Gmail on January 11, 2011, 03:29:38 PM

          
โดย ภญ.กรรณิการ์ เอกศักดิ์ บริษัท เฮลธ์ อิมแพค จำกัด

          อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เดี๋ยวสะบัดร้อน สะบัดหนาว บางทีก็มีฝนตกไม่เลือกฤดูให้งวยงงกันเล่น ทำให้การปรับสภาพร่างกายให้เข้ากับสภาวะอากาศไม่ลงตัว หลายๆ คนถึงกับไข้หวัดถามหา มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ทั้งจามทั้งไอ หัวมึนตื้อไปหมด เป็นที่น่ารำคาญใจตัวเองและคนข้างเคียง จนต้องลางานหยุดหลายวันให้เจ้านายมองค้อนอยู่เนืองๆ ยิ่งถ้าใกล้ปีใหม่ ตรุษจีน ก็ดูจะมีผลต่อการพิจารณาผลงาน ความดีความชอบ หรือถ้าเป็นกับลูกเรา ช่วงใกล้สอบไล่ ไหนจะเรียนไม่ทัน ไหนจะกลัวสอบไม่ได้ อย่างนี้แล้วเราจะทำอย่างไรดี

          เรามาทำความรู้จักไข้หวัดกันก่อนดีกว่า ไข้หวัด นั้น เกิดจากเชื้อไวรัส มักเป็นเพียงครั้งคราว ครั้งละไม่เกิน 1- 2 สัปดาห์ อาการที่ชัดเจนคือ คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล อาจมีไอร่วมด้วย บางคนจะมีไข้ ทำให้ปวดมึนศีรษะ ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลีย ในผู้ใหญ่โรคหวัดมักจะไม่รุนแรงมาก อาจจะครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้เล็กน้อย หรือไม่มีไข้ แต่ในเด็กมักจะไข้สูงก่อนแล้วตามด้วยอาการหวัด ซึม เบื่ออาหาร เจ็บคอหรือบางคนอาจท้องเดินจากเชื้อไวรัสได้

          การรักษาและป้องกันไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส ในปัจจุบัน ยังไม่มียาที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ ร่างกายจะเป็นผู้สร้างภูมิต้านทานตามธรรมชาติมาทำลายเชื้อไวรัส การรักษาจึงเป็นการแก้ไขอาการเช่น ให้ยาลดไข้แก้ปวด เมื่อไข้สูงหรือปวดหัว และให้ยาลดน้ำมูกเมื่อคัดจมูกหรือมีน้ำมูกมาก ซึ่งยาลดน้ำมูกส่วนใหญ่มีผลทำให้ง่วงซืม มึนงง ต้องระวังในผู้ที่ขับขี่ยวดยาน หรือใช้เครื่องจักร นอกจากการทานยาเพื่อลดอาการแล้ว การดูแลสุขภาพก็มีส่วนช่วยให้อาการหวัดหายเร็วขึ้น เช่น อาบน้ำอุ่น พักผ่อนให้เพียงพอ การจิบน้ำอุ่น หรือน้ำผึ้งผสมมะนาวให้ชุ่มคอ ลดการระคายเคือง ระวังเรื่องการสั่งน้ำมูกอย่าสั่งแรง ๆ เพราะจะทำให้เชื้อเข้าสู่โพรงไซนัสหรือหูชั้นใน เกิดการอักเสบมากขึ้น ถ้าเด็กเล็กควรใช้ลูกยางดูดน้ำมูกเพื่อช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น ส่วนการรับประทานอาหาร ควรทานอาหารที่ย่อยง่าย และทานผลไม้ที่ให้วิตามินโดยเฉพาะวิตามินซีสูง เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย เช่น ส้ม มะเขือเทศ ฝรั่ง ก็สามารถช่วยให้หวัดหายเร็วขึ้นได้

          แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ร่างกายต้องการวิตามิน ซี เพิ่มแล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่า วิตามินซี มีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย เป็นตัวสร้างคอลลาเจนในเนื้อเยื่อต่าง ๆ เช่นผิวหนัง กระดูก ฟัน เหงือกและเส้นเลือด ช่วยสมานและซ่อมแซมเนื้อเยื่อบาดแผลให้หายเร็วขึ้น รักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน และช่วยคลายเครียด แต่บางท่านก็ได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอ ดังจะสังเกตได้จาก การ เป็นหวัดหรือภูมิแพ้บ่อย ๆ นั่นหมายความว่า ภูมิต้านทานในร่างกายเราไม่สมบูรณ์พอ ผิวพรรณซูบซีด ไม่เปล่งปลั่ง สดใส หรือบางท่านที่เครียดมีผลให้เป็นโรคกระเพาะ ไมเกรน เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ และสาว ๆ หนุ่ม ๆ ที่ชอบสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ไลฟ์สไตล์เหล่านี้ ก็ต้องการวิตามินซี มากกว่าคนทั่วไปเหมือนกัน

          สำหรับ ปริมาณวิตามิน ซี ที่เราควรได้รับต่อวันคือ 60 มิลลิกรัม ถ้าเทียบง่าย ๆ ก็คือ ทานส้มสด 1 ผลให้วิตามิน ซี 20 มิลลิกรัม ก็ต้องทานให้ได้ 3 ผลต่อวัน หรือทานจากผักสด ผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละชนิดก็ให้ประมาณวิตามิน ซี แตกต่างกัน ผักที่ให้วิตามิน ซี มากหน่อย เช่นบลอคโคลีหรือผลไม้สดที่มีรสเปรี้ยว เช่น สัปะรด มะขาม ส่วนที่ให้วิตามิน ซี น้อยเช่น กล้วย ผักกาดกรอบ หรือหัวหอม นอกจากการทานผัก ผลไม้แล้ว การทานวิตามิน ซี เสริมในรูปเม็ดยาเม็ด ก็เป็นอีกทางเลือก ใน ปัจจุบันก็มีวิตามิน ซี เสริมในรูปแบบเจลลี่ เคี้ยว สนุก อร่อยเพลิน ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้การเสริมวิตามิน ซี เป็นเรื่องสนุก และได้ประโยชน์ของคุณค่าวิตามิน ซี เต็ม ๆ ในรูปแบบ ซีโด้ เจลลี่ กลีบส้ม 1 กลีบ ให้วิตามิน ซี 60 มิลลิกรัม เทียบเท่ากับทานส้ม 3 ผลนั่นเอง สอบถามข้อมูล วิตามิน ซี ได้ที่ 081 –657 2351 หรือ 02 –433 9944 อากาศเปลี่ยนแปลง อย่าให้คนแปรเปลี่ยนไปด้วย หมั่นรักษาสุขภาพกันไว้ให้แข็งแรง ส่วนเรื่องภายในหัวใจนั้น ดูแลกันเองคือสิ่งที่ดีที่สุด…..
« Last Edit: January 11, 2011, 03:44:55 PM by Gmail »