activity on March 16, 2011, 02:32:16 PM
ภาวะตลาดทองคำวันนี้ Daily Gold Insight วันที่ 15 มีนาคม 2554
 
ข้อมูลทองคำวันนี้
          - ราคาสมาคม เปิดที่ 20,400 - 20,500
          - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,422.9
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.36 – 30.40
          - GFJ11 Hi- Low 20,670 – 20,610 ปิดที่ 20,640

Gold & Silver Insight

สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX
          ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลบ 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,424.9 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,418.20-1,433.50
ดอลลาร์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 0.95 เซนต์ ปิดที่ 35.840 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของ สถานการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในญี่ปุ่นได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง แต่ราคาพลาตินัมและพัลลาเดียมร่วงลงอย่าง หนัก เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ส่งผลให้บริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่งต้องปิดโรงงาน
 
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          ปิดลบ 51.24 จุด หรือ 0.43% แตะที่ 11,993.16 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 7.89 จุด หรือ 0.60% แตะที่ 1,296.39 จุด และ
ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 14.64 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 2,700.97 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่นจะส่งผล กระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นและเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการรั่วไหลของกัมมันตภาพรังสีของโรงงานนิวเคลียร์ ในญี่ปุ่น

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ส่งมอบเดือนเม.ย.ขยับขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 101.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 98.47-101.29
ดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในลิเบียและตะวันออกกลาง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า  ญี่ปุ่นอาจจะนำเข้าน้ำมันมากขึ้นเพื่อเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการฟื้นฟูประเทศหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง

กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 15 มีนาคม ขายออก 1.60ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจาก
ระดับ 1215.48ตัน เข้าสู่ระดับ 1213.65ตัน
          USD/EU ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.63% แตะที่ 1.3995 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3907 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงิน
ดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.3950 ดอลล่าร์ต่อยูโร
          USD/JPY ค่าเงินเยนดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบสูงถึง 15 ล้านล้านเยน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างค่าเงินเยนดีดตัวขึ้น 0.33% แตะที่ 81.62 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 81.89 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 81.68 เยนต่อดอลลาร์
          USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.30-30.33 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.36-30.40 บาทต่อดอลล่าร์

ข่าวเศรษฐกิจโลก
          - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศอัดฉีดเงิน 7 ล้านล้านเยน (8.58 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดการเงินภายในประเทศเมื่อ
วานนี้ เพื่อบรรเทาความวิตกกังวลที่ว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงอาจจะส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งการดำเนินการ ดังกล่าวจะทำให้เม็ดเงินในระบบของญี่ปุ่นสูงขึ้น และอาจทำให้ญี่ปุ่นต้องตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบในวันข้างหน้า
          - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่ม G-8 อาจจะเสนอความช่วยเหลือญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ในการประชุมเป็นเวลา 2
วันที่กรุงปารีส ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์ในลิเบียจะเป็นหนึ่งในประเด็นเร่งด่วนของที่ประชุม G-8 ในครั้งนี้ แต่นักวิเคราะห์คาดว่าความสนใจของรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุม G8 จะมุ่งไปที่หายนะจากแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น และอาจนำมา ซึ่งวิกฤติทางนิวเคลียร์จากการระเบิดของเตาปฏิกรณ์โรงไฟฟ้า
          - รายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดย
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.1%
          - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดการเงินของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 5 ล้านล้านเยนในวันนี้ (15 มี.ค.) เนื่องจากความ
กังวลที่ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น อาจจะส่งผลกระทบต่อการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินภายในประเทศ การดำเนินการฉุกเฉินในวันนี้มีเป้าหมายที่จะช่วยให้การปล่อยเงินกู้ของสถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์เป็นไปอย่างราบรื่น ในช่วงที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหว นอกจากนี้ ยังเป็นการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากที่บีโอเจ ได้อัดฉีดเงินไปแล้ว 15 ล้านล้านเยนเมื่อวานนี้
          - นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จีนจะค่อยๆเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน ขณะเดียวกันจีนก็จะให้
ความสำคัญกับเรื่องแรงกดดันที่จะเกิดขึ้นกับบริษัท เอกชนและการจ้างงาน ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับเสถียรภาพในสังคม
          - จิม โอนีล ประธานโกลด์แมน แซคส์ แอสเซท เมเนจเมนท์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการผลิตใน พื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีผลผลิตในสัดส่วน 8% ของตัวเลขจีดีพีญี่ปุ่น และยังได้ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนในตลาดโลก เนื่องจากญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์เซมิคอน ดัคเตอร์และวัตถุดิบต่างๆ เมื่อระบบการขนส่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว กลุ่มผู้ผลิตในญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆก็จะได้รับผลกระทบจากภาวะอุปทานขาดแคลน ในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้

