TWZ ลุยต่างประเทศเต็มตัว ดันรายได้ปี 54 พุ่ง 4.5 พันลบ. 20 ตุลาคม 2553
ทีดับบลิวแซด รุกลงทุนต่างประเทศ ตั้งบริษัทย่อยที่ฮ่องกง TWZ international Limited ส่งสินค้าไปจำหน่ายยังแถบเอเชีย เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย เริ่มภายในเดือนธันวาคมนี้ ตั้งเป้ากวาดรายได้ 180-200 ล้านบาท ในปี’54 ช่วยดันรายได้ปี’54 เพิ่มเป็น 4,500 ล้านบาท
นายพุทธชาติ รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) ของ บริษัทฯ ได้มีการประชุมพร้อมกับอนุมัติแผนการไปลงทุนในต่างประเทศ ด้วยการให้จัดตั้งบริษัทย่อยในฮ่องกง โดย TWZ ถือหุ้น 100% และใช้เงินลงทุนประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง
สำหรับบริษัทย่อยที่ฮ่องกงดังกล่าว คือ TWZ international Limited จะจัดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบ Original Equipment Manufacturer (OEM) และ Original Design Manufacturing (ODM) พร้อมกับการจัดตั้ง สำนักงานตัวแทน TWZ Corporation (เซิ่นเจิ้น) ที่จะเป็นศูนย์อำนวยการของ TWZ ที่ประเทศจีน
ทั้งนี้ TWZ international Limited ผู้จัดจำหน่าย โดยจะการกระจายสินค้าไปยังประเทศแถบเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม บังกลาเทศ อินเดีย และมาเลเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ TWZ ตั้งเป้าหมายจะส่งสินค้าเข้าไปจำหน่าย เพราะมีความต้องการสูง
“เราต้องการขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศอย่างเต็มตัว โดยสำนักงานตัวแทน TWZ Corporation (เซินเจิ้น) จะคอยควบคุมการบริหาร คุณภาพสินค้า ซึ่งเชื่อมั่นว่ากลุ่มประเทศที่เราส่งสินค้าไปจำหน่ายจะได้ผลตอบรับที่ดีเพราะสภาพตลาดไม่แตกต่างจากบ้านเรามากนัก นอกจากนี้อุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือก็มีอัตราการขยายตัวค่อนข้างสูง ประกอบกับ TWZ เองก็ได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีตัวสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอยู่ตลอดเวลา”
บริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้เร็วสุดในเดือนธันวาคมนี้ หรืออย่างช้าก็จะอยู่ประมาณในไตรมาส 1 ปี 2554 ส่วนรายได้จากการลงทุนนั้น ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีจำนวน 180 - 200 ล้านบาทหรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 5-10% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ในปี 2554 ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ระหว่าง 4,200-4,500 ล้านบาท
การขยายการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศ จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยทำให้รายได้และกำไรของบริษัทในปีหน้าเติบโตขึ้นจากปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ ยังมั่นใจว่าจะสามารถมีรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้จำนวน 4,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นมาประมาณ 10% จากปี 2552 โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายทุกปีจะเป็นช่วงฤดูกาลขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพราะลุกค้าในเขตต่างจังหวัดจะมีกำลังซื้อมากขึ้นตามราคาสินค้าเกษตร ส่วนลูกค้าในเขตกรุงเทพจะมีเทศกาลปีใหม่ ที่จะมีการแจกของขวัญต่างๆ
“ปีนี้ตลาดมือถือน่าจะโตได้ 10% แต่เราน่าจะโตได้มากกว่านั้นจากการขยายตลาดด้วยตัวเอง โดยจะขายมือถือได้ 1.2-1.5 ล้านเครื่อง”นายพุทธชาติ กล่าว