เรื่องย่อ: วายุภัคมนตรา
บทประพันธ์โดย : แพรณัฐ
บทโทรทัศน์โดย : ฐานวดี สถิตยุทธการ
กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ควบคุมการผลิตโดย : ธัญญา วชิรบรรจง
ผลิตโดย : บริษัท แอ็ค อาร์ท เจเนเรชั่น จำกัด
ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสี ช่อง 3
เรื่องย่อ
ทิชากร หรือ กะทิ เป็นนักเขียนนิยายโรมานซ์ซึ่งมีนามปากกาว่า ฮัมมิ่งเบิร์ด แปลงจากความหมายของชื่อจริงที่แปลว่านก นิยายของทิชากรได้รับความนิยมในหมู่นักอ่านเพราะมีบทโรมานซ์หวือหวาเอาใจตลาด แต่ความจริงแล้วเธอยังเวอร์จิ้นและเริ่มจะหมดมุกเลิฟซีนที่จะเขียน คนที่ได้ยินชื่อฮัมมิ่งเบิร์ดคงจะนึกถึงนักเขียนสาวทรงเสน่ห์เปรี้ยวปรี๊ดเหมือนสำบัดสำนวนของเธอ แต่ตัวตนที่แท้จริงของทิชากรกลับตรงกันข้าม เธอเป็นสาวโบฮีเมียนขนานแท้ แถมยังชอบทำอะไรโก๊ะ ๆ โดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อย ๆ และสิ่งที่น้อยคนรู้ก็คือเธอเป็นลูกสาวของหมอไกรฤทธิ์ อดีตหมอไสยจอมขมังเวทย์ที่ผันตัวมาเป็นแพทย์แผนโบราณเพราะกลัวบาป ทิชากรซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยพ่อจึงพอมีฝีมืออยู่บ้างทั้งเรื่องไสยขาวและสมุนไพรไทย ทั้งยังชอบทำบุญนั่งสมาธิและธรรมะธรรมโมสมกับเป็นลูกรักของพ่อ
ทิชากรกำลังจะเขียนนิยายโรมานซ์ซึ่งเกิดในไร่องุ่น ซาร่า บอกอสาวประเภทสองของเธอจึงเสนอให้หญิงสาวไปใช้ชีวิตในไร่องุ่นสายลม ซึ่งเป็นไร่องุ่นของรุ่นน้องซาร่า เพื่อหาข้อมูล รวมทั้งเค้นบทโรมานซ์ที่เธอไม่มีประสบการณ์และเริ่มหมดมุกไปด้วย หารู้ไม่ว่าไกรฤทธิ์ห่วงลูกสาวคนเดียวที่จะต้องจากบ้านไปไกลตามลำพัง เขาจึงแอบสั่งรัก-ยมให้ตามไปดูแลเธอโดยซ่อนขวดรัก-ยมไว้ในช่องเล็ก ๆ ของย่ามแขกใบเก่ง
ในวันที่ทิชากรไปถึงไร่องุ่นสายลม เธอประหลาดใจเมื่อเห็นท้องฟ้าเหนือไร่องุ่นเต็มไปด้วยเมฆดำทะมึนปกคลุม ทั้งที่ส่วนอื่นของท้องฟ้าใสกระจ่าง อีกทั้งยังมีความรู้สึกอึดอัดหนักอึ้งอย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้เธอรู้โดยสัญชาตญาณของลูกอดีตจอมขมังเวทย์ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ รวมทั้งรัก-ยมในกระเป๋าก็ออกมายืนยันว่ามีสิ่งผิดปกติ แล้วหญิงสาวก็ได้พบคำตอบหลังจากได้พบชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังคลอเคลียสาวอึ๋มอยู่ในสวนหลังบ้านส่วนตัวในไร่อย่างโจ๋งครึ่มไม่อายฟ้าดิน สิ่งที่ทิชากรเห็นไม่ใช่ความหล่อบาดใจของเขาที่ผู้หญิงทุกคนเป็นต้องหลงใหล แต่เป็นใบหน้าหมองคล้ำเหมือนถูกของและเงาของนางโหงพรายที่เกาะอยู่บนหลังของเขาอยู่ต่างหาก ด้วยจรรยาบรรณของลูกหมอไสยและความตรงไปตรงมาของเธอ ทิชากรจึงเดินเทิ่ง ๆ ไปบอกผู้ชายคนนั้น แต่กลับถูกเขาตอกหน้ากลับมาอย่างไม่เชื่อถือทำให้เธอโกรธมาก