activity on March 16, 2011, 02:59:29 PM
บทวิเคราะห์  GOLD FUTURES กับ นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ
ประจำวันที่ 16 มี.ค. 2554 
 
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1421 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.44 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.47 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20400 บาท กับ 20500 บาท GFJ11 เปิดที่ 20600 บาท และ GFM11 เปิดที่ 20870 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20800 บาท และ GF10M11 เปิดที่ 20870 บาท SPDR ถือครอง 1212.74 ตัน (ขายออก 0.91 ตัน) น้ำมันลบ 4.01 เหรียญ ปิดที่ระดับ 97.18 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 137.74 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 11855.42 จุด
ราคาทองคำในตลาดเอเชียค่อนข้างแกว่งตัว โดยค่อยๆปรับตัวลดลง ปิดตลาดที่ระดับ 1408 เหรียญ ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4699 คู่สัญญา เพิ่มขึ้น 63% และ Gold Futures 10 บาท อยู่ที่ 5063 คู่สัญญาเพิ่มขึ้น 74% ราคาทองคำร่วงลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้าสู่ต้นตลาดลอนดอนและComexเอง โดยปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1400 เหรียญ ลงมาและหลุดระดับ 1390 เหรียญ ทดสอบต่ำสุดที่ระดับ 1380 เหรียญ ในท้ายตลาดมีแรงซื้อ กลับมาปิดตลาดที่ระดับ 1395 เหรียญ โดยตลาดส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับภาวะ การระเบิดโรงงานนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ทำให้ตลาดหุ้น Nikkei ของญี่ปุ่นร่วงลงกว่า 10% ทำให้เกิดแรงเทขายทองคำเพื่อใช้เงินมาชำระ รวมทั้งมีการเข้าซื้อดอลลาร์ในลักษณะของพันธบัตร คาดว่าจะมีการนำเงินเข้าญี่ปุ่นจำนวนมหาศาล ตลาดน้ำมันตกต่อเนื่อง ตลาดไม่ได้ให้ความสนใจข่าวในตะวันออกกลาง โดยซาอุฯ ส่งกองกำลังทหารเข้าช่วยประเทศบาเรนห์ น้ำมันดิบ Brent Oil ปิดตลาดที่ระดับ 108.52 เหรียญ/บาร์เรล ร่วงลง 5.15 เหรียญ น้ำมัน Nymex ปิดตลาดที่ระดับ 97.18 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 4.01 เหรียญ ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 137.74 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 11855.42 จุด SPDR ถือครอง 1212.74 ตัน (ขายออก 0.91 ตัน) และมีข่าว BOJ จะขายทองคำเป็นจำนวนเงิน 20 ล้านล้านเยน เพื่อไปบูรณะประเทศ โดยที่ค่าเงินดอลลาร์เองอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยที่ค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร ปิดที่ระัดับ1.3999 ดอลลาร์/ยูโร อ่อนค่าลงเล็กน้อย
 
