เอชพีเปิดตัว HP Application Lifecycle Management โซลูชั่นการบริหารวงจรการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบผนวก
ครั้งแรกในวงการไอที สนับสนุนการใช้งานแอพพลิเคชั่นและ บริการต่างๆ อย่างอัตโนมัติ ปลอดภัย ง่ายดาย
เอชพีเปิดตัวโซลูชั่น HP Application Lifecycle Management 11 (ALM 11) ซึ่งเป็นโซลูชั่นการบริหารวงจรการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบผนวก (unified system) ระบบแรกที่สนับสนุนการนำแอพพลิเคชั่นและบริการต่างๆ ไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว มีเสถียรภาพ และปลอดภัยในทุกสภาพแวดล้อม
โซลูชั่น HP Application Lifecycle Management 11 (ALM 11) ผนวกรวมกิจกรรมสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นอันล้ำสมัยอย่างอัตโนมัติ ครอบคลุมตั้งแต่การจัดการตามความต้องการใช้งานจนถึงการควบคุมคุณภาพ ประสิทธิภาพการทำงาน และการส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด
ทั้งนี้ ผลการวิจัยล่าสุดของบริษัท ฟอร์เรสเตอร์ คอนซัลติ้งในนามของเอชพี เผยว่า ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจด้านไอทีร้อยละ 69 ได้จัดสรรงบประมาณด้านไอทีประจำปีประมาณ 1 ใน 4 สำหรับใช้พัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆ ให้มีความล้ำสมัย ขณะที่ผู้บริหารด้านไอทีอีกร้อยละ 30 ได้ใช้งบประมาณสูงถึงร้อยละ 50 ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด(1) การพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ทันสมัยจะสนับสนุนองค์กรต่างๆ ให้สามารถควบคุมกระบวนการทำงานที่ซับซ้อนและส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพอร์ทโฟลิโอด้านแอพพลิเคชั่นให้มีสมรรถนะการทำงานเพื่อรองรับองค์กรแบบ Instant-On Enterprise ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนธุรกิจต่างๆ ให้มีการเติบโต เพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง
โซลูชั่น HP ALM 11 คือระบบที่รองรับบทบาทหน้าที่ด้านต่างๆ ของบุคลากรในองค์กร โดยผนวกรวมเครื่องมือสำคัญๆ ที่ใช้ในการพัฒนาทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสนับสนุนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้สามารถนำแอพพลิเคชั่นมาใช้งานได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังช่วยพัฒนากระบวนการดำเนินงานภายในและข้ามทีมงานพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้เป็นแบบอัตโนมัติ ตลอดจนดูแลและควบคุมวงจรการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับคุณสมบัติอันโดดเด่นของโซลูชั่น HP ALM 11 มีดังนี้
- สนับสนุนการวางแผนและติดตามผลด้วยโซลูชั่น HP ALM 11 Project Planning and Tracking ซึ่งมีขีดความสามารถในการกำหนดหลักเกณฑ์การนำแอพพลิเคชั่นออกใช้งาน และกำกับดูแลกิจกรรมต่างๆ ในกระบวนการดำเนินการดังกล่าว โดยสามารถตรวจสอบและประเมินความก้าวหน้าและความพร้อมในการนำแอพพลิเคชั่นรุ่นที่กำหนดไว้ออกใช้งานได้แบบเรียลไทม์
- มีวิธีตรวจสอบและติดตามผลได้ถึง 3 ทาง ได้แก่ การตรวจสอบข้อกำหนด กระบวนการพัฒนา และอุปกรณ์จำลองที่เปี่ยมคุณภาพ ทำให้มีการวิเคราะห์อย่างทั่วถึงภายในทีมงานและบริหารการเปลี่ยนแปลงของแอพพลิเคชั่นได้อย่างรวดเร็ว
- มีระเบียบวิธีดำเนินการที่ยืดหยุ่นเพื่อให้สามารถนำแอพพลิเคชั่นไปใช้งานได้ อย่างเต็มประสิทธิภาพตามประเภทของโครงการหรือกิจกรรมที่จัดขึ้นทั้งในรูปแบบจำลอง (waterfall) รูปแบบที่กำหนดขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้งาน หรือรูปแบบที่มีความคล่องตัวและฉับไว โดยใช้โซลูชั่น HP Agile Accelerator 4.0 รุ่นพื้นฐานซึ่งเป็นบริการเสริมที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย หรือรุ่นสูงที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ลดความเสี่ยงระดับองค์กรจากการเกิดระบบล่มอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากข้อผิดพลาดทางด้านฟังก์ชั่นการทำงาน ประสิทธิภาพการทำงาน และการรักษาความปลอดภัยซึ่งพบในอินเทอร์เน็ตแอพพลิเคชั่นทั้งแบบ composite และแบบ rich
- ลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการนำมาใช้งาน เนื่องจากมีการค้นพบแอพพลิเคชั่นจำลองที่ครอบคลุมถึงข้อกำหนด บททดสอบ และข้อผิดพลาด ซึ่งอุปกรณ์จำลองทั้งหมดนี้สามารถนำมาใช้งานใหม่และแบ่งปันร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มร.ท็อดด์ อีตัน ผู้อำนวยการ กลุ่มธุรกิจ ALM Tools and Services บริษัท McKesson กล่าวว่า “การมีข้อกำหนดและการทดสอบหลากหลายรูปแบบการทำงานบนแพลทฟอร์มต่างๆ ควบคู่กับเทคโนโลยีใหม่ๆ จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ดังนั้น การใช้โซลูชั่นของเอชพีเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ทันสมัยทั่วทั้งวงจรจึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้หลายล้านเหรียญสหรัฐภายในระยะเวลา 3 ปี”
โซลูชั่น HP ALM เป็นการวางรากฐานสำหรับการพัฒนาโซลูชั่น HP Quality Center และ HP Performance Center 11.0 เวอร์ชั่นใหม่ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพและประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและอัตโนมัติ จึงลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ทั้งยังใช้ทรัพยากรสำหรับพัฒนาแอพพลิเคชั่นและบริการใหม่ๆ ได้อย่างมีอิสระมากขึ้น นอกจากนี้ โซลูชั่น HP Quality Center และ HP Performance Center 11.0 ยังมีคุณสมบัติโดดเด่นอื่นๆ ดังนี้
- เร่งรัดการนำแอพพลิเคชั่นมาใช้งาน โดยพัฒนาระบบทดสอบแบบแมนนวลให้เป็นแบบอัตโนมัติ อาทิ การจัดทำข้อมูล และการบริหารงานที่ซ้ำๆ กันในหลากหลายสภาพแวดล้อมด้วยซอฟต์แวร์ HP Sprinter
- พัฒนาบททดสอบใหม่ๆ โดยใช้โซลูชั่น HP TruClient ซึ่งอยู่ในตระกูล HP LoadRunner 11.0 เพื่อใช้ทดสอบประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่นโดยไม่ต้องทำสคริปต์ (scripting) ที่ต้องใช้เวลามาก
- สนับสนุนโซลูชั่น HP Unified Functional Testing 11.0 ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างโซลูชั่น HP Functional Test และโซลูชั่น HP Service Test 11 เพื่อลดข้อผิดพลาดทางด้านฟังก์ชั่นการทำงานของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในกระบวนการทดสอบทั้งแบบ GUI และ non-GUI โดยใช้โซลูชั่นแบบเดี่ยวที่มีการทำงานแบบอัตโนมัติในการรันแอพพลิเคชั่นแบบผสม
มร.เดเมี่ยน วอง ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หน่วยธุรกิจ HP Software ของเอชพี กล่าวว่า “องค์การต่างๆ ต้องการแอพพลิเคชั่น สำหรับใช้ในฟังก์ชั่นการทำงานที่มีความสำคัญเชิงธุรกิจ เครื่องมือที่ล้าสมัย ระเบียบวิธีที่ซับซ้อน และเทคโนโลยีใหม่และรุดหน้ามากกว่าที่เคยมีมาเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ทรงประสิทธิภาพได้ยากขึ้นกว่าเดิม แต่ด้วยโซลูชั่นใหม่ของเอชพีทำให้ลูกค้าเร่งนำแอพพลิเคชั่นต่างๆ มาใช้งานได้มากขึ้น ทั้งยังสามารถลดต้นทุนในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น บรรลุเป้าหมายในการทำธุรกิจ ตลอดจนรักษาคุณภาพในการดำเนินงานไว้ได้สูงสุด”
บริการ HP Application Lifecycle Management (ALM) Consulting Service ช่วยลูกค้าลดต้นทุนในการให้บริการทั้งหมด ทั้งยังขจัดความเสี่ยงโดยมีอัตราการเกิดข้อผิดพลาดของระบบลดลง มีเวลาในการดำเนินงานเร็วขึ้น และมีซอฟต์แวร์ใหม่ๆ มาใช้งานเพิ่มขึ้น ทั้งยังเสริมด้วยบริการทดสอบของผู้เชี่ยวชาญ การให้บริการที่ยืดหยุ่น และบริการฝึกอบรมให้ความรู้
HP ALM 11 คือ โซลูชั่นในพอร์ทโฟลิโอตระกูล HP Application Transformation ซึ่งช่วยธุรกิจต่างๆ ให้สามารถควบคุมแอพพลิเคชั่นที่มีอายุนานและกระบวนการทำงานที่ไม่คล่องตัว นอกจากนี้ โซลูชั่นต่างๆ ในพอร์ทโฟลิโอ HP Application Transformation ยังสนับสนุนองค์กรธุรกิจและภาครัฐพัฒนาธุรกิจแบบ Instant-On Enterprise โดยนำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนการทำงานทุกประเภทเพื่อให้บริการตอบสนองความต้องการของลูกค้า พนักงาน พันธมิตร และประชาชนทั่วไปได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ในชุดเอกสารประชาสัมพันธ์แบบออนไลน์ได้ที่
http://www.hp.com/go/HPSoftwareUniverseBarcelona2010