KTAMเดินหน้าเปิดขายทริกเกอร์ฟันด์2 หลังกองแรกปิดเร็วเกินคาดลูกค้ารับ10%
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย10 เอ็ม 10% ทริกเกอร์ ฟันด์ ( KT-Trigger1 ) เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา บริษัทสามารถบริหารกองทุนตราสารทุนให้ผลตอบแทน10% ภายในระยะเวลาก 2 เดือนกว่า เท่านั้น ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ในโครงการ และในโอกาสนี้ ยังเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุนในกองทุนประเภทดังกล่าว บริษัทจึงเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทย 10 เอ็ม10% ทริกเกอร์ ฟันด์2 ( KT-Trigger2 ) ระหว่างวันที่ 14 - 27 กันยายน 2553 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท อายุประมาณ 10 เดือน หรืออายุอาจต่ำกว่า 10 เดือน หากเกิดเหตุตามเงื่อนไขการเลิกกองทุน ในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 11.00 บาท ขึ้นไป เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน จากมูลค่าหน่วยลงทุน ในช่วง IPO ที่ราคา 10.00 บาทต่อหน่วย
โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบุญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจสูง และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง เงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารการเงิน และเงินฝาก ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่คณะกรรมการก.ล.ต.กำหนด
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า กองทุนนี้จะมีการบริหารแบบ Active Management มีการจับจังหวะในการลงทุน (Market Timing) และเลือกหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต ประกอบกับมีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ (Asset Allocation) สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นคาดว่าแนวโน้มในอีก 10 เดือนข้างหน้าดัชนีจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลมาจากเศรษฐกิจไทยที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โครงการลงทุนภาครัฐต่างๆ ที่สนับสนุนภาคธุรกิจทั้งระบบ แนวโน้มการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศ นอกจากนี้มูลค่าหุ้นในประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ หุ้นหลายตัวมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะซื้อขายกันที่ระดับ 1,100จุด คิดเป็น P/E ratio 12.5x ในปี 2554 จึงคาดว่ากองทุนดังกล่าว มีโอกาสสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ได้
ทั้งนี้ นอกจากบริษัทจะมีการเปิดจำหน่ายกองทุนที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับตามความต้องการของลูกค้าแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญในเรื่องการให้บริการที่ดี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าอีกด้วย โดยการขยายเวลาการซื้อขายหน่วยลงทุนกองทุนประเภทมันนี่มาร์เก็ต จากเดิมตั้งแต่8.30 – 14.00 น. เปลี่ยนเป็น ตั้งแต่เวลา 8.30 - 15.30 น. ประกอบไปด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยสะสมทรัพย์ ( KTSS ) กองทุนเปิดกรุงไทยเซฟวิ่งฟันด์ ( KTSV ) และกองทุนเปิดกรุงไทยตลาดเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ ( RMF4) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2553 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ลูกค้าทุกกองทุนที่มีการขายคืนหน่วยลงทุน จะได้รับเงินคืนเร็วขึ้น จากเดิมได้รับเงินคืนในเวลาประมาณ 12.00 น. เปลี่ยนเป็น ได้รับเงินคืนในเวลา 10.00 น. ตามวันที่กำหนดในแต่ละกองทุน