activity on March 16, 2011, 03:53:50 PM
ไอบีเอ็มชี้ ผลการสำรวจ CHRO Study ระบุองค์กรต่างๆทั่วโลก เตรียมลงทุนสรรหาบุคลากรทำงานข้ามพรมแดนมากขึ้น
 
กรุงเทพ 15 มีนาคม 2554 – บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เผยบทสรุปผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลทั่วโลกประจำปี 2553 ซึ่งดำเนินการโดยสถาบันเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจของไอบีเอ็ม (IBM Institute for Business Value) ภายใต้ชื่อ “การทำงานข้ามพรมแดน” (Working Beyond Borders) ระบุว่าองค์กรต่างๆ พยายามที่จะพัฒนาและจัดหาบุคลากรในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก จากการสำรวจความคิดเห็นของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Chief Human Resource Officer - CHRO) และผู้บริหารระดับสูงกว่า 700 คนจาก 61 ประเทศ และ 31 เขตอุตสาหกรรมทั่วโลก  ผลการศึกษาดังกล่าวสรุปว่าบริษัทต่างๆ ในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว พยายามที่จะขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วโลก จึงต้องสรรหาบุคลากร และส่งเสริมผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพและมีความคล่องตัวสูง เพื่อตอบสนองแนวโน้มความต้องการบุคลากรเพื่อทำงานข้ามพรมแดนในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า

ไอบีเอ็มได้จัดทำผลสำรวจในกลุ่มผู้บริหารระดับสูง (C-Suite) มาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้จัดทำผลสำรวจในกลุ่มของ CHRO ซึ่งสะท้อนผลลัพธ์สำคัญที่เป็นประโยชน์อย่างมากในวงการบริหารงานบุคคล โดยพบว่าองค์กรต่างๆมีการลงทุนด้านบุคลากรเพิ่มขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่กำลังพัฒนา เช่น จีนและอินเดีย เนื่องจากต้องเพิ่มโอกาสทางการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ จึงจำเป็นต้องผลักดันการลงทุนบุคลากรในอนาคต

สืบเนื่องจากเมื่อ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศทั่วโลก ทำให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มดำเนินการอย่างระมัดระวัง และมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพของการปฏิบัติการ (Operational efficiency) แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่สภาวะฟื้นตัว ผู้นำในส่วนของการจัดการทรัพยากรบุคคลในปัจจุบัน ต่างมุ่งเน้นไปที่การสร้างการเติบโตขององค์กร (Drive growth) แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงต้องเน้นที่ประสิทธิภาพของการดำเนินธุรกิจต่อไป ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวในยุคโลกาภิวัฒน์ ที่ซึ่งตลาดแรงงานเปลี่ยนเป็นโลกที่ไร้พรมแดนนั้น ต้องเตรียมพร้อม เพื่อการพัฒนาบุคลากร รวมถึงการเคลื่อนย้ายบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง
 
นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “สำหรับประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน เราจะเห็นว่าโลกของตลาดแรงงานที่ไร้พรมแดนจะกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวยิ่งกว่าครั้งใดที่ผ่านมาอันเป็นผลจากอาเซียน 2015 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ปัจจัยผลักดันจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีซึ่งจะทำลายอุปสรรคขวางกั้นในเรื่องเวลา ระยะทาง และแม้กระทั่งภาษา ทำให้การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันเป็นไปอย่างไร้พรมแดน ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจแล้วยังก่อให้เกิดความท้าทายในเชิงการแข่งขันให้เพิ่มทวีมากขึ้น การเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 4 ปีข้างหน้า นอกจากเรื่องของสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการแล้ว ยังเป็นการเปิดประตูสู่การแข่งขันของตลาดแรงงานในระดับภูมิภาค ในฐานะผู้นำองค์กรทางด้านทรัพยากรบุคคลการจัดการทางด้านทรัพยากรบุคคล จึงจะเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อมในการวางกลยุทธ์องค์กรให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ในการสำรวจครั้งนี้ไอบีเอ้มได้พูดคุยและสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้นำด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลกว่า 707 คน จาก 61 ประเทศทั่วโลก เราพบว่า ผู้นำ HR ต่างเห็นพ้องกันว่าปัจจัยความสำเร็จในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลมี 3 ข้อหลักด้วยกัน

