sianbun on April 21, 2010, 12:59:50 PM
KTAM จับมือซิตี้แบงก์เปิดขายกองทุนเหมืองแร่



            นายสมชัย  บุญนำศิริ  (ขวามือ)   กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน)  แถลงข่าวเปิดตัว    “ กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์   เมทัล แอนด์  ไมน์นิ่ง ฟันด์   ”  ร่วมกับนายปวิณ  รอดลอยทุกข์ (ซ้ายมือ)  ผู้อำนวยการสายบุคคลธนกิจ  ธนาคารซิตี้แบงก์   ในฐานะผู้ร่วมจัดตั้งกองทุน  และเป็นหนึ่งในตัวแทนผู้สนับสนุนการจำหน่าย  โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ลงทุนใน  Allianz  RCM  Rohstoffonds   บริหารโดย  RCM บริษัทในกลุ่มAllianz Global Investors เปิดขาย IPO ระหว่างวันที่ 26 เมษายน - 12พฤษภาคม  2553
« Last Edit: April 21, 2010, 02:05:24 PM by sianbun »

sianbun on April 21, 2010, 01:58:06 PM
KTAM ตอกย้ำความเป็นผู้นำกองทุนรวมอุตสาหกรรม  เสนอขายกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เมทัล แอนด์ ไมน์นิ่ง ฟันด์

                จากความสำเร็จเมื่อปีที่แล้วของกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เอ็นเนอร์จี ฟันด์ และกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฟันด์ นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เมทัล แอนด์ ไมน์นิ่ง ฟันด์ (KTAM World Metals and Mining Fund: KT-MINING) ซึ่งเป็นกองทุนรวมอุตสาหกรรมอีกกองทุนหนึ่ง โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 12 พฤษภาคม 2553 โดยมีทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านบาท โดยลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในกองทุนรวมหลัก ซึ่งได้แก่ Allianz RCM Rohstoffonds บริหารโดย RCM หนึ่งในกลุ่มบริษัทจัดการลงทุน Allianz Global Investors และ Allianz Group หนึ่งในผู้ให้บริการด้านการเงินระดับโลก โดยกองทุนจะไม่ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

                กองทุนรวมหลักมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนชั้นนำทั่วโลกซึ่งดำเนินธุรกิจด้านเหมืองแร่ และการผลิต ได้แก่ โลหะที่ไม่มีส่วนประกอบของเหล็ก เช่น นิกเกิล ทองแดง อลูมิเนียม รวมถึงเหล็ก และแร่อื่น ๆ เหล็กกล้า ถ่านหิน โลหะมีค่า เช่น ทอง แพลทินัม เพชร เกลือ และแร่อุตสาหกรรม เช่น กำมะถัน เป็นต้น กองทุนนี้มุ่งที่จะให้โอกาสในการรับผลตอบแทนจากกำไรส่วนเกินของหุ้นในระยะยาว โดยขนาดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมหลัก ณ วันที่ 3 มีนาคม 2553 อยู่ที่ 1,134.94 ล้านยูโร หรือประมาณ 49,680 ล้านบาท และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ AA- โดย สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส นับตั้งแต่ปี 2007 ปัจจุบันกองทุนรวมหลักให้อัตราผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 17.80% ต่อปี ในช่วง 5 ปี และ 15.21% ต่อปี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

                นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า การลงทุนในกองทุน KT-MINING เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้ลงทุนในหุ้นกลุ่มทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่ไม่จำกัดเฉพาะประเทศจีนเท่านั้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการวัตถุดิบเพื่อการผลิตยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก ดังนั้นแนวโน้มการขาดแคลนวัตถุดิบมีโอกาสกดดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้นด้วย กองทุนนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือในการกระจายความเสี่ยงที่ดีสำหรับนักลงทุนไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารหนี้ แต่ยังเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อด้วย เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์มักเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับสินค้าจำเป็นในการอุปโภคบริโภค

                อีกเหตุผลหนึ่งที่ควรลงทุนในกองทุน KT-MINING คือ กองทุนรวมหลักบริหารโดยทีมงานที่แข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมสินแร่และโลหะมากว่า 20 ปี ถือเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์มากที่สุดคนหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ นอกจากทีมจัดการลงทุนที่มีความสามารถแล้ว RCMยังมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการประมาณ 141.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552) และบริษัทยังได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย รวมถึง Lipper Award 4 รางวัลในประเภท Asia Asset Management Awards  และ 2 รางวัลในประเภท Asian Investors Investment Performance Awards 2009

ด้านนายปวิณ รอดลอยทุกข์ ผู้อำนวยการสายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ในฐานะตัวแทนสนับสนุน การขายกล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในปี 2553 และปี 2554 นักเศรษฐศาสตร์ซิตี้ คาดว่ากลุ่มประเทศเกิดใหม่ยังคงจะเป็นผู้นำในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยจะเติบโต 6.3% ในปี 2553 และ 6.0% ในปี 2554 เทียบกับ 2.3% และ 2.2% ของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม ในแง่ของเงินเฟ้อ คาดว่ายังคงไม่มีแรงกดดันด้านราคา โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ G3 โดยสหรัฐฯ ที่น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในไตรมาส 4 ของปีนี้ อัตราเงินเฟ้อน่าจะเป็นที่กังวลมากกว่าในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชียที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า ส่วนผสมของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นปัจจัยที่สนับสนุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะราคาสินค้าโภคภัณฑ์

หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดก็คือการลงทุนในกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทั่วโลกมีงบการลงทุนโดยรวมเฉลี่ยถึงปีละ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ทุกๆปีจนถึงปี 2558 และมากกว่าครึ่งของ งบการลงทุนจะอยู่ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ จากนโยบายของรัฐบาลที่จะพัฒนาระบบสาธารณูปโภค การลงทุนในกลุ่มวัสดุพื้นฐานก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการมีส่วนร่วมกับการเติบโตในระยะยาว เพิ่มไปจากการลงทุนในตลาดหุ้นโดยรวม อย่างไรก็ดีนักลงทุนจะต้องมีวินัยในการสร้างพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนและปรับให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายและสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป นายปวิณสรุป   

KTAM continues to lead the way with sector fund KTAM World Metals & Mining Fund to go on IPO

With the success of KTAM World Financial Services Fund and KTAM World Energy Fund introduced last year, Khun Somchai Boonnumsiri, Chief Executive Officer of Krung Thai Asset Management PCL., announced the launch of another Foreign Sector Fund, KTAM World Metals and Mining Fund (KT-Mining). KT-Mining will be IPO during April 26th – May 12th, 2010 with registered fund size of 2,000 million baht. KT-Mining on average will invest at least 80% of its Net Asset Value in the master fund. The master fund, Allianz RCM Rohstoffonds, is managed by RCM, part of Allianz Global Investors and Allianz Group, one of the world's top financial services providers. KT-Mining Fund currently does not have policy to hedge foreign exchange risk.

The master fund invests globally into listed companies, which are active in the mining/production of commodities including non-ferrous metals (e.g. nickel, copper, aluminum), iron, other ores, steel, coal, precious metals (e.g. gold, platinum), diamonds, industrial salt and minerals (e.g. sulfur). The fund aims to attain above-average capital gains over the long term. The fund size as of March 3rd 2010 was 1,134.94 million EUR or about 49.68 billion bath. The fund has received an AA-Rating from Standard & Poor’s since 2007. The annualized returns were 17.80% for 5-year and 15.21% for 10-year.

Khun Somchai said that KT-Mining Fund enables investors to take part in the opportunities offered specifically by stocks in the natural resource sector that is essential for the industrialization and development of infrastructure in emerging markets, not limited to China . Global economy is recovering and demand for raw material is likely to continue to grow due to the economic stimulus programs being implemented around the world. The likelihood of supply shortage should give rise to commodity prices. This fund not only can provide a valuable diversification tool for Thai investors who have a large portion of portfolio in bonds, but it can also provide inflation protection since commodities are closely linked to rising prices in essential goods.

Another great reason to invest in KT-Mining is that its master fund is managed by strong investment team who has over 20 years of industry experience in metals and mining sector. They are considered one of the most experienced managers in this sector. Besides talented investment team, RCM has approximately USD 141.6 billion of assets under management (as of December 31, 2009). The company has won many awards including Lipper Fund Award, four awards at the Asia Asset Management awards, and two awards the Asian Investor Investment Performance Awards 2009.

Citibank N.A., as