sianbun on April 22, 2010, 05:34:25 PM
นาซ่า เตรียมส่งหุ่นยนต์ จีเอ็ม ขึ้นปฏิบัติภาระกิจในสถานีอวกาศ นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ได้รับการถ่ายทอดสู่ยานยนต์และระบบความปลอดภัยในด้านการผลิต



วอชิงตัน – นาซ่า เตรียมส่งหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ R2 หรือ Robonaut 2 ขึ้นปฏิบัติงานประจำในสถานีอวกาศนานาชาติภายในปีนี้ โดยหุ่นยนต์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซ่า) และเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ภายใต้ข้อตกลงการพัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ทั้งในอวกาศและในศูนย์การผลิตยานยนต์ของจีเอ็มทั่วโลก

หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ R2 ซึ่งมีน้ำหนัก 300 ปอนด์ (136 กิโลกรัม) ประกอบด้วยส่วนหัว ลำตัว แขนและมือทั้งสองข้าง จะถูกส่งขึ้นไปพร้อมกับกระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรี่ ตามแผนปฏิบัติการ STS-133 ในเดือนกันยายนนี้ โดยเมื่อถึงสถานีอวกาศแล้ว เหล่านักวิศวกรจะตรวจสอบการทำงานของหุ่นยนต์รุ่นนี้ในสภาพไร้น้ำหนัก หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ R2 จะปฏิบัติงานร่วมกับหุ่นยนต์ประจำสถานีอวกาศ “เด็กซ์เตอร์” หุ่นยนต์ที่มีแขนยาวเป็นพิเศษสำหรับการทำงานนอกสถานีอวกาศ ซึ่งถูกพัฒนาโดยองค์กรการบินอวกาศแห่งแคนาดา

เด็กซ์เตอร์ จะถูกติดตั้งอยู่ภายนอกสถานีอวกาศ ในขณะที่ R2 จะปฏิบัติงานอยู่ภายในห้องแล็บเดสทินีบนสถานีอวการ โดยในอนาคต R2 จะถูกพัฒนาให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นอิสระมากยิ่งขึ้น และสามารถออกไปปฏิบัติภาระกิจนอกสถานีอวกาศได้อีกด้วย
 
“สำหรับการใช้งาน R2 ในสถานีอวกาศนั้นเป็นเพียงการเริ่มต้นที่สำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ในอวกาศ” จอห์น โอล์ซัน ผู้อำนวยการฝ่ายระบบสำรวจอวกาศแบบบูรณาการของนาซ่า กล่าว “สัมพันธภาพระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสำรวจระบบสุริยะ และจะสามารถทำให้เราก้าวล้ำและประสบผลสำเร็จมากกว่าที่เราเคยคาดการณ์ไว้ในวันนี้”   

หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ ไม่เพียงแต่จะมีรูปร่างหน้าตาภายนอกคล้ายมนุษย์เท่านั้น แต่ยังถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุดอีกด้วย R2 มีแขนและมือคล้ายมนุษย์ โดยสามารถใช้เครื่องมือที่มีอยู่บนสถานีอวกาศเสมือนที่มนุษย์อวกาศใช้ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์จะสามารถปฏิบัติภาระกิจนอกสถานีอวกาศได้ และยังสามารถเป็นได้ทั้งผู้ช่วยและตัวแทนนักบินอวกาศในกรณีที่ต้องปฏิบัติภาระกิจที่มีความยากลำบาก หรือ อันตรายสำหรับมนุษย์ ขณะนี้ R2 ยังเป็นเพียงหุ่นยนต์ต้นแบบที่ยังไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิเมื่อต้องปฏิบัติภาระกิจนอกสถานีอวกาศ   

แต่การทดสอบหุ่นยนต์ R2 ภายในสถานีอวกาศดังกล่าวจะช่วยทำให้เราทราบถึงสภาวะแวดล้อมฉับพลันที่สำคัญหลายประการ โดยหุ่นยนต์จะถูกทดสอบในสภาวะปราศจากแรงโน้มถ่วงและต้องผ่านการทดสอบในสภาวะร่วมของการแผ่รังสีและสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของสถานีอวกาศ ซึ่งระบบปฏิบัติการภายในจะทำการประเมินประสิทธิภาพการทำงานของหุ่นยนต์ในขณะที่ปฏิบัติงานร่วมกับนักบินอวกาศ และในขณะที่หน่วยปฏิบัติการภาคพื้นดินได้รับรายงานความคืบหน้าการทดสอบ คณะผู้ร่วมทดสอบ ณ สถานีอวกาศอาจจะได้รับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถปฏิบัติภารกิจใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย


หุ่นยนต์ R2 กำลังถูกทดสอบอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมตัวขึ้นปฏิบัติภาระกิจจริงบนสถานีอวกาศ ด้วยการทดสอบโดยการสั่นสะเทือน ในสภาวะสุญญากาศ และการแผ่กัมมันตรังสี รวมถึงกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับทีมงานของจีเอ็ม ที่มีแผนการที่จะนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ R2 นี้ มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาระบบความปลอดภัยในรถยนต์และในฐานการผลิตยานยนต์ในอนาคต

“ระดับการทดสอบหุ่นยนต์ R2 ที่เข้มข้นนี้ดำเนินการขึ้นเพื่อการเตรียมตัวก่อนขึ้นไปปฏิบัติการจริง ณ สถานีอวกาศ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับการทดสอบรถยนต์ทุกคัน และชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งหมดในสายการผลิตของ จีเอ็ม การทดสอบร่วมกันระหว่างทีมวิศวกรของจีเอ็มและนาซ่านี้ จะช่วยทำให้เราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่มีความปลอดภัยต่อพนักงานของจีเอ็มในฐานการผลิตทั่วโลก” นายอลัน ท้อบ รองประธานกรรมการด้านการวิจัยและพัฒนาในระดับโลกของจีเอ็ม กล่าว “การร่วมเป็นพันธมิตรกันระหว่างจีเอ็มและนาซ่าจะช่วยให้เรามั่นใจได้มากขึ้นว่าการสำรวจอวกาศ การเดินทางด้วยรถยนต์ และการผลิตรถยนต์ในอนาคตจะมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น”

ทีมงานวิศวกรการผลิตของจีเอ็มกำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ R2 นี้ ทั้งในด้านการมองเห็น การเคลื่อนที่ และเทคโนโลยีระบบตรวจจับสัญญาณ เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถช่วยเหลือมนุษย์ในการปฏิบัติภาระกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

“กลยุทธ์ของเรา คือ การพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของกระบวนการผลิตรถยนต์และรถบรรทุก ซึ่งรวมไปถึงการสร้างระบบที่ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงานของพนักงาน โดยเราเล็งเห็นว่าเทคโนโลยีหุ่นยนต์ R2 จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและคุณภาพในกระบวนการผลิต รวมทั้งยังช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้แก่เราอีกด้วย” นายเคนเน็ต ดี ไนท์ ผู้อำนวยการบริหารศูนย์อำนวยการผลิตและประกอบรถยนต์ของจีเอ็ม กล่าว

เกี่ยวกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส

เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2451 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยท์ จีเอ็ม มีพนักงาน 217,000 คนใน 140 ประเทศทุกในภูมิภาคทั่วโลก จีเอ็ม มีฐานการผลิตรถยนต์ และรถปิกอัพอยู่ใน 34 ประเทศ และจำหน่ายรถแบรนด์ที่มีชื่อเสียง อย่าง บูอิค คาดิลแลค เชฟโรเลต เอฟเอดับเบิลยู จีเอ็มซี จีเอ็มแดวู โฮลเด้น โอเปิล วอกซ์ฮอลล์ และวูหลิง ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม อยู่ในสหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยจีน บราซิล เยอรมนี สหราชอาณาจักร แคนาดา และอิตาลี แผนกออนสตาร์ของจีเอ็ม นั่นถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมความปลอดภัย และการให้บริการข้อมูลในรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ดำเนินงานแทนเจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจีเอ็ม ใหม่ คลิกเข้าชมได้ที่ www.gm.com   
« Last Edit: April 23, 2010, 11:50:44 AM by sianbun »

sianbun on April 23, 2010, 11:49:31 AM
NASA to Launch GM Co-Developed Robot to International Space Station


 
          Technology to drive advancements in vehicle and manufacturing safety systems

          NASA will launch the first human-like robot to space later this year to become a permanent resident of the International Space Station. Robonaut 2, or R2, was developed jointly by NASA and General Motors under a cooperative agreement to develop a robotic assistant that can work alongside humans, whether they be astronauts in space or workers at GM manufacturing plants on Earth.

