เลือกป้อนนมแพะ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยแสนรัก โดย นพ.ธวัชชัย อรุณเรืองรัศมี กุมารแพทย์ โรงพยาบาลรามคำแหง
นมแพะ เริ่มมีการนำมาบริโภคกันตั้งแต่ ยุคกรีกโบราณ ด้วยเชื่อว่า โปรตีนในนมแพะจะทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายดีขึ้น โดยพบว่ามีคนป่วยจำนวนมาก ฟื้นจากอาการป่วยได้เร็วจากดื่มนมแพะ ที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะนมแพะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีขนาดเม็ดไขมันที่เล็ก จึงสามารถย่อยได้ง่าย หลังจากดื่มนมเพียงประมาณ 20 นาที ร่างกายก็สามารถย่อยและดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที การที่สารอาหารในนมแพะถูกย่อยและดูดซึมได้ง่ายนี้ ร่างกายจึงนำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่นั่นเอง
ปัจจุบัน นมแพะ ได้รับความนิยมนำมาเลี้ยงดูทารกมากขึ้น โดยเฉพาะคุณแม่สมัยใหม่ที่มีความรู้ และพยายามสรรหาสิ่งที่มีคุณประโยชน์ให้กับลูก จากการศึกษาวิจัยพบว่า เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง นมแพะผง กับ นมแม่ นมแพะ ถือได้ว่ามีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงนมแม่มากที่สุด โดย นมแม่ มีสารอาหารครบถ้วนและดีที่สุดสำหรับลูกน้อย เนื่องจากในนมแม่มีโปรตีนที่ย่อยง่าย ย่อยได้เร็ว และถูกย่อยได้ทั้งหมด ร่างกายของลูกน้อยจึงสามารถนำไปใช้ในการเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ นมผงที่เตรียมจากนมแพะมีปริมาณแอลฟ่า เอสวัน เคซีน (Alpha-S1 casein) น้อยกว่านมวัวอย่างมีนัยสำคัญ (3% เทียบกับ 26%) ยิ่งไปกว่านั้น จากผลงานวิจัยในเชิงลึกพบว่าน้ำนมของแพะในนิวซีแลนด์มีปริมาณแอลฟ่า เอสวันเคซีนน้อยกว่าน้ำนมของแพะในแถบยุโรปและอเมริกาอีกด้วย โปรตีนชนิดนี้จะเปลี่ยนเป็นก้อนโปรตีนที่ถูกย่อยได้ยากเมื่อสัมผัสกับกรดในกระเพาะอาหาร การที่นมแพะมีปริมาณโปรตีนแอลฟ่า เอสวันเคซีนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับนมวัว แสดงถึงก้อนโปรตีนที่อาจเกิดจากนมแพะมีขนาดเล็กและความนุ่มมาก กว่าก้อนโปรตีนที่เกิดขึ้นจากนมวัว ดังนั้นทารกและเด็กเล็กที่ได้รับนมผงที่เตรียมจากนมแพะจึงสามารถย่อยโปรตีนได้ง่ายและรวดเร็วกว่า
นมแพะยังประกอบด้วยอนุภาคไขมันที่มีขนาดเล็กกว่าอนุภาคไขมันในนมวัว เอนไซม์สามารถแตกสลายอนุภาคไขมันได้ง่ายกว่า และทำให้ย่อยได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังมีกรดไขมันสายยาวปานกลาง (Medium Chain Triglycerides,MCT) สัดส่วนสูง เนื่องจากน้ำย่อยไลเปสสามารถย่อยสลายอาหารที่ประกอบด้วยกรดไขมันสายยาวปานกลางให้เป็นกรดไขมันอิสระ ดังนั้นทารกและเด็กเล็กที่ได้รับจากนมผงที่เตรียมจากนมแพะจึงสามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ง่ายและรวดเร็วกว่านมผงดัดแปลงจากนมวัว และจากการที่ นมแพะ มีปริมาณของโปรตีนแอลฟ่า เอสวันเคซีนที่น้อยมาก จึงทำให้มีคุณสมบัติช่วยส่งเสริมให้ร่างกายทารกมีประสิทธิภาพการย่อยสารอาหารโปรตีนชนิดอื่นได้มากขึ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงในการพัฒนาภาวะภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ นมแพะ ยังมีนิวคลีโอไทด์ (Natural Nucleotide) 5 ชนิดคล้ายกับในนมแม่ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและลดการเกิดการแพ้อาหาร มีสารโพลีเอมีนส์ (Polyamines) เหมือนนมแม่ ช่วยลดปฎิกิริยาของการแพ้อาหารมี โกรทแฟคเตอร์ (Growth factor) ชนิดไอจีเอฟวัน (IGF-1) และทีจีเอฟ เบต้า (TGF- β) ช่วยให้เกิดการพัฒนาของระบบลำไส้และการย่อยสมบูรณ์ พร้อมทั้งเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ครบถ้วน การที่นมแพะประกอบด้วยสารนิวคลีโอไทด์จำนวนมาก ช่วยทำหน้าที่ในการป้องกันต่อเชื้อแบคทีเรียไวรัส และปรสิตในทางเดินอาหาร ช่วยให้แบคทีเรียมีประโยชน์ชนิดบิฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria) ในลำไส้ของทารกเพิ่มจำนวน แต่จำกัดการเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียแกรมลบที่ก่อให้เกิดโรคชนิดเอนเทอโรแบคทีเรีย (Enterobacteria) ดังนั้น จึงนับได้ว่านมแพะมีคุณค่าของสารอาหารและคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับนมแม่ เป็นทางเลือกใหม่ที่ผสมผสาน 3 คุณค่าอย่างครบถ้วนเพื่อลูกน้อย ในกรณีที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมลูกน้อยได้อย่างเพียงพอ
อย่างไรก็ตาม นมแม่ ถือเป็นนมที่ดีที่สุดของทุกๆ ชีวิต แต่ในกรณีที่มีความจำเป็น ต้องให้ผลิตภัณฑ์ทดแทน ควรเลือกโดยคำนึงถึงคุณลักษณะของนลองมแม่เป็นหลัก นมผงที่เตรียมจากนมแพะ ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับพัฒนาการที่สมบูรณ์ตามวัยของลูกน้อยอันเป็นที่รัก สำหรับคุณแม่ที่สนใจศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับนมแพะเพิ่มเติม โดยไม่รู้จะเริ่มจากที่ไหนก่อนดี ก็ลองคลิกเข้าดูข้อมูลที่
www.dgsmartmom.com หรือติดต่อไปที่ ศูนย์โภชนาการนมแพะดีจี โทรศัพท์ 0-2683-3394-6 ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับนมแพะและแนะนำเกี่ยวกับเลี้ยงดูทารก แก่ประชาชนทั่วไป เพื่อจะได้มีข้อมูลที่มีประโยชน์ในการเลี้ยงดูบุตรต่อไป