หนุ่มหล่อปากร้ายคนนั้นก็คือ วายุภัค หรือ ลม หนึ่งในสี่ฝาแฝดตระกูลอดิศวรซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลไร่องุ่นของครอบครัวนั่นเอง วายุภัคมีนิสัยไม่ต่างจากลมเพลมพัด รักง่ายหน่ายเร็ว ไม่ชอบทำอะไรซ้ำ ๆ และมีอารมณ์ศิลปินสูง รักศิลปะ ชอบวาดรูป และฟังเพลงคลาสสิค คนภายนอกอาจเห็นว่าเขายิ้มง่ายกว่าพี่น้องผู้ชายอีกสองคน แต่คนในครอบครัวของเขาต่างรู้ว่าเขาก็ไม่ต่างจากสายลมที่แปรปรวนได้ตลอดเวลา ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาบาดใจราวกับเทพบุตรเดินดินและนิสัยรื่นรมย์ช่างยิ้ม วายุภัคจึงมีสาวมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนไปมาอยู่ตลอด แต่เพราะลมไม่เคยหยุดพัด ทำให้เขาไม่เคยคบผู้หญิงคนไหนได้นานสักคน สาวอึ๋มที่วายุภัคพามาคลอเคลียก็เป็นเพียงหนึ่งในสาวมากหน้าหลายตาของเขาที่อาจถูกเขี่ยได้ทุกเมื่อ
เมื่อต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร วายุภัคกับทิชากรจึงปฏิเสธที่จะข้องเกี่ยวกัน ทิชากรตั้งใจจะกลับบ้านและไปหาข้อมูลในไร่องุ่นอื่นแทน แต่ซาร่าห้ามไว้และเตือนให้เธอเห็นแก่หน้าที่ พร้อมกับลำเลิกบุญคุณวายุภัค ที่เธอเคยกีดกันสาว ๆ ของเขาสมัยที่ชายหนุ่มไปเรียนปริญญาโทด้านการปลูกองุ่นและการทำไวน์ ณ ประเทศฝรั่งเศส ชายหนุ่มจึงไม่อาจปฏิเสธได้ สองคนจึงต้องในไร่องุ่นอย่างเป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อไป
วายุภัคมีอาการเปลี่ยนไปจากเดิม เขามักได้ยินภาษาแปลก ๆ เห็นเงาวูบวาบ ปวดศีรษะและท้องทรมานอย่างไม่มีสาเหตุ ทั้งยังปวดเมื่อยไหล่สองข้าง อารมณ์ฉุนเฉียวคนครอบครัวและคนงานยังรู้สึกได้ ทิชากรรู้จากท่านเจ้าที่ว่านางโหงพรายถูกหมอไสยคนหนึ่งเสกมาเพราะมีความแค้นกับวายุภัคแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร และเจ้าที่เองก็มีอำนาจน้อยเกินกว่าจะป้องกันได้ ทิชากรจึงพยายามบอกวายุภัค แต่ชายหนุ่มซึ่งไม่เคยเชื่อไสยศาสตร์กลับหาว่าเธอแต่งเรื่องตามสไตล์นักเขียนเพ้อฝัน ยิ่งเขาเห็นทิชากรพูดคนเดียวบ่อยครั้ง เขายิ่งคิดว่าเธอบ้า หารู้ไม่ว่าเธอกำลังคุยกับรัก-ยมให้ช่วยกันหาต้นเหตุของใบหน้าหมองคล้ำและผีร้ายที่ทำร้ายวายุภัค
การมาของทิชากรทำให้เกิดเรื่องราวแปลกประหลาดในสวนจนคนงานพากันเล่าลือ ทั้งเรื่องวิญญาณผีตายโหงกับเด็กหัวจุกสองคน แต่เมื่อขอหวยกลับถูกไปตาม ๆ กัน คนงานจึงชอบให้เด็กจุกทั้งสองอยู่ที่นี่ไปในที่สุด หากสำหรับวายุภัคนั้น เขาหงุดหงิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
ทิชากรกับวายุภัคทะเลาะกันหลายครั้ง ชายหนุ่มลั่นวาจาว่าไม่มีวันเชื่อคำพูดเหลวไหลของเธออย่างเด็ดขาด การทะเลาะรุนแรงขึ้น ทิชากรโกรธจัดจึงประกาศกร้าวว่าเธอจะทำให้เขาเห็นว่าเขาผิดให้ได้และต้องคลานมาขอโทษเธอ หญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มจะโกรธ ทว่าวายุภัคซึ่งไม่ชอบให้ผู้หญิงคนไหนท้าทายกลับรับคำท้านั้น และโต้กลับว่าถ้าเขาผิดเขาจะยอมคลานไปขอโทษเธอ แต่หากทิชากรเป็นฝ่ายผิดบ้าง เขาจะยอมให้เธอควงเป็นแฟนวันสองวันแก้เสียหน้า หญิงสาวจึงโกรธจัดและทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะเขา
การต่อสู้ห้ำหั่นกันระเบิดไปทั้งไร่ เมื่อทิชากรบุกสาดน้ำมนต์ใส่วายุภัคไปทุกที่ด้วยวิธีการต๊อง ๆ ตามประสาเธอ บ้างก็แอบผสมน้ำมนต์ลงในน้ำให้เขาดื่ม เพื่อให้อาการของคนถูกของแสดงออกมา แต่วายุภัคก็ไวสมชื่อลม เขาสามารถรอดพ้นจากการจู่โจมอย่างบ้าระห่ำของทิชากรได้ทุกที แต่ผลที่เกิดขึ้นคือสาว ๆ ของวายุภัคต่างหายกันไปเกือบหมด เนื่องจากพวกเธอโกรธนักที่วายุภัคให้ความสนใจกับการรับมือและตอบโต้ทิชากรจนไม่สนใจพวกเธอ วายุภัคไม่เดือดร้อนกับการที่ผู้หญิงของเขาหายหน้าไปทีเดียวเกือบหมด เพราะชายหนุ่มกำลังใจจดใจจ่อรอคอยเวลาที่ทิชากรดุ่มมารุกไล่เขาด้วยวิธีแปลก ๆ ที่เขาคาดไม่ถึง ชีวิตของผู้ชายขี้เบื่อที่ไม่ชอบทำอะไรซ้ำซากจำเจจึงมีเรื่องให้ตื่นเต้นทุกวัน ที่สำคัญวายุภัคแอบประทับใจทิชากรอย่างไม่รู้ตัว เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาไม่เคยนึกเบื่อ ทั้งยังเป็นผู้หญิงที่มีหลายบุคลิกจนเขาไม่รู้ว่าจะเปรียบเทียบเธอกับไวน์ชนิดไหนดี
หมอไสยดำส่งคุณไสยครอบงำจิตใจของวายุภัคจนใช้ชีวิตไม่ต่างจากผีดิบ รวมทั้งให้นางโหงพรายถึงสามตนควบคุมเขาไว้ ทิชากรจึงบุกเข้าไปช่วยเขาโดยมี รัก-ยม และเจ้าที่ช่วยอีกแรงหนึ่ง เมื่อวายุภัคฟื้นและกลับเป็นตัวเองอีกครั้ง เขาโกรธจัดเพราะเสียหน้าที่หญิงสาวบุกเข้ามาถึงในบ้านและกล่อมทุกคนในครอบครัวเขาจนเชื่อว่าเขาถูกคุณไสยจริง วายุภัคจึงต่อว่าเธอรุนแรง ขณะที่ทิชากรก็น้อยใจที่เธออุตส่าห์ช่วยแต่กลับถูกตำหนิ ซ้ำยังดื้อดึงไม่เชื่อคำพูดของเธอเสียที พวกเขาจึงมีปากเสียงกันรุนแรง วายุภัคเผลอลวนลามจูบทิชากรไปโดยไม่รู้ตัวทำให้เธอโกรธมากและประกาศกร้าวว่าจะไม่ช่วยวายุภัคอีกแล้ว พร้อมกับเก็บของกลับบ้าน
วันนั้นเองวายุภัคถูกคุณไสยและผีตายโหงกลับมาทำร้ายเขาจนปวดท้องกระอักเลือดเกือบตาย ทิชากรและรัก-ยมกลับมาช่วยเขาไว้ได้ทัน วายุภัคไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่เมื่อมันไม่มีคำอธิบายอื่นใดนอกจากสายตาตัวเอง เขาจึงเริ่มเชื่อเธอในที่สุด
เมื่อไปโรงพยาบาล แพทย์ยังพบว่ามีวัตถุประหลาดอยู่ในท้องของวายุภัค สร้างความประหลาดใจให้กับชายหนุ่มและครอบครัวเป็นอย่างมาก ทิชากรที่ยังโกรธและมึนตึงกับเขาจำต้องช่วยวายุภัคต่อไปเพราะเธอเองก็ไม่อยากให้เขาตายเช่นกัน เธอนำน้ำมนต์ให้เขาดื่มทำให้วายุภัคอาเจียนโดยมีวัตถุเหล่านั้นปนออกมาโดยไม่ต้องผ่าตัด
วายุภัคพบความจริงว่าเขาหลงรักทิชากรเข้าให้แล้ว เพราะในคืนที่เขาถูกทำร้ายและคิดว่าตัวเองจะตาย ภาพที่ชายหนุ่มอยากเก็บไว้พร้อมลมหายใจสุดท้ายคือดวงหน้าเรียวเก๋ของทิชากร เขาจึงเริ่มจีบเธออย่างจริงจัง แต่หญิงสาวสร้างเกราะปกป้องหัวใจไว้ เพราะไม่เชื่อว่าสายลมจะหยุดพัดที่ใครได้ โดยเฉพาะเธอ
วายุภัคยอมให้ทิชากรช่วยอย่างเต็มใจ เขาหัดสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำบุญทำทาน แผ่เมตตา และเข้าพิธีอาบน้ำมนต์เพื่อให้หายจากคุณไสย แม้จะไม่หายขาด เพราะหมอไสยดำยังไม่ยอมรามือ อาการของวายุภัคดีขึ้นพร้อม ๆ กับความสัมพันธ์ของเขากับทิชากรที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ทิชากรประทับใจการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีของชายหนุ่ม เขาบอกรักเธอในวันหนึ่งแต่ทิชากรไม่เชื่อคำพูดคนเจ้าชู้ และบอกให้วายุภัคทำให้เธอเห็นจะดีกว่า เขาจึงสัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้ทิชากรได้รู้ว่าบัดนี้สายลมได้หยุดพัดที่เธอเพียงคนเดียวแล้ว
ความสัมพันธ์ที่กำลังจะดีขึ้นสะดุดลงเมื่อพัชนีบุตรสาวกำนันทองซึ่งหลงรักวายุภัคมานาน มาหาเรื่องทิชากรและบอกเธอว่าวายุภัคมีลูกมีเมียแล้ว ทิชากรจึงทะเลาะกับชายหนุ่มรุนแรง วายุภัคน้อยใจที่หญิงสาวไม่เชื่อว่า ปิ่นมุก ผู้หญิงที่พัชนีแอบอ้าง ไม่ได้ท้องกับเขา เนื่องจากเลิกรากันไปนานแล้ว ทว่าทิชากรไม่เชื่อเพราะพ่อแม่ของปิ่นมุกมาหาเรื่องวายุภัคว่าลูกสาวท้องกับเขา
ความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ยังไม่ลงตัวเลวร้ายยิ่งกว่าเก่า เมื่อชองแตลสาวลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศสคู่รักเก่าของวายุภัคและที่ปรึกษาของไร่เดินทางมาจากฝรั่งเศสเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพไวน์ วายุภัคไม่ได้คิดอะไรกับชองแตลแล้ว แต่ชองแตลไม่ได้คิดอย่างนั้น เธอยังหวังในตัวชายหนุ่มอยู่เสมอ ดังนั้นเธอจึงพยายามทำทุกวิถีทางให้ทิชากรเข้าใจผิด
ความสวยสง่า โก้เก๋ และมีรสนิยมเดียวกันกับลมของชองแตลตอกย้ำให้ทิชากรเห็นความแตกต่างระหว่างเธอกับชายหนุ่มมากขึ้นทุกที ทิชากรรู้สึกแปลกแยกทุกครั้งที่ชองแตลแกล้งพูดเรื่องในอดีตของเธอกับวายุภัค รวมทั้งสังคมในฝรั่งเศสที่เธอไม่เคยเอื้อมถึง เพราะเธอเป็นแค่ลูกสาวหมอไสยธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น ทว่าในเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปีของไร่ วายุภัคอธิบายให้นักเขียนสาวได้รับรู้ถึงความรักและจริงใจที่เขามีต่อเธอและถือปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด
ทิชากรพยายามสืบหาว่าใครน่าจะเป็นคนสั่งหมอไสยให้ทำร้ายวายุภัค หากชายหนุ่มกลับยุ่งกับงานในไร่เพราะอยู่ในช่วงเทศกาลเก็บเกี่ยว หญิงสาวจึงขอความช่วยเหลือจากอัจจิมา ภรรยาของอัคนี และเฌอเอม คนรักของปฐพี สามสาวจึงบุกบ้านปิ่นมุก รวมทั้งตระเวนทั่วจังหวัดเพื่อหาหมอไสยดำ พวกเธอไม่พบคนที่ตามหา แต่กลับรับรู้เรื่องราวอีกอย่างที่น่าตระหนกไม่แพ้กัน นั่นคือกำนันทองได้ส่งคนคอยสะกดรอตามทิชากร เหมือนเช่นที่เขาให้สะกดรอยวายุภัคมาแล้ว หมอไสยดำรู้ว่าทิชากรตามหาเขา เขายังรู้อีกว่างานของเขาถูกขัดขวางทุกครั้งจากเธอ เขาจึงเบนเข็มมาจัดการทิชากรก่อน แล้วค่อยไปที่วายุภัค โดยขโมยกระพรวนข้อเท้าที่หญิงสาวใส่ประจำไปทำคุณไสย
ทิชากรฝันร้ายและอาการไม่ดี ในเวลาเดียวกับที่ไกรฤทธิ์โทรศัพท์มาเตือนว่าเธอกับวายุภัคมีเคราะห์หนักต้องรีบสวดมนต์แผ่เมตตาโดยไม่ออกไปไหน หญิงสาวรีบไปบอกวายุภัค แต่เขากำลังคร่ำเคร่งกับการทำไวน์อยู่กับชองแตล เขาจึงปฏิเสธและเข้าข้างชองแตลที่ตำหนิว่าทิชากรทำเหมือนเด็กไม่มีเหตุผล สองหนุ่มสาวมีปากเสียงกันรุนแรง ทิชากรโกรธและน้อยใจมาก เธอจึงไปสวดมนต์นั่งสมาธิคนเดียวเพื่อช่วยวายุภัค ทั้งยังให้รัก-ยมกับเจ้าที่ช่วยดูเขาตลอดเวลาด้วย
วันนั้นเองหญิงสาวได้จดหมายลึกลับให้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งถ้าต้องการช่วยวายุภัค เธอจึงรีบไปเพียงลำพังด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่ม แต่กลับพบหมอไสยดำที่รอคอยทำร้ายเธอให้กลายเป็นนางโหงพรายรับใช้ ขณะที่หญิงสาวกำลังจะเพลี่ยงพล้ำ เธอนึกคำสอนของบิดาให้สวดมนต์ เธอจึงทำตาม อานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัยและตะกรุดศักดิ์สิทธิ์ของพ่อจึงช่วยเธอให้รอด แต่ก็หมดสติ โดยมีผีเร่ร่อนในป่าช้าคอยวนเวียนรอจังหวะทำร้าย วายุภัครู้ข่าวว่าทิชากรหายตัวไปจากปฐพีและอัคนี พี่และน้องชายของเขา อัจจิมากับเฌอเอมช่วยเล่าความจริงว่าทิชากรทำอะไรมากมายเพื่อวายุภัคบ้าง ชายหนุ่มจึงสำนึกผิด และออกตามหาทิชากรโดยบุกบ้านกำนันทองเค้นความจริง พร้อมกับพี่น้องของเขา รวมทั้งเจ้าชายภูวเนศและองครักษ์ของพระองค์ซึ่งมาเมืองไทยพอดี กำนันทองยอมรับสารภาพว่าสะกดรอยตามจริง แต่ไม่ได้ทำร้ายทิชากร เขาบอกตำแหน่งสุดท้ายที่คนของเขาเห็นหญิงสาว ทั้งหมดจึงรีบตามไปทันที รัก-ยมบอกชายหนุ่มว่าทิชากรอยู่ในป่าช้าเก่า พวกเขาช่วยเธอออกมาได้โดยมีนางโหงพรายสามตนช่วยอีกแรง เนื่องจากทิชากรและวายุภัคได้แผ่เมตตาให้พวกมันมาตลอด
