news on December 22, 2010, 06:25:35 PM
เน็ตแอพเพิ่มศักยภาพระบบไอทีให้มีความยืดหยุ่น เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ และเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต
 
กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่สร้างรากฐานสำหรับโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ใช้งานร่วมกัน พร้อมปรับใช้ระบบไพรเวท คลาวด์และพับลิค คลาวด์

          ลูกค้ากำลังปรับเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที พร้อมทั้งประเมินทางเลือกในการรับมือกับสภาพความเป็นจริงทั้งในเรื่องของการขยายและพัฒนาธุรกิจ โดยจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน และเปลี่ยนย้ายจากโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานไอทีที่รองรับการใช้งานร่วมกัน ที่มีประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นมากกว่า สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเพื่อช่วยให้ลูกค้าตอบสนองความต้องการได้อย่างลงตัว เน็ตแอพ ได้เปิดตัวฟีเจอร์แพลตฟอร์ม ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนไปสู่โครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ใช้งานร่วมกันได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ นับเป็นรากฐานสำคัญสำหรับระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง ทั้งยังช่วยเร่งขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศ
          “กำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในขณะที่ผู้บริหารซีไอโอมองหาวิธีที่จะปรับเปลี่ยนระบบไอทีให้สอดคล้องกับการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วและควบคุมงบประมาณไอทีให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม” มร.ทอม จอร์เกนส์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเน็ตแอพ กล่าว “ปัจจุบันคือช่วงเวลาสำคัญ เพราะการตัดสินใจของผู้บริหารฝ่ายไอทีนอกจากจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถด้านการแข่งขันในระยะสั้นแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อความสำเร็จในระยะยาวของธุรกิจอีกด้วย ผู้ที่ประสบความสำเร็จในตลาดจะต้องคิดและตัดสินใจเลือกในลักษณะที่แตกต่าง และด้วยเหตุนี้ ลูกค้าจึงหันมาใช้แพลตฟอร์มสตอเรจของเน็ตแอพกันมากขึ้น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพ เน็ตแอพกำลังช่วยให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนสู่โครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ใช้งานร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีความพร้อมสำหรับอนาคต และสามารถใช้ไอทีเป็นเครื่องมือในการขยายธุรกิจผ่านช่องทางใหม่ๆ”
          กลุ่มผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต่อไปนี้นับเป็นแพลตฟอร์มสตอเรจที่ดีเยี่ยมสำหรับลูกค้าที่ต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่รองรับการใช้งานร่วมกัน ควบคู่ไปกับการเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพให้กับระบบไอที
-  กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบและสถาปัตยกรรมแบบยูนิฟายด์
          -  NetApp Data ONTAP® 8: Data ONTAP 8 ประกอบด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับขนาดและสมรรถนะ ทั้งนี้ Unified Connect ยกระดับสถาปัตยกรรมแบบยูนิฟายด์อย่างเหนือชั้น ด้วยการรองรับโปรโตคอลทั้งหมดอย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกในการจัดการ นอกจากนี้ NetApp DataMotion for Volumes จะช่วยให้ลูกค้าสามารถย้ายข้อมูลขนาดใหญ่โดยไม่ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก ทั้งยังสามารถใช้การบีบอัดข้อมูลแบบอินไลน์เพียงอย่างเดียว หรือร่วมกับการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน เพื่อช่วยลดขนาดพื้นที่สตอเรจที่จำเป็นต้องใช้เพื่อปรับปรุงการจัดเก็บข้อมูล
          -  NetApp FAS/V6200 Series: ระบบสตอเรจระดับไฮเอนด์ 3 รุ่น ได้แก่ FAS/V6280, FAS/V6240, และ FAS/V6210 ขยายสถาปัตยกรรมแบบยูนิฟายด์ของเน็ตแอพ และเพิ่มประสิทธิภาพเป็นสองเท่า ทั้งยังปรับปรุงความพร้อมใช้งานในระดับองค์กรขนาดใหญ่ และเพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาด ลูกค้าจะสามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่สำคัญๆ ควบคู่ไปกับการรองรับการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว
          -  NetApp FAS/V3200 Series: ระบบสตอเรจระดับกลาง 3 รุ่น ได้แก่ FAS/V3270, FAS/V3240 และ FAS/V3210 นับเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่คุ้มค่าที่สุดในอุตสาหกรรม ทั้งยังเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น รวมถึงความพร้อมใช้งาน สามารถตอบสนองความต้องการสตอเรจขนาดกลางได้อย่างลงตัว และพร้อมรองรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
          -  NetApp Solid State Drives (SSDs): นอกเหนือจากเทคโนโลยี Flash Cache ที่เป็นผู้นำตลาดแล้ว การเปิดตัว SSD ยังนับเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเน็ตแอพเพื่อจัดหาทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่ต้องการความรวดเร็วในการตอบสนองสำหรับแอพพลิเคชั่นสำคัญๆ โดย SSD รุ่นใหม่ช่วยเพิ่มอัตราการประมวลผลอินพุต/เอาต์พุตต่อวินาที ทั้งยังสามารถรองรับ SAN หรือ NAS ได้อย่างยืดหยุ่น โดยไม่ต้องใช้เกตเวย์หรือระบบสตอเรจที่ต่างออกไป
          -  NetApp SAS Disk Shelf: ดิสก์เชลฟ์แบบ SAS รุ่นที่สามของเน็ตแอพ นั่นคือ DS2246 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสองเท่า โดยประหยัดพลังงานได้ถึง 50% ต่อแร็ค และตอบสนองความต้องการด้านการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นด้วยความพร้อมใช้งานสูงสุด
-  ชุดซอฟต์แวร์การจัดการ OnCommand
          -  ชุดซอฟต์แวร์การจัดการ OnCommand ของเน็ตแอพ ช่วยขยายขีดความสามารถในการควบคุม พร้อมทั้งปรับปรุงการจัดเก็บข้อมูลอย่างครบวงจร รวมถึงระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ และเพิ่มความยืดหยุ่นด้วย API แบบเปิด ซึ่งผสานรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ด้านการจัดการและไฮเปอร์ไวเซอร์ (Hypervisor) ของผู้ผลิตรายอื่น
-  โซลูชั่นดาต้าเซ็นเตอร์แบบโมดูลาร์ FlexPod
          - ภายใต้ความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง ซิสโก้, เน็ตแอพ และวีเอ็มแวร์ นำเสนอสถาปัตยกรรมดาต้า เซ็นเตอร์มาตรฐานที่ผ่านการรับรอง โดยผ่านช่องทางจัดจำหน่ายร่วมกัน FlexPod for VMware® ช่วยให้ลูกค้าสามารถเร่งการปรับเปลี่ยนสู่โครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ใช้งานร่วมกัน โดยใช้การออกแบบที่สม่ำเสมอและผ่านการพิสูจน์ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการปรับใช้และลดความเสี่ยง
          นอกเหนือจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ตามรายละเอียดที่ระบุข้างต้นแล้ว เน็ตแอพยังเปิดตัวโครงสร้างราคาซอฟต์แวร์ที่เรียบง่าย เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าในการทำธุรกิจร่วมกับเน็ตแอพ ภายใต้โครงสร้างราคาซอฟต์แวร์แบบใหม่นี้ จะมีการนำเสนอซอฟต์แวร์เสริมให้แก่ลูกค้าโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากแพ็คเกจพื้นฐาน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์และความยืดหยุ่นให้แก่ลูกค้าในการปรับแต่งโครงสร้างพื้นฐาน

คำกล่าวสนับสนุน
          -  มร.มานิช โกเอล รองประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการผลิตภัณฑ์ของเน็ตแอพ
          “กลยุทธ์และแนวทางด้านเทคโนโลยีในอดีตไม่เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบัน ตลาดกำลังพัฒนาไปข้างหน้าสู่ระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่รองรับการใช้งานร่วมกันอย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับเวอร์ช่วลไลเซชั่นและคลาวด์ คอมพิวติ้ง ทุกวันนี้ลูกค้าไม่ได้ถามว่าบริษัทจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนย้ายไปสู่โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวหรือไม่ แต่ถามว่าบริษัทควรจะพัฒนาไปสู่จุดนั้นได้เมื่อไรและอย่างไร และคำตอบก็คือ ควรจะเริ่มการเปลี่ยนย้ายในตอนนี้โดยอาศัยเทคโนโลยีของเน็ตแอพ เน็ตแอพตระหนักถึงแนวโน้มนี้มาแต่เนิ่นๆ และมีความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาไปสู่ระบบโครงสร้าพื้นฐานไอทีที่ใช้งานร่วมกัน โดยจะช่วยให้ลูกค้าดำเนินการตัดสินใจครั้งสำคัญในปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในระยะยาว”
          -  มร.ชัค รอบบินส์ รองประธานอาวุโสฝ่ายลูกค้าองค์กรในสหรัฐฯ และแคนาดาของซิสโก้
          “ซิสโก้, เน็ตแอพ และวีเอ็มแวร์ พัฒนาสถาปัตยกรรม FlexPod เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนย้ายไปสู่โครงสร้างพื้นฐานแบบเวอร์ช่วลไลซ์ที่เรียบง่ายและครบวงจร สถาปัตยกรรมที่ผ่านการรับรองนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าในการปรับใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบเวอร์ช่วลไลซ์ที่ยืดหยุ่น ประกอบด้วยระบบประมวลผล เครือข่าย และสตอเรจที่ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน”
          -  มร.แกรี่ กรีน รองประธานฝ่ายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ทั่วโลกของวีเอ็มแวร์
          “ระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นและสตอเรจที่ใช้งานร่วมกันนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรองรับโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ใช้งานร่วมกัน ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพให้แก่องค์กรต่างๆ ในการตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อช่วยให้ลูกค้าพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานได้รวดเร็วขึ้น วีเอ็มแวร์จึงได้ทำงานร่วมกับซิสโก้และเน็ตแอพเพื่อพัฒนา FlexPod ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก ทั้งยังเพิ่มความสะดวกในการปรับใช้ด้วยดีไซน์ ‘สำเร็จรูป’ ที่ผ่านการทดสอบ FlexPod จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเร่งการปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบไอทีในรูปแบบบริการหรือ IT as a Service บนแพลตฟอร์มมาตรฐานจากบริษัทชั้นนำด้านไอทีของทั้งสามบริษัท”           
          -  มร.ฟิล กาลาเกอร์ ประธานบริษัทแอฟเน็ท เทคโนโลยี โซลูชั่น
          “เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระยะยาว ตัวแทนจำหน่ายจำเป็นที่จะต้องนำเสนอโซลูชั่นไอทีที่ช่วยปรับปรุงการดำเนินงานของลูกค้า โดยจะต้องสอดรับกับความต้องการทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการผลักดันรายได้ และลดค่าใช้จ่าย” มร.ฟิล กาลาเกอร์ ประธานบริษัทแอฟเน็ท เทคโนโลยี โซลูชั่น ตัวแทนจำหน่ายของเน็ตแอพในเอเชีย-แปซิฟิก, ตะวันออกกลางและแอฟริกา, ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ กล่าว “แอฟเน็ทและเน็ตแอพ ทำงานร่วมกันอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2548 เพื่อช่วยให้ตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าประสบความสำเร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว และโครงการ Flexible IT ของเน็ตแอพสอดรับกับแนวทางของแอฟเน็ทในการนำเสนอโซลูชั่นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ โดยบริษัททั้งสองจะช่วยให้ตัวแทนจำหน่ายรายย่อยสามารถจัดหาบริการและโซลูชั่นไอทีให้แก่ลูกค้า เพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายทางธุรกิจในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการพัฒนาปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับความต้องการทางธุรกิจในอนาคต”
          -  มร.แอนดี้ ค็อคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโซลูชั่นและความร่วมมือของดาต้าคราฟท์ เอเชีย
          “ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเน็ตแอพพร้อมรองรับเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเครื่องมือการจัดการซอฟต์แวร์ทำหน้าที่ตรวจสอบติดตาม จัดการ และสร้างรายงานได้อย่างทันท่วงที ช่วยให้ลูกค้าของบริษัทสามารถอัพเกรดสู่ดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นอนาคตซึ่งปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง FlexPod for VMware® Data Center Solution ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมดาต้าเซ็นเตอร์แบบครบวงจรที่ผสานรวมเทคโนโลยีที่ดีที่สุดจากซิสโก้, เน็ตแอพ และวีเอ็มแวร์ จะรองรับการพัฒนาจากโครงสร้างพื้นฐานไอทีขนาดใหญ่ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานที่ใช้งานร่วมกัน ทั้งยังช่วยให้ลูกค้าของบริษัทสามารถปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้งได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย”
          -  มร.มาร์ค ปีเตอร์ส นักวิเคราะห์อาวุโสของ Enterprise Strategy Group (ESG)
