ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ (Sirasak Ittipholpanich)
ชื่อเล่น ปิงปอง / วันเกิด 18 พ.ค. / การศึกษา เอกศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
www.facebook.com/PingpongSirasak "ปิงปอง - ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์" หนุ่มนักดนตรีเสียงดีที่มักมากับเสียงกีต้าร์เพราะๆ พร้อมด้วยลีลาการร้องและน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เรียกว่า “เสียงแหบเปี่ยมเสน่ห์” ได้เริ่มสร้างชื่อจากเพลงประกอบละครโทรทัศน์มากมายหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “แทนใจ” เพลงประกอบละคร "เพลงผีบอก" / “รักเธอนิรันดร์” เพลงประกอบละคร “รอยรักรอยอดีต” / “รักเธอจนเหนื่อยหัวใจ” เพลงประกอบละคร “ร้อยเล่ห์ เสน่ห์ร้าย” / “ไม่ขอให้เป็นเหมือนใคร” เพลงประกอบละคร “เลือดหงส์” และ “เก็บอยู่ในหัวใจ” เพลงประกอบละครหนังเกาหลี “Calla” จนได้ฉายาว่า เจ้าพ่อเพลงละคร ซึ่งในปี 2000 ศิรศักดิ์ ได้ปล่อยอัลบั้ม “Sirasak” อัลบั้มแรกในชีวิต และ “Love Story” อัลบั้มที่ 2 ในปี 2001 ตามด้วย “Third Step” อัลบั้มที่ 3 ในปี 2002 และ “Color of Love” อัลบั้มที่ 4 ในปี 2003 นอกจากนี้ยังได้มีการรวบรวมเพลงของศิรศักดิ์เอาไว้ในอัลบั้มพิเศษมากมาย
หลังจากที่รู้สึกว่าถึงจุดอิ่มตัว จากอัลบั้ม “Color of Love” ศิรศักดิ์ ก็ได้ก้าวออกมาจากค่ายเพลงเพื่อเปิดร้าน Choo bee doo Bar และผันตัวไปทำเพลงประกอบโฆษณาและงานเบื้องหลัง ในระหว่างทางสายดนตรี ศิรศักดิ์ ยังได้ร่วมร้องเพลงใน อัลบั้ม “Remind” ของ Luck Music, มีส่วนร่วมในการเรียบเรียงเพลงในอัลบั้ม “Behind the songs” ของหมอ เอิ้น พิยะดา รวมไปถึงการเป็น Producer และร้อง 2 เพลงใน อัลบั้ม “Choo bee doo Bar Test 1” ที่มีศิลปินอินดี้ชื่อดังอย่าง Teddy Ska Band และล่าสุดได้แต่งเพลง “ระบำ” ให้แก่วง Supersub ด้วย
วันนี้ “ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์” กลับมาอีกครั้งกับบ้านหลังใหม่ Sony Music พร้อมด้วยแนวดนตรีเพลงป๊อปยุค 70ปลายๆ เป็นแรงบันดาลใจอย่าง The Carpenters / Bee Gees / Earth Wind & Fire / Debbie Gibson และเนื้อหาที่ลึกซึ้งมากขึ้น แต่ยังคงความโรแมนติกอยู่ในบทเพลง ผ่านน้ำเสียงที่มีเส่หน์เฉพาะตัว พร้อมจะกลับมาสร้างความประทับใจให้แฟนเพลงอีกครั้ง
WARM WHITE
อัลบั้ม “WARM WHITE” ใช้เวลาประมาณ 1 ปี โดยแนวทางของอัลบั้มนี้เน้นไปในเรื่องทัศนคติ แง่คิดต่างๆ ในเนื้อเพลง ที่จะพูดถึงความรัก ที่มีมุมมองหลายแง่มุมมากขึ้น รวมถึงจะมีความคิดแนวปรัชญาต่างๆ ผสมอยู่ในเนื้อเพลง สีสันของดนตรีที่มากขึ้น และ สไตล์การร้องที่เปลี่ยนไปโดยจะเปลี่ยนแปลงไปจากการร้องเพลงประกอบละครในอดีตพอสมควร เพราะว่าไม่มีกรอบของละครมากำหนดบทเพลง จึงใส่ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆได้เต็มที่ แต่ยังคงไว้กับความอบอุ่นของบทเพลงในแบบของศิรศักดิ์ โดยแนวเพลงในอัลบั้มนี้ เป็นแนวฟิว์ชั่น ป๊อป คือเพลง ป๊อปที่มีกลิ่นของ ดิสโก้, โซล และ ร็อค โดยจะมีความเชื่อมต่อกัน ระหว่างเนื้อร้องและวิธีเล่นกีตาร์ ที่จะมีกลิ่นของ เพลงบลูส์ เข้ามาผสม