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำขึ้นหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1400 เหรียญลงมา ทำให้ภาพทางเทคนิคแนวรับ 1390 เหรียญ มีการทดสอบ1ครั้ง ณ ขณะนี้เป็นลักษณะ Technical Rebound ขึ้นมา แนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1400 เหรียญ และที่ระดับ1410 เหรียญ ตามลำดับ โอกาสปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมีค่อนข้างสูง ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากภาวะในตลาดที่จะเทขายเพื่อนำเม็ดเงินมาบูรณะประเทศญี่ปุ่น
ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 20300 บาท และ 20400 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1408 เหรียญ
ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 20250 บาท และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 20400 บาท
Gold Futures J11 จะมีแนวรับที่ระดับ 20400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 2055
 
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในทิศทางขาลง คาดว่าราคาไม่น่าจะทะลุระดับ 1400 เหรียญขึ้นมาได้ ราคาน่าจะอยู่ในกรอบ 1390 -1400 เหรียญ
 นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) เป็นลักษณะของการ Stop loss ออกจากตลาดไปก่อน ที่ระดับ 1400 เหรียญ เป็นโอกาสดีที่จะ stop loss  เป็นการดูว่าลักษณะของทิศทางอาจจะลงต่อได้
 นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง รอซื้อต่อเนื่อง โดยไม่ต้องทำอะไร แนวรับแรกรอซื้อที่ระดับ 1385 เหรียญ
สรุปได้ว่า นักลงทุนไม่น่าจะมีสถานะ Long Position อาจจะต้องลดสถานะ Long Position ลงไม่มากก็น้อย ภาวะของทองคำอาจถูกกดดันไม่น่าจะน้อยกว่า 5-7 วัน

activity on March 17, 2011, 05:24:11 PM
บทวิเคราะห์  GOLD FUTURES กับ นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ
ประจำวันที่ 17 มี.ค. 2554 
 
ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1396 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.40 บาท/ดอลลาร์ กับ  30.41 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20150 บาท กับ 20250 บาท GFJ11 เปิดที่ 20420 บาท  และ GFM11 เปิดที่ 20550 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20430 บาท และ GF10M11 เปิดที่ 20540 บาท SPDR ถือครอง 1217.30 ตัน (ซื้อเข้า 4.55 ตัน) น้ำมันปิดบวก 80 เซนต์ ปิดที่ระดับ 97.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 242.12 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 11613.30 จุด

ราคาทองคำในตลาดเอเชียค่อนข้างทรงตัวและปรับตัวสูงขึ้นที่ระดับ 1400 เหรียญอีกครั้ง ปิดตลาดเอเชียที่ระดับ 1400 เหรียญ ปริมาณการซื้อขาย Gold Future 50 บาท อยู่ที่ 5203 คู่สัญญา และ 10 บาท อยู่ที่ 5084 คู่สัญญา  OI แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 11 % และ 10 บาท เพิ่มขึ้น 5 % เรียกได้ว่ามีปริมาณการซื้อขายใกล้เคียงกัน ราคาทองในตลาด London เองค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1404 เหรียญ การซื้อขายส่วนใหญ่อยู่ที่ 1400 เหรียญ ราคามาปรับตัวลดลงในตลาด Comex ปิดตลาดที่ 1396 เหรียญ โดยภาพรวมตลาดยังมีความกังวลและติดตามสถานการณ์น้ำมันและสถานการณ์ญี่ปุ่น โดยเมื่อวานดัชนีนิเคอิ ดีดตัวขึ้นกว่า 5% ดีดกลับขึ้นมา 4000 กว่าจุด ทำให้ราคาน้ำมันเองปรับตัวสูงขึ้นตาม ในขณะที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจเมื่อวานไม่ค่อยดีนัก Housing Start ออกมาแย่ลงจากเดิม 0.62M ตัวเลขจริง 0.48M Building Permits ออกมาลดลงจากเดิม 0.56 M ตัวเลขจริง 0.52 M โดยตอนนี้ SPDR ซื้อเข้า 4.55 ตัน ถือครอง 1217.30 ตัน ราคาน้ำมันสูงขึ้นทั้ง Nymex และเบรนท์ออยด์ โดยที่ Nymex ปิดบวกเพิ่มขึ้น 80 เซนต์ มาอยู่ที่ 97.98 ดอลลาร์/บาร์เรล เบรนท์ออยด์ พุ่งขึ้น 2.10 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 110.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 242.12 จุด มาปิดที่ 11613.30 จุด USD/Index ปรับตัวสูงขึ้น 0.37 จุด มาอยู่ที่ 76.65 จุด ดอลลาร์เองอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนแต่ทรงตัวเมื่อเทียบกับยูโร เยนแข็งค่าขึ้นจากการเทขายดอลลาร์ซื้อเยน เพื่อนำเงินเยนกลับเข้าประเทศ