          The 300-pound R2 consists of a head and a torso with two arms and two hands and will launch on space shuttle Discovery as part of the STS-133 mission planned for September. Once aboard the station, engineers will monitor how the robot operates in weightlessness. R2 joins another station robot, known as Dextre. This robot, built by the Canadian Space Agency, consists of two, long arms to perform tasks that normally require spacewalking astronauts to complete.

          While Dextre is located on the station's exterior, R2 will be confined to operations in the station's Destiny laboratory. However, future enhancements could allow it to move more freely around the station's interior, and it also could one day be modified to operate outside the complex.

          “The use of R2 on the space station is just the beginning of a quickening pace between human and robotic exploration of space,” said John Olson, director of NASA's Exploration Systems Integration Office. “The partnership of humans and robots will be critical to opening up the solar system and will allow us to go farther and achieve more than we can probably even imagine today.”

          The dexterous humanoid robot not only looks like a human, it is designed to work like one. With human-like hands and arms, R2 is able to use the same tools that station crew members use. In the future, the greatest benefit of humanoid robots in space may be as an assistant or stand-in for astronauts during spacewalks or for tasks too difficult or dangerous for humans. For now R2 is still a prototype and does not have adequate protection needed to exist outside the space station in the extreme temperatures of space.

          Testing the robot inside the station now will provide an important intermediate environment. R2 will be tested in zero gravity, as well as subjected to the station’s radiation and electromagnetic interference environments. The interior operations will provide performance data on how a robot may work side-by-side with astronauts. As development activities progress on the ground, station crews may be provided hardware and software to update R2 to allow it to do new tasks.

          R2 is undergoing extensive testing in preparation for its flight. Vibration, vacuum and radiation testing along with other procedures being conducted on R2 also benefit the team at GM. The automaker plans to use technologies from R2 in future advanced vehicle safety systems and manufacturing plant applications.

          “The extreme levels of testing R2 has undergone as it prepares to venture to the International Space Station are on par with the validation our vehicles and components go through on the path to production. The work done by GM and NASA engineers also will help us validate manufacturing technologies that will improve the health and safety of our GM team members at our manufacturing plants throughout the world,” said Alan Taub, vice president of GM’s global research and development. “Partnerships between organizations such as GM and NASA help ensure space exploration, road travel and manufacturing can become even safer in the future.”

          GM’s manufacturing engineering team is already hard at work identifying potential applications for R2’s array of vision, motion and sensor technologies that will assist workers in manufacturing operations.

          "Our strategy is to develop technologies that can fundamentally change the way we manufacture cars and trucks", said Kenneth D. Knight, Executive Director GM Manufacturing Assembly & Automation Center. "This includes a focus on developing ways to further support our operators. We can foresee implementing the technologies developed in R2 in the future to improve our manufacturing safety, productivity, and quality processes".

          About General Motors:
          General Motors, one of the world’s largest automakers, traces its roots back to 1908. With its global headquarters in Detroit, GM employs 217,000 people in every major region of the world and does business in some 140 countries. GM and its strategic partners produce cars and trucks in 34 countries, and sell and service these vehicles through the following brands: Buick, Cadillac, Chevrolet, FAW, GMC, GM Daewoo, Holden, Opel, Vauxhall and Wuling. GM’s largest national market is the United States, followed by China, Brazil, Germany, the United Kingdom, Canada, and Italy. GM’s OnStar subsidiary is the industry leader in vehicle safety, security and information services. General Motors acquired operations from General Motors Corporation on July 10, 2009, and references to prior periods in this and other press materials refer to operations of the old General Motors Corporation. More information on the new General Motors can be found at www.gm.com.
« Last Edit: April 23, 2010, 11:52:41 AM by sianbun »

ps.tanoy on April 23, 2010, 04:33:30 PM
ข้อมูลดีมากๆเลย ขอบคุณค่ะ :)