โดยอัลบั้มนี้ ศิริศักดิ์ ได้ทำหน้าที่เป็น Co-producer ที่มีส่วนร่วมในทุกขึ้นตอนของอัลบั้ม ไม่ว่าจะเป็นดนตรี เนื้องร้อง และการเรียบเรียง โดยมี กรกฎ เมฆยงค์ ที่เคยทำงานเบื้องหลังให้ศิลปินหลายท่านไม่ว่าจะเป็น หมอเอิ้น พิยะดา และ กบ เสาวนิตย์ มาเป็น Producer ให้นอกจากนี้ก็จะมี ป้อมมือกลองวง HUM, เอ๊าะมือเบสเก่า ของวง Skykick Ranger, ตั้มมือกลองวง Amateur, หนึ่ง มือกลองวง Bangkok Connection และ โจ๊ก อดีตมือกลองของวง December มาช่วย ในด้านเนื้อร้องในเพลง “ยินดีรับฟัง” ได้ หมอเอิ้น พิยะดา ที่มีภาษาของการมองโลกในแง่ดี ที่เขียนเพลงอย่าง “รักยังไงมันก็คือรัก” ของ แอน ธิติมา มาช่วยเขียนเนิ้อเพลง และได้ “โป โปษยะนุกูล” มาเป็น Executive Producer ของอัลบั้มที่ดูแลรายละเอียด และให้คำปรึกษาทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
ยินดีรับฟัง(Single 1st)
Single เปิดตัว “ยินดีรับฟัง” ได้หมอเอิ้น พิยะดา มาช่วยเขียน ซึ่งจะเป็นสไตล์เพลงป๊อปยุค 70 ซึ่งจะมีกลิ่นของพวกเพลง โซล ผสมอยู่ โดยเพลงนี้เป็นเพลงรักแบบหวังดี พร้อมที่จะรับฟังปัญหาของคนที่ตัวเองรักทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่องความรักกับคนอื่น แม้ว่าจะต้องอึดอัดเพียงใด หรือเสียใจเท่าไรที่เห็นคนที่ร้องต้องเจ็บ ก็พร้อมที่จะเป็นคนคั่นเวลาให้คนที่รัก รู้สึกสบายใจขึ้น
ไม่ได้มีแค่ฉัน (Not Only Me) (Single 2nd)
Not Only Me เป็นเพลงเร็วที่มีเนื้อหาของเพลงและ สำบัดสำนวนที่ใช้ในเพลง เป็นตัวตนจริงๆของศิรศักดิ์ ซึ่งจะมีกลิ่นอายของเพลง โซลและเพลงบูลส์ ผสมอยู่ โดยใช้กีต้าร์ไนล่อนเล่นแทนที่จะเป็นกีต้าร์ไฟฟ้า โดยมีเนื้อหาแอบประชดประชันการเล่นดนตรีตามผับกลางคืน ที่มักจะเล่นแต่เพลงฮิต และพูดถึงการผิดหวังในความรัก ว่าทุกคนก็เคยเจ็บช้ำมาทั้งนั้น ถ้าลองเช็ดน้ำตามองดูโลกรอบตัว ก็จะรู้ว่ามันไม่ใช่เราคนเดียวที่เจ็บปวดจากความรัก หากแต่ยังมีคนอื่นที่เจ็บมากกว่าเราอยู่
ใครคนเดิม (Single 3rd)
ใครคนเดิม เดิมทีเป็นเพลง Bossanova แต่ถูกปรับแต่งให้เป็น Shuffler Fill ซึ่งได้เติมสีสันของลูกกีต้าร์ทางแจ๊ส ไว้ด้วย โดยจะมีเนื้อเกี่ยวกับมุมมองความรักด้านบวก ว่าชีวิตคนเรามีเรื่องราววุ่นวายมากมาย อาจจะต้องเหนื่อยเครียดกับงาน หรือการเรียน ซึ่งอาจจะมีเวลาให้แก่คนที่เรารักน้อยลง แต่ความรู้สึกที่แท้จริงในใจไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ยังคงเป็นใครคนเดิม ที่รักเธอเหมือนเดิม
