สสว. จัดงาน “ SMEs ไทยเข้มแข็ง 2010” ชาวอีสานร่วมงานคับคั่ง เงินสะพัดเกินคาดกว่า 100 ล้านบาท
สสว. ร่วมกับ จังหวัดนครราชสีมา และหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดประตูสู่อีสานจัดงาน “SMEs ไทยเข้มแข็ง 2010” ในระดับภูมิภาค ภายใต้กิจกรรมขยายตลาดทางการค้า และจับคู่ธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ ตามแผนปฎิบัติส่งเสริม SMEs ไทยเข้มแข็ง 2555 โดยงาน SMEs ไทยเข้มแข็ง 2010 จ.นครราชสีมา ได้จัดขึ้นในวันที่ 9-11 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีชาวบ้านภาคอีสานร่วมงานกันอย่างคับคั่ง และคาดว่าสามารถสร้างธุรกิจได้อีกมากมาย พร้อมมีการจับจ่ายใช้สอยเงินสะพัดเกินคาดกว่า 100 ล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเอสเอ็มอี (สสว.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายสนับสนุน SMEs ในหลายด้าน โดยมีสำนักงานส่งเสริมเอสเอ็มอี หรือ สสว. เป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดนโยบายการส่งเสริม SMEs ซึ่งแผนงบประมาณปี 2553-2554 สสว.จะให้ความสำคัญในการพัฒนา SMEs 3 เรื่อง คือ 1.การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ SMEs ไปสู่ความยั่งยืน 2.การสร้างรายได้และศักยภาพทางเศรษฐกิจระดับฐานราก โดยเน้นสินค้าที่มีนวัตกรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น และ 3.การเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับประเทศภูมิภาคทั่วประเทศ ภายใต้โครงการส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนปฎิบัติส่งเสริม SMEs ไทยเข้มแข็ง 2555
และเพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล สสว. จึงได้ร่วมกับ จังหวัดนครราชสีมา และหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา จัดงาน “SMEs ไทยเข้มแข็ง 2010” ในระดับภูมิภาค ขึ้น ภายใต้กิจกรรมขยายตลาดทางการค้า และจับคู่ธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ โครงการส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนปฎิบัติส่งเสริม SMEs ไทยเข้มแข็ง 2555 ซึ่งดำเนินโครงการโดยสสว. โดยงานได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม ณ ชั้น 7 อีเว้นท์ฮออล์ ห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า ณ จังหวัดนครราชสีมา ที่ผ่านมามีประชาชนชาวนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก
“ตลอดระยะเวลา 3 วัน ของการจัดงาน มีผู้ประกอบการ SMEs และผู้สนใจทั่วไป จากภาคอีสานเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง เพราะถือเป็นครั้งแรกของจังหวัดนครราชสีมา ที่มีการจัดงาน SMEs ไทยเข้มแข็งครั้งยิ่งใหญ่ ที่เป็นการเปิดเวทีแสดงสินค้ารวมพล SMEs ไอเดียใหม่ๆ จากทั่วประเทศมาแสดง ทั้งด้านการเงิน การลงทุน การให้คำแนะนำ คำปรึกษา การเปิดเวทีเสวนาแบ่งปันประสบการณ์และคำแนะนำจากผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ และเจ้าของกิจการ พร้อมทั้งเป็นสื่อกลางให้เกิดการเจรจาทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการและตลาดอย่างกว้างขวาง และมีการสร้างงานสร้างเงินเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยจบ 3 วันนี้มีเงินสะพัดมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ถึง 100 ล้านบาท” นายยุทธศักดิ์ กล่าวปิดท้าย