du_sit on December 01, 2010, 04:15:00 AM

เชฟโรเลต แคปติวา หัวใจขับเคลื่อนใหม่ เร้าใจกว่าเดิม



      


เชฟโรเลต เปลี่ยนหัวใจขับเคลื่อนใหม่ให้ แคปติวา รถเอนกประสงค์สุดล้ำ เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ เร้าใจด้วยเครื่องยนต์รุ่นใหม่ บล็อก 4 สูบแถวเรียง ความจุกระบอกสูบ 2.4 ลิตร DOHC พร้อมระบบ Double CVC หรือแคมชาฟท์แปรผันคู่ต่อเนื่อง ที่สามารถปรับเปลี่ยนท่อไอดีและไอเสียได้ตามรอบเครื่องยนต์ เพิ่มสมรรถนะและความประหยัดได้เป็นอย่างดี    

เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร Double CVC ใหม่เอี่ยมของแคปติวารุ่นพิเศษนี้ ผ่านการทดสอบอย่างหนักตามมาตรฐานของจีเอ็ม และเชฟโรเลต ที่เรียกว่า Global Engine Durability (GED) โดยถูกติดตั้งอยู่ในรถแคปติวา แล้ววิ่งทดสอบในสภาพอากาศและสภาพถนนที่แตกต่างกันทั่วโลก ตั้งแต่ร้อนจัดจนถึงหนาวจัด เพื่อให้แน่ใจว่า แคปติวาที่ใช้ขุมพลังขับเคลื่อนใหม่นี้จะสามารถรองรับกับการใช้งานทุกรูปแบบเท่าที่จะเกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้    

นอกจากความทนทานแล้ว เครื่องยนต์ใหม่ของเชฟโรเลต แคปติวานี้ ยังให้ความเร้าใจด้วยพละกำลังสูงสุดถึง 165 แรงม้าที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตรที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อม DSC (Driver Shift Control) ที่ถือเป็นครั้งแรก และก้าวล้ำหน้ากว่ารถในระดับเดียวกัน

โดยระบบขับเคลื่อของแคปติวารุ่นพิเศษ มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา (All-Wheel Drive) พร้อมระบบเสริมแรงบิดอัจฉริยะ (Active Torque On Demand) ช่วยเสริมพละกำลังให้แก่ระบบขับเคลื่อนแบบ AWD จากการทำงานของคลัตช์แม่เหล็กไฟฟ้ากับคลัตช์แบบเปียกซึ่งจะทำหน้าที่ส่งกำลังสู่ระบบเฟืองท้ายเพื่อกระจายแรงบิดที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับเพลาล้อคู่หน้าและคู่หลัง ทั้งนี้เพื่อสร้างสมดุลและเสริมกำลังให้แก่สภาพการขับที่ที่แตกต่างกันออกไป

ไม่เพียงแต่ขุมพลังใหม่เท่านั้น แคปติวา รุ่นพิเศษนี้ ยังได้รับการติดตั้งระบบ 3DSS (3D Sound Stage) ระบบเครื่องเสียงเทคโนโลยีสามมิติจากยุโรปใหม่ล่าสุด ผู้โดยสารทุกที่นั่งจะได้สัมผัสกับคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมเหมือนกันในทุกที่นั่งจากลำโพง 6 ตัวในรุ่น ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 8 ตัวในรุ่น ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ถูกติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในปัจจุบัน โดยนอกจากเครื่องเล่นซีดี เอ็มพี-3 แล้ว แคปติวา รุ่นพิเศษนี้ยังถูกติดตั้งพอร์ทยูเอสบีเพิ่มเติม และสามารถเชื่อมต่อเครื่องเสียงด้วยระบบบลูทูธ ในรุ่น ขับเคลื่อน 4 ล้ออีกด้วย

สำหรับการออกแบบภายในห้องโดยสารของ แคปติวายังคงความหรูหราทันสมัยเต็มตัว เพิ่มความสดใหม่ด้วยแผงมาตรวัดเรืองแสงดีไซน์ใหม่ พร้อมความกว้างขวางสะดวกสบายจากเบาะโดยสาร 7 ที่นั่ง เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ราบลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร และเมื่อปรับเบาะแถวที่ 2-3 ให้เรียบในระดับเดียวกันจะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยสูงสุดถึง 930 ลิตร

ชุดช่วงล่าง หรือชุดกันสะเทือนของ เชฟโรเลต แคปติวา เป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท ที่ด้านหน้า และใช้ระบบช่วงล่างอิสระ 4-link ที่ด้านหลัง ให้การยึดเกาะถนนอย่างปลอดภัย และความนุ่มนวลเพื่อการขับขี่ที่รื่นรมย์ พร้อมเสริมความโดดเด่นที่เหนือชั้นกว่ารถเอนกประสงค์รุ่นใด ๆ ด้วยช่วงล่างแบบ Self-Levelizer ที่จะช่วยปรับระดับของช่วงล่างให้อยู่ในระนาบเดียวกัน เช่น เมื่อมีการบรรทุกสัมภาระที่ด้านท้ายรถ น้ำหนักที่ถ่วงท้ายก็จะทำให้หน้ารถเชิดขึ้น แต่ด้วยกลไกอัตโนมัติของ Self-Levelizer จะปรับระดับของช่วงล่างด้านหลังให้ยกสูงขึ้น เพื่อให้ระดับของด้านหน้ารถกับด้านหลังอยู่ในแนวขนานกับพื้นถนนเท่ากัน ซึ่งทำให้ไม่เกิดอาการหน้าเชิด ช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย มากยิ่งขึ้น