ยูเนสโกจับมือ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล และ กรมศิลปากร
ร่วมปลูกจิตสำนึกอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำ ผ่านนิทรรศการ “รู้รักษ์พิทักษ์มรดกใต้ทะเล”
หลายๆ คนอาจยังไม่ทราบว่าภายใต้ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ นอกจากจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตและพืชพรรณปะการังนานาชนิดแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม อาทิ ซากเรืออับปางและแหล่งโบราณคดีใต้น้ำอื่นๆ อีกมากมาย อันบ่งบอกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของเหล่าบรรพบุรุษที่มีคุณค่าและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันสิ่งล้ำค่าเหล่านั้นกำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงจากนักล่าสมบัติผู้ซึ่งขโมยโบราณวัตถุจากแหล่งโบราณคดีใต้น้ำต่างๆ และนำไปขายในตลาดมืด หรือบางคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็นำวัตถุล้ำค่าดังกล่าวไปเก็บไว้เป็นสมบัติของตนเอง ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และเป็นภัยคุกคามมรดกทางวัฒนธรรมที่ร้ายแรงที่สุด ทั้งนี้ การจัดนิทรรศการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำขององค์การยูเนสโก ซึ่งได้มีการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมทางโบราณคดีใต้น้ำขึ้นเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิคที่ประเทศไทย ในจังหวัดจันทบุรี โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลประเทศนอร์เวย์
ด้วยเหตุนี้ องค์การยูเนสโกประจำประเทศไทยจึงร่วมมือกับสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล และกรมศิลปากร จัดแสดงนิทรรศการแบบอินเตอร์แอคทีฟเรื่องมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำจากทั่วโลกอย่างเป็นทางการ ที่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ภายใต้ชื่อ “รู้รักษ์พิทักษ์มรดกใต้ทะเล” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิค ณ อุทยานสัตว์น้ำ สยามโอเชียนเวิร์ล บริเวณชั้น B1-B2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำ ต่อต้านการค้าโบราณวัตถุที่เก็บกู้ขึ้นมาจากใต้น้ำ และร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลเพื่ออนุชนรุ่นหลังต่อไป
งานแถลงข่าวเปิดตัวนิทรรศการแบบอินเตอร์แอคทีฟ “รู้รักษ์พิทักษ์มรดกใต้ทะเล” ได้รับเกียรติจากข้าราชการระดับสูงหลายท่าน อาทิเช่น นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมกับ ดร.ควาง-โจ คิม ผู้อำนวยการองค์การยูเนสโก กรุงเทพฯ พร้อมเหล่าตัวแทนคณะทูตานุทูตจากนานาประเทศ อาทิ ฯพณฯ อ้วน พมมะจัก เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย ฯพณฯ ดาโต๊ะ ฮุสนี ไซ บิน ยาโคบ เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย รวมถึงเหล่าดาราและเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมที่ชื่นชอบการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ อาทิ คุณจิ๊บ-อชิรญา อิงคตานุวัฒน์ วรวงศ์วสุ, คุณท๊อป-พีรยสถ์ ศิริเกียรติสูง, คุณอิ๊ค-อุรินทร์ พงษ์โสภณ คุณนาเดีย นิมิตรวานิช และ คุณจิตตินี จอมปรัชญา เป็นต้น