 

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาทองคำเมื่อวานทรงตัวและทดสอบแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1405 เหรียญ และไม่สามารถผ่านขึ้นไปได้มีแรงเทขายกลับ ณ ขณะนี้ราคาทองคำอยู่ที่ 1391 เหรียญ ซึ่งคาดว่าแนวโน้มทิศทางยังเป็นขาลง ซึ่งมีโอกาสที่จะลงไปทดสอบแนวล่างเดิมที่ระดับ 1384 เหรียญได้ แนวรับสำคัญแรกอยู่ที่ระดับ 1390 เหรียญ ถ้าหลุดลงไปจะเป็นแนวรับที่สองที่ 1370 เหรียญ โดยอาจจะทดสอบบริเวณแนวรับจุดต่ำสุดเดิมที่ 1384 เหรียญก่อน แนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1400 เหรียญ

ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 20150 บาท และ 20250 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1400 เหรียญ

ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 20000 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 20200 บาท

Gold Futures  J11 จะมีแนวรับที่ระดับ 20200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20360 บาท

 

 

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัว โดยยังมองเป็นทิศทางขาลง คาดว่าจะเคลื่อนไหว 1390-1398  เหรียญ

นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ยังเป็นลักษณะของการรอเข้าซื้อ เริ่มเข้าซื้อที่ระดับแนวรับสำคัญ 1385 เหรียญ

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่งเราคาดว่าได้ขายพอร์ตเกือบหมดแล้ว รอเข้าช้อนซื้อที่ระดับแนวรับเท่านั้น

สรุปได้ว่านักลงทุนที่ติดตามการวิเคราะห์จะเห็นได้ว่าเรามองให้ทิศทางเป็นแนวโน้มขาลงและพยายามให้ขายทำกำไรไปก่อน นักลงทุนที่ยังถือ Long Position จะต้องพยายามทบทวนและคิดหาวิธีการลดพอร์ตลงมา ต้องระวังความเสี่ยงในทิศทางขาลง

activity on March 19, 2011, 11:08:25 AM
บทวิเคราะห์  GOLD FUTURES กับ นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ
ประจำวันที่ 18 มี.ค. 2554 
 
