activity on January 22, 2011, 06:57:05 PM
รับสร้างบ้านฮอต พีดีเฮ้าส์ โกยยอดขายตจว. แตะ 1,000 ล้าน
 
           พีดีเฮ้าส์ ชี้ตลาดรับสร้างบ้านปี 54 เติบโต 10% อัพ ปัจจัยเกิดจากผู้เล่นรายใหม่และเซ็กเม้นท์ใหม่ ตจว.แจ้งเกิด เผยปีนี้ขยายสาขาแฟรนไชส์ครบ 28 สาขา ตั้งเป้าดันยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น ตจว. 80% กทม.และปริมณฑล 20% เชื่อแนวคิด Economy of Scale ช่วยลดต้นทุนสร้างบ้าน เตรียมทุ่มงบการตลาด 110 ล้านบาท อัดโปรโมชั่นลดสูงสุด 15% ไตรมาสแรก

นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑลปีที่ผ่านมา เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2552 เฉลี่ยประมาณ 5 % คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านบาทเศษ โดยจากการสำรวจเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พบว่ามีบริษัทรับสร้างบ้านที่ทำการตลาดและแข่งขันอยู่ในระบบทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมีจำนวนประมาณ 127 ราย (ไม่นับรวมบริษัทฯ ที่เปิดสำนักงานแต่ไม่ทำการตลาด) โดยสังกัดอยู่ใน 2 สมาคมฯ เพียง 57 ราย

          บริษัทฯ คาดว่าตลาดรวมรับสร้างบ้านทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดในปี 2554 นี้ จะสามารถเติบโตได้มากกว่า 10 % โดยมีปัจจัยบวกคือ 1.ผู้ประกอบการที่เข้ามาใหม่ช่วยเพิ่มมูลค่าการเติบโต 2.การขยายสาขาของผู้ประกอบการไปสู่ตลาดใหม่โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด 3. การกระตุ้นตลาดของสถาบันการเงินเกี่ยวกับสินเชื่อปลูกสร้างบ้านเอง ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ปริมาณและมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านปีนี้เติบโตดังที่กล่าวข้างต้น

          สำหรับพีดี เฮ้าส์ เองในปี 2552-2553 ที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจรับสร้างบ้านไปสู่ธุรกิจแฟรนไชส์ นับเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์การสร้างการเติบโตของบริษัทฯ ภายใต้แบรนด์ พีดีเฮ้าส์ พร้อมๆ กับยกระดับผู้ประกอบการรายใหม่ ที่เข้ามาในธุรกิจนี้ให้มีความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง ที่ผ่านมา 2 ปีถือว่าประสบความสำเร็จดังเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ ปี 2552-3 ขยายสาขาเพิ่ม 4 สาขา ปี 2553-4 ขยายเพิ่ม 5 สาขา และในปี 2554-5 นี้ตั้งเป้าหมายเพิ่มอีก 8 สาขา ซึ่งจะทำให้ พีดีเฮ้าส์ มีสาขารวมทั้งสิ้น 28 สาขา โดยมีสาขาตั้งอยู่ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัดครบทุกภูมิภาค เช่น ภาคเหนือ-เชียงใหม่, ภาคอีสาน-ขอนแก่น, ภาคตะวันออก-ระยอง, ภาคกลาง-สระบุรีและประจวบฯ (หัวหิน), ภาคใต้-ภูเก็ตและหาดใหญ่ รวมทั้งในกรุงเทพฯและปริมณทล ฯลฯ เป็นต้น

ในส่วนของยอดขายภายใต้แบรนด์ พีดีเฮ้าส์ ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถทำยอดขายรวมได้ทั้งสิ้น 470 ล้านบาทเศษ โดยมาจาก 11 บริษัทในกลุ่มแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ แบ่งสัดส่วนเป็นยอดขายจากกรุงเทพฯและปริมณฑล 23 % ต่างจังหวัด 77 % หรือ กรุงเทพฯ 108 ล้านบาท ต่างจังหวัด 362 ล้านบาท สำหรับในปี 2554 นี้ บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเป็นสัดส่วนยอดขายในกรุงเทพฯ และปริมณทลประมาณ 20 % และต่างจังหวัดประมาณ 80 % ทั้งนี้เนื่องจากปี 2554 นี้ พีดีเฮ้าส์ มีการขยายสาขาเพิ่มในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดียอดขายที่ตั้งเป้าไว้เฉลี่ย 40 ล้านบาทต่อสาขานั้น ถือว่าไม่สูงมากและอาจจะทำยอดขายได้สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ดังนั้นบริษัทฯ จะประเมินความเป็นไปได้อีกครั้งเมื่อสิ้นสุดไตรมาส 2