1. การสร้างผู้นำที่สร้างสรรค์ (Cultivating Creative Leaders)
การพัฒนาผู้นำให้เป็นผู้นำที่สร้างสรรค์ สามารถรับมือกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง มีรูปแบบการสื่อสารที่หลากหลายและความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนองค์กรให้สอดคล้องกับความต้องการทางธุรกิจได้ทันท่วงที  ไอบีเอ็มได้มีการเตรียมพร้อมให้กับผู้นำขององค์กรมาโดยตลอด ตัวอย่างโครงการพัฒนาผู้นำของไอบีเอ็ม เช่น

GET (Global Enablement Team) เป็นโครงการที่นำผู้บริหารระดับสูงของไอบีเอ็มสำนักงานใหญ่เดินทางเข้ามายังประเทศต่างๆ เพื่อถ่ายทอดทักษะและประสพการณ์การบริหารงานระดับสูง การสร้างสรรค์ผู้นำยุคใหม่และการสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานในองค์กรแก่ผู้นำองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจของไอบีเอ็มและผู้บริหารไอบีเอ็มในประเทศนั้นๆ
ESC (Executive Service Corps.) เป็นโครงการที่ผู้บริหารระดับสูงของไอบีเอ็มเข้ามาทำงานร่วมกับชุมชนทั้งภาครัฐและภาคประชาคม (NGO) เพื่อทำความเข้าใจถึงความท้าทายและปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจริงในชุมชน พร้อมทั้งช่วยจัดสร้างแผนพัฒนาชุมชนที่ตรงกับความต้องการจริงๆ เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิผลในอนาคต

ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จะดำเนินการจัดทำโครงการทั้งสองภายในปีนี้

2. การจัดสรรและเคลื่อนย้ายบุคลากรด้วยความยืดหยุ่นและรวดเร็ว (Mobilizing for Speed and Flexibility)
องค์กรต้องสามารถจัดสรรเคลื่อนย้ายบุคลากรจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งที่และใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไอบีเอ็มประสพความสำเร็จในการนำโมเดลทางธุรกิจที่เรียกว่า (Globally Integrated Enterprise) หรือ GIE มาใช้ GIE เป็นการดำเนินธุรกิจโดยมองโลกเป็นผืนเดียวกัน มีการเลือกใช้ทรัพยากรที่มีทักษะความเชี่ยวชาญในงานที่เหมือนกันจากส่วนต่างๆของโลกมารวมเป็นศูนย์กลางของทักษะของงานนั้น  หรือ Center of Competency โดย Center of Competency จะเป็นศูนย์บริการเฉพาะด้านที่มีความเชี่ยวชาญและสามารถให้บริการกับไอบีเอ็มประเทศต่างทั่วโลกรวมไปถึงลูกค้าที่มีความต้องการใช้บริการนั้นๆ ปรากฏการณ์ของโมเดลการทำธุรกิจแบบ GIE ทำให้ไอบีเอ็มสามารถลดค่าใช้จ่ายและการลงทุนที่ซ้ำซ้อน และสามารถนำเงินที่เหลือนั้นไปลงทุนในส่วนของงานหลักของธุรกิจ เพื่อสร้างความเจริญเติบโตให้กับธุรกิจในอนาคตต่อไป


3. การประยุกต์ใช้นวัตกรรมเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์อันสูงสุด (Capitalizing on Collective Intelligence)
การเรียนรู้และการเข้าถึงแหล่งองค์ความรู้ในองค์กรจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาบุคลากร เช่นเดียวกับการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเพื่อเอื้อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถ่ายทอดความรู้ สร้างการเชื่อมโยงข้อมูลอัจฉริยะในองค์กร ให้บุคลากรและหน่วยงานต่างๆ ภายในองค์กร รวมไปถึงลูกค้าและบุคคลภายนอกสามารถนำข้อมูลความรู้มาเพื่อการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น การนำเครื่องมือทางด้าน Social Business เข้ามาช่วย จัดการให้เป็นแหล่งข้อมูลเพื่อให้พนักงานได้เรียนรู้ เช่น วิกิ LotusConnection หรือ w3 Intranet เป็นต้น