 
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1392 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.31 บาท/ดอลลาร์ กับ  30.35 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19950 บาท กับ 20050 บาท GFJ11 เปิดที่ 20270 บาท  และ GFM11 เปิดที่ 20330 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20280 บาท และ GF10M11 เปิดที่ 20370 บาท SPDR ถือครอง 1217.30 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมันปิดบวก 3.44 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 101.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 161.29 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 11774.59 จุด
ราคาทองคำในตลาดเอเชียแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นในช่วงเช้าปิดตลาดที่ระดับ 1400 เหรียญ ปริมาณการซื้อขาย Gold Future 50 บาท อยู่ที่ 4711 คู่สัญญา และ 10 บาท อยู่ที่ 5957 คู่สัญญา  OI แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 2 % และ 10 บาท เพิ่มขึ้น 3 % ในตลาด London และ Comex ราคาค่อนข้างทรงตัวซื้อขายบริเวณ1402 เหรียญ ไปปิดตลาดที่ระดับ 1404 เหรียญ โดยภาพรวมตลาดยังให้ความสนใจกับภาวะตึงเครียดในตะวันออกกลาง กดดันให้ราคาน้ำมันเองดีดกลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งโดยเมื่อวานราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น 3.44 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 101.42 ดอลลาร์/บาร์เรล เบรนท์ออยด์ ปรับตัวสูงขึ้น 4.30 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 114.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ภาพรวมราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน เหตุการณ์ในญี่ปุ่นเองยังสับสนเรื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ภาพรวมๆยังไม่ยืนยันว่าจะเรียบร้อยหรือไม่ ถ้าสองวันไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้นก็น่าจะจบ เพราะมีเวลาอยู่ 48 ชั่วโมง ในการจัดการระบบ เพื่อที่จะเข้าไปต่อสายเคเบิลเครื่องปั๊บระบบหล่อเย็นให้ทำงาน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเองอยู่ในเกณฑ์ที่ดี Unemployment Claims ปรับตัวลดลง 16000 ราย มาอยู่ที่ 385000 ราย , CPI ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 0.5% จากก่อนหน้าที่ 0.4% โดยภาพรวมๆจะเห็นว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจตอนนี้ไม่ส่งผลเท่าไหร่ แต่เป็นเรื่องของการเคลื่อนไหวเม็ดเงินเพื่อการเก็งกำไร
 
 
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจนสมารถยืนเหนือระดับ 1400 เหรียญขึ้นมา และเช้านี้ขึ้นไปทดสอบ 1410 เหรียญ Oscillator ในรายชั่วโมง สัญญาณระยะสั้นมากเป็นทิศทางขาขึ้น ในขณะที่รายวันยังไม่เป็นสัญญาณบวกและกำลังทดสอบใน RSI และ MACD ซึ่งยังอยู่ในแนวลบ สัญญาณในระยะยาวกราฟ Weekly ยังเป็นบวก พูดง่ายๆว่าในเชิงเทคนิคจะมีความผัวผวนของระยะ Day trade หรือรายชั่วโมงค่อนข้างมาก และกำลังขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1410 เหรียญ จนกว่าราคาจะสามารถทะลุระดับ 1412 เหรียญขึ้นไป และยืนได้มากกว่า 2 วัน โดยเหนือกว่าระดับนี้จึงเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคได้ โดยภาพรวมๆมองเป็นการผันผวนของราคาในระยะสั้น และถ้าราคาไม่สามารถทะลุ 1412 เหรียญขึ้นไปได้ ก็คาดว่าจะปรับตกลงมาใหม่ โดยแนวต้านด้านบนจะมีค่อนข้างมากที่ระดับ 1412 เหรียญ และ 1420 เหรียญ แนวรับด้านล่างอยู่ที่ระดับ 1390 เหรียญ โดยที่ทองคำแท่งของไทยยังได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาที่ยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช้านี้เงินบาทอยู่ที่ 30.31 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวลดลงจากเมื่อวานประมาณ 5 สตางค์
ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 20100 บาท และ 20200 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1401 เหรียญราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ  20100 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 20300 บาท Gold Futures  J11 จะมีแนวรับที่ระดับ 20300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20430  บาท
 
 
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) :เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัว ระวังการเทขายทำกำไรบริเวณ 1410 เหรียญ คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในช่วง 1400-1410 เหรียญ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) :Wait &see รอจังหวะการเข้าซื้อ ซึ่งย้ำว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้ออะไรในขณะนี้
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง:เช่นเดียวกัน เป็นการรอจังหวะเข้าซื้อ ยังไม่ต้องทำอะไร รอดูความชัดเจนว่าราคาจะสามารถทะลุได้หรือไม่
สรุปพอร์ตควรอยู่ในฐานะ Balance และเล่นตามการแกว่งตัวของตลาดในระยะสั้นเท่านั้น