บทวิเคราะห์ GOLD FUTURES ประจำวันจันทร์ที่ 8 มี.ค. 2554

บทวิเคราะห์  GOLD FUTURES กับ นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประจำวันจันทร์ที่ 8 มี.ค. 2554 
 
 
ทิศทางราคาทองคำ

 ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1437 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.44 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.47 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20600 บาท กับ 20700 บาท GFJ11 เปิดที่ 20790 บาท และ GFM11 เปิดที่ 20870 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20800 บาท และ GF10M11 เปิดที่ 20870 บาท SPDR ถือครอง 1217.29 ตัน (ซื้อเข้า 6.67 ตัน ) น้ำมันบวก 1.02 เหรียญ ปิดที่ระดับ 105.44 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 79.85 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 12090.03 จุด ราคาทองคำในตลาดเอเชียราคาค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นจนมาอยู่ที่ระดับ 1439 เหรียญ เข้าสู่ตลาดลอนดอนและComex ราคาค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นช่วงต้นตลาดทำ New High ใหม่ที่ระดับ 1445 เหรียญ หลังจากนั้นมีแรงเทขายทำกำไรเข้ามาตลอดและปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ ระดับ 1430 เหรียญ ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 3 เหรียญ แต่หลังจากที่มีการออกมาวิเคราะห์ว่าสหรัฐฯอาจจะนำน้ำมันสำรองของตนออกมา เข้าสู่ตลาด ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเล็กน้อย จึงมีแรงเทขายทองคำอย่างต่อเนื่อง ปิดตลาดที่ระดับ 1434 เหรียญ ข่าวสำคัญทางเศรษฐกิจสหรัฐฯวันนี้ไม่มี ค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโรเริ่มทรงตัวที่ระดับประมาณ 1.3960 ดอลลาร์/ยูโร ในขณะที่ค่าเงินบาทเองปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากคาดการณ์ว่าคณะกรรมการกำหนด นโยบายการเงินที่จะมีการประชุมในวันพุธที่ 9 มีนาคม 2554 อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.25 %หรือมากกว่า ค่าเงินบาทเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.44 บาท/ดอลลาร์ ในวันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ Dollar index อยู่ที่ระดับ 76.5 จุด SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่ม 6.67 ตัน ถือครองอยู่ที่ระดับ1217.29 ตัน

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาทองคำขึ้นไปทำ New High ใหม่และมีแรงเทขายลงมาอย่างต่อเนื่องจนไปทดสอบที่ระดับ 1430 เหรียญและเคลื่อนตามราคาน้ำมัน โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1450 เหรียญ และมีแนวรับที่ระดับ 1430 เหรียญ และ 1420 เหรียญ ตามลำดับ Oscillator โดยทั่วไปยังไม่บ่งบอกสัญญาณใดๆชัดเจน เป็นลักษณะของการขายทำกำไร ทิศทางแนวโน้มยังเป็นขาขึ้นราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 20600 บาท และ 20700 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1439 เหรียญ
ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 20450 บาท และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 20600 บาท

Gold Futures J11 จะมีแนวรับที่ระดับ 20700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20880 บาท

 

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวน่าจะมีเรื่องของ Technical Rebound หลังจากแกว่งตัวลงมา ราคาในวันนี้น่าจะเคลื่อนตัว อยู่ในกรอบ 1430-1440 เหรียญ

นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) เข้าช้อนซื้อบริเวณแนวรับ ประมาณ 10% ของ Port ทิศทางตลาดยังเป็นขาขึ้น

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง แนะนำให้เข้าช้อนซื้อบ้าง 5-10% ยังมองเป็นทิศทางขาขึ้น การปรับตัวลดลงน่าจะเป็นการเทขายทำกำไรภาพรวมฝั่งตะวันออกกลางยังมีความตรึงเครียดและมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

บทวิเคราะห์  GOLD FUTURES กับ นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ
ประจำวันที่ 9 มี.ค. 2554 
 
 
ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1430 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.39 บาท/ดอลลาร์ กับ  30.42 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20550 บาท กับ 20650 บาท GFJ11 เปิดที่ 20770 บาท  และ GFM11 เปิดที่ 20820 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20770 บาท และ GF10M11 เปิดที่ 20810 บาท SPDR ถือครอง 1217.30 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมันปิดลบ 42 เซนต์ ปิดที่ระดับ 105.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 124.35 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 12214.38 จุด

ราคาทองคำในตลาดเอเชียเคลื่อนไหวในช่วง 1425-1433 เหรียญ โดยที่มีปริมาณการซื้อขาย Gold Future ปานกลาง ปริมาณการซื้อขาย Gold Future 50 บาท อยู่ที่ 4320 คู่สัญญา และ 10 บาท อยู่ที่ 3372 คู่สัญญา  OI แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 7 % และ 10 บาท เพิ่มขึ้น 2 % โดยที่ในตลาด London และ Comex เองราคาทรงตัวบริเวณ 1431 เหรียญ โดยไปทำสูงสุดที่ระดับ 1437.20 เหรียญ และมีแรงเทขายกลับมาปิดที่ 1427.20 เหรียญ โดยที่ตลาดยังให้ความสำคัญกับตลาดน้ำมัน โดยเริ่มมีข่าวที่พยายามจะผลิตน้ำมันขึ้นมาชดเชยลิเบีย ทำให้กดดันราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมา และกดให้มีแรงเทขายทำกำไรในตลาดทองคำลดลงมาเช่นเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง หลังจากเริ่มกังวลในภาวะเศรษฐกิจโดยรวมว่าอาจจะขึ้นดอกเบี้ยไม่ไหว ยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์อยู่ที่ 1.3901 ดอลลาร์/ยูโร 

