activity on March 21, 2011, 07:48:52 PM
ไซแมนเทค ช่วยการตรวจจับ และการป้องกันข้อมูลที่มีค่าขององค์กรรั่วไหลให้เป็นเรื่องง่าย

เทคโนโลยี เว็คเตอร์ แมชชีน เลิร์นนิ่ง ใหม่ใน โซลูชัน Data Loss Prevention 11 ช่วยป้องกันภัยคุกคามที่มีเพิ่มขึ้นอย่างมากต่อข้อมูลสำคัญได้อย่างเห็นผล

กรุงเทพฯ – 21 มีนาคม 2554 - ไซแมนเทค คอร์ป ประกาศเปิดตัว ระบบป้องกันข้อมูลรั่วไหล เวอร์ชัน 11 (Symantec Data Loss Prevention 11) มุ่งเน้นในการตรวจจับความผิดปกติพร้อมทั้งปกป้องข้อมูลมีค่า อันเป็นทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กรธุรกิจได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ชุดโซลูชันชั้นนำในตลาดเพื่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เวอร์ชันใหม่จากไซแมนเทค พร้อมนำเสนอคุณสมบัติของเทคโนโลยี เว็คเตอร์ แมชชีน เลิร์นนิ่ง (Vector Machine Learning) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแรกและเทคโนโลยีเดียวที่เรียนรู้ข้อมูลสำคัญด้วยตัวเอง ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การตรวจจับสินทรัพย์ทางปัญญาซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากนี้ Symantec Data Loss Prevention 11 ยังช่วยให้กระบวนการแก้ไขความผิดปกติ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังเพิ่มศักยภาพในเรื่องของการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกพร้อมการตรวจวัดความปลอดภัยเพิ่มที่ส่วนเอ็นด์พอยท์

ข้อมูลมากขึ้น ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

ในแต่ละปีข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไม่เป็นระบบมีอัตราเติบโตมากขึ้นถึงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ และกำลังกลายเป็นปัญหายุ่งยากในการบริหารจัดการและดูแลป้องกันไม่ให้สูญหาย ข้อมูลที่มีค่าที่สุดสำหรับองค์กรธุรกิจ ก็คือ ทรัพย์สินทางปัญญา ที่มักจะถูกฝังรวมอยู่ในเอกสารที่จัดเก็บไม่เป็นระบบซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกที และเอกสารบางอย่างก็ไม่ค่อยสำคัญเท่าไรนัก ซึ่งข้อมูลที่จัดเก็บไม่เป็นระบบเหล่านี้ มักไม่ค่อยปลอดภัยเท่ากับข้อมูลอื่นๆ ที่อยู่ในคลังข้อมูล ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ข้อมูลอาจสูญหายได้มากจากภัยคุกคามทั้งภายในและนอกองค์กร และจากการที่เราได้เห็น การโจมตีแบบมีเป้าหมาย เช่น Hydraq รวมถึงการรั่วไหลของเอกสารสำคัญอื่นๆ จึงยิ่งทำให้ทรัพย์สินทางปัญญา  ตกอยู่ในความเสี่ยงมากกว่าที่เคยเป็นมา

เทคโนโลยี Vector Machine Learning ช่วยระบุถึงความผิดปกติได้ง่ายขึ้น

องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องระบุว่าเอกสารใดมีความสำคัญและต้องดำเนินการเพื่อปกป้องเอกสารเหล่านั้น การป้องกันข้อมูลสูญหายที่ผ่านมามักจะใช้เทคโนโลยีการตรวจจับความผิดปกติ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ เทคโนโลยีตรวจสอบรูปแบบข้อมูลแบบ Fingerprint และการระบุลักษณะเนื้อหาของข้อมูล ทั้งนี้เทคโนโลยีตรวจสอบรูปแบบข้อมูล     แบบ Fingerprint จะต้องทำการเก็บรวบรวมเอกสารทั้งหมดเพื่อกำหนด Fingerprint เฉพาะของแต่ละไฟล์ อีกทาง เลือกหนึ่งคือการระบุลักษณะเฉพาะเนื้อหาของข้อมูล ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องกับการสร้างลิสต์คีย์เวิร์ด และสัญลักษณ์เครื่องหมายต่างๆ เพื่อระบุว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารสำคัญ  การจัดทำเรื่องของรูปแบบของข้อมูลแบบ Fingerprint อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับองค์กรที่มีข้อมูลอยู่กระจัดกระจาย และการกำหนดนโยบายต่างๆ ในการอธิบายรายละเอียดของข้อมูล อาจทำให้เสียเวลาในการดำเนินการขณะที่การระบุลักษณะเนื้อหามีความแม่นยำน้อยกว่าการตรวจสอบจากรูปแบบข้อมูลแบบ Fingerprint
เทคโนโลยี Vector Machine Learning คือนวัตกรรมใหม่ที่ไซแมนเทค ออกแบบมาเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดของเทคโนโลยีการตรวจจับที่มีอยู่ในปัจจุบัน การทำงานของ Vector Machine Learning สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองจากเอกสารตัวอย่างที่มีอยู่เพื่อเรียนรู้คุณลักษณะของข้อมูล พร้อมทั้งความแตกต่างระหว่างข้อมูลที่สำคัญและไม่สำคัญ เทคนิคนี้ช่วยลดความจำเป็นในการกำหนดนโยบายในการสร้างคีย์เวิร์ดหรือพยายามใช้วิธีการจดจำข้อมูลแบบ Fingerprint สำหรับทุกเอกสารที่มีการสร้างขึ้นใหม่ ด้วยเทคโนโลยี Vector Machine Learning แค่ตัวอย่างของเอกสารแบบก็เพียงพอสำหรับการสร้างนโยบายที่ให้ความถูกต้องแม่นยำ ที่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีเอกสารอ้างอิงเพิ่มเข้ามาในระบบ

