Gmail on November 24, 2010, 06:32:35 PM
ภาวะตลาดทองคำวันนี้ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2553   
 
 
          ข้อมูลทองคำวันนี้
          - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,200 - 19,300
          - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,360
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.92 – 29.95
          - GFZ10 Hi- Low 19,410 – 19,300 ปิดที่ 19,390
 
Gold Insight
 
          สัญญาทองคำตลาด COMEX
          ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,352.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 1,341 - 1,362.90 ดอลลาร์ จากนักลงทุนกังวลว่าจีนอาจจะใช้มาตรการควบคุมเงินเฟ้อเพิ่มเติมในวันข้างหน้า หลังจากประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองของธนาคารพาณิชย์เมื่อวานนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้ความต้องการทองคำลดน้อยลงด้วย
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          ปิดบวก 22.32 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 11,203.55 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 3.04 จุด หรือ 0.25% แตะที่ 1,199.73 จุด จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากบริษัท เดลล์ อิงค์ และมาร์เวลล์ เทคโนโลยีส์ รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าทางการจีนอาจจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับลง 34 เซนต์ ปิดที่ 81.51 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาเดือนธ.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วในวันศุกร์ที่ 19 พ.ย. เนื่องจากการที่จีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ทำให้นักลงทุนกังวลว่า จีนอาจใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงานด้วย
          กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 19 พฤศจิกายน ซื้อเข้า 3.04 ตันเปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,286.30 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,289.34 ตัน
          USD/EU ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) โดยยูโรทำสถิติแข็งค่าขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าปัญหาหนี้สาธารณะของไอร์แลนด์จะได้รับการบรรเทาผ่านความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3756 ดอลลาร์ต่อยูโร
          USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.08% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 83.430 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 83.500 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 83.45 เยนต่อดอลลาร์
          USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 29.93-29.96 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.91-29.94 บาทต่อดอลลาร์
 
ข่าวเศรษฐกิจโลก
          - ไบรอัน โคเวน นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ยืนยันว่า สหภาพยุโรป (อียู) อนุมัตให้รัฐบาลไอร์แลนด์ยอมรับความช่วยเหลือด้านการเงินจากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แล้ว โดยโคเวนกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลในเมืองดับบลิน ว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือไอร์แลนด์ในรูปเงินกู้ระยะ 3 ปีมีเงื่อนไขหลายข้อที่ไอร์แลนด์จะต้องดำเนินการตาม รวมถึงการปรับโครงสร้างภาคธนาคารและลดยอดขาดดุลงบประมาณ โคเวนเปิดเผยว่า การเจรจาครั้งนี้จะไม่รวมถึงเรื่องการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล 12.5% โดยคณะกรรมการผู้เข้าร่วมประชุมจะสรุปวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ไอร์แลนด์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะรวมถึงเงินช่วยเหลือหลายพันล้านยูโรจากกองทุนกลไกสร้างเสถียรภาพการเงินของยุโรป (EFSM) และเงินช่วยเหลือจากสำนักงานกำกับเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งโดยกลุ่มยูโรโซนและไอเอ็มเอฟเพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้สาธารณะลุกลามไปทั่วยุโรป
          - ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ กล่าวแสดงความคิดเห็นในวันนี้ว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือไอร์แลนด์จะช่วยแก้ปัญหาหนี้สาธารณะให้จบลงได้ หลังจากวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้สร้างความสั่นคลอนให้กับยุโรปเป็นเวลานานหลายเดือนโดยรายงานว่า ไกธ์เนอร์เชื่อมั่นว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่ปัญหาหนี้สาธารณะของไอร์แลนด์จะหมดไป หากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ไอร์แลนด์ และเมื่อปัญหาดังกล่าวหมดไปแล้ว ไอร์แลนด์ก็ไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากองค์กรทั้งสองแห่งอีก
          - จีนประกาศขึ้นเพดานสำรองของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% มีผลตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนเพิ่งมีคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์บางแห่งเพิ่มเพดานกันสำรองขึ้น 0.5% เพื่อพยายามควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การดำเนินการดังกล่าวของธนาคารกลางจีนจะลดปริมาณเงินสดที่ภาคธนาคารจะนำไปปล่อยกู้
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
 
