ถิรไทย โชว์ผลกำไรไตรมาส 1/2553 กำไรขั้นต้นจากการขาย สูงขึ้น 6.23 %
ถิรไทย หรือ TRT สวนกระแสการเมือง โชว์กำไรไตรมาส 1 ปี 2553 มีกำไรสุทธิ 76.89 ล้านบาท กำไรขั้นต้นจากการขาย 31.19 % สูงขึ้นจากปีก่อน 6.23 % และกำไรขั้นต้นจากการบริการ 82.65 % สูงขึ้นจากปีก่อน 2.59 %เนื่องจากบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้าน “สัมพันธ์ วงษ์ปาน” ผู้บริหาร TRT คาดปีนี้ตามเป้าได้ประมาณ 2,200 - 2,300 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา จากงานในมือ (Backlog) สูงกว่า 800 ล้านบาท พร้อมย้ำ TRT เหมาะกับการลงทุนระยะยาว
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT ผู้ผลิต จำหน่าย และซ่อมบำรุง หม้อแปลงไฟฟ้าทุกขนาด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทย่อย ในไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 76.89 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 11.81 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.31 โดยบริษัทมีรายได้จากการบริการ 31.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15.91 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 101.02
และบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจากการขายร้อยละ 31.19 สูงขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 6.23 และกำไรขั้นต้นจากการบริการร้อยละ 82.65 สูงขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.59 เนื่องจากบริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบริษัทมีรายได้จากการขาย 405.85 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 239.51 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37.11
ทั้งนี้บริษัทฯ ยังควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 35.17 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 7.35 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.28 เนื่องจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามการลดลงของยอดรายได้
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับทิศทางของบริษัทในปี 2553 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะทำได้อยู่ที่ 2,200 - 2,300 ล้านบาท ให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยที่จะคงรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ให้ใกล้เคียงหรือสูงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งทำได้ 26.16% ควบคู่กับการรักษาสัดส่วนตลาดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และมาตรการในด้านอื่นๆ เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้
นายสัมพันธ์ กล่าวต่อไปว่า “ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) สูงกว่า 800 ล้านบาทแล้ว ณ เดือนเมษายน 2553 และในปีนี้บริษัทยังมีงานที่จะเข้าประมูลเป็นวงเงินประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะชนะการประมูลประมาณ 20-30% โดยทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้บางส่วน และส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปีหน้า โดยงานดังกล่าวเป็นการประมูลงานทั้งทางภาครัฐ และเอกชนในประเทศและต่างประเทศ”
“สำหรับสถานการณ์ปัญหาในมาบตาพุดที่เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ส่งผลในเชิงบวก รวมความต้องการไฟฟ้าทำให้ภาพรวมของตลาดหม้อแปลงไฟฟ้าในประเทศ กลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยเฉพาะความต้องการการใช้ไฟฟ้า (Peak Demand) สูงกว่าค่าที่ประมาณการไว้ 5 – 6% ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงการเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าในระยะยาวอย่างชัดเจน โดยที่ผ่านมาบริษัทมีการเซ็นสัญญารับงานผลิตให้แก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยในประเทศสม่ำเสมอ ทำให้งานในมือปัจจุบันอยู่สูงกว่า 800 ล้านบาท และขอแนะนำนักลงทุนในหุ้น TRT เหมาะกับการลงทุนระยะยาว” นายสัมพันธ์ กล่าวปิดท้าย