นางพรรณสิรี ได้กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า “ผลการสำรวจ CHRO Study ครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าองค์กรที่จะประสพความสำเร็จต้องมีการเตรียมบุคลากรให้พร้อมกับการทำงานแบบไร้พรมแดน มีการลงทุนในการพัฒนาทักษะผู้นำองค์กร มีการนำเทคโนโลยีมาสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์เชื่อมโยงการสื่อสารภายในองค์กร และเลือกใช้เครื่องมือด้านวิเคราะห์ข้อมูล (Business Analytic) เพื่อให้สามารถนำข้อมูลมาใช้งานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

รายงานฉบับสมบูรณ์ รวมถึงข้อมูลที่พบและกรณีศึกษา มีอยู่ที่:  ibm.com/chrostudy

 # # #


activity on March 16, 2011, 03:54:10 PM
IBM CHRO Study finds ASEAN CHROs more focused on growth and developing future leaders
Asia Pacific results indicates Companies in Fast-Growing Economies Plan to Hire in North America and Europe

The Social Network: Largely absent from companies but growing exponentially in ASEAN

Bangkok March 15, 2011 – According to results from a survey conducted by the IBM Institute for Business Value, the 2010 IBM Global Chief Human Resource Officer (CHRO) study, titled “Working Beyond Borders,” reported insights from the ASEAN CHRO survey, where growth and developing future leaders, with greater investments being spent here in ASEAN, was key. An additional area of interest was the higher investments being made by ASEAN CHROs in the area of social networking, versus their global counterparts.

According to the findings of a major new IBM study of over 700 Chief Human Resource Officers (CHROs) and senior executives from 61 countries and 31 industries worldwide including about 50 CHROs in ASEAN, there is a dramatic shift of workforce investments, where growth market companies – largely from China and India -- are increasingly hiring in North America and Europe. The study concluded that as companies in fast-growing markets seek to expand globally, the ability to identify, develop and empower effective, agile leaders is a critical imperative for human resource leaders over the next three years.

MS. Parnsiree Amatayakul, Managing Director, IBM Thailand Co., Ltd. said “In ASEAN, it was noted that CHROs were more focused on growth over the next three years, closely followed by efficiency (49% versus 44%).  This reveals that the ability to cultivate creative leaders, mobilize for speed and flexibility and capitalize on collective intelligence is paramount for their area of responsibility.”

ASEAN CHROs also appear better at developing future leaders as opposed to their global counterparts (40% more effective versus 31%). This is also supported by findings of a greater investment in ASEAN in developing future leaders.  63% of ASEAN companies reported increased investment to develop future leaders, versus 33% for mature markets. Although such investment spells the commitment of the Human Resource industry in talent development, the effectiveness of developing such leaders is critical. One means is through providing relevant learning courses that enable real learning and job performance challenges to help this group build their skills, connect and collaborate within their networks, and act with speed towards finding solutions for their customers faster.

In the global results, only one-third of HR leaders interviewed said their companies were adept at leadership development with the majority of executives struggling to effectively connect their workforce eg. 78 percent of HR leaders do not think their organizations are effective at fostering collaboration and social networking.

Companies better at rapidly developing skills were also found to be more likely to apply both traditional and progressive learning techniques and in ASEAN, it was found that Mentoring was more effective here (76% versus the global sample focused on classroom learning of 94%).  This could possibly be attributed to the ingrained cultural foundation in Asia of learning from elders and the desire to adopt best-practices from experienced leaders.

An area of vital significance is the area of Social Networking, which was a new development first seen in the 2010 report, as opposed to the 2008 report. According to the study, ASEAN CHROs are investing more in this space (32% versus 21% for global) and it has been seen to be a source of competitive advantage, with financial outperformers 57% more likely to do this well.  ASEAN CHROs also rate themselves to be more effective than their global counterparts at using collaboration tools.  However the collaborative infrastructure needs to be better used to preserve critical knowledge and spread innovation, enable global teams to work more effectively and identify individuals with the right skill sets.   This may be attributed to the fact that ASEAN was not impacted to the same extent as other markets, by the global financial crisis.

