ทีโอเอ ร่วมดูแลสังคมไทย สานต่อโครงการ “Shield the Glamorous Bangkok by SuperShield”
บูรณะสี ภูเขาทอง คืนความงดงามให้พุทธสถานสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ ชวนคนไทยประกวดถ่ายภาพ “สีสันกรุงเทพฯ สีสันบรมบรรพต”
บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมดูแลสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง เดินหน้าโครงการ Shield the Glamorous Bangkok by SuperShield ครั้งที่ 2 บูรณะสีคืนความงดงามให้ “บรมบรรพต” หรือ “พระเจดีย์ภูเขาทอง” วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร อันเป็นพุทธสถานสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ เผยใช้เวลากว่า 1 ปีในการศึกษาและทาสี พร้อมเชิญชวนคนไทยสัมผัสความงามของภูเขาทอง จับมือมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย จัดประกวดภาพถ่าย “สีสันกรุงเทพฯ สีสันบรมบรรพต”
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ริเริ่มดำเนินโครงการ Shield the Glamorous Bangkok by SuperShield เพื่อคืนสีสันความสวยงามให้โบราณสถานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดยได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านสีและผลิตภัณฑ์สีที่มีคุณภาพ ไปบูรณะโบราณสถานที่มีคุณค่าและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางพุทธศาสนาของกรุงเทพฯ โดยหลังจากโครงการแรกที่ได้มีการบูรณะสีใหม่ให้สถานีรถไฟหัวลำโพง บริษัทฯได้ดำเนินโครงการต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 โดยดำเนินการบูรณะสีให้กับ บรมบรรพต หรือพระเจดีย์ภูเขาทอง ในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งได้รับอนุญาตจากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และได้รับอนุญาตจากทางกรมศิลปากรในการเข้าทำการศึกษา ดำเนินการออกแบบและบูรณะสี ซึ่งใช้เวลาในการดำเนินโครงการรวมระยะเวลากว่า 1 ปี คือระหว่างเดือนมีนาคม 2551-มีนาคม 2552
“ในฐานะพลเมืองไทย ซึ่งมีบทบาทในการมีส่วนร่วมดูแลและพัฒนาสังคมไทย บริษัทมีนโยบายด้านการร่วมดูแลสังคมอย่างชัดเจน โดยใช้ความรู้ความสามารถของบุคลากร และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ นวัตกรรม ตลอดจนเครือข่ายความร่วมมือต่างๆ ในการมีส่วนร่วมพัฒนาเมืองให้มีความสวยงาม โดยเฉพาะการทำนุบำรุงโบราณสถาน สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และศาสนาของไทยทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งภูเขาทองเป็นโบราณสถานแห่งที่สองที่บริษัทฯได้ดำเนินการบูรณะสี โดยนับเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในฐานะพุทธศาสนิกชนในการมีส่วนร่วมคืนสีสันให้กับมรดกของชาติ ให้มีความงดงามคู่กรุงรัตนโกสินทร์อย่างยั่งยืน ” นายจตุภัทร์ กล่าว
ด้านท่านเจ้าคุณ พระธรรมสิทธินายก ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กล่าวว่า
บรมบรรพต “พระเจดีย์ภูเขาทอง” เป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนาที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างนิยมเดินทางมาชื่นชม และมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งได้มีการอัญเชิญมากจากกรุงกบิลพัสดุ์ ประเทศอินเดีย สำหรับประวัติการก่อสร้างภูเขาทองนั้นใช้เวลาก่อสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ถึง 3 รัชกาล หรือประมาณ 50 ปี โดยได้มีการบูรณะซ่อมแซมมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง โดยการบูรณะสีล่าสุดนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งถือว่าเป็นการบูรณะสีครั้งใหญ่
การบูรณะสีในครั้งนี้ได้มีการบูรณะสีทั้งภายในและภายนอกใหม่ โดยจุดเด่นที่เปลี่ยนไปจากเดิม คือการทาสีทองบริเวณเสารอบมณฑป บัว เจดีย์ราย ในขณะที่ผนังฐานรอบองค์พระเจดีย์ภูเขาทอง มีการทาสีขาวทำให้ภูเขาทอง มีความสวยงาม อร่ามและโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการมองจากในระยะใกล้หรือระยะไกล หรือช่วงเช้า หรือช่วงเย็น สมเป็นมรดกทางพุทธศิลป์ที่สำคัญของประเทศ