  อาทิตย์ที่

19 – 22  พ.ย. 2553
 ข้อมูลที่น่าจับตา
 ตัวเลขเดิม
 ตัวเลข คาดการณ์
 ตัวเลขจริง
 
วันศุกร์
 ·   Fed Chairman Bernanke Speaks

·   ECB President Trichet Speaks
 -

-
 -

-
 -

-
 
วันจันทร์
 ·   ECB President Trichet Speaks

 
 -
 -

Gmail on November 24, 2010, 06:33:24 PM
สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธ ที่ 24 พฤศจิกายน 2553
 
          ทิศทางราคาทองคำ
          ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1362 เหรียญ ค่าเงินบาท 29.99 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.02 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19250 บาท กับ 19350 บาท GFZ10 เปิดที่ 19450 บาท และ GFG11 เปิดที่ 19510 บาท และ GF10Z10 เปิดที่ 19430 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19520 บาท SPDR ถือครอง 1285.08 ตัน (เท่าเดิม) ราคาน้ำมันปิดลบ 49 เซนต์ มาอยู่ที่ 81.25 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ลบ 142.21 จุด มาปิดที่ระดับ 11036.37 จุด
          ราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ในช่วงแคบๆโดยที่ในช่วงสายมีการปรับตัวสูงขึ้นไปทดสอบแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1366 เหรียญ และข่าวของการที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเกาหลีใต้บริเวณหมู่เกาะนอกพรหมแดนซึ่งส่งผลให้ค่าเงินบาทช่วงสายปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงจากระดับ 30.04-30.16 บาท/ดอลลาร์ และกลับมาปิดที่ระดับ 30.08 บาท/ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองคำในตลาดลอนดอนและComexเองค่อยๆปรับตัวสูงขึ้น โดยทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1365 เหรียญ ขึ้นมาทำให้เกิดแรงซื้อต่อเนื่องและราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1380 เหรียญ และกลับมาปิดที่ระดับ 1377 เหรียญ โดยที่ตลาดโลกยังให้ความกังวลกับภาวะความตรึงเครียดเกาหลีเหนือยังกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์เองแข็งค่าขึ้นในฐานะ safe heaven มาอยู่ที่ระดับ 1.3373 ดอลลาร์/ยูโร และกดดันทำให้เงินทุนต่างๆในเอเชียนั้นอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และค่าเงินเยนทรงตัวอยู่ที่ระดับ 83.26 เยน/ดอลลาร์ ราคาน้ำมันปิดลบ 49 เซนต์ มาอยู่ที่ 81.25 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ลบ 142.21 จุด มาปิดที่ระดับ 11036.37 จุด และตลาดหุ้นในเอเชียต่างๆติดลบ และตลาดหุ้นไทยลบ 9.72 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1009 จุด ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อวานก็มี ยอดขายบ้านมือสองซึ่งต่ำกว่าคาดอย่างมาก มาอยู่ที่ระดับ 4.43 ล้านหลัง ลดลงจากระดับ 4.49 ล้านหลัง และมี S&P ลดอันดับเครดิตไอซแลนด์สองขั้นจาก AA- ลดเป็น A โดยภาพรวมตลาดยังกังวลเกี่ยวกับความตรึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

          วิเคราะห์ทางเทคนิค
          ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นโดยทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1365 เหรียญได้ และทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1380 เหรียญ ราคาทองคำกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยอีกครั้งหนึ่ง โดยที่นักลงทุนในตลาดเข้าซื้อทองคำ0นฐานะSafe Heaven จากความตรึงเครียดของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ราคาทองคำน่าจะเริ่มเข้าสู่ภาวะขาขึ้นมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1400 เหรียญ แนวรับด้านล่างอยู่ที่ระดับ 1360 เหรียญ โดยแนวโน้มในระยะสั้นยังเป็นสัญญาณบวก Oscillator ยังเป็นบวก
          ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำ ปิดตลาดที่ระดับ 19300 บาท และ 19400 บาท
          ราคาทองคำแท่งของไทยจะมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 19400 บาท และมีแนวต้านที่ระดับ 19700 บาท
          สำหรับ GFZ10 จะมีแนวรับ 19650 บาท แนวต้าน 19800 บาท