นิทรรศการแบบอินเตอร์แอคทีฟ “รู้รักษ์พิทักษ์มรดกใต้ทะเล” เริ่มต้นด้วยพิธีกรวัยรุ่นหน้าใหม่ วีเจ.ไมค์-ไมเคิล เคนเนท หว่อง และ คุณนีน่า-ลินินา พุทธิธาร ขึ้นกล่าวต้อนรับสื่อมวลชนเข้าสู่ สยาม โอเชี่ยนเวิร์ล ที่ถูกเนรมิตรให้กลายเป็นแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำที่แขกผู้มีเกียรติทุกท่านจะได้ดำดิ่งสู่ห้วงท้องทะเลลึกแห่งนี้ร่วมกัน หลังจากนั้นพิธีกรจึงกล่าวเชิญ คุณสกลภัส ปลูกจิตรสม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สยาม โอเชียน เวิร์ล กรุงเทพ จำกัด ให้เกียรติร่วมกล่าวถึงบทบาทของ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ในฐานะหนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดนิทรรศการครั้งนี้ว่า “ทางสยาม โอเชี่ยน เวิร์ล มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เด็กๆ จะได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำผ่านการแสดงโบราณวัตถุจริงที่ค้นพบจากแหล่งเรือจมต่างๆในประเทศไทย ภาพถ่ายแหล่งโบราณคดีใต้น้ำจากทั่วโลก นอกจากนี้ ยังได้สัมผัสกับแบบจำลองซากเรืออับปางของไทยที่มีขนาดเท่าของจริง และสร้างเสริมประสบการณ์การเป็นนักโบราณคดีตัวน้อยจากการเรียนรู้ขั้นตอนในการสงวนรักษาโบราณวัตถุ พร้อมการร่วมเล่นเกมทายชนิดของโบราณวัตถุที่อยู่ในกล่องปริศนา และเครื่องเล่นอื่นๆนานาชนิด”
จากนั้น ดร. ควาง-โจ คิม ผู้อำนวยการองค์การยูเนสโก กรุงเทพฯ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดนิทรรศการว่า “องค์การยูเนสโกต้องการเรียกร้องความร่วมมือจากนานาประเทศในการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำเพื่อที่เราจะได้ส่งต่อให้คนรุ่นหลังต่อไป” พร้อมเปิดตัวงานนิทรรศการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ คณะผู้จัดงานทั้งหมดหวังว่านิทรรศการในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจและร่วมกันปกป้องมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำอันล้ำค่าของเรามากยิ่งขึ้น
และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนรอคอยกับโชว์ไฮไลท์เปิดงานด้วยการสาธิตขั้นตอนการทำงานของนักโบราณคดีใต้น้ำ ที่ดำลงไปเก็บกู้โบราณวัตถุใต้ทะเลให้ได้ชมกันแบบสดๆ เพื่อให้สื่อมวลชนและผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์การเก็บกู้มรดกทางวัฒนธรรมอย่างผู้เชี่ยวชาญกันอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะนำขบวนแขกผู้มีเกียรติทุกท่านเดินชมงานนิทรรศการที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ภายในอควาเรียม ซึ่งผลงานชิ้นโดดเด่นที่ตั้งตระหง่านดึงดูดสายตาทุกคนนั้น เห็นจะเป็นแบบจำลองซากเรืออับปางขนาดเท่าของจริง “แหล่งเรือเสม็ดงาม” ที่จมอยู่ในน่านน้ำไทย พร้อมเติมเต็มบรรยากาศภายในอควาเรียมให้น่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้นด้วย บอร์ดภาพถ่ายแสดงผลงาน (Photo Exhibition Boards)และโชว์เคสจัดแสดงโบราณวัตถุของจริง ซึ่งค้นพบจากแหล่งเรือจมต่างๆ ที่ค้นพบในน่านน้ำของไทย อาทิ เครื่องปั้นดินเผา ทั้งที่เป็นของไทย เครื่องเคลือบลายครามของจีน เครื่องเคลือบของเวียดนาม และยุโรป โบราณวัตถุประเภทโลหะ เช่น เครื่องมือต่างๆ อาวุธ เครื่องประดับ เป็นต้น และนอกเหนือจากสินค้าแล้ว ยังพบผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น ไข่ เม็ดพริกไทย และมะขาม อยู่ในแหล่งเรือจมต่างๆ อีกด้วย ซึ่งนอกจากทุกท่านจะได้รับสาระความรู้ที่อัดแน่นอยู่ในนิทรรศการแล้ว ยังสามารถสนุกสนานกับความบันเทิงจากเกมต่างๆ พร้อมร่วมถ่ายรูปน่ารักๆ ภายในบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด
นอกจากนี้ ยังเอาใจคุณน้องๆ หนูๆ ให้ได้ลองสัมผัสประสบการณ์ในการเป็นนักโบราณคดีตัวน้อย ด้วยการเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมสร้างเสริมจินตนาการ ด้วยการสวมบทบาทนักขุดค้นมือฉมัง ลงมือขุดค้นหาซากวัตถุโบราณจากใต้ทะเลกันจริงๆ พร้อมสนุกกับสาระความบันเทิงแบบอินเตอร์แอคทีฟอีกมากมาย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์และการเรียนรู้ผ่านการจัดแสดงด้วยความคิดสร้างสรรค์ เช่น เกม Mystery Box กล่องปริศนาทายชนิดของโบราณวัตถุที่อยู่ด้านในจากการสัมผัส พร้อมข้อมูลของโบราณวัตถุชนิดต่างๆ, Lab Setup ห้องแล็บจำลองขั้นตอนการสงวนรักษาโบราณวัตถุ ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจสอบสภาพของโบราณวัตถุ / การทำความสะอาด / การแช่โบราณวัตถุในน้ำเพื่อขจัดความเค็มของเกลือทะเล / การกำจัดคราบอย่างเบาที่สุดเพื่อไม่ให้วัตถุเสียหาย / การทำทะเบียนโบราณวัตถุก่อนนำไปเก็บรักษาหรือจัดแสดงต่อไป
ภายในงาน คุณนาเดีย นิมิตรวานิช ดารา พิธีกรและนักแสดงชื่อดังที่มีงานอดิเรกเป็นการดำน้ำนั้น ยังให้เกียรติกล่าวถึงความประทับใจที่ได้รับเชิญมาร่วมงาน พร้อมแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนร่วมมือกันจัดนิทรรศการอันเป็นสาระประโยชน์ในครั้งนี้ และทิ้งท้ายด้วยการชักชวนให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำครั้งนี้ว่า
“แรกสุดคือที่เดียมาร่วมงานเพราะเห็นว่าหัวข้อการจัดงานมีความน่าสนใจและเราก็เห็นด้วยกับการที่ต้องอนุรักษ์ทรัพยากรบนโลกนี้ทุกอย่างไม่ว่าจะบนบกหรือใต้น้ำ เดียเองก็เป็นคนหนึ่งที่ดำน้ำ เดียก็อยากจะเก็บสื่งเหล่านั้นไว้ให้ถึงรุ่นลูกถึงหลาน ซึ่งพอมาร่วมงานก็รู้สึกได้เลยว่าเป็นนิทรรศการที่สนุกและมีประโยชน์มาก ตอนแรกเรารู้ว่าแน่นอนเราควรรักษาทรัพยกรเหล่านั้น แต่ลึกๆ แล้วไม่รู้ว่าเพื่ออะไร พอมาร่วมงานจึงทราบว่า ความสำคัญในมุมมองของนักโบราณคดี พวก Cultural heritage มันสำคัญกว่าเป็นเพียงแค่สิ่งตกแต่งสวยงามใต้น้ำ พอมาเห็นการสาธิตวิธีการดูแล เก็บรักษา มาเห็นนิทรรศการต่างๆ ก็ทำให้เรารู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้มีคุณค่าเพิ่มขึ้นมากในความรู้สึกเราและอยากที่จะบอกต่อคนอื่นๆ”
เพราะโดยประสบการณ์ส่วนตัว เดียยังไม่เคยเจอโบราณวัตถุโดยบังเอิญนะค่ะ เดียเจอแต่ขวดน้ำอัดลม ซึ่งเห็นแล้วก็รู้สึกสะท้อนใจ ของพวกนี้เดียก็ช่วยเก็บๆ ขึ้นมาพวกขยะ ถุงพลาสติกต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องเก็บ แต่พวกที่มันเป็น Cultural heritage แบบนั้น ไม่ควรเก็บ เพียงแค่ถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกกลับไปก็พอแล้วค่ะ สุดท้ายเดียก็อยากจะฝากถึงทุกๆ คนว่า สิ่งแรกนะค่ะ สำหรับคนที่คิดจะดำน้ำเป็นงานอดิเรก เราควรหาข้อมูลก่อน ต้องศึกษาก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวเองเพราะบางคนที่ทำลงไปไม่ได้มีเจตนา แต่เป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งในเรื่องความปลอดภัยในการดำน้ำ และการลงไปหยิบสิ่งของมีค่าขึ้นมา นอกจากนั้น อยากให้ศึกษาว่ามันมีความสำคัญอย่างไรเราถึงต้องอนุรักษ์ แล้วก็หากมีโอกาสช่วยได้ก็ช่วยๆ กันเถอค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่เป็นทรัพยากรรอบๆ ตัวเรา เราก็ต้องอนุรักษ์อยู่แล้ว มันไม่ใช่หน้าที่ของใครหรือของคนอื่นอีกต่อไป เราต้องกลับมามองที่ตัวเรา เพราะสุดท้ายผลของการกระทำ ผลเสียต่างๆ มันก็ตกอยู่กับพวกเราเองทั้งนั้น ไม่ใช่ใครคนอื่นเช่นกันค่ะ”
