wmt on June 25, 2010, 10:22:43 AM
“เลอซาช่า” เจ้าตลาดอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม ฉลองยอดขายอันดับ 1 จาก GFK 2 ปีซ้อน
 
 
         
          “เลอซาช่า” อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมคู่ใจสาวไทย สวยได้ 7 วัน 7 ทรง ฉลองยอด ขายอันดับ 1 จากสถาบันจัดอันดับ GFK 2 ปีติดต่อกัน ด้วยยอดขายทะลุเป้ากว่า 430ล้านบาทในปี 52 พร้อมเร่งเครื่องเจาะตลาด หลังความวุ่นวายทางการเมือง ไม่มีผลกระทบกับยอดขายสินค้าอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม และความงาม ยังโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 20 % ผู้บริหารย้ำ จะใช้กลยุทธ์เจาะตลาดเข้าถึงผู้ที่อยากสวยด้วยตัวเอง หวังเป้าสิ้นปี 53 รายได้ทะลักไม่ต่ำกว่า 550 ล้านบาท

          นายนอร์แมน กอว์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวรอน จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์จัดแต่งทรงผม “เลอซาช่า” ผลิตภัณฑ์แต่งผมคู่ใจของสาว ๆ ทั่วประเทศ ที่ทำให้สวยได้ 7 วัน 7 ทรง เปิดเผยว่า อุปกรณ์จัดแต่งทรงผม “เลอซาช่า” ได้ทำตลาดในเมืองไทยมากว่า 11 ปีแล้ว และเป็นแบรนด์ที่คนไทยได้สร้างขึ้นมา และเป็นเจ้าแรกในการทำตลาดกับกลุ่มอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม ที่มีจำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดย Brand Vision ของเลอซาช่า ที่เราเน้นให้ลูกค้าของเราทำผมด้วยตัวเองและเปลี่ยนทรงผม ให้สวยล้ำ อินเทรนด์ ตลอดเวลา จึงทำให้สาวไทยสนุกสนานกับการใช้อุปกรณ์จากเลอซาช่า ซึ่งทำให้เลอซาช่าครองใจสาวไทยมาโดยตลอด และมียอดขายอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 8 แล้ว

          "เลอซาช่า" สามารถทำยอดขายในช่องทาง Modern Trade และ Traditional Trade ได้อย่างต่อเนื่อง บริษัท จีเอฟเค รีเทล แอนด์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทวิจัย และสำรวจข้อมูลการตลาดชั้นนำระดับโลก ได้มอบรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม "No 1 Awards year 2009 to Le sasha for Hair Styler Product" ให้กับผลิตภัณฑ์ "เลอซาช่า" เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นสิ่งยืนยันและการันตีให้กับคุณภาพสินค้าที่ตรงใจสาวไทยที่ต้องการทำผมด้วยตัวเอง และเปลี่ยนทรงผม ให้สวยล้ำ อินเทรนด์ ตลอดเวลา โดยวัดยอดขายจากจำนวน Unit Sales ของกลุ่มสินค้า Hair Styler ที่ทาง GFK ได้เก็บข้อมูลในปี 2009

          “ภาพรวมจากปัญหาทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจในขณะนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายแต่อย่างใด เนื่องด้วยผู้หญิงยังอยากสวย และต้องการดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะตลาดในกลุ่มนี้มีการตื่นตัวเป็นอย่างมาก แต่เป็นในทิศทางบวกดังจะเห็นได้ว่าสินค้าของเลอซาช่ายังคงครองอันดับ 1 และมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องสวนทางกับเศรษฐกิจ นั่นคงเป็นเพราะว่าความสวยความงามเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน แต่อย่างไรก็ตามการที่ลูกค้าซื้ออุปกรณ์ของเลอซาช่าไปใช้ด้วยตัวเองที่บ้านก็สามารถทำให้ลูกค้าประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดแต่งทรงผมในเวลาเดียวกัน" นายนอร์แมน กล่าว

          นายเดชฤทธิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายตลาด บริษัท คิวรอน จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันยอดขายของ "เลอซาช่า" ในปี 2009 สามารถทำยอดขายได้ถึง 430 ล้านบาท และในปี 2010 บริษัทคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ถึง 550 ล้านบาท เนื่องด้วยตลาดอุปกรณ์แต่งผมยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่า 20 % ทั้งสาวไทย ทุกคนยังรักสวยรักงามและต้องการเปลี่ยนทรงผม ให้ตัวเองสวยล้ำ อินเทรนด์ ตลอดเวลา

          สำหรับการทำตลาดในปี 2010 โดยเฉพาะ Q3 - Q4 เลอซาช่ายังคงเน้นในเรื่องของการสร้าง แบรนด์ให้แข็งแกร่ง เนื่องจากเราเป็นเจ้าตลาดในเรื่องอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม และครองใจผู้บริโภคมาเป็นอันดับที่ 1 อยู่แล้ว ในส่วนของสินค้าใหม่ที่เรากำลังจะทำตลาดในกลุ่ม Professional นั้น เราก็ยังต้องการให้ผู้บริโภคของเราได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพที่สูง และที่สำคัญเรายังคงเน้นการสอนให้ลูกค้าสามารถทำผมได้ด้วยตัวเองผ่านการจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอตลอดปี 2010 ด้วยอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมของเลอซาช่าที่มี 4 รูปแบบ คือ เครื่องหนีบผม แกนม้วนผม ไดร์เป่าผม และแปลงจัดแต่งทรงผม ตามสำนักงานออฟฟิศต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งจะบุกเจาะตลาดทุกที่ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิง โดยใช้งบประมาณในการทำตลาดทั้งปีไว้กว่า 70 ล้านบาท

          “ในปัจจุบัน เลอซาช่ามีผลิตภัณฑ์มากกว่า 100 SKU ซึ่งเราทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน เลอซาช่า มีกลุ่มลูกค้าที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ตลอดเวลา ดูได้จาก www.lesashaclub.com โดยมีสมาชิกแล้วเกือบ 1 ล้านราย และสิ่งเดียวที่ทำให้เราเป็นอันดับ 1 คือ สินค้าที่มีคุณภาพสูงและความจริงใจที่เรามีให้กับลูกค้า เพราะเป็นเพียง Brand เดียวที่สอนให้ลูกค้าทำผมสวยได้ด้วยตัวเอง ผ่านการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้ง Above the line และ Below the line โดยมุ่งเน้นลูกค้าเป็นหลัก เลอซาช่าจึงสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ วัยรุ่น จนถึงวัยทำงาน เราสามารถพูดได้เลยครับว่า ทุกคนที่ได้ลองใช้และร่วมกิจกรรมกับเลอซาช่า จะประทับใจในแบรนด์ของเราอย่างแท้จริง" นายเดชฤทธิ์ กล่าวปิดท้าย