทิ บริเวณ Façade ด้านหน้าศูนย์การค้า มีการตกแต่งด้วยแผงดอกกาสะลองซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดของเชียงราย พื้นที่โครงการมีสวนประติมากรรม จำลองสภาพภูมิประเทศของเชียงราย นำเครื่องเล่นไม้ไผ่กว่า 7,000 ชิ้น ฝีมือคนเฒ่าคนแก่จากหมู่บ้านป่าแดด อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงรายมาใช้ในการตกแต่งภายในศูนย์ฯ”

          ด้วยศักยภาพของซีพีเอ็นประกอบกับนวัตกรรมด้านการก่อสร้างที่ทันสมัยที่ซีพีเอ็นนำมาใช้ นางสาววัลยา เปิดเผยว่า “เราใช้เวลาก่อสร้างศูนย์การค้าแห่งนี้เพียง 11 เดือน และพร้อมเปิด ทุกชั้น ทุกโซน ตามกำหนดในวันพุธที่ 30 มีนาคมนี้ แน่นอน”

          นอกจากนี้ ศูนย์การค้าแห่งนี้ยังถือได้ว่าเป็นศูนย์การค้า Eco-Friendly ครบวงจรแห่งแรกของไทย ที่มีความสอดคล้องกับสภาพแวดล้อม สังคม และชุมชน ของที่นี่ มีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แบบ 360 องศา ด้วยนวัตกรรมทันสมัยที่ช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคิดเป็นปริมาณไฟฟ้าที่จะประหยัดได้กว่า 1.4 ล้านหน่วยต่อปี เทียบเท่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งปีสำหรับบ้านพักอาศัยกว่า 200 ครัวเรือน ช่วยลดปริมาณคาร์บอนฯ ได้กว่า 800 ตันต่อปี

          ซีพีเอ็นตั้งใจพัฒนาศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ให้เป็น “สุดยอดไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์แห่งแรกใจกลางเมืองเชียงราย” ที่ครบครันด้วยสินค้าและบริการที่หลากหลาย พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ทันสมัยทุกรูปแบบ ที่นี่เป็นศูนย์การค้ารูปแบบคอมเพล็กซ์ครบวงจร 3 ชั้น (และชั้นใต้ดิน) เป็นศูนย์รวมร้านค้าชั้นนำกว่า 200 ร้าน ให้ลูกค้าสามารถมาอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ ได้เหมือนที่กรุงเทพฯ มีห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, พาวเวอร์บาย, บีทูเอส, ซูเปอร์สปอร์ต, โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ และคาราโอเกะ เป็นแหล่งรวมแฟชั่นที่ทันสมัยที่สุดในเชียงราย เป็นศูนย์รวมร้านอาหารที่มีความหลากหลายที่สุดในเชียงราย มีให้เลือกทั้งร้านสำหรับครอบครัว และศูนย์อาหาร (Food Park) ทั้งแบบ Indoor และ Outdoor มีร้านอาหาร Six Sense ซึ่งมีคอนเซ็ปต์การแต่งร้านแบบ Art Gallery เป็น ที่แสดงผลงานของศิลปินทั้งหลายที่มีชื่อเสียงทางภาคเหนือ มีตลาดดอกไม้สด และกาดหลวงที่มีสินค้าให้เลือกช้อปหลากหลาย

          ด้านนางสาวสิรินิจ โชคชัยฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาด บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาเชียงราย จะเป็นฟอร์แมทใหม่ที่ทันสมัยของโรบินสัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “เหนือสุดแห่งแฟชั่น” ที่ครบครันด้วยสินค้าแฟชั่นแบรนด์คุณภาพชั้นนำ ซึ่งมีทั้งกลุ่มสินค้า International Brand ที่ได้รับความนิยม รวมทั้งสินค้าเอาใจวัยรุ่น อีกทั้งเพิ่มทางเลือกที่แตกต่างด้วยสินค้า Exclusive Brand และ Private Brand (only @ Robinson) ในทุก Category ครบทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้า พร้อมบริการหลากสไตล์ เพื่อสร้างความสุขให้กับลูกค้าในการช้อปปิ้งมากที่สุด”