ทางด้านคุณท๊อป พีรยสถ์ ศิริเกียรติสูง เซเลบริตี้ที่ให้เกียรติมาร่วมงานก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการร่วมต่อต้านการซื้อขาย ขุดค้นมรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำว่า
“การขโมยวัตถุโบราณใต้ท้องทะเล เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายที่ร้ายแรงมากครับ บุคคลเหล่านั้นคงไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาขโมยไปขาย เป็นดั่งมรดกทางวัฒนธรรมที่บ่งชี้ถึงความเป็นมาของประวัติศาสตร์บรรพุรุษของพวกเขาเองอันเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ด้วยเงิน ส่วนการนำวัตถุโบราณใต้ท้องทะเลเก็บไว้เป็นของสะสมของตนเองนับได้ว่าเป็นการกระทำที่ผมไม่เห็นด้วยเพราะสิ่งของเหล่านั้นไม่ใช่สมบัติของใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นมรดกของลูกหลานของพวกเราทุกคน ดังนั้นผมจึงอยากชักชวนให้ทุกท่านเห็นถึงคุณค่าของวัตถุโบราณใต้ท้องทะเลโดยการไม่ขุดค้น ซื้อ-ขายมรดกทางวัฒนธรรมใต้ท้องทะเลและร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ต่อต้านการกระทำดังกล่าวด้วยครับ”
นอกจากนี้ คุณอิ๊ค อุรินทร์ พงษ์โสภณ เซเลบบริตี้อีกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานก็มาร่วมเปิดเผยประสบการณ์การดำน้ำว่า
“จริงๆ ผมดำน้ำแล้วเจอพวกโบราณวัตถุเหมือนกันครับ แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเราควรทำอย่างไรกับสิ่งของเหล่านั้นดี แตะได้หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ บางครั้งจะเรียกคนมาดูเค้าก็ดำไปไกลแล้ว ผมก็เลยเก็บภาพเหล่านั้นไว้ในความทรงจำละกัน ไม่ได้หยิบมันขึ้นมา ซึ่งพอมาชมนิทรรศการจึงได้รู้ว่าการทำแบบนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ”
สุดท้าย คุณจิ๊บ อชิรญา อิงคตานุวัฒน์ วรวงศ์วสุ ก็ได้มาร่วมกล่าวถึงความรู้สึกหรือความประทับใจที่ได้มาร่วมงานและชมบรรยากาศภายในงาน
“ก็รู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะ เพราะส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบดำน้ำอยู่แล้ว กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่ดีมากที่สนับสนุนให้คนที่ดำน้ำหรือไม่ดำน้ำก็ตามได้รู้จักการรักษามรดกทางวัฒนธรรมใต้น้ำที่ถูกวิธี ซึ่งปัจจุบันนี้จิ๊บสังเกตว่าคนรุ่นใหม่ๆ สนใจที่จะดำน้ำกันมากขึ้น บางทีเวลาเราดำลงไปเจอทัศนียภาพใต้น้ำที่ตื่นตาตื่นใจบางคนก็ดูแล้วหยิบจับไปหมด ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เค้าอาจไม่รู้ว่าสิ่งที่เค้าทำไปมันเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมใต้ท้องทะเลขนาดไหน ดังนั้นการจัดงานนี้ขึ้นมาก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้เรารู้จักระวังมากยิ่งขึ้นค่ะ”
หลังสิ้นสุดระยะเวลาที่สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล แล้ว กรมศิลปากรจะรับช่วงต่อนิทรรศการ “รู้รักษ์พิทักษ์มรดกใต้ทะเล” ไปจัดเป็นนิทรรศการสัญจรหมุนเวียนทั่วประเทศไทย เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2553 จากนั้นจะนำไปจัดเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการถาวร ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี จันทบุรี ต่อไป หากใครสนใจมาร่วมมาสัมผัสประสบการณ์โลกโบราณดีใต้น้ำสามารถมาร่วมชมสาระบันเทิงได้ที่
นิทรรศการแบบอินเตอร์แอคทีฟ “รู้รักษ์พิทักษ์มรดกใต้ทะเล”
ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2553
ที่ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล ชั้น บี1 - บี2 ศูนย์การค้า สยามพารากอน