สำหรับการบูรณะสีภูเขาทองในครั้งนี้ได้มีการศึกษาอย่างละเอียดก่อนที่จะมีการกำหนดสีและดำเนินการทาสี โดย รศ. ปิยานันต์ ประสารราชกิจ ที่ปรึกษาด้านการออกแบบสีของ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การอนุรักษ์สถาปัตยกรรมและโบราณสถานนั้นจะต้องคำนึงถึงดีไซน์และกาลเทศะเป็นสำคัญ ซึ่งในการบูรณะสีภูเขาทอง ได้ให้ความสำคัญต่อการศึกษาองค์กรประกอบต่างๆ โดยเฉพาะใน 4 เรื่องหลักคือ หนึ่ง เรื่องของความรู้สึกของสีและแสง เพื่อให้เกิดแรงศรัทธาให้สมกับที่เป็นที่ประดิษฐานสิ่งสักการะสูงสุดของชาวพุทธ นั่นคือพระบรมสารีริกธาตุ ประการที่สอง สีที่ใช้ภายนอกต้องคำนึงถึงความคงทนต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆ ได้ดี ประการที่สาม การคำนึงถึงภาพรวมบรรยากาศ สภาพชุมชนรอบวัด ที่มีร้านค้ารายรอบ เพื่อให้ได้สีให้ออกมาเหมาะสมที่สุด และประการสุดท้ายคือ ความสวยงาม ที่จะเกิดจากทัศนียภาพทั้งจากระยะใกล้ และในระยะไกล
ด้านกระบวนการทาสีนั้น คุณบัญชรี มณีดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัยและพัฒนา บริษัท
ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า ได้มีการดำเนินงานอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อให้การบูรณะสีครั้งนี้สวยงามสมกับที่ทุกฝ่ายตั้งใจ โดยเริ่มจากการสำรวจสถานที่จริงเพื่อให้ทราบว่ามีบริเวณไหนที่ต้องซ่อมแซมบ้าง ซึ่งปัญหาที่พบหลักๆ คือความชื้นที่ทำให้เกิดรอยแตก เกิดตะไคร่น้ำ และเกิดเชื้อรา ซึ่งเป็นตัวทำลายสี สำหรับขั้นตอนการทาสีบรมบรรพตนั้น ได้มีการแบ่งส่วนงาน ให้เข้ากับพื้นผิว คือ งานปูน งานเหล็ก และงานไม้ โดยให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับพื้นผิว โดยส่วนของงานปูน จะเลือกใช้สีที่มีคุณสมบัติคงทน ไม่ลอกล่อน ส่วนที่มีความชื้นมากก็ใช้ตัวรองพื้นที่ช่วยในการยึดเกราะให้มากขึ้น ส่วนที่เป็นงานไม้ เช่น บัว วงกบ บานประตู หน้าต่างนั้นเลือกใช้ทาสีรองพื้นกันเชื้อราและใช้สีน้ำสำหรับงานไม้ ซึ่งในครั้งนี้ส่วนที่ต้องดูเป็นพิเศษคือกระบวนการทาสีทอง อันเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อให้ภูเขาทองสวยงามสง่ามากที่สุด
(ต่อ ข่าวประชาสัมพันธ์ หน้า 2)
ด้านคุณพวงเพ็ญ แสงเพชร ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการบูรณะสีให้ภูเขาทองครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของทุกคน ซึ่งทุกคนต่างมีความสุขที่ได้เห็นความงดงามของ บรมบรรพต หลังการบูรณะสี ซึ่งมีความสง่างามสมกับเป็นโบราณสถานคู่กรุงรัตนโกสินทร์ ดังนั้น เพื่อให้ประชาชาชน นักท่องเที่ยว ได้มีส่วนร่วมชื่นชม เชิดชูความงามของภูเขาทอง รวมถึงได้ตระหนัก และกระจายคุณค่าของโบราณสถานที่สำคัญยิ่งของประวัติศาสตร์ไทยนี้ออกไปในวงกว้าง บริษัทฯจึงได้ร่วมกับมูลนิธิภาพถ่ายแห่งประเทศไทย จัดประกวดภาพถ่าย หัวข้อ “สีสันกรุงเทพฯ สีสันบรมบรรพต” ขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นกิจกรรมกระตุ้นให้คนไทยและทั่วโลกได้เห็นคุณค่า มีส่วนร่วมดูแล และรักษาความงามของภูเขาทอง และโบราณสถานอื่นๆของไทยต่อไป โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมประกวดสามารถส่งภาพถ่ายเข้าร่วมประกวดได้ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม เป็นต้นไป โดยติดต่อสอบถามได้ที่ 02-935-6018-9 ทั้งนี้ผลงานภาพถ่ายจากการประกวดในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งจะนำไปจัดแสดงนิทรรศการ และจัดทำโปสการ์ดเพื่อมอบให้ วัดสระเกศราชวรมหาวิหารต่อไป
บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2507 ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ทศวรรษ ของการก่อตั้ง บริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับการคิดค้น สร้างสรรค์ และวิจัยพัฒนา นวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิต ผลิตภัณฑ์สีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งในด้านสังคม เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทได้ประกาศนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมที่เรียกว่า 4Ps คือ People, Planet, Products, และ Partnerships โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมในการดูแลคุณภาพชีวิตของพนักงาน ชุมชน การลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาสังคมไทยในด้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการ “Shield the Glamorous Bangkok” เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคม ที่บริษัทมีความภาคภูมิใจและดำเนินการอย่างจริงจัง