GBS ชี้ต้นพ.ค.-ปัจจุบันต่างชาติเทขายเกือบ3หมื่นล้าน แนะ PTT , PTTCH , BANPU , IVL ยังน่าลงทุน
GBS มองการเมืองวุ่นไม่เลิก ส่งผลการลงทุนชะลอต่อเนื่อง ด้าน“ชนะชัย จุลจิราภรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก เชื่อรัฐบาลคงจะเข้าคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในเร็วๆนี้ แนะนักลงทุนควรติดการเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดก่อนการลงทุน ด้าน “จักรกริช เจริญเมธาชัย” รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการลงทุน บล.โกลเบล็ก ชี้ ตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.ถึงปัจจุบันเกิดแรงเทขายจากต่างชาติแล้วกว่า 27,000 ล้านบาท มองหากยืดเยื้อฉุดดัชนีอาจต่ำกว่า 700 จุดได้ แนะปรับพอร์ตลงทุนในหุ้นเหลือ30% ชู PTT , PTTCH , BANPU , IVL ยังน่าลงทุน
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มทวีความรุ่นแรงขึ้นในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ และการลงทุนในประเทศ อาทิ การท่องเที่ยว ที่หลายประเทศสั่งเบรกการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงภาคการลงทุนที่เริ่มชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับแรงเทขายจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งการชะลอตัวดังกล่าวเกิดจากปัจจัยความไม่สงบจากเหตุการณ์ความวุ่นวายภายในประเทศ
ทั้งนี้ หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อออกไปอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลทางด้านจิตวิทยาต่อภาคการลงทุนและเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันโดยส่วนตัวมองว่า ภายในสัปดาห์นี้เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นน่าจะยุติ หรือคลี่คลายลงได้ ซึ่งจะเห็นจากคำแถลงจากของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ที่เริ่มเข้ามากดดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมนปช. ทางออ้อมไม่ว่าจะเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงของแหล่งเงินในการสนับสนุนการชุมนุม โดยขอความร่วมมือจากสถาบัน
การเงินให้ส่งข้อมูลทางการเงินเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินในการสนับสนุนการชุมนุม รวมถึงการประกาศให้บุคคลไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เสี่ยง ซึ่งสัญญาณดังกล่าวบ่งบอกว่าภาครัฐบาล และกองทัพ มีแผนที่จะขอพื้นที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายคืน เพื่อทำให้สถานการณ์บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
“จากสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติทยอยเทขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง และคาดว่าหากเหตุการณ์ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติแนวโน้มที่ต่างชาติจะเทขายออกมาอีกก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะปัจจัยลบในขณะนี้นอกจากสถานการณ์ในประเทศแล้ว กรณีกรีซ ก็เป็นตัวแปรที่สำคัญที่ฉุดการลงทุนในตลาดทุนเช่นเดียวกัน” นายชนะชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ระยะสั้น แนะนำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนโดยติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกันหากราคาหุ้นปรับตัวลง แนะนำให้นักลงทุนทยอยเข้าไปลงทุน โดยเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าความเป็นจริง
ด้านนายจักรกริช เจริญเมธาชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติทยอยเทขายหุ้นออกมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมจนถึงปัจจุบันแล้วกว่า 27,000 ล้านบาท และหากว่าสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อ ประกอบกับรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยยังคงปล่อยให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนตัวเกรงว่าจะฉุดให้การลงทุนในตลาดหุ้นปรับตัวลดลง จนส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงไปแตะต่ำกว่าระดับ 700 จุดได้
ทั้งนี้สำหรับคำแนะนำ มองว่าในระยะสั้น “ไม่แนะนำให้ลงทุน” จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ เนื่องจากยอมรับว่าจากสถานการณ์ในช่วงระหว่างวันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจะเป็นผลต่อแรงเทขายออกมาจากต่อเนื่อง
ส่วนนักลงทุนที่ลงทุนในระยะยาว แนะนำ”ทยอยลงทุน”โดยแนะให้ลงทุนในพอร์ตการลงทุนในหุ้นเพียง 30% ของพอร์ตการลงทุน โดยแบ่งเป็น 20% ลงทุนให้หุ้นประเทศBig Cap ส่วนอีก 10% ควรลงทุนในกลุ่มSmall Cap ทั้งนี้เป็นการกระจายความเสี่ยงด้านการลงทุน โดยหุ้นที่แนะนำหุ้นลง ยังคงเป็นหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี อาทิ PTT , PTTCH , BANPU , IVL เนื่องจากหุ้นดังกล่าวยังคงเป็นหุ้นนำตลาด ในกรณีที่นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุน