วันหนึ่ง..
ฉันเดินชนคนแปลกหน้า .. ฉันเอ่ยขอโทษเพราะว่าไม่ตั้งใจ
เขากลับตอบ
"ขออภัย ผมเองไม่ทันเห็นคุณ "
เราต่างสุภาพ .. ถ้อยทีถ้อยอาศัยแสดงน้ำใจ แม้ไม่รู้จักกัน
แต่ที่บ้านเย็นวันนั้น
ฉันทำอาหารอยู่ในครัว
ลูกสาวตัวน้อยแอบมายืนข้างหลัง .. ไม่ทันระวังฉันหันกลับมาชนเธอล้มลง
ฉันดุใส่ "อย่ามายืนเกะกะ"
ลูกสาวเดินจากไป .. หัวใจเธอปวดร้าว…
เมื่อฉันหันกลับไปดูที่พื้นครัว .. ดอกไม้หลากสีที่ลูกอุตส่าห์เก็บมาหวังให้แม่แปลกใจ ตกเกลื่อนอยู่ทั่วไป
น้ำตาฉันใหล.. เหตุใดไม่แลเห็น
คืนนั้นฉันได้ยินเสียงกระซิบจากเบื้องลึกของหัวใจ
“กับคนแปลกหน้าเจ้าสุภาพได้ แต่กับลูกรักชิดใกล้ .. ทำไม .. ทำไมทำได้ลงคอ”
ฉันเพิ่งรู้ตัว
เลยค่อยๆ ย่องเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างเตียงลูก
"ตื่นเถิดคนดีดอกไม้นี่ลูกเก็บมาให้แม่หรือ"
ลูกตอบ
“ใช่ค่ะ..หนูเห็นดอกไม้บาน สวยงามเหมือนคุณแม่
รู้ว่าคุณแม่ต้องชอบโดยเฉพาะดอกสีน้ำเงิน"
ฉันตื้นตันใจนัก
“ลูกรัก..แม่ขอโทษจริงๆที่เอ็ดหนู"
"แม่จ๋า..ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..หนูรักแม่ "
"แม่ก็รักลูก..แม่ชอบดอกไม้ของหนูมาก..โดยเฉพาะสีน้ำเงินจ้ะ"
.....
หากเราตายจากไปในวันพรุ่งนี้
อีกไม่กี่วันนายจ้างก็หาคนใหม่มาทำแทนได้
แต่ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังอาจโศกเศร้าไปชั่วชีวิต
ลองคิดดูว่าคุ้มไหมหากเราจะทุ่มเทตัวเองให้กับงานมากกว่าครอบครัว
รู้ไหมคำว่าFAMILY ย่อมาจาก FATHER AND MOTHER I LOVE YOU.
ให้เวลากับพ่อ-แม่ของคุณมากขึ้นยามท่านแก่ตัวลง
รู้จักแบ่งเวลาให้กับงาน และคนที่บ้านให้สมดุลกัน
หากมีใครมาบอกให้จัดความสำคัญเสียใหม่
จงย้อนถามกลับไปว่าครอบครัวสำคัญน้อยกว่าหรือไร?....