          “การขยายสาขาในปีนี้จะเป็นในลักษณะลงทุนเองและขายแฟรนไชส์ แต่บริษัทฯ จะเน้นขายแฟรนไชส์ก่อนเป็นอันดับแรก ทั้งนี้เพราะต้องการสร้างให้เกิดเครือข่าย SME ในภาคธุรกิจรับสร้างบ้าน เพื่อให้มีความเข้มแข็งและแข่งขันกับรายใหญ่ได้อย่างไม่เสียเปรียบ ยกเว้นจังหวัดหรือพื้นที่ใดที่มีศักยภาพ แต่ไม่มีผู้สนใจขอลงทุนซื้อแฟรนไชส์ บริษัทฯ ก็จะเป็นผู้ลงทุนเอง โดยจังหวัดเป้าหมายที่จะขยายสาขาในปีนี้ได้แก่ เชียงราย นครสวรรค์ อุบลราชธานี สุรินทร์ จันทบุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี และกรุงเทพฯ”

          นางมาลี สุวรรณสุต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การตลาดในปี 2554 นี้ บริษัทจะนำแนวคิด Economy of Scale มาใช้ขับเคลื่อนเพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งจากเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้นั้น ส่งผลให้คู่ค้าหรือซัพพลายเออร์ที่เป็นพันธมิตรจะมีคำสั่งซื้อจากบริษัทฯ เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านๆ มากว่า 100% ดังนั้นจึงช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยและค่าการตลาดของคู่ค้าลง ทำให้คู่ค้าลดราคาวัสดุต่อหน่วยลงตาม บริษัทฯ ก็จะนำต้นทุนที่ต่ำลงมาลดราคาบ้านและจัดโปรโมชั่นคืนกำไรให้ลูกค้า โดยในไตรมาสแรกนี้ได้จัดแคมเปญมอบส่วนลดสูงสุด 15 % สำหรับ 6 แบบบ้านใหม่ในระดับราคา 1.8-2.3 ล้านบาทเศษ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 – 5 ปีนี้ที่ พีดีเฮ้าส์ มีแคมเปญแรงๆ ออกมากระตุ้นยอดขาย

          สำหรับแคมเปญที่ 2 เป็นการมอบโชค 4 ต่อให้ลูกค้าที่สร้างบ้านตามแบบมาตรฐานของบริษัทฯ โดยจะได้รับ 1.Apple iPAD(Wi-Fi+3G) ขนาดความจุ 64 GB มูลค่า 25,500 บาท 2.เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 160-200 ลิตร มูลค่า 50,000-75,000 บาท 3. เครื่องปรับอากาศ SAMSUNG ขนาด 18000-24000 BTU มูลค่า 30,000-40,000 บาท 4.ตู้เย็น LG ขนาด 18 คิว มูลค่า 69,000-89,000 บาท นอกจากนี้ลูกค้ายังได้รับส่วนลดเงินสดอีก 100,000-900,000 บาท (ตามราคาบ้าน) ซึ่งแคมเปญทั้งหมดนี้จะมอบให้ลูกค้าที่จองสร้างบ้าน ตั้งแต่วันนี้ - 28 กุมภาพันธ์เท่านั้น

          ปีนี้บริษัทฯ มีความพร้อมจะขยายตลาดรับสร้างบ้านออกไปทั่วประเทศ ภายใต้ระบบแฟรนไชส์รับสร้างบ้าน จึงได้เตรียมงบการตลาดไว้ทั้งสิ้น 110 ล้านบาท แบ่งเป็นงบโปรโมชั่นและส่งเสริมการขาย 80 ล้านบาท หรือ 8% และงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 30 ล้านบาท หรือ 3% ของยอดขายรวมปี 2554 นี้

Naonmorroass on June 14, 2011, 01:11:09 PM
ชอบค่ะสวยดี
รับสร้างบ้านได้มาตรฐาน