          คำแนะนำ
          สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์ดีดตัวของราคาทองคำ
          นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) แนะนำให้ทยอยขายบ้าง หลังจากที่ถือครอง 60% ของ Port ตามที่เราได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ ยังคงรักษาระดับ Port 40-50%
          นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ยังคงเป็นลักษณะขายทำกำไรเล็กน้อย 3-5% ยังมองเป็นขาขึ้น แต่ให้ขายทำกำไร

          สรุปได้ว่า เราได้ย้ำแล้วว่า ไม่ควรถือสถานะ Short เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และหวังว่านักลงทุนคงจะไม่ได้ถือสถานะ Short แล้ว

บท วิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

Gmail on November 24, 2010, 06:35:13 PM
ภาวะตลาดทองคำวันนี้ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2553
 
 
          ข้อมูลทองคำวันนี้
          - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,450 - 19,550
          - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,376
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.05 – 30.08
          - GFZ10 Hi- Low 19,550 – 19,420 ปิดที่ 19,530
 
Gold Insight

          สัญญาทองคำตลาด COMEX
          ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 19.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,377.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,355.60-1,382.90 ดอลลาร์ เนื่องจากกระแสความตื่นตระหนกเกี่ยวกับปัญหาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้ส่งผลให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง แม้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นก็ตาม โดยในระหว่างวันสัญญาทองคำทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 วัน

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          ร่วงลง 142.21 จุด หรือ 1.27% ปิดที่ 11,036.37 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 17.11 จุด หรือ 1.43% ปิดที่ 1,180.73 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากเกาหลีเหนือได้ระดมยิงกระสุนปืนใหญ่หลายร้อยลูเข้าใส่เกาะยอนเปียงใกล้ชายแดนที่ติดกับเกาหลีใต้ เพื่อตอบโต้การซ้อมรบของเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ตลาดยังคงถูกกดดันจากรายงานยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงเกินคาดในเดือนต.ค. และความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป

          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ส่งมอบเดือนม.ค.ปิดลบ 49 เซนต์ แตะที่ 81.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินเฟ้อและราคาสินค้าภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยลบมากขึ้นจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอันเนื่องจากข่าวการยิงปะทะกันระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่บริเวณชายแดน

          กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 24 พฤศจิกายน ไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1,285.08 ตัน
          USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้เนื่องจากความตื่นตระหนกกับข่าวการยิงปะทะกันระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ขณะที่ค่าเงินยูโรยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ในยุโรป ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.85% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3373 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3625 ดอลลาร์สหรัฐโดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3405 ดอลลาร์ต่อยูโร
          USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.13% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 83.170 เยน จากระดับ 83.280 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 83.22 เยนต่อดอลลาร์
          USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.03-30.07 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.05-30.08 บาทต่อดอลลาร์
 
ข่าวเศรษฐกิจโลก
          - สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี เปิดเผย การเติบโตของเศรษฐกิจเยอรมนีมีจังหวะช้าลงในไตรมาสที่ 3 หลังโครงการก่อสร้างหลายแห่งเสร็จสิ้นลง แต่อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับที่ดีเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น ในขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
          - สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของไอร์แลนด์ลง 2 ขั้น สู่ระดับ A จากระดับ AA- และลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นของไอร์แลนด์ลงสู่ระดับ A-1 จากระดับ A-1+ โดยให้แนวโน้มเป็นลบ เนื่องจากการขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) อาจทำให้รัฐบาลไอร์แลนด์ต้องแบกรับภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
          - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ปรับเพิ่มการประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ครั้งที่ 2 เป็นขยายตัว 2.5% ต่อปี จากการประมาณการครั้งแรกที่ระดับ 2.0% ต่อปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.4% เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของยอดการส่งออก ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และตัวเลขการใช้จ่ายภาคเอกชน
          - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 2-3 พ.ย. โดยรายงานระบุว่า คณะกรรมการเฟดมีมุมมองที่เป็นลบมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ พร้อมกับปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงสู่ระดับ 2.4-2.5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 3-3.5% และคาดว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะขยายตัวที่ระดับ 3-3.5%
          - เกาหลีเหนือได้ระดมยิงกระสุนปืนใหญ่หลายร้อยลูกเข้าใส่เกาะยอนเปียงซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชายแดนติดกับเกาหลีใต้ โดยมีเป้าหมายที่จะตอบโต้การซ้อมรบของเกาหลีใต้ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าจะยิ่งทำให้ปัญหาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีรุนแรงขึ้น
          - สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.ร่วงลง 2.2% มาอยู่ที่ระดับ 4.43 ล้านหลัง/ปี จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 4.53 ล้านหลัง ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 4.49 ล้านหลัง โดยบ้านมือสองครอบคลุมถึงบ้านเดี่ยว อพาร์ทเมนท์ และคอนโดมิเนียม
          - รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 900,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.2%
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
 
  อาทิตย์ที่

23 – 24 พ.ย. 2553
 ข้อมูลที่น่าจับตา
 ตัวเลขเดิม
 ตัวเลข คาดการณ์
 ตัวเลขจริง
 
วันอังคาร
 ·   Prelim GDP

·   Existing Home Sales
 2.0%

4.53M
 2.3%

4.51M
 2.5%

4.43M
 
วันพุธ
 ·   Core Durable Goods Orders

·   Unemployment Claims

·   Core PCE Price

·   Durable Goods Orders

·   Personal Spending

·   Personal Income

·   Revised UoM Consumer Sentiment

·   New Home Sales

·   Crude Oil Inventories
 -0.4%

439K

0.0%

3.5%

0.2%

-0.1%

69.3

307K

-7.3M
 0.7%

434K

0.1%

0.2%

0.5%

0.4%

69.5

311K

-1.9M

Gmail on November 26, 2010, 05:58:49 PM
ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures Insight วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553
 
          คำแนะนำการลงทุน Gold Futures
          DAY TRADER
          GFZ10 ซื้อในช่วงราคา 19600 – 19620 ขายในช่วงราคา 19680 – 19700
          GFG10 ซื้อในช่วงราคา 19650 – 19670 ขายในช่วงราคา 19730 – 19750
          SWING TRADER
          ทิศทางทองคำโลกระยะยาวยังคงเป็นขาขึ้น โดยมีแนวรับที่1360เหรียญ และแนวต้านที่1385เหรียญ โดยวันนี้ตลาดCOMEXปิดทำการเนื่องจากThanks Giving Day คำแนะนำนักลงทุนรายวันเก็งกำไรในการแกว่งตัวของตลาด นักลงทุนรายสัปดาห์หาจังหวะซื้อบริเวณแนวรับ คงสถานะLong Positionที่ระดับ40-50%ของPortfolio GFZ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19550 รอขายที่ระดับ 19780
          GFG10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19620 รอขายที่ระดับ 19850
 
ปัจจัยสำคัญ
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.ร่วง 8.1% แตะระดับ 283,000 หลัง จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 308,000 หลังจาก ซึ่งร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 310,000 หลังในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซา อันเนื่องมาจากอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก รายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ราคาบ้านใหม่โดยเฉลี่ยในเดือนต.ค.อยู่ที่ 248,200 ดอลลาร์ ลดลง 8% โดยยอดขายบ้านใหม่ครอบคลุมถึง บ้านเดี่ยว อพาร์ทเมนท์ และคอนโดมิเนียม
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. ร่วงลง 3.3% ทำสถิติร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 2 ปี เนื่องจากภาคธุรกิจวางแผนลดการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าทุน นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ยังสะท้อนถึงภาวะซบเซาในภาคการผลิตของสหรัฐ
          กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 พ.ย. ร่วงลง 34,000 ราย แตะระดับ 407,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่รอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 10 ก.ค.2551 และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 435,000 ราย
 
