ภาวะตลาดทองคำวันนี้ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2553
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 19,350 - 19,450
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,391
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.64 – 29.67
- GFZ10 Hi- Low 19,600 – 19,500 ปิดที่ 19,510
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งสูงขึ้น 14.60 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,397.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยในระหว่างวันสัญญาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ 1,371.90 - 1,398.70 ดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศอัดฉีดเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้น จะทำให้เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในช่วงขาลง ซึ่งการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะเป็นปัจจัยหนุนที่กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาซื้อขายในตลาดทองคำมากขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปิดเพิ่มขึ้น 9.24 จุด หรือ 0.08% แตะที่ 11,444.08 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.79 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 1,225.85 จุด เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่ขยายตัวดีเกินคาดในเดือนต.ค.
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 36 เซนต์ ปิดที่ 86.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 85.96 - 87.43 ดอลลาร์ จากปัจจัยหนุนของการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ขยายตัวดีเกินคาดในเดือนต.ค.
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 8 พ.ย. ขายออก 0.42 ตันเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองจากระดับ 1,292.19 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,291.77 ตัน
USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่พุ่งสูงขึ้นเกินคาดในเดือนต.ค. เงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นกว่า 1% เมื่อเทียบกับเงินยูโร ส่งผลให้เงินยูโรอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 1.4031 ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3991 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.67% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.250 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 80.710 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 81.34 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 29.63-29.67 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.64-29.67 บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผย ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐพุ่งขึ้น 151,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ส่วนอัตราว่างงานยังคงทรงตัวในระดับเดิมที่ 9.6% รายงานของกระทรวงระบุว่า ตัวเลขจ้างงานของบริษัทเอกชนในสหรัฐเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยอัตราการจ้างงานภาคเอกชนที่พุ่งสูงขึ้น 159,000 ตำแหน่ง สามารถชดเชยตัวเลขจ้างงานภาครัฐที่ปรับตัวลดลง 8,000 ตำแหน่งได้ นอกจากนี้ ตัวเลขจ้างงานที่มีการเปิดเผยออกมาล่าสุดนี้ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 60,000 ตำแหน่ง
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ใช้งบประมาณจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2.1249 ล้านล้านเยน (2.614 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยการเทขายเงินเยนและเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน
- วูลฟ์กัง ชูเบิล รมว.คลังเยอรมนีกล่าวแสดงความคิดเห็นว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ด้วยการอัดฉีดเงินซื้อพันธบัตร 6 แสนล้านดอลลาร์นั้น จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามเป้าหมาย แต่กลับจะสร้างปัญหามากขึ้น"ผมคิดว่าการที่สหรัฐตัดสินใจใช้มาตรการ QE2 ถือเป็นความสูญเปล่า การอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบสูงถึง 6 แสนล้านดอลลาร์ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้ ปัญหาที่ชาวอเมริกันเผชิญอยู่ในเวลานี้คืออัตราว่างงานที่สูงมาก ผมได้แต่คาดหวังว่ารัฐบาลสหรัฐจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยเร็ว" ชูเบิลกล่าว นอกจากนี้ นายชูเบิลกล่าวว่า ทางการเยอรมนีจะหารือเรื่องการใช้มาตรการ QE2 กับเจ้าหน้าที่สหรัฐในการประชุมสุดยอด G20 ที่เกาหลีใต้สัปดาห์หน้านี้ โดยจะหารือทั้งในระดับทวิภาคีและหารือในที่ประชุม
- ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผย ยอดการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคสหรัฐในเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% แต่ยอดการกู้ยืมในไตรมาส 3 ปีนี้ หดตัวลง 1.5% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคลดการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจและความวิตกกังวลที่มีต่ออัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผย ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ของสหรัฐปรับตัวลดลง 1.8% ในเดือนก.ย.มาอยู่ที่ระดับ 80.9% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2% หลังจากที่ดัชนีขยายตัวต่อเนื่องมา 2 เดือนก่อนหน้านี้ โดยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายปรับตัวลดลงในทุกภูมิภาคของสหรัฐ ยกเว้นทางภาคตะวันตกของประเทศ
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) สรุปรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการซื้อสินทรัพย์วงเงิน 5 ล้านล้านเยนซึ่งที่ประชุมได้อนุมัติไปเมื่อเดือนต.ค.เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป บีโอเจจะเริ่มซื้อพันธบัตรรัฐบาลในช่วงต้นของสัปดาห์หน้า และสินทรัพย์อื่นๆหลังจากนั้น โดยบีโอเจตัดสินใจที่จะซื้อกองทุน exchange-traded funds หรือ ETF ที่เกี่ยวพันกับดัชนี Topix และดัชนีนิกเกอิ และจะซื้อกองทุน real estate trust funds หรือ REITs ที่ได้รับการจัดอันดับที่ AA หรือสูงกว่านั้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บีโอเจจะเข้าซื้อสินทรัพย์ทางการเงินที่อาจจะขาดทุนได้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่
5 – 8 พ.ย. 2553
ข้อมูลที่น่าจับตา
ตัวเลขเดิม
ตัวเลข คาดการณ์
ตัวเลขจริง
วันศุกร์
· Non-Farm Employment Change
· Unemployment Rate
· Pending Home Sales
· Fed Chairman Bernanke Speaks
-95K
9.6%
4.3%
-
63K
9.6%
3.2%
-
151K
9.6%
-1.8%
-