activity on March 07, 2011, 05:24:45 PM
ไทยยังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคระบาดวัณโรค พบผู้ป่วยวัณโรคกว่า 4 หมื่นคนพร้อมแพร่เชื้อ
 
          มูลนิธิรักษ์ไทย ร่วมกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และ กองทุนโลกด้านเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย (The Global Fund) ร่วมจัดงานแถลงข่าว “รู้ทัน วัณโรค พบก่อน รักษาหาย ไม่แพร่กระจาย” เนื่องในโอกาสวันวัณโรคโลกสากล 24 มีนาคม 2554 เพื่อสร้างกระแสให้คนไทยตระหนักถึงการป้องกันควบคุมวัณโรค รวมถึงผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยได้รับรู้ถึงวิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้อง พร้อมเปิดเผยถึงยอดผู้ป่วยวัณโรคพบว่า ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงในอันดับที่ 18 ของโลกในจำนวน 22 ประเทศที่มีปัญหาการระบาดด้านวัณโรคสูง (High Burden Country) โดยปี 2553 คาดการณ์ว่าประเทศไทยน่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่ทุกประเภท ประมาณ 92,300 คน ในจำนวนนี้ประมาณครึ่งหนึ่งหรือ 44,475 คน เป็นผู้ป่วยระยะแพร่เชื้อและเสียชีวิตถึงปีละ 12,089 ราย

          นอกจากนี้ประเทศไทยยังพบปัญหาวัณโรคดื้อยา พบว่าอัตราการดื้อยาหลายขนาน (MDR-TB)ในผู้ป่วยใหม่ ร้อยละ 1.65 ซึ่งถือว่าปัญหาการดื้อยาในผู้ป่วยที่ไม่เคยรักษามาก่อนยังไม่สูงมาก แต่จากการศึกษาในกลุ่มประชากรพิเศษ ได้แก่ ผู้ป่วยวัณโรคในเรือนจำ โรงพยาบาลในเขตเมืองใหญ่ แนวชายแดน และพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเอดส์สูง ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่มีปัญหาในการควบคุมวัณโรค พบอัตราการดื้อยาปฐมภูมิสูงถึง ร้อยละ 5 – 7 และในผู้ป่วยวัณโรคที่เคยได้รับยามาก่อน (Acquired drug resistance) พบอัตราการดื้อยาสูงกว่าผู้ป่วยใหม่หลายเท่า เนื่องจากผู้ป่วยหยุดทานยาเมื่อยังไม่หายขาด ทำให้เชื้อโรคดื้อยาเมื่อกลับมาทานใหม่

          นายพร้อมบุญ พานิชภักดิ์ เลขาธิการมูลนิธิรักษ์ไทย เปิดเผยว่า “เนื่องในโอกาสวันวัณโรคโลกสากล 24 มีนาคม 2554 นี้เรามีจุดมุ่งหมายเพื่อเน้นการประชาสัมพันธ์ในการช่วยขจัดวัณโรค เพื่อตัดวงจรการแพร่เชื้อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อวัณโรค ตามคำขวัญขององค์การอนามัยโลก ประจำปีนี้ คือ On the move against Tuberculosis ”รู้ทัน วัณโรค พบก่อน รักษาหาย ไม่แพร่กระจาย”ซึ่งหมายถึง วัณโรคหากตรวจพบก่อนหรือเร็ว (Early Detection) ก็จะเป็นผลดีกับผู้ป่วย ทำให้เข้าถึงบริการได้เร็วขึ้น การเจ็บป่วยไม่รุนแรง มีโอกาสแพร่เชื้อให้ชุมชนในเวลาสั้น รักษาหาย เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตัดวงจรการแพร่เชื้อ เป็นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อวัณโรคไปยังผู้อื่นและชุมชน ซึ่งผู้ป่วยควรจะสำรวจตัวเองเมื่อมีอาการไอติดต่อกันนานกว่า 2 สัปดาห์ มีอาการเป็นไข้เจ็บหน้าอก และมีอาการไอปนเลือด ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วนเพื่อตรวจให้แน่ชัด เพราะถ้าตรวจพบเร็วก็สามารถรักษาหายขาดได้ แต่ถ้าปล่อยไว้นานหรือไม่รักษาเลยก็จะเป็นตัวแพร่เชื้อไปหาผู้อื่นได้และจะเสียชีวิตในที่สุด”

          “ดังนั้นต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนเข้าใจถึงการรักษาที่ถูกวิธีโดยต้องรับประทานยาติดต่อกันนาน 6 เดือน ห้ามหยุดยา เพราะจะรักษาไม่หายอีกทั้งถ้ารับประทานยาไม่สม่ำเสมอก็จะมีอาการดื้อยาและยังไปแพร่เชื้อวัณโรคที่ดื้อยาออกไปสู่ผู้อื่นอีก การรักษาก็จะยากขึ้นซึ่งค่ารักษาพยาบาลของโรควัณโรคดื้อยาจะเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าตัวจากเดิม 2,000 บาท เป็น 200,000 บาท “

          สำหรับกิจกรรม “รู้ทัน วัณโรค พบก่อน รักษาหาย ไม่แพร่กระจาย”” เนื่องในโอกาสวันวัณโรคโลกสากล 24 มีนาคม 2554 นี้จะเปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมฟรี โดยจะมีนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับวัณโรค พร้อมทั้งความรู้จากองค์กรภาคีร่วมอื่นๆ มีบริการตรวจเช็คสุขภาพและตรวจปอดฟรี การจำหน่ายสินค้าเพื่อการกุศล การแสดงโดยศิลปินว่าน ธนกฤต (ว่าน AF2) และการแสดงอื่นๆอีกมากมาย สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/teenactiontb