GOLD Market Recap : 24/11/2010
          MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,375 $ ส่วน Gold Future z10 เปิดที่ 19,630 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 19,550 บาท ปรับขึ้น 150 บาท จากวันทำการก่อน ตลาดทองคำ (ราคาต่างประเทศ ) อยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยที่ผ่านมาราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ระดับ 1,424 $ และค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า โดยล่าสุดอยู่ที่30.08 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ ในช่วงเช้าราคาทองคำวิ่งอยู่ในกรอบ 1,372 - 1,377 $ สำหรับช่วงบ่าย ราคาทองคำต่างประเทศแกว่งตัว Side way up ทะลุแนว 1,380 $ Gold Future z10 ปิดตลาดที่ 19,680 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่ง ปรับขึ้น 50 บาท ปิดตลาดอยู่ที่ 19,600 บาท นักลงทุนซื้อขายทำกำไรอย่างหนาแน่นหลังจากที่ราคาทองคำเริ่มขยับตัวสูงขึ้น
          NIGHT RECAP : ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1376 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1372 - 1382 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1379 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1370 - 1381 เหรียญ และกลับมาปิดตลาดที่ 1373 เหรียญ
 
          สนใจลงทุนใน Gold Futures กับ MTS Gold Futures สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-222-5959

Gmail on November 26, 2010, 06:00:16 PM
สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดี ที่ 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 น.
 
          ทิศทางราคาทองคำ
          ราคาทองคำเปิดตลาดในวันพุธที่ระดับ 1375 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.05 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.08 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19450 บาท กับ 19550 บาท GFZ10 เปิดที่ 19630 บาท และ GFG11 เปิดที่ 19700 บาท สำหรับ GF10Z10 เปิดที่19640 บาท และ GF11G11 เปิดที่ 19690 บาท SPDR ถือครองเท่าเดิม 1285.08 ตัน น้ำมันบวก 2.61 เหรียญ/บาร์เรล มาปิดที่ระดับ 83.86 เหรียญ/บาร์เรล และดัชนีดาวโจนส์บวก 150.91 จุด มาปิดที่ระดับ 11187.28 จุด ราคาทองคำยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในตลาดเอเชียที่ระดับ 1380 เหรียญ มีแรงเทขายทำกำไรมาโดยตลอดทำให้ช่วงบ่ายราคาปรับลดลงมา ในตลาดลอนดอนเองราคาทองคำก็มีแรงเทขายทำกำไรเข้ามาโดยส่วน ใหญ่ซื้อขายบริเวณ 1374 และก็ลงไปทำต่ำสุดที่ระดับ 1368 เหรียญ โดยมีปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท ที่ระดับ 4231 คู่สัญญา เพิ่มขึ้น 10% และ Gold Futures 10 บาท อยู่ที่ระดับ 2639 คู่สัญญา เพิ่มขึ้น 34 % ราคาน้ำมันปิดบวก 2.61 เหรียญ/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 83.86 เหรียญ/บาร์เรล โดยตัวเลขเศรษฐกิจของเมื่อวานเป็นภาพบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ มีตัวเลข Jobless Claim ที่ออกมาลดลงกว่าที่คาด คนว่างงานน้อยลงเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 441000 ตำแหน่ง มาอยู่ที่ระดับ 407000 ตำแหน่ง และตัวเลข UOM Consumer Sentiment ออกมาดีเช่นกัน ส่วนที่ออกมาไม่ดีคือ Core Durable Goods Orders , Durable Goods Orders และ New Home Sales ดัชนีดาวน์โจนส์บวก 150.91 จุด ปิดที่ระดับ 11187.28 จุด ภาพรวมมองว่าเป็นการแข็งค่าขึ้นของเศรษฐกิจ และวันนี้เป็นวันขอบคุณพระเจ้า ตลาดนิวยอร์คจะปิด แต่ตลาดอิเล็คโทรนิคยังคงเปิดอยู่
 
          วิเคราะห์ทางเทคนิค
          ราคาทองคำยังทรงตัวอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั่วไปโดยมีแรงเทขายทำกำไรบริเวณ1380 ราคาทองคำเช้านี้อยู่ที่ 1370 ทองคำในระยะสั้นยังเป็นทิศทางกลับไปขาขึ้นโดยแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1385 และแนวรับอยู่ที่ระดับ 1360 เหรียญ ในระยะสั้นยังคาดว่าเป็นทิศทางขาขึ้น ซึ่งเป็นเพียงแรงเทขายทำกำไร ทองคำแท่งเมื่อวานปิดที่ระดับ 19500-19600 โดยที่ได้รับผลจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ที่ ประมาณ 30.07 ซึ่งเช้านี้ค่าเงินบาทก็ทรงตัวอยู่ทีเดิมทองคำแท่งไทยมีแนวรับที่ 19400 ต้านที่ 19700 บาท
Gold Futures Series Z มีแนวรับอยู่ที่ระดับ 19550 บาท และแนวต้านอยู่ที่ระดับ 19780 บาท
 