          สำหรับกลยุทธ์การตลาดในการเปิดตัวศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของซีพีเอ็น กล่าวว่า “ซีพีเอ็นมีประสบการณ์ในการทำตลาดศูนย์การค้าในหัวเมืองหลักๆ ของประเทศมาหลายแห่ง ซึ่งเราได้นำฟอร์แมทที่ประสบความสำเร็จในที่ต่างๆ มาประยุกต์ใช้ที่เซ็นทรัลพลาซา เชียงราย นำ Holistic Approach มาใช้แบบ 360 องศา และเน้นร่วมมือกับพันธมิตรในการทำการตลาด และใช้กลยุทธ์ Customized Marketing ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคของเชียงราย เพื่อหาแนวทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งที่เชียงรายจะเน้นใช้สื่อท้องถิ่นในการเข้าถึงมากกว่า Mass Media และจะใช้ Innovative media ในการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่”

          สำหรับงานเปิดตัวในวันที่ 30 มีนาคมนี้ จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ มีอีเว้นท์และกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย พร้อมมีดารา และเซเลบริตี้ชื่อดัง อาทิ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, มาริโอ เมาเร่อ, ไอซ์-อภิษฎา มาร่วมงาน ซึ่งเราตั้งใจให้งานนี้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของเชียงรายภายใต้ธีม Charm of Enchanting Lanna สะท้อนวัฒนธรรมและศิลปะอันทรงคุณค่าของจังหวัดเชียงราย เน้นมอบ Experience ที่แปลกใหม่ แต่อิงคุณค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่น มี 3 องค์ประกอบสำคัญ คือ ศิลปวัฒนธรรม (Art & Culture) แฟชั่น (Fashion) และการเฉลิมฉลอง (Celebration)

          ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าวว่า “โปรโมชั่นของที่นี่จะเป็น Double Promotion พิเศษ 2 ชั้น ทั้ง Nationwide Campaign คือ Summer Campaign Grand Opening Campaign ลุ้นรางวัลใหญ่ รถ Mitsubishi Lancer EX2.0 รุ่นใหม่ล่าสุด แจกมอเตอร์ไซค์ Honda Scoopy i ทุกสัปดาห์ ซึ่งเรามั่นใจว่าทุกกิจกรรมและโปรโมชั่นที่เราเตรียมมามอบให้กับลูกค้าจะช่วยดึงคนและกำลังซื้อที่มีอยู่ให้มาช้อปที่ศูนย์ได้แน่นอน”

ฉลองเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงรายยิ่งใหญ่



          สมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สมพงษ์ กูลวงค์ นายกเทศมนตรีนครเชียงราย เป็นประธานเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ร่วมกับ คุณกอบชัย จิราธิวัฒน์ คุณวันชัย จิราธิวัฒน์ คุณสุทธิชัย จิราธิวัฒน์ คุณสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ โดยมีดาราดัง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ มาริโอ เมาเร่อ ไอซ์ –อภิษฏา เครือคงคา สร้างสีสันด้วยโชว์ชุดพิเศษสื่อถึงวัฒนธรรมและศิลปะอันทรงคุณค่าของจังหวัดเชียงราย พร้อมโชว์ชุดพิเศษสุดอลังการจากประเทศสิงคโปร์ Miracle Of Lanna Flora Balloon Ballet ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติและชาวเชียงรายมาร่วมงานคับคั่ง ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย (เมื่อเร็วๆ นี้)

          รายละเอีอดจากภาพ (1_พิธีเปิด)
          จากซ้ายคนที่ 3 -คุณสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
          จากซ้ายคนที่ 2 -คุณสมพงษ์ กูลวงค์ นายกเทศมนตรีนครเชียงราย
          จากซ้ายคนที่1-คุณกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
          จากขวาคนที่ 3- คุณวันชัย จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด
          จากขวาคนที่ 2 -คุณสุทธิชัย จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการกำกับการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด
          จากขวาคนที่ 1-คุณสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด