YAHOO on December 08, 2010, 06:57:59 PM
สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคาร ที่ 7 ธันวาคม 2553 เวลา 09.00 น
   
 
 
          ทิศทางราคาทองคำ
          ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1412 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.01 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.06 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19900 บาท กับ 20000 บาท GFZ10 เปิดที่ 19820 บาท และ GFG11 เปิดที่ 19900 บาท และ GF10Z10 เปิดที่ 19830 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 18890 บาท SPDR ถือครอง 1298.03 ตัน (เท่าเดิม) ราคาน้ำมันปิดบวก 19 เซนต์ มาอยู่ที่ 89.38 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ลบ 19.90 จุด มาปิดที่ระดับ 11362.19 จุด
          ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาทรงตัวและสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ ตลาดในช่วงวันศุกร์ยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องหลังจากเป็นวันหยุดยาวของเรา ในวันที่ 6 ธันวาคม 2553 ราคาเปิดตลาดในวันจันทร์ช่วงเช้าที่ระดับ 1412 เหรียญ ราคาค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นในช่วงการซื้อขายตลอดเวลาทั้งตลาดเอเชียและตลาดลอนดอน โดยที่เมื่อคืนในตลาดลอนดอนและนิวยอร์กยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1426 เหรียญ ปิดตลาดที่ระดับ 1416 เหรียญ โดยที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีกับวันศุกร์ คือตัวเลข Non Farm payroll เพิ่มขึ้น 39000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.8% และ ISM Manufacturing จากเดิม 54.3% เพิ่มขึ้นเป็น 55% สำหรับเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรปเองจากการที่ ECB ให้ความช่วยเหลือ ค่าเงินดอลลาร์เองกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งที่จากระดับ 1.3304 ดอลลาร์/ยูโร โดยที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1.3414 ดอลลาร์/ยูโร และเมื่อคืนนี้ ค่าเงินยูโรร่วงลงจากระดับ 1.3415 ดอลลาร์/ยูโร ลงมาอยู่ที่ระดับ 1.3318 ดอลลาร์/ยูโร ณ ขณะนี้ หลังจากมูดีส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือประเทศฮังการี ราคาน้ำมันปิดบวก 1.19 เหรียญ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 89.19 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ลบ 19.90 จุด มาปิดที่ระดับ 11362.19 จุด

          วิเคราะห์ทางเทคนิค
          ราคาทองคำ ณ ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 1420 เหรียญ โดยที่ทิศทางโดยภาพรวมยังเป็นขาขึ้น ราคาทองคำเริ่มเข้าไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมใหม่อีกครั้งที่ระดับ 1424 เหรียญ และมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1400 เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1430 เหรียญ Oscillator โดยทั่วไปเป็นสัญญาณบวก
          ราคาทองคำแท่งของไทยทะลุ 20000 คือแนวต้านจิตวิทยาแล้ว โดยยังมีเป็นทิศทางต่อเนื่อง ซึ่งบาทยังทรงตัวอยู่ ซึ่งคาดว่ายังอยู่ในทิศทางปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 20000 ในวันนี้
          ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 19700 บาท และมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 20150 บาท
          สำหรับ Gold Futures Z10 จะมีแนวรับที่ระดับ 20100 บาท แนวต้านที่ระดับ 20250 บาท

          คำแนะนำ
          สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) ให้ระวังการขายทำกำไรในวันนี้ เก็งกำไรตามการแกว่งตังของตลาด
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)เป็นการขายทำกำไร หลังจากที่ถือครองประมาณ 30-40% ให้ขายออกประมาณ 30% เหลือ 10% ของ Port
          นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่งขายทำกำไรเช่นเดียวกัน ถือครองประมาณ 10% ของ Port

          สรุปได้ว่า วันนี้เป็นวันที่ขายทำกำไร และรอจังหวะการเข้าช้อนซื้อใหม่อีกครั้งหนึ่ง

          บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

YAHOO on December 08, 2010, 06:58:49 PM
ภาวะตลาดทองคำวันนี้ วันที่ 7 ธันวาคม 2553
 
          ข้อมูลทองคำวันนี้
          - ราคาสมาคม เปิดที่ 20,000 - 20,100
          - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,422
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.98 – 30.05
          - GFZ10 Hi- Low 19,870 – 19,820 ปิดที่ 19,860
 
Gold Insight

          สัญญาทองคำตลาด COMEX
          ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 9.9 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1416.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1421.2 - 1412.8 ดอลลาร์ เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          ปิดลบ 19.90 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 11,362.19 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.59 จุดหรือ 0.13% ปิดที่ 1,223.12 จุด แต่ดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 3.46 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 2,594.92 จุดหลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความคิดเห็นในด้านลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และจากข่าวที่ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยอมอ่อนข้อให้กับพรรครีพับลิกันด้วยการเตรียมขยายโครงการลดหย่อนภาษีซึ่งอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช เป็นผู้ริเริ่มไว้ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเพียงเล็กน้อยเพราะตลาดได้แรงหนุนจากรายงานของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ที่ระบุว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี

          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ส่งมอบเดือนม.ค.ขยับขึ้น 19 เซนต์ ปิดที่ 89.38 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้แรงหนุนจากการที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า การใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลนั้น อาจมีมูลค่าสูงกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ตามที่ได้มีการประกาศไปเมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การที่เบอร์นันเก้แสดงความคิดเห็นในด้านลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐได้ส่งผลสกัดช่วงบวกของตลาด และทำให้สัญญาน้ำมันดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย

          กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 7 ธันวาคม ขายออก 0.42 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองที่ระดับ 1,298.45 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,298.03 ตัน
          USD/EU ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า วิกฤตหนี้สาธารณของยุโรปอาจลุกลามในวงกว้าง หลังจากเยอรมนีได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของคณะรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนที่ต้องการจะเพิ่มขนาดโครงการช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะ ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.82% แตะระดับ 1.3304 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ (3 ธ.ค.) ที่ 1.3414 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3316 ดอลลาร์ต่อยูโร
          USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.650 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 82.620 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 82.48 เยนต่อดอลลาร์
          USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 29.99-30.00 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.00-30.03 บาทต่อดอลลาร์
 
ข่าวเศรษฐกิจโลก
          - มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฮังการีสองขั้นสู่ระดับ Baa3 จาก Baa1 แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นเชิงลบ ซึ่งหมายความว่าอาจมีปรับลดอันดับเครดิตลงอีก หากรัฐบาลไม่สามารถทำให้สถานะการเงินและการคลังมีเสถียรภาพได้ โดยอันดับเครดิตที่ Baa3 นั้น อยู่เหนือระดับ "ขยะ" เพียงขั้นเดียวหัวหน้านักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ระบุว่า รัฐบาลฮังการีพึ่งพานโยบายชั่วคราวมากกว่านโยบายปรับภาวะการคลังให้เข้าสู่สมดุลอย่างยั่งยืน และการปรับลดอันดับเครดิตในวันนี้เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลฮังการีสูญเสียความแข็งแกร่งทางการเงินการคลังลงอย่างมาก ขณะที่แนวโน้มเครดิตเชิงลบ สะท้อนถึงความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งทางการเงินการคลังของรัฐบาล เนื่องจากการขาดดุลงบประมาณของฮังการีมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น และมีความเสี่ยงที่ฮังการีจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตภายนอก อาทิ ปัญหาหนี้สาธารณะยุโรป
          - เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวให้สัมภาษณ์กับรายการ "60 Minutes" ของสถานีโทรทัศน์ CBS ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า และสหรัฐอาจต้องใช้เวลา 4-5 ปี กว่าที่อัตราว่างงานจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากกว่านี้ที่ราว 5-6% อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไม่น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีก เนื่องจากเศรษฐกิจในภาคส่วนต่างๆ อาทิ ภาคที่อยู่อาศัยไม่สามารถตกต่ำลงไปได้มากกว่านี้แล้ว นอกจากนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า การใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลนั้น อาจมีมูลค่าสูงกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์ตามที่ได้มีการประกาศไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของโครงการ QE2 รวมถึงแนวโน้มเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ
          - คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.4% แตะระดับ 99 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี บ่งชี้ว่าตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นในปี 2554
          - เยอรมนีได้ปฏิเสธเสียงเรียกร้องของคณะรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนที่ต้องการจะเพิ่มขนาดของเครือข่ายประกันความปลอดภัยวงเงิน 7.50 แสนล้านยูโรสำหรับประเทศสมาชิกที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะ
          - คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.4% แตะระดับ 99 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี บ่งชี้ว่าตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นในปี 2554
          - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) เดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 39,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 9.8% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 9.6%
          - คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ระบุว่า การประกาศเปลี่ยนไปใช้นโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง บ่งชี้ว่าการขยายตัวของอุปทานเงินในปี 2554 จะต่ำกว่าปี 2553 และธนาคารกลางจีนอาจขึ้นดอกเบี้ยอีก
          - นายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เชื่อมั่นว่า สกุลเงินยูโรยังคงมีความน่าเชื่อถือ แม้วิกฤตหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นในยุโรปทำให้ไอร์แลนด์และกรีซต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินและส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางของสกุลเงินยูโรก็ตาม นอกจากนี้ ทริเชต์กล่าวว่า สกุลเงินยูโรไม่มีความเสี่ยง เพราะเป็นสกุลเงินที่ได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนมานาน และเชื่อว่ายูโรจะยังคงเป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักของโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า ไม่ต่างจากในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
 
  อาทิตย์ที่

3 – 7 ธ.ค. 2553
 ข้อมูลที่น่าจับตา
 ตัวเลขเดิม
 ตัวเลข คาดการณ์
 ตัวเลขจริง
 
วันศุกร์
 · Non-Farm Employment Change

· Unemployment Rate               

· ISM Non-Manufacturing PMI
 151K

9.6%

54.3
 143K

9.6%

54.7
 39K

9.8%

55.0
 
วันอังคาร
 · Treasury Currency Report

· IBD/TIPP Economic Optimism
 -

46.7
 -

48.3

YAHOO on December 09, 2010, 05:35:45 PM
สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดี ที่ 9 ธันวาคม 2553 เวลา 09.00 น

           ทิศทางราคาทองคำ
          ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1394 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.06 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.09 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19850 บาท กับ 19950 บาท GFZ10 เปิดที่ 19970 บาท และ GFG11 เปิดที่ 20050 บาท และ GF10Z10 เปิดที่ 19960 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 20040 บาท SPDR ถือครอง 1295.30 ตัน (2.42 ตัน) ราคาน้ำมันปิดลบ 41 เซนต์ มาอยู่ที่ 88.28 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์บวก 13.32 จุด มาปิดที่ระดับ 11372.48 จุด
          ราคาทองคำในตลาดเอเชียค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยมาทดสอบที่ระดับ 1395 เหรียญ และการซื้อขายหนาแน่น โดยที่ Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 6345 คู่สัญญา เพิ่มขึ้น 31% และ Gold Futures 10 บาท อยู่ที่ 3075 ลดลง 3% และ Gold Futures 10 บาท มี Volume 48% ของ Gold Futures 50 บาท และเท่ากับ 10% ของมูลค่า Gold Futures 50 บาท โดยที่ราคาทองคำในตลาดลอนดอนและComex เองมีการปรับลงต่อเนื่อง จนหลุดแนวรับที่ระดับ 1380 เหรียญ ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1371 เหรียญ และดีดกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 1383 โดยที่เมื่อวานนี้ SPDR มีการขาย 2.2 ตันท่ามกลางการรับข่าวของ โอบามามีการขยายโครงการลดหย่อนภาษีของบุคคลทั่วไปยืดเวลาออกไปอีก ก็เลยกดดันทำให้เป็นข่าวดีทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เทียบกับค่าเงินยูโรที่ระดับ 1.3260 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อคืนไม่มีตัวเลขข่าวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ข่าวจีนอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณ 0.25-0.5% ซึ่งคาดว่าจะประกาศพรุ่งนี้ ราคาน้ำมันปิดลบ 41 เซนต์ มาอยู่ที่ 88.28 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์บวก 13.32 จุด มาปิดที่ระดับ 11372.48 จุด

          วิเคราะห์ทางเทคนิค
          ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 30 วันที่ระดับ 1370 เหรียญ และสามารถดีดกลับขึ้นมาได้ มาอยู่ที่ระดับ 1383 เหรียญ ในเชิงเทคนิคระยะสั้นเป็นสัญญาณที่ดีว่า แนวรับตรงนี้น่าจะรับอยู่ได้ คงต้องรอดูความชัดเจนของคืนนี้อีกครั้งหนึ่ง และวันศุกร์ที่จีนจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งตลาดรับรู้แล้ว สัญญาณทางเทคนิคยังเป็นลักษณะของการปรับฐานซึ่งต้องหาจุดต่ำสุดให้ได้ก่อนใน 3วัน ยังไม่คิดว่าเป็นการเปลี่ยน Trend เป็นขาลง แนวรับที่ระดับ 1370 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 1400 เหรียญ
          ราคาทองคำแท่งของไทยปิดตลาดที่ระดับ 19850 บาท และ 19950 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1396 เหรียญ
          ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับอยู่ที่ระดับ 19600 บาท และมีแนวต้านที่ระดับ 19900 บาท ซึ่งคงเข้าใจว่าเป็นแนวรับแนวต้านระยะสั้นเพียง 3 วัน
          สำหรับ Gold Futures Z10 จะมีแนวรับที่ระดับ 19900 บาท แนวต้านที่ระดับ 20050 บาท

          คำแนะนำ
          สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) ให้เก็งกำไรในภาวการณ์ดีดตัวกลับ โดยเข้าทยอยช้อนซื้อ
          นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) เป็นลักษณะเข้าทยอยช้อนซื้อเช่นเดียวกัน ปรับ Port เพิ่มขึ้นเป็น 30%
          นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ให้เข้าช้อนซื้อ 20-30% หาจังหวะโอกาสในการเข้า ปรับ Port ให้ได้

          สรุปได้ว่า ดูในลักษณะของTechnical Rebound ในระยะสั้นก่อน

          บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง 

YAHOO on December 09, 2010, 05:36:42 PM
ภาวะตลาดทองคำวันนี้ วันที่ 9 ธันวาคม 2553

          ข้อมูลทองคำวันนี้
          - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,700 - 19,800
          - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,386
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.06 – 30.10
          - GFZ10 Hi- Low 20,020 – 19,890 ปิดที่ 20,020
 
Gold Insight

          สัญญาทองคำตลาด COMEX
          ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 25.80 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,383.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,405.40 - 1,372.10 ดอลลาร์ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาตัดสินใจขยายโครงการลดหย่อนภาษียังทำให้นักลงทุนคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น จึงได้ตัดสินใจลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          ปิดบวก 13.32 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 11,372.48 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 4.53 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 1,228.28 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 10.67 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 2,609.16 จุดขานรับข่าวประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ และแกนนำพรรครีพับลิกันที่สามารถบรรลุข้อตกลงการขยายโครงการลดหย่อนภาษี ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ช่วงบวกของตลาดถูกสกัดลงเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ฉุดราคาหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ดิ่งลงด้วย

          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 41 เซนต์ หรือ 0.46% ปิดที่ 88.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.33 - 88.99 ดอลลาร์ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นพุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงอ่อนแอ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงด้วย

          กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 9 ธันวาคม ขายออก 2.43 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองที่ระดับ 1,297.73 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,295.30 ตัน
          USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการขยายโครงการลดหย่อนภาษีของสหรัฐจะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงค่าเงินยูโรร่วงลง 0.02% แตะที่ 1.3260 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3263 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3316 ดอลลาร์ต่อยูโร

          USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.020 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 83.480 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 83.79 เยนต่อดอลลาร์

          USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.12-30.16 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.06-30.10 บาทต่อดอลลาร์
 
ข่าวเศรษฐกิจโลก
          - กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีแถลง ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.ที่ร่วงลง 1% ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และยังมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 3 เท่า ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวขึ้นของการผลิตสินค้าเพื่อการลงทุน อาทิ เครื่องจักรกลต่างๆ
          - สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงาน ว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ธ.ค. ร่วงลง 3.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 355.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล
          - การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ที่ประเทศเอกวาดอร์ หลังจากมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปคจะคงโควต้าการผลิตน้ำมันไว้ที่ 24.845 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมครั้งนี้
          - โอบามาและแกนนำพรรครีพับลิกันตกลงการขยายโครงการลดหย่อนภาษีของผู้มีรายได้ทุกระดับชั้นออกไปอีก 2 ปี พร้อมกับขยายระยะเวลาการให้สวัสดิการแก่ประชาชนที่ว่างงานหลายล้านคนออกไปอีก 13 เดือน โดยโอบามาเชื่อว่า การขยายโครงการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกันและจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
          - จิม โรเจอร์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินระดับแนวหน้าของโลกและประธานบริษัท โรเจอร์ส โฮลดิ้งส์ กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า การที่จีนควบคุมภาวะเงินเฟ้อด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องแล้ว จิมกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้จีนเผชิญปัญหาเงินเฟ้อมาจากสภาพคล่องส่วนเกินในตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสเงินทุนที่มีอยู่เป็นจำนวนมากทั้งภายในประเทศและเงินที่ไหลเข้ามาจากต่างประเทศ จนเป็นเหตุให้ราคาสินค้าของจีนพุ่งขึ้นด้วย
          - รัฐมนตรีกลุ่มยูโรโซนมีมติไม่เพิ่มวงเงินในกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) และ กรีซอาจจะต้องระดมทุนเพิ่มอีกกว่า 3 เท่าจึงจะสามารถชำระเงินกู้ให้กับกองทุน EFS
 
          ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
 
  อาทิตย์ที่

8 - 9 ธ.ค. 2553
 ข้อมูลที่น่าจับตา
 ตัวเลขเดิม
 ตัวเลข คาดการณ์
 ตัวเลขจริง
 
วันพุธ
 · Crude Oil Inventories

 
 1.1M
 -1.3M
 -3.8M
 
วันพฤหัสบดี
 · Unemployment Claims

 
 436K
 426K

YAHOO on December 09, 2010, 05:37:47 PM
ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures Insight วันที่ 9 ธันวาคม 2553
 
 
          คำแนะนำการลงทุน Gold Futures
          DAY TRADER
          GFZ10 ซื้อในช่วงราคา 19890 – 19930 ขายในช่วงราคา 20030 – 20070
          GFG10 ซื้อในช่วงราคา 19960 – 19990 ขายในช่วงราคา 20100 – 20140
          SWING TRADER
          ทิศทางราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับฐานของทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวรับที่ระดับ 1380เหรียญ แนวต้านด้านบน 1400 เหรียญ แนะนำนักลงทุนรายวันเก็งกำไรตามแกว่งตัวของตลาดในสภาวะดีดกลับ นักลงทุนรายสัปดาห์รอจังหวะเข้าซื้อ คงสถานะLong Position 30% ชองPortfolio
          GFZ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19900 รอขายที่ระดับ 20050 GFG11 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19980 รอขายที่ระดับ 20130
 
ปัจจัยสำคัญ
          สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงาน ว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ธ.ค. ร่วงลง 3.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 355.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล
          กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำที่1295.296ตันในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 8 ธ.ค. ลดลง2.429ตัน จากระดับ1297.726ของวันที่ 7ธ.ค.
          วันที่10ธ.ค. ตลาดTFEXปิดทำการซื้อขาย เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ
 
GOLD Market Recap : 08/12/2010
 
          MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,394 $ ส่วน Gold Future z10 เปิดที่ 19,970 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 19,950 บาท ปรับลง 200 จากวันทำการก่อน ตลาดทองคำ (ราคาต่างประเทศ ) อยู่ในทิศทางขาขึ้นโดยเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ระดับ 1,431 $ และค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า โดยล่าสุดอยู่ที่ 30.09 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ ในช่วงเช้าราคาทองคำวิ่งอยู่ในกรอบ 1,389 - 1,396 $ สำหรับช่วงบ่าย ราคาทองคำต่างประเทศแกว่งตัว Side way Gold Future z10 ปิดตลาดที่ 20,010 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่งปรับขึ้นลง 50 บาท ปิดตลาดอยู่ที่ 19,950 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง นักลงทุนซื้อขายทำกำไรอย่างหนาแน่นหลังจากที่ราคาทองคำต่างประเทศทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ระดับ 1,431 $
 
          NIGHT RECAP : ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1395 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1388 - 1396 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1395 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1371 -1403 เหรียญ และกลับมาปิดตลาดที่ 1384 เหรียญ
 
          สนใจลงทุนใน Gold Futures กับ MTS Gold Futures สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-222-5959