          คำแนะนำ
          สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัว ซึ่งวันนี้จะไม่มีตลาดComexตลาดน่าจะมีการเคลื่อนไหวไม่มากนัก
          นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) รอช้อนซื้อบริเวณแนวรับหลังจากเมื่อวานได้ขายไปบางส่วน port 40-50 %
          นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ยังคงรักษาPort ที่บริเวณ 40% ช้อนซื่อเมื่อราคาอ่อนตัวซื้อ ที่บริเวณแนวรับเท่านั้น

Gmail on November 26, 2010, 06:03:13 PM
ภาวะตลาดทองคำวันนี้ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553
 
          ข้อมูลทองคำวันนี้
          - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,450 - 19,550
          - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,369
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.06 – 30.08
          - GFZ10 Hi- Low 19,720 – 19,630 ปิดที่ 19,680
 
Gold Insight

          สัญญาทองคำตลาด COMEX
          ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,373.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,368.70-1,381.00 ดอลลาร์เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐและความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ที่เริ่มผ่อนคลายลงได้ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ ปลอดความเสี่ยง นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่อง ในวันขอบคุณพระเจ้า

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 150.91 จุด หรือ 1.37% ปิดที่ 11,187.28 จุด ปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค รายได้ส่วนบุคคล และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ และเชื่อมั่นว่ายอดการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีจะเพิ่มขึ้นด้วย

          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 2.61 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ระดับ 83.86 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังตัวเลขศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวจะช่วยหนุนความต้องการพลังงานให้เพิ่มขึ้นด้วย

          กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 25พฤศจิกายน ไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1,285.08 ตัน
          USD/EU
          ค่าเงินยูโรยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้ของไอร์แลนด์อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความเชื่อมั่นในยุโรป ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม วอลุ่มการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กค่อนข้างบางเบา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.33% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3327 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3371 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3328 ดอลลาร์ต่อยูโร
          USD/JPY
          ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.52% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.590 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 83.160 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 83.49 เยนต่อดอลลาร์
          USD/THB
          ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.02-30.06 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.05-30.08 บาทต่อดอลลาร์
 
ข่าวเศรษฐกิจโลก
          - สหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค.ร่วงเกินคาด 8.1%ระดับ 283,000 หลัง จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 308,000 หลังจาก ซึ่งร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 310,000 หลังในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงซบเซา อันเนื่องมาจากอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก· สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ร่วงเกินคาด 3.3% บ่งชี้ภาคการผลิตสหรัฐซบเซายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. ร่วงลง 3.3% ทำสถิติร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 2 ปี เนื่องจากภาคธุรกิจวางแผนลดการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าทุน นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.ยังสะท้อนถึงภาวะซบเซา ในภาคการผลิตของสหรัฐ
          - สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วลดลงเกินคาด 34,000 รายจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ร่วงลงเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยก่อนหน้านี้คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือนต.ค.ของสหรัฐยืนอยู่ที่ระดับ 98.1 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ย.ที่ระดับ 97.3 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในอีก 1-2 ไตรมาสข้างหน้ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น
          - ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: วิตกปัญหาหนี้ไอร์แลนด์กระทบเสถียรภาพยุโรป ฉุดเงินยูโรร่วงเทียบดอลล์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้ของไอร์แลนด์อาจส่งผลกระทบต่อ เสถียรภาพและความเชื่อมั่นในยุโรป ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
 
  อาทิตย์ที่

23 – 24 พ.ย. 2553
 ข้อมูลที่น่าจับตา
 ตัวเลขเดิม
 ตัวเลข คาดการณ์
 ตัวเลขจริง
 
วันพุธ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วันพฤหสับดี
 ·   Core Durable Goods Orders

·   Unemployment Claims

·   Core PCE Price

·   Durable Goods Orders

·   Personal Spending

·   Personal Income

·   Revised UoM Consumer Sentiment

New Home Sales

·   Crude Oil Inventories

 

วันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
 -0.4%

439K

0.0%

3.5%

0.2%

-0.1%

69.3

307K

 

-7.3M
 0.7%

434K

0.1%

0.2%

0.5%

0.4%

69.5

311K

 

-1.9M               
 -2.70%

407K

0.00%

-3.30%

-0.40%

0.50%

71.60

283K

 

1.00M

Gmail on November 26, 2010, 06:04:47 PM
สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 น.
 
 
          ทิศทางราคาทองคำ
          ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1370 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.05 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.08 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19450 บาท กับ 19550 บาท GFZ10 เปิดที่ 19590 บาท และ GFG11 เปิดที่ 19630 บาท และ GF10Z10 เปิดที่ 196000 บาท และ GF10G11 เปิดที่ 19660 บาท SPDR ถือครอง 1285.08 ตัน (เท่าเดิม) ราคาน้ำมันและตลาดดาวโจนส์ปิดทำการเนื่องจากเป็นวันขอบคุณพระเจ้า
          โดยที่ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures มีปริมาณลดลงอย่างมาก ประมาณ 65% เนื่องจากราคาค่อนข้างทรงตัว ราคาในตลาดเอเชียเคลี่อนไหวในช่วง 1370 - 1373 เหรียญ เนื่องจากเป็นวันขอบคุณพระเจ้า ทำให้ตลาด Comex หยุดทำการ ราคาไม่ค่อยเคลื่อนไหวนัก ในตลาดลอนดอนเองมีการเคลื่อนไหวของราคาเล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวในช่วง 1370 - 1374 เหรียญ แล้วตลาดปิดเมื่อคืนที่ 4 ทุ่ม โดยที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในเช้านี้ที่ระดับ 83.80 เหรียญ/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนปิดทำการ โดยที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อวานไม่มี แต่มีข่าวที่จีนกับรัสเซียมีการตกลงกันในเชิงทวีภาค ในการซื้อขายระหว่างกัน โดยจะใช้เงินสกุลเงินของสองประเทศไม่ใช่เงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และถ้าหากลามไปถึงประเทศตะวันอ อกกลางในการซื้อขายน้ำมัน ก็จะทำให้กดดันราคาดอลลาร์ ให้กลับมาอ่อนค่าอย่างรุนแรง ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้น เพราะว่าอิหร่านเคยพูดเรื่องนี้มาแล้ว

          วิเคราะห์ทางเทคนิค
          ราคา ทองคำยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับล่างอยู่ที่ระดับ 1360 เหรียญ แนวต้านด้านบนอยู่ที่ระดับ 1380 เหรียญ โดยภาพรวมในสัญญาณต่างๆเริ่มกลับมาเป็นสัญญาบวก คงต้องรอความชัดเจนของตลาด Comex ที่จะเข้ามาซื้อขายในวันนี้
ราคาทองคำแท่ง มีแนวรับอยู่ที่ระดับ 19400 บาท และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 19700 บาท
Gold Futures Series Z มีแนวรับอยู่ที่ระดับ 19550 บาท และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 19750 บาท

          คำแนะนำ
          สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัว ซึ่งจะเห็นว่าเมื่อวานราคาไม่แกว่ง ทำอะไรได้ไม่มากนัก
          นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) ยังเป็นลักษณะการช้อนซื้อขายทำกำไรสลับกันที่บริเวณแนวรับแนวต้าน ถือครอง port ที่ระดับ 40 - 50 %
          นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ยังเป็นการถือครอง port ประมาณ 40%

          บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

Gmail on November 26, 2010, 06:07:50 PM
ภาวะตลาดทองคำวันนี้ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2553 
 
          ข้อมูลทองคำวันนี้
          - ราคาสมาคม เปิดที่ 19,450 - 19,550
          - ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,372
          - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.07 – 30.11
          - GFZ10 Hi- Low 19,620 – 19,570 ปิดที่ 19,590
 