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ราคาทองคำเข้าสู่ภาวะของการปรับสมดุลอีกครั้งโดยมีแรงขายทำกำไร ทำให้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ทิศทางเป็นลักษณะ Sideway โดยเคลื่อนตัวในช่วง 1425-1435 เหรียญ ทิศทางโดยทั่วไปยังไม่มีความชัดเจน ราคายังยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย โดยทดสอบแนวรับที่ระดับ 1425 เหรียญ แนวต้าน 1440 เหรียญ คาดว่าราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆแบบไร้ทิศทางในวันนี้

ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 20500 บาท และ 20600 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1432 เหรียญ ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 20400 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 20600 บาท

Gold Futures  J11 จะมีแนวรับที่ระดับ 20670 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20790 บาท

 

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)  คงทำอะไรได้ยาก คาดว่าราคาจะแกว่งแคบๆระหว่าง 1425-1430 เหรียญ

นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)  เป็นลักษณะทยอยเข้าซื้อบ้างเล็กน้อยบริเวณแนวรับ ปรับพอร์ตประมาณ 20 %

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง อยู่ในภาวะรอความชัดเจนของตลาดอีกครั้งหนึ่ง

สรุปได้ว่าวันนี้ราคาทองคำจะเงียบเหงาและเคลื่อนตัวอยู่ในทิศทางแคบๆ

บทวิเคราะห์  GOLD FUTURES กับ นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ
ประจำวันที่ 11 มี.ค. 2554 
 
 
ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1428 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.26 บาท/ดอลลาร์ กับ  30.29 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20450 บาท กับ 20550 บาท GFJ11 เปิดที่ 20660 บาท  และ GFM11 เปิดที่ 20750 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20670 บาท และ GF10M11 เปิดที่ 20770 บาท SPDR ถือครอง 1217.30 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมันปิดลบ 1.68 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 102.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 228.48 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 11984.61 จุด ราคาทองคำในตลาดเอเชียปรับตัวลดลงบ้างอยู่ที่ระดับ 1425 เหรียญ ปริมาณการซื้อขาย Gold Future ลดลงบ้างเล็กน้อย ปริมาณการซื้อขาย Gold Future 50 บาท อยู่ที่ 2654 คู่สัญญา และ 10 บาท อยู่ที่ 1986 คู่สัญญา  OI แบบ 50 บาท ลดลง 20 % และ 10 บาท ลดลง 24 % โดยที่ราคาทองคำเข้าสู่ตลาดLondon ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมัน ราคาทองคำเองหลุดแนวรับที่ระดับ 1420 และ 1410 เหรียญ ไปทำต่ำสุดที่ระดับ 1403 เหรียญ และดีดกลับมาปิดที่ 1412.50 เหรียญ โดยที่ภาพรวมเมื่อวานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไม่ดีแต่ว่าเงินดอลลาร์เองก็ไม่ค่อยตอบสนองต่อข่าว คือธรรมดาดอลลาร์ต้องอ่อนแต่ไม่ค่อยอ่อนเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับยูโร ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าเนื่องจากข่าวสเปนถูกลดอันดับเครดิตลง ทำให้มีแรงเทขายทองคำออกมาตามราคาน้ำมันที่ปรับลง เนื่องจากจะมีการผลิตน้ำมันซับพอร์ตเข้าไป ภาพรวมในตะวันออกกลางยังคงอยู่และยังลุกลามไปประเทศต่างๆแต่ตลาดสนใจภาพของราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงตาม เมื่อวานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐจะมี Trade Balance แย่ลงกว่าเดิม มาอยู่ที่ระดับ -46.3 B , Unemployment Claims ออกมาสูงกว่าเดิม มาอยู่ที่ระดับ 397000 ราย และดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อคืนแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 1.3790 ดอลลาร์/ยูโร และเช้านี้ดีดมาที่ 1.3820 ดอลลาร์/ยูโร

 

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

ภาพรวมของทองคำเริ่มเข้าสู่ทิศทางขาลง โดยที่ถูกกดดันตามราคาน้ำมันและทะลุแนวรับสำคัญที่ 1415 และ 1410 เหรียญ ลงมา โดยภาพรวมๆของ Oscillator มีทิศทางขาลง บ่งบอกสัญญาณขาย แนวรับของทองคำจะอยู่ที่ 1400 เหรียญ และแนวต้าน 1420 เหรียญ โดยที่ราคาทองคำยังผูกติดกับราคาน้ำมันมากขึ้นในช่วงนี้

ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 20400 บาท และ 20500 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1426 เหรียญ

ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 20250 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 20400 บาท

Gold Futures  J11 จะมีแนวรับที่ระดับ 20550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20700 บาท

 

 

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)  เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวคาดว่าราคาจะเคลื่อนระหว่าง 1410-1420 เหรียญ และยังมองภาพรวมๆจะค่อยๆปรับตัวลดลง

นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ถือครองพอร์ต Long ประมาณ 5 %  หรือทำ Stop Loss จากตลาดไปก่อน คือทิศทางยังดูเป็นขาลง

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่งปรับพอร์ตลงมาเช่นเดียวกัน เพื่อรองรับภาวะที่อาจจะกลับมาเป็นขาลง สักระยะหนึ่งเช่นเดียวกัน เข้าซ้ออีกที่ที่ระดับ 1400 หรือ 1390 เหรียญ

 

สรุปภาพรวมๆทองคำน่าจะเป็นการแกว่งตัวในทิศทางขาลง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1420 และ 1430 เหรียญ