The use of predictive analytics appears to also be more effective in ASEAN by their CHROs .  versus their global counterparts, but still only represents about a third of the companies, who are indicating that they can effectively do predictive work force analytics.  This is fueled by the corporations’ knowledge that the ability to develop effective leadership, strategically build and deploy the workforce, and stimulate knowledge-sharing and collaboration frequently hinges upon the information available to make evidence-based decisions regarding the workforce, according to the study. However, recognition of its importance is there, though this level of insight continues to be elusive for all companies.

Said Parnsiree “These results from the CHRO Study shows that the shift toward growth isn't just about going to the region with the lowest costs, but about finding talent and resources that will make a company successful. Beyond the shift in hiring trends, companies are finding that employees with certain "soft" skills, such as social networking and collaboration, can benefit their bottom line, as the new glue in the complex organization is really collaboration and the way groups of people work together.  Another area where businesses recognize a need for growth, is evidence-based decisionmaking, which is seeing rising importance here in the ASEAN region.”


Further Global and Asia Pacific CHRO Study Results

Although, the study found a traditional pattern of movement – in which companies in mature markets seek operational efficiency through headcount growth in emerging economies – workforce investment is now moving both ways. The study revealed that: 45% of companies in India plan to increase their headcount in North America and 44% in Western Europe; 33% of companies in China plan to increase headcount in North America and 14% in Western Europe.

In the area of Social Networking, only 21 percent have recently increased the amount they invest in the tools required to promote collaboration and networking. Even further, less than 20 percent are actively applying analytics to understand the impact of their efforts. Not only are companies not investing heavily in new collaboration and communication tools, many organizations fail to fully utilize the knowledge sharing resources they already possess. For example, only 19 percent of respondents regularly use collaborative technologies to identify individuals with relevant knowledge and skills, 23 percent to preserve critical knowledge and 27 percent to spread innovation more widely.

Additionally, study participants believe that opportunities to penetrate new markets and develop new offerings will drive future workforce investment, regardless of region. But companies struggle to both find and nurture effective future leaders and less than one in three executives we interviewed rated their companies as adept at leadership development – a surprisingly low number given its relative importance.

However, even during the height of the global recession, 33 percent of our respondents in mature markets and 43 percent in growth markets increased their investment in leadership development, significant numbers despite the cost containment initiatives many companies instigated at the time.

The ability to develop effective leadership, strategically build and deploy the workforce, and stimulate knowledge sharing and collaboration frequently hinges upon the information available to make evidence-based decisions regarding the workforce. However, for many organizations, this level of insight continues to be elusive. Only 7 percent of respondents say they are very effective at using analytics to make workforce decisions.

Many companies have the capability to use analytics to look backward to identify historical trends and practices within their organizations. Yet few are adept at using information to develop scenarios and predict future outcomes. Only in developing future leaders and business strategy did more than a quarter of the CHROs we interviewed use analytics for forward-looking analysis.

“To accomplish this goal, organizations will need to identify new partnerships and relationships that will allow them to gain access to needed skills and capabilities. They will be forced to gather information and share insights among a diverse group of employees around the globe,” commented Sharon Koster, Senior Managing Consultant & Organisation & People Leader
IBM Global Business Services, ASEAN.


About the Global CHRO Study
The 2010 IBM Global Chief Human Resource Officer study is the third edition of our Global Human Capital Study series, led jointly by the IBM Institute for Business Value and IBM Strategy & Transformation practice. Between November 2009 and April 2010, IBM surveyed 707 executives, almost 600 of whom we met face-to-face. The research was conducted with organizations of all sizes, in 61 different countries and was almost evenly split between executives in mature and growth markets. 


For access to the full study report, including findings and case studies, please visit:  ibm.com/chrostudy

To join the conversation about smarter leadership, please visit: http://smarterleaders.tumblr.com/
               
# # #