Gold Insight
         
          สัญญาทองคำตลาด COMEX
          ตลาดปิดทำการเนื่องมาจากเป็นวันขอบคุณพระเจ้า

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
          ตลาดปิดทำการเนื่องมาจากเป็นวันขอบคุณพระเจ้า
         
          สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
          ตลาดปิดทำการเนื่องมาจากเป็นวันขอบคุณพระเจ้า

          กองทุน SPDR Gold Trust
          กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 26 พฤศจิกายน ไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1,285.08 ตัน
          USD/EU ค่าเงินดอลล่าร์อยู่ที่ 1.3338 ต่อ ยูโร
          USD/JPY ค่าเงินเยน อยู่ที่ 83.78 เยน ต่อ ดอลล่าร์สหรัฐ
          USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.05-30.08 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.07-30.11 บาทต่อดอลลาร์
 
ข่าวเศรษฐกิจโลก
          - มิเชล บาร์นิเยร์ โฆษกฝ่ายกิจการตลาดต่างประเทศของคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะทำการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปเป็นรายปี โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป หลังจากวิกฤตในภาคธนาคารของไอร์แลนด์ส่งผลให้รัฐบาลไอร์แลนด์ต้องขอความช่วยเหลือจากอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) บาร์นิเยร์กล่าวว่า การทดสอบภาวะวิกฤตธนาคารพาณิชย์ของยุโรปจะมีขึ้นทุกปี โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นไป และจะดำเนินการทดสอบโดยสำนักงานกำกับดูแลด้านการธนาคารแห่งยุโรป (European Banking Authority) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ เพื่อรับผิดชอบในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน โดยบาร์นิเยร์ระบุว่า ขั้นตอนการทดสอบภาวะวิกฤตรายปีจะได้รับการปรับปรุงให้มีความเหมาะสมมากขึ้น
          - สำนักปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า จีนมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 1.023 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ พุ่งขึ้น 1.03 เท่าจากปีที่แล้ว บ่งชี้ว่าจีนกำลังได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากเงินทุนไหลเข้าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของจีนลดลง 8% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 1.242 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับในไตรมาส 2 ไตรมาสเดียวยอดเกินดุลอยู่ที่ 7.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ พุ่งขึ้น 30% เมื่อเทียบรายปี
          - นายกรัฐมนตรีจีน เวิน จยาเป่า และนายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศ ณ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย ว่าจะใช้สกุลเงินตราของตนเองในการค้าแบบทวิภาคี แทนที่เงินดอลลาร์สหรัฐ ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจของจีนเผยว่า ข้อตกลงดังกล่าวสะท้อนความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างจีน-รัสเซีย โดยไม่ได้ประสงค์จะต่อต้านท้าทายเงินดอลลาร์สหรัฐ เพียงแต่ทำเพื่อปกป้องเศรษฐกิจภายในของจีนและรัสเซีย นายกฯ ปูติน ชี้ว่า “ในระดับทวิภาคี เรา (จีน-รัสเซีย) ได้ตัดสินใจใช้สกุลเงินของพวกเราเอง” นานมาแล้วที่ทั้งจีนและรัสเซียต่างก็ใช้สกุลเงินตราต่างประเทศในการค้าทวิภาคี โดยเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐ จนกระทั่งเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งจีนและรัสเซีย ก็เริ่มพิจารณาว่า นอกจากการพึ่งพาเงินดอลลาร์แล้ว จะมีความเป็นไปได้อื่น ๆ อีกหรือไม่ ปูตินกล่าวว่า ขณะนี้ได้เริ่มมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินหยวนกับเงินรูเบิลของรัสเซีย ระหว่างธนาคารในจีนแล้ว ขณะที่เงินหยวนก็จะได้รับอนุญาตให้เข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนกับเงินรูเบิลใน ประเทศรัสเซียได้ในไม่ช้านี้
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
 
  อาทิตย์ที่

26  พ.ย. 2553
 ข้อมูลที่น่าจับตา
 ตัวเลขเดิม
 ตัวเลข คาดการณ์
 ตัวเลขจริง
 
วันศุกร์
 ·   ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจ
 -
 -