เพลงไม่รัก
เพลงไม่รัก เป็นเพลงที่เขียนไว้หลายปีมาก ซึ่งแต่งขึ้นเพื่ออยากเอาชนะใจ พี่ปุ้ม วงตะวัน ซึ่งเป็นฮีโร่ในช่วงที่เหัดเล่นดนตรีใหม่ๆ แต่ตัวเนื้อเพลงเขียนเนื้อภาษาไทยให้เหมาะยากมาก ก็เลยใช้เวลา 3 ปี ในการแก้ดนตรีและ เนื้อเพลงไปกว่า 12 ครั้ง จนกลายมาเป็น เพลงไม่รัก ซึ่งคนเราบางครั้งหมดรักกันแล้ว การพยายามอดทนเพื่อจะอยู่ด้วยกันต่อไปด้วยความพันผูก ซึ่งบางทีมันก็ทำให้อึดอัดและเสียเวลาทั้ง 2 ฝ่าย การที่เป็นคนบอกเลิก บางครั้งก็เป็นการแสดงออกของลูกผู้ชาย ที่อยากให้คนที่เคยรัก ได้ก้าวเดินต่อไป
ด้านมืดของดวงตะวัน (Dark side of the sun)
ในส่วนของดนตรี ด้านมืดของดวงตะวัน เมโลดี้ จะเป็นแบบพวกเพลงป๊อปยุค 70ปลายๆ ที่เขียนเพลงนี้เพราะมีอยู่วันนึงมือกลองวงเลิกกับแฟนมา แล้วบังเอิญ สุนัขที่ร้านตาย บรรยกาศทั้งหมดเลยตกอยู่ในผวังค์เศร้า 1 วันเต็มๆ แต่พักนึงก็รู้สึกว่าจะเศร้าอะไรกันมากมาย เผอิญหยิบซีดี Pink Floyd ขึ้นมาฟังเพลง Dark side of the moon แล้วเราก็เลยคิดถึงด้านมืดของดวงตะวันว่ามันไม่มีอยู่จริง เพราะพระอาทิตย์มันสว่างทุกด้าน ก็เลยนึกเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่ผ่านมากับความรัก ว่าถ้าคนที่เลิกไปแล้ว หรือตายไปแล้ว ก็อย่าพยายามไปตามกลับมา จงใช้ชีวิตต่อเถอะ อย่าพยายามกับสิ่งที่มันไม่มีทางจะเป็นไปได้เลย
หมื่นปีแสงล้านไมล์
แรกเริ่มเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นสำหรับวงร็อกหนักๆ แต่เกิดเหตุที่ทำให้ตัดสินใจนำเพลงนี้กลับมาทำเอง และลดระดับความหนักของดนตรีลง ซึ่งเป็นเพลงที่พูดถึงคนที่ตัวอยู่ไกล้ แต่กลับมีควาทรู้สึกห่างเหิน กั้นกลางระหว่างคนสองคน เหมือนการมองดูดวงดาว ที่ดูเหมือนไกล้ แต่ในความเป็นจริงนั้นอยู่แสนไกล จนเราไม่มีวันไปถึง
ประตู
ที่เลือกเพลง ประตูของ พี่ป้าง เพราะว่า ตอนเนื้อเพลง ส่วนใหญ่ในอัลบั้มนี้ จะมีเนื้อหาแตกต่างจากเพลงป๊อปทั่วไปคือ ไม่ใช่ฉันรักเธอ เธอรักฉัน อกหัก สมหวัง แต่มันจะมีด้านมืดของดวงตะวัน หรือ ไม่ได้มีแต่ฉันคนเดียวที่โดนทอดทิ้ง คือเนื้อหาจะต้องคิดตาม ซึ่งเพลงประตูของพี่ป้างก็เป็นเพลงที่ต้องคิดตาม แล้วก็ได้เอากีต้าร์โปร่งมาเล่นกับเพลงนี้ ทำนองและเสียงที่ออกมา มันดูน่ารัก ยังสนุกเหมือนเดิม โดยมีการจูนสายกีต้าร์แบบแปลกๆ และอัดคาฮอนสดแทนการอัดกลองสดด้วย
ตายทั้งเป็น
ตายทั้งเป็น เป็นเพลงเก่าของพี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ ที่เลือกเพลงนี้เพราะว่าชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และได้ปรึกษากับ Producer ว่าอยากได้เพลงเก่าที่คนนึกไม่ถึงเท่าไร ก็เลยนึกถึงเพลงของพี่แจ้ที่ไม่ฮิตมากนัก ก็เลยนึกถึง ตายทั้งเป็น ซึ่งมีจังหวะสนุกสนาน และได้ใส่เพิ่มเติมดนตรีในรูปแบบที่มีความเป็นตัวของ ศิรศักดิ์เองเข้าไป