“ไทย-ญี่ปุ่น” เดินหน้าจัด “งานวันวิสาขบูชาโลก” ที่ประเทศไทย
ผู้นำชาวพุทธ-พระสงฆ์-นักปราชญ์ทั่วโลกระดมปัญญาช่วยโลกผ่านวิกฤติ - พระธรรมโกศาจารย์ ปลุก คนไทย “มีสติ”หันหน้ารักษา ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ -
ประเทศไทย เตรียมพร้อมต้อนรับประมุขสงฆ์ ผู้นำชาวพุทธ นักปราชญ์ด้านศาสนา คณะสงฆ์ และผู้แทนจากองค์กรพุทธทั่วโลกกว่า 5,000 รูป/คน จาก 80 ประเทศ ที่พร้อมเดินทางมาร่วมงาน “วันวิสาขบูชาโลก ปี 2553” ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 23-25 พ.ค. ที่ประเทศไทยต่อเนื่อง 3 วัน 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ อยุธยา และนครปฐม โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามกุฎราชกุมาร จะเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดงาน รัฐบาลไทยเชิญชวนประชาชนชาวไทยเข้าร่วมพิธีเวียนเทียนร่วมกับผู้นำชาวพุทธทั่วโลก เพื่อแสดงพลังให้มากที่สุด ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม
พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวว่า
“ท่ามกลางเหตุการณ์ความไม่สงบของบ้านเมืองขณะนี้ ประเทศไทยก็ยังมีข่าวดีที่ชาวไทย ควรมาร่วมกันยินดีสนับสนุนและเข้าร่วม นั่นก็คือการที่ประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากชาวพุทธทั่วโลก ให้เป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกและเป็นเจ้าภาพจัดงานวิสาขบูชาโลก เนื่องจากความพร้อม ของประเทศที่มีองค์พระประมุขของประเทศ ทรงเป็นพุทธมามกะ และประชาชนกว่า 90% ยังนับถือพระพุทธศาสนา โดยผู้นำพุทธในประเทศต่าง ๆ มีความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทย จะสามารถแก้ไขปัญหา และนำชาติผ่านพ้นวิกฤติการณ์ความไม่สงบภายในบ้านเมืองขณะนี้ไปได้ด้วยวิถีแห่งชาวพุทธ พร้อมยืนยันการเดินทางมาร่วมงานตามกำหนดการจัดงาน วันวิสาขบูชาโลก ปี 2553 เช่นเดิม”
“งานวันวิสาขบูชาโลก ถือเป็นงานระดับนานาชาติที่ให้ประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาระดับประเทศและระดับโลก เพราะประมุขสงฆ์ ผู้นำและปราชญ์ชาวพุทธจากทั่วโลกจะได้ร่วมกันหารือ แลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิดเห็น และวิธีการปฏิบัติ ร่วมกันเพื่อหาทางออกให้กับวิกฤติการณ์ต่าง ๆ ที่ผู้คนทั่วโลก ต้องเผชิญ โดยในปีนี้ได้เลือกหัวข้อประชุมใหญ่คือ การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก ประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับจากงานวิสาขบูชาโลก คือ ได้ฟังสนทนาธรรมอันเป็นประโยชน์ มีสาระ ทำให้สังคมโดยรวมได้สติและมีความรู้ ความเท่าทันมากขึ้น”
“เราได้เห็นชาวพุทธทั่วโลกเดินทางมาไทยอันเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก เพื่อจาริก แสวงบุญ แต่คนไทยกลับมองข้ามในสิ่งพิเศษที่เรามีนี้ไป ซึ่งหวังว่างานวิสาขบูชาโลก จะช่วยดึงคนไทย ยุคปัจจุบันให้มาสนใจธรรมะยิ่งขึ้น ฝึกเจริญสติ เพราะสติเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยรักษาโลกใบนี้
ให้สงบสุข ไม่ต้องตกอยู่ในวังวนแห่งการแก้แค้น ช่วยให้คนสามารถเอาชนะกิเลสและอารมณ์ในใจตัวเอง การฝึกจิตและฝึกฝนตนเองจะช่วยให้สังคมเกิดความสงบสุขมากขึ้น ผู้คนมีความอดทนอดกลั้นมากขึ้น และช่วยลดความขัดแย้งลงได้”
สำหรับปีนี้ ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ได้ร่วมเจ้าภาพจัดงานร่วมกัน โดยขณะนี้มีผู้นำสงฆ์ ปราชญ์ชาวพุทธ และผู้แทนจากองค์กรพุทธทั่วโลก ตอบรับการเข้าร่วมงาน “วันวิสาขบูชาโลก ปี 2553” แล้วถึง 5,000 คนจาก 84 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ผู้นำรัฐบาลไทย เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เลขาธิการองค์การยูเนสโก อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น รวมทั้ง ดร.อริยะรัตเน ปราชญ์ชาวพุทธแห่งประเทศศรีลังกา และผู้นำสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในแต่ละประเทศ เข้าร่วมอีกด้วย
หัวข้อการประชุมใหญ่ในปีนี้คือ การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลกตามทัศนะชาวพุทธ ซึ่งจะมีการแยกอภิปรายในหัวข้อย่อยต่าง ๆ เพื่อดึงแนวคิดจากพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในแต่ละแง่มุม มาปรับใช้ในการแก้ปัญหาวิกฤติการณ์ของโลกด้านต่าง ๆ อาทิ เศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาจิตของคนในสังคม เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นต้น
ทั้งนี้ มจร. จึงขอเชิญชวนให้พระสงฆ์ไทยและชาวไทยผู้สนใจเข้าร่วมฟังการบรรยาย ในหัวข้อต่างๆ ที่สนใจ ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือติดตามชมการถ่ายทอดสด ผ่านทาง True Vision หรือ เข้าร่วมชมนิทรรศการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่น่าสนใจ หรือ เข้าร่วมพิธีสวดมนต์อันศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับการเวียนเทียนเพื่อสร้างสัมมาสติ ความรักและสามัคคีร่วมกันของคนในชาติ ณ พุทธมณฑล จ.นครปฐม ในวันที่ 25 พฤษภาคม ศกนี้ โดยผู้สนใจสามารถ ศึกษารายละเอียดของงานได้ที่
www.icundv.com/vesak2010 หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ (+66) 035-238098-9
