LME ส่ง รีสอร์ท คอลเลคชั่น ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ มุ่งสู่การเป็นแบรนด์อินเตอร์
บริษัท แอล เอ็ม อี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นชั้นนำ 7 แบรนด์ดังของเมืองไทย ได้แก่ เอสพาดา (ESPADA), อีพี (EP), อีเอสพี (ESP), ร็อค เอ็กซ์เพรส (Rock Express), แอลทีดี (LTD), เอฟ แฟชั่น (F Fashion) และ ฟ็อกซ์ (FOX) จัดงาน เทลส์ ฟรอม เดอะ แทรเวลเลอร์ส (TALE’S FROM THE TRAVELERS) เปิดตัวคอลเลคชั่น รีสอร์ท คอลเลคชั่น (Resort Collection) ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์เพื่อการไปพักผ่อน เน้นเจาะตลาดทุกเซ็คเม้นท์ ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นบริษัทอินเตอร์แบรนด์ ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน
บุญชัย คงปักไพศาล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอล เอ็ม อี จำกัด เปิดเผยว่า “การออกแบบเสื้อผ้าสู่ตลาดที่ผ่านมานั้น เราจะเล่นกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เห็นได้จากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นช่วงฮอลิเดย์ ซีซั่น คนไทยส่วนใหญ่ต้องการไปสัมผัสกับอากาศหนาว เช่น ฮ่องกง ญี่ปุ่น อเมริกา หรือเดินทางในประเทศ เช่น อ่างขาง เชียงใหม่ เป็นต้น เราได้ทำ คอลเลคชั่นวินเทอร์ขึ้นมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และในช่วงระหว่างเดือน ก.พ.-พ.ค. เป็นช่วงของการพักร้อน ไปท่องเที่ยว ฉะนั้นเราคิดทำเป็นเสื้อผ้าสำหรับการเดินทางไปพักผ่อน เพราะคนไทยเดี๋ยวนี้มีไลฟ์สไตล์มากขึ้น ต้องการแต่งกายให้เข้ากับบรรยากาศตามสถานที่ต่างๆ เราทำเสื้อผ้าให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ช่วงนั้นของคนไทย ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของงานนี้ เราใช้ชื่องานนี้ว่า เทลส์ ฟรอม เดอะ แทรเวลเลอร์ส และใช้ชื่อคอลเลคชั่นว่า รีสอร์ท คอลเลคชั่น”
ซึ่ง รีสอร์ท คอลเลคชั่น ของ แอล เอ็ม อี ธีมเสื้อผ้าแต่ละแบรนด์ ก็จะเหมาะกับการท่องเที่ยวในรูปแบบที่แตกต่าง แบรนด์ เอสพาดา (ESPADA) เน้นการไปพักผ่อนแบบสบายๆ แบรนด์ อีพี (EP) และแบรนด์ อีเอสพี (ESP) จะมีไลฟ์สไตล์ที่อยากไปเที่ยวแบบผจญภัย แบรนด์ ร็อค เอ็กซ์เพรส (Rock Express) เป็นตัวแทนกลุ่มวัยรุ่น ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ แบรนด์ แอลทีดี (LTD) มาเอาใจหนุ่มๆ ในมาด สมาร์ทลุค เรียบหรูดูดี มีดีไซน์ แบรนด์ ฟ็อกซ์ (FOX) เอาใจทุกไลฟ์สไตล์ ส่วนแบรนด์ เอฟ แฟชั่น (F Fashion) เจิดจรัสสีสันโทนร้อน ผสานความเรียบของสีเบจ
สำหรับปี 2554 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 25-30% จากปีที่แล้ว (ปี 2553 รายได้ 2,000 ล้านบาท เติบโต 20%) และวางงบประมาณการตลาดตลอดทั้งปีประมาณ 100 ล้านบาท ทั้งนี้อาจมีการเพิ่มงบมากขึ้น ซึ่งอยู่กับสภาพเศรษฐกิจเป็นสำคัญ แอล เอ็ม อี มีจุดเด่นของสินค้าที่ยึดมั่นตลอดมา คือ ด้านออกแบบ คำนึงถึงว่าลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้วมีความสุข คุณภาพต้องเหมาะสมกับราคา เนื้อผ้าต้องดี รวมไปถึงการดูแลรักษาง่าย การตัดเย็บที่ดี สวมใส่สบาย ช่วยเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ ส่วนเรื่องเทรนด์มีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเป็นที่ปรึกษา
ปัจจุบัน แอล เอ็ม อี ได้ขยายตลาดเข้าไปในกลุ่มอาเซี่ยนด้วยกัน ทั้งฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, พม่า และเวียดนาม โดยมีแฟรนไชชี่ ในแต่ละประเทศ ซึ่งให้ความสนใจ แบรนด์ของบริษัทอย่างมาก จนทำการติดต่อเข้ามา แนวคิดของ แอล เอ็ม อี ก็ไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล คือต้องการนำแบรนด์ไทยออกนอก คือไปครบทั้งคอนเซ็ปต์ และให้การสนับสนุนด้วยการแชร์การบริหารจัดการทุกอย่าง เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกับที่ประเทศไทย ดังนั้นลูกค้าที่เห็นแบรนด์ต่างๆ ของ แอล เอ็ม อี ที่นี่ ก็จะเห็นในต่างประเทศเป็นภาพเดียวกัน และในอีก 1-3 ปี จะทำการขยายออกนอกอาเซี่ยน
บุญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ของ แอล เอ็ม อี ที่เราได้ตั้งไว้ว่าเราจะเป็น เวิลด์ คลาส แฟชั่น คอมพานี ดังนั้น ในช่วง 1-2 ปีนี้ เราเตรียมตัวสร้างรากฐานเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับนานาชาติ อีกทั้งปีนี้เรายังเพิ่มในเรื่องการทำการตลาดมากขึ้น เพื่อสื่อให้ลูกค้าทราบถึงสินค้าของเรา”