          “ปัจจุบัน ฝ่ายไอทีต้องรับมือกับปัญหาท้าทายที่สำคัญสองเรื่องด้วยกัน นั่นคือ งบประมาณด้านไอทีที่ลดลง และปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจำเป็นที่จะต้องตอบสนองความต้องการทางธุรกิจในวันนี้ และเตรียมพร้อมเพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต ดังนั้นจึงต้องปรับใช้แนวทางไอทีแบบไดนามิกที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับใช้ระบบคลาวด์ โดยอาศัยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่เน็ตแอพได้เปิดตัวในวันนี้ เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่รองรับการใช้งานร่วมกันได้อย่างเหมาะสม โดยผสานรวมแนวทางแบบเก่าและระบบคลาวด์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ และพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง”
          ราคาและการวางจำหน่ายผู้สนใจสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของเน็ตแอพผ่านทางเน็ตแอพ หรือเครือข่ายผู้จัดหาโซลูชั่น ผู้ติดตั้งระบบ และตัวแทนจำหน่ายของเน็ตแอพในประเทศต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ยังสามารถสอบถามราคาสำหรับโซลูชั่นเหล่านี้ได้จากฝ่ายขายของเน็ตแอพ หรือตัวแทนจำหน่าย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม คลิกไปที่ http://www.netapp.com/us/how-to-buy/
กิจกรรมออนไลน์: “พัฒนาแบบก้าวกระโดดสู่โครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ใช้งานร่วมกัน”
          เข้าร่วมกิจกรรมออนไลน์ของเน็ตแอพเพื่อเรียนรู้ว่าฟีเจอร์แพลตฟอร์มใหม่ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีของบริษัทฯ จะช่วยให้ระบบไอทีพร้อมรองรับอนาคตได้อย่างไร นอกจากนี้ คณะผู้บริหารของเน็ตแอพ ไม่ว่าจะเป็นมร.ทอม จอร์เกนส์, มร.มานิช โกเอล หรือมร.เบรนดอน โฮว์ รวมถึงมร.มาร์ค ปีเตอร์ส นักวิเคราะห์อาวุโสจาก ESG และมร.โรเบิร์ต รอส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยและรองประธานอาวุโสฝ่ายเครือข่ายและบริการด้านเทคนิคของ DCI จะร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นที่ว่าโครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีของเน็ตแอพจะช่วยให้ระบบไอทีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นให้แก่องค์กรได้อย่างไร หากต้องการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม คลิกไปที่ www.netapp.com/us/forms/future-ready-reg.html
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
          -  อ่านบทความของเน็ตแอพ “ระบบไอทีของคุณยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรองรับความต้องการทางธุรกิจหรือไม่” (“Is Your IT as Flexible as Your Business Needs It to Be?”): http://www.netapp.com/us/company/leadership/flexible-it/flexible-it.html
          -  เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเกณฑ์การซื้อสตอเรจรุ่นใหม่ของเน็ตแอพสำหรับโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่รองรับการใช้งานร่วมกัน: http://media.netapp.com/documents/rfp-exec-summary.pdf
          - รับฟังความคิดเห็นของมร.มานิช โกเอล เกี่ยวกับระบบไอทีที่ยืดหยุ่น รวมถึงความจำเป็นสำหรับองค์กรต่างๆ ในการพิจารณาประเด็นนี้: http://www.youtube.com/watch?v=7_3wikT4ajQ
          -  อ่านบล็อกของมร.วาล เบอร์โควิชี เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางของเน็ตแอพในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ใช้งานร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าพัฒนาก้าวไกลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น: http://blogs.netapp.com/exposed/
          -  อ่านบล็อกของมร.โวจ์ สจ๊วต เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นซึ่งจะช่วยผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรมของลูกค้าสำหรับโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ยืดหยุ่นในปัจจุบัน: http://blogs.netapp.com/virtualstorageguy/
          -  ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของเน็ตแอพผ่านทางทวิตเตอร์ได้ที่ http://twitter.com/netapp และบนระบบคลาวด์ของเน็ตแอพที่ www.twitter.com/NetAppCloud
          -  พูดคุยเกี่ยวกับข่าวนี้ได้ในชุมชนของเน็ตแอพที่ www.netapp.com/us/communities