โกลเบล็กฯแนะเก็งกำไร-ถือรอขายช่วงทองดีด

โกลเบล็กฯแนะเก็งกำไร-ถือรอขายช่วงทองดีด

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้งฯ ยังเชื่อทองมีโอกาสปรับขึ้นแม้ผลประชุม G-20 อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอ แต่ยังมีปัจจัยหนุนอีกเพียบ แนะทยอยขายหากทองขึ้น หรือเก็งกำไรระยะสั้นคาดกรอบ 1,230-1,275 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 18,800-19,500 บาท/บาททอง

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์(GBX) กล่าวถึงแนวโน้มตลาดทองคำในสัปดาห์นี้ว่า มีโอกาสปรับขึ้นในฐานะ Safe Haven ยังมีอยู่ เพราะผลประชุม G-20 อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอ และข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯช่วงหลังไม่ค่อยสดใส คาดกรอบ 1,230-1,275 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือประมาณ 18,800-19,500 บาท/บาททอง

อย่างไรก็ตาม แรงผลักดันของการปรับขึ้นของราคาทองคำยังมีอยู่ และมีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,275 ดอลลาร์/อออนซ์ โดยเหตุผลสนับสนุน อาทิ ผลการประชุม G-20 ที่ค่อนข้างสนับสนุนแนวทางการ รัดเข็มขัดงบประมาณรายจ่ายของประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอย่างเข้มงวด จึงเป็นไปได้ว่าประเด็นนี้อาจกระตุ้นให้เงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อเข้าหา Safe Haven ซึ่งหลังจากที่เฟดยังไม่มีแนวคิดที่จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเร็ววันนี้ ทองคำจึงได้รับความน่าสนใจในการถือครองมากกว่าพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ได้ชื่อว่าเป็น Safe Haven เช่นกัน 

ประเด็นต่อมา คือ ตลอดทั้งสัปดาห์ สหรัฐฯจะประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญออกมาจำนวนมาก โดยตัวเลขที่น่าสนใจและมีนัยสำคัญต่อตลาดการเงิน ได้แก่ ข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์ (ยอดใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง รวมถึงยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย)และภาคแรงงาน (ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร-อัตราการว่างงาน) ซึ่งในช่วงหลังที่เปิดเผยออกมาถือว่าไม่ดีนัก 

นอกจากนี้ กองทุน SPDR Gold Trust เริ่มกลับมาเพิ่มสถานะถือครองทองคำอย่างมีนัยสำคัญอีกครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวก ในแง่ของความเห็นมวลชนส่วนใหญ่ที่ยังมองว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ ขณะเดียวกัน แรงหนุนจากปัจจัยทางด้านเทคนิค หลังจากที่ราคากลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้ทุกเส้น พร้อมกับดัชนีบ่งชี้ต่างๆที่ปรับตัวตัด Signal line ของตัวเองขึ้นมา 

ทั้งนี้ หากราคาทองคำขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ตามคาด ให้นักลงทุนทยอยขายออกอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าสถานการณ์คงที่ ราคาทองคำที่จุดนั้นจะดูแพงเกินไปเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ดังนั้น กลยุทธ์สัปดาห์นี้จึงเน้นเก็งกำไรระยะสั้นหรือถือรอขายเป็นหลัก คาดกรอบ 1,230-1,275 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 18,800-19,500 บาท/บาททอง