MTS Gold แม่ทองสุก เดินหน้าสานต่อการเป็นผู้นำการลงทุนทองคำครบวงจร เปิดตัว "MTS Midnight Clear" นวัตกรรมทางการเงินใหม่ เพื่อนักลงทุน
ค่าย MTS GOLD แม่ทองสุก สานต่อความเป็นผู้นำตลาดลงทุนทองคำครบวงจร ต่อยอดบริการ “MTS MIDNIGHT TRADE” ที่ขยายเวลาการให้บริการซื้อ-ขายทองคำแท่งถึงเที่ยงคืนเป็นรายแรกของเมืองไทย ด้วยการเปิดตัว “MTS Midnight Clear” พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ เพื่อช่วยให้นักลงทุนชำระเงินผ่านระบบได้แบบเรียลไทม์แม้สถาบันการเงินปิดระบบการชำระเงินหลังเวลาทำการ
น.พ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการ “MTS MIDNIGHT TRADE” ซึ่งถือว่าบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการร้านทองคำรายแรกของประเทศไทย ที่ให้บริการเทรดทองคำแท่งถึงเที่ยงคืนแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพบว่า มีนักลงทุนและลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยลูกค้าสามารถส่งคำสั่งซื้อ-ขายทองคำผ่านระบบโกลด์ออนไลน์ , โกลด์โฟน และระบบโกลด์โมบาย ได้ถึงเที่ยงคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตอบรับกับการเคลื่อนไหวของทองคำในตลาดโลกมากที่สุดนั่นเอง ดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลงทุนทองคำแท่งให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทางบริษัทฯ จึงได้มีการพัฒนาระบบ “MTS MIDNIGHT CLEAR” ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์แบบเรียลไทม์ขึ้น โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ระบบ MTS MIDNIGHT CLEAR เปิดนวัตกรรมทางการเงินใหม่ล่าสุดของกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและนักลงทุน รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนทองคำแท่งให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยสามารถเปิดระบบ Clear Port ในการชำระเงินได้จนถึงเที่ยงคืน โดยลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านธนาคารกรุงเทพ หรือธนาคารไทยพาณิชย์ได้จนถึงเที่ยงคืน ซึ่งปกติการชำระเงินจะดำเนินการได้เฉพาะในช่วงที่ธนาคารเปิดทำการเท่านั้น ซึ่งระบบดังกล่าวนี้พัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถ Clear Port Auto ได้ในทันที โดยลูกค้าสามารถส่งคำสั่งชำระเงินด้วยตัวเองได้ถึงเที่ยงคืน โดยไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารใบชำระเงิน( pay-in) เพื่อเคลียพอร์ตกับสถาบันการเงินอีก มีการพัฒนาให้ระบบมีความปลอดภัยสูง ที่เรียกว่า Triple Lock เพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูลอีกด้วย
น.พ. กฤชรัตน์ กล่าวเสริมเกี่ยวกับตลาดทองคำกว่า ในแง่ข่าวทางเศรษฐกิจวานนี้ ถือว่าไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ทางกลับกันราคาทองคำที่ London และ Comex กลับเคลื่อนไหวคึกคักตามแนวโน้มทางเทคนิคตามที่กล่าวแล้ว จะเห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวของราคา สามารถทะลุ 1360 เหรียญได้ และไปทำจุดสูงสุดที่ 1368 เหรียญ และกลับมาปิดที่ 1364 เหรียญ โดยที่เมื่อวานไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดออกมา ในขณะที่คืนนี้จะมีเรื่องของ Crude Oil ซึ่งคิดว่าจะต่ำลง อาจจะช่วยพยุงราคาน้ำมันขึ้นมาได้บ้าง ราคาทองคำในตลาด Comex ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องและมีการซื้อขายคึกคึกอาจจะเป็นการต้อนรับตลาดจีน เพราะจีนเปิดซื้อขายวันแรกหลังเทศกาลตรุษจีน และจะเห็นได้ว่าราคาทองคำนั้นไม่ได้มีผลใดๆต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของจีนที่ประกาศเมื่อวานนี้ โดยจีนประกาศปรับดอกเบี้ยอีก 0.25 % ทำให้ดอกเบี้ยมาตรฐานอยู่ที่ 6.06 % และดอกเบี้ยเงินฝาก 3 %
“เมื่อวิเคราะห์ทางเทคนิค หากราคาทองคำสามารถขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญ 1360 เหรียญได้ โดยที่ทองคำยังเหลือแนวต้านสุดท้ายที่ 1370 เหรียญ ซึ่งถ้าทะลุตรงนี้ขึ้นไปได้จะเห็นการขึ้นของทองคำกลับมาเป็นแนวโน้มขาขึ้นชัดเจนมากขึ้น โดยที่ Oscillator ทุกตัวเป็นสัญญาณบวก แนวรับ 1345 เหรียญ แนวต้าน 1370 เหรียญ และถ้าทะลุขึ้นไปน่าจะเห็น 1400 เหรียญได้เร็วๆนี้ และคาดว่าน่าจะได้เห็น 1400 เหรียญได้ในเดือนนี้ด้วย โดยที่ยังได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นวันนี้อีก 3 สตางค์ โดยทิศทางเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น ทิศทางของทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น เงินบาทคงจะเคลื่อนตัวแข็งค่าตามเงินภูมิภาค และมีแนวโน้มจะปรับดอกเบี้ยภายในประเทศ ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 19650 บาท และ 19750 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1355 เหรียญราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19600 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 19900 บาท สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน สามารถลงทุนได้ตามภาวะการณ์แกว่งตัว ซึ่งน่าจะเป็นการแกว่งในทิศทางขาขึ้นจากการสะสมพลังมามากกว่า 5 วันที่ผ่านมา ในขณะที่กรอบการเคลื่อนไหวน่าจะอยู่ 1360 – 1367 เหรียญ ส่วนนักลงทุนรายสัปดาห์ สามารถลงทุนในทิศทางขาขึ้นแนะนำให้ขายทำกำไรสลับช้อนชื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ในขณะที่นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง สามารถรอขายทำกำไรตามจังหวะการขึ้นของทอง หลังจากได้ซื้อสะสมมาเป็นเวลานานแล้ว” น.พ.กฤชรัตน์ กล่าว