ระหว่างที่ทุกคนกำลังเครียดเพราะทิชากรอาการหนักและไม่ฟื้นเสียที ไกรฤทธิ์กับภรรยาก็มาถึงโรงพยาบาลอย่างไม่มีใครคาดฝัน ไกรฤทธิ์เปิดฉากต่อว่าวายุภัคที่ไม่เชื่อลูกสาวเขา และกีดกันชายหนุ่มตามประสาคนห่วงลูก หมอไสยดำใช้อำนาจคุณไสยทำร้ายทิชากรและวายุภัคอีก แต่ไกรฤทธิ์ไม่ยอมอยู่เฉยอีกแล้ว เขาใช้อาคมสู้กับหมอไสยดำ และให้รัก-ยมเอาหุ่นขี้ผึ้งวายุภัคและกระพรวนทิชากรกลับมาจนได้ ส่วนหมอไสยดำนั้นถูกนางโหงพรายทั้งสามฆ่าตายด้วยความแค้น โดยที่เขาตอบโต้ไม่ได้อีกแล้ว เนื่องจากอาคมที่มีเสื่อมไปหลังสู้กับไกรฤทธิ์
ทิชากรฟื้นคืนสติ แต่เธอไม่ยกโทษให้วายุภัค เพราะไม่กล้าเชื่อใจเขาอีกต่อไป ปฐพี อัคนี และทิพย์ธารา คู่แฝดของวายุภัคจึงช่วยกันวางแผนง้องอนให้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่แผนเอ อันแผนดี แผนอี จนหญิงสาวยอมใจอ่อน หลังใช้ไม้ตายส่งอัจจิมากับเฌอเอมไปเปิดเผยความลับว่าสาเหตุที่วายุภัคหมกมุ่นกับการทำไวน์จนละเลยทิชากรก็เพราะชายหนุ่มต้องการทำไวน์ที่เหมาะสมกับผู้หญิงสวยเก๋ ห้าวหาญ มุ่งมั่น และไม่น่าเบื่ออย่างทิชากร รวมทั้งจะส่งไวน์รุ่น ทิชากร นี้ เข้าประกวดรางวัลระดับโลก เพื่อเป็นของขวัญแต่งงานให้กับเจ้าสาวของเขา วายุภัคขอโทษทิชากรและคืนดีกันในที่สุด
สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ ปิ่นมุกและพ่อแม่ของเธอก็ติดต่อขอพบวายุภัคในวันหนึ่ง หลังจากได้รับข้อความจากทิชากร ปิ่นมุกขอโทษชายหนุ่มที่พ่อแม่ทำคุณไสยใส่เขาจนเป็นเรื่องเพราะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นพ่อของเด็กในท้อง ที่จริงแล้วพ่อของเด็กคือภานุผู้จัดการไร่ที่เจ้าชู้และชอบสอยผู้หญิงที่วายุภัคทิ้งมาเป็นกิ๊ก ทีแรกปิ่นมุกคิดว่าภานุจะจริงจังกับเธอ แต่เขาเจ้าชู้ไม่ต่างจากวายุภัคและยังซาดิสต์อีกต่างหาก เธอจึงหนีเขาไปไม่ให้เขารู้ว่าเธอท้องกับเขา อีกทั้งไม่ยอมรับเขาเป็นพ่อของลูกอีกด้วยเนื่องจากหวาดกลัว
ชองแตลโกรธที่วายุภัครักทิชากรมากจนไม่เหลือช่องว่างให้เธอ ที่ผ่านมาหญิงสาวฉวยโอกาสจากความเอาใจใส่งานของวายุภัคอยู่ใกล้ชิดเขา แต่เมื่อรู้ว่าลมไม่วันพัดกลับไปหาเธอ เธอจึงจากไปอย่างขัดเคือง วายุภัคสัญญากับทิชากรว่าเขาจะไม่เจ้าชู้อีก เพราะเห็นโทษของความเจ้าชู้ที่ทำให้เขาและคนที่เขารักเกือบตายมาแล้ว และที่สำคัญเขาได้พบที่ซึ่งลมจะหยุดพัดไปมาอย่างไม่มีจุดหมาย แต่จะพัดอย่างข้าง ๆ ปีกนกทิชากรเพียงคนเดียวเท่านั้น วายุภัคแต่งงานกับทิชากรหลังทำไวน์ที่เหมาะสมกับหญิงสาวได้สำเร็จ โดยกวาดรางวัลระดับโลกมากมายสมความตั้งใจ แต่เขายังไม่หยุดที่จะพัฒนาไวน์ใหม่ ๆ และสะสมถ้วยรางวัลให้เต็มห้อง ขณะที่ทิชากรเองก็มีฉากรักไว้เขียนในนิยายโรมานซ์ของเธอโดยไม่ติดขัดอีกเลย และหยุดการเป็นจอมขมังเวทย์ไว้เพียงเท่านั้น