เพิ่มศักยภาพการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและแก้ไขได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

Symantec Data Loss Prevention 11 ยังรวมถึงการเพิ่มศักยภาพในส่วนของ Symantec Data Insight ซึ่งเพิ่มความคล่องตัวให้กับกระบวนการในการแก้ไขความผิดปกติด้วยการระบุตำแหน่งของข้อมูลที่มีความเสี่ยงสูงสุดพร้อมทำการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติไปยังเจ้าของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคุณสมบัติในการจัดระดับความเสี่ยงจะให้ความสำคัญกับโฟลเดอร์ที่ต้องทำการแก้ไขก่อนโดยอิงจากจำนวนและความสำคัญของข้อมูลรวมถึงความสามารถในการเข้าถึงโฟลเดอร์นั้นๆ ซึ่งความสามารถใหม่นี้ จะช่วยเจ้าของข้อมูลปกป้องและดูแลความปลอดภัยของข้อมูลได้ง่ายขึ้น  ด้วยการส่งอีเมลเพื่อแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติไปยังเจ้าของข้อมูลที่มีความเสี่ยงอยู่ในคลังจัดเก็บข้อมูลที่ใช้งานร่วมกันอยู่   ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องข้อมูลที่มีอยู่ในองค์กรได้มากยิ่งขึ้น

เพิ่มระดับการปกป้องในส่วนเอ็นด์พอยท์

 Symantec Data Loss Prevention 11 เพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องข้อมูลส่วนเอ็นด์พอยท์ได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงคุณสมบัติที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับองค์กรในการใช้แอพพลิเคชันและอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลได้หลากหลายยิ่งขึ้น แต่ยังคงรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลขององค์กรได้ในระดับสูงเช่นเดิม ระบบควบคุมการเข้าถึงไฟล์ (Application File Access Control) ช่วยให้พนักงานสามารถใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น iTunes, Skype และ WebEx ได้โดยที่ข้อมูลสำคัญไม่รั่วไหลหรือถูกเปิดเผย และยังมีคุณสมบัติด้าน Trusted Device ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลได้หลากหลาย โดยยอมให้มีการคัดลอกข้อมูลไปยังอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เช่น อุปกรณ์ที่องค์กรสามารถตรวจสอบได้ สิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชันนี้ ยังรวมถึง Endpoint FlexResponse ที่เพิ่มมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเพิ่มการปกป้องข้อมูลได้ครอบคลุมในส่วนของเอ็นด์พอยท์ โดยสามารถทำงานร่วมกันระหว่างโซลูชันของไซแมนเทคและโซลูชันของผู้จำหน่ายรายอื่น เช่น โซลูชันสำหรับการเข้ารหัสข้อมูลและการบริหารจัดการสิทธิข้อมูลสำหรับองค์กร(ERM – Enterprise Rights Management)

การวางจำหน่าย
Symantec Data Loss Prevention 11 มีกำหนดวางจำหน่ายภายในครึ่งปีแรกของ 2554

ระบบป้องกันข้อมูลสูญหายของไซแมนเทค เป็นโซลูชันที่ได้รับการพิสูจน์และยอมรับถึงความสามารถในการรับรู้     ในระดับของเนื้อหา เพื่อช่วยในการค้นหา ตรวจสอบ ปกป้อง และบริหารจัดการข้อมูลความลับขององค์กรไม่ว่าจะจัดเก็บอยู่ที่ไหน หรือมีการใช้งานจากที่ใดก็ตาม โดยช่วยให้คุณลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของข้อมูล และยังช่วย ในเรื่องของการบังคับใช้ข้อมูลตามกฏระเบียบ ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า รวมถึงแบรนด์สินค้า และทรัพย์สินทางปัญญาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับ ไซแมนเทค
ไซแมนเทค เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่องค์กรและผู้บริโภคภายใต้โลกที่เชื่อมต่อถึงกัน และยังช่วยปกป้องโครงสร้างพื้นฐานระบบไอที ข้อมูลสารสนเทศ และการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ด้วยซอฟต์แวร์และบริการที่ช่วยจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัยได้ครอบคลุมทุกจุดมากยิ่งขึ้น ให้ประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยสร้างความมั่นใจไม่ว่าจะมีการใช้งานหรือจัดเก็บข้อมูลอยู่ที่ใดก็ตาม สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่ www.symantec.com