wmt on August 12, 2010, 11:13:08 AM


                    กรุงเทพ – ควอลลีเทค มั่นใจครึ่งปีหลังอุตสาหกรรมปิโตรเคมีฟื้นตัว เตรียมรับอานิสงส์งานตรวจสอบทางวิศวกรรมเพิ่ม ด้าน “สรรพัชญ์ รัตคาม” กรรมการผู้จัดการQLT ประกาศขอลุยงานทั้งในและต่างประเทศต่อ เชื่อครึ่งหลังสัญญาณธุรกิจดี จาก Backlog ที่เตรียมรับรู้กว่า100 ล้านบาท  พร้อมจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น เอาใจนักลงทุน 

                    นายสรรพัชญ์ รัตคาม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลลีเทค จำกัด (มหาชน) หรือ QLT ผู้บริการ งานทดสอบตรวจสอบทางวิศวกรรม เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมปิโตรเคมีในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ปริมาณงานทดสอบและตรวจสอบวัสดุโลหะทางวิศวกรรม มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นตาม เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้มีความจำเป็นที่ต้องได้รับการตรวจสอบเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยตามข้อกำหนด

                    ขณะเดียวกัน บริษัทฯเตรียมที่จะทยอยเข้าร่วมประมูลงานใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอย่างต่อเนื่อง  โดยล่าสุดบริษัทฯได้มีการยื่นเสนอราคาให้กับผู้รับเหมาเพื่อที่จะเข้าประมูลงานโครงการท่อก๊าซเส้นที่4(ส่วนที่2)ของบมจ.ปตท.(PTT)โดยมีมูลค่างานกว่า100 ล้านบาทแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะทราบผลการประมูลอย่างเร็วที่สุดภายในปลายปี2553นี้ หรืออย่างช้าที่สุดภายในไตรมาส1/2554

                    นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนที่จะเข้าไปร่วมประมูลในโครงการขยายโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติของ PTT ไปยังพื้นที่ภาคเหนือ-อีสาน ซึ่งเป็นโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นใหม่ไปยัง จ.นครสวรรค์ และ จ.นครราชสีมา ภายในงบลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2557 เพื่อรองรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าปี 2553-2573 หรือ พีดีพี 2010 เช่นเดียวกัน 

                    ส่วนการขยายงานบริการไปยังต่างประเทศนั้น นายสรรพัชญ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจากับกลุ่มลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งความชัดเจนดังกล่าวคาดว่าจะทราบผลภายในปีนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากการเจรจาดังกล่าวมีความคืบหน้าไปกว่าครึ่งแล้ว
       
                       และล่าสุดบริษัทฯมีมูลค่างานในมือ(Backlog)ทั้งหมดเกือบ 300 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกว่า 195 ล้านบาท จะเป็นการทยอยรับรู้ในปี2554 และ2555 ตามกำหนดระยะเวลาการส่งมอบงาน ส่วนประมาณการรายได้รวมในปีนี้ บริษัทฯยังคงประมาณการณ์ไว้ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี2552 ที่มีรายได้อยู่ที่ 279.71 ล้านบาท

                    เนื่องจากบริษัทฯได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงต้นปี2553ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของทางด้านเศรษฐกิจและการลงทุน จึงฉุดให้เกิดความไม่มั่นใจในเข้ามาการลงทุน โดยจะแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากการรับงานบริการในการตรวจสอบในต่างประเทศประมาณ 3% ของรายได้รวม

                     สำหรับผลประกอบการในไตรมาส2/2553 ที่มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันที่ผ่านมานั้น นายสรรพัชญ์ กล่าวว่า เกิดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศที่เข้ามาเป็นแรงกดดันที่ฉุดให้ผู้ลงทุนเกิดการชะลอตัวในการเข้ามาลงทุน แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าตัวเลขผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกจะไม่ดีเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่บริษัทฯก็ยังคงเน้นจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นตามนโยบายไม่ต่ำกว่า40%ของกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง

                     โดยล่าสุดคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายปันผลระหว่างกาลงวดปี2553ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.10 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียน ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ และจะกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 3 กันยายน2553  ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทฯว่ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลุ่มผู้ถือหุ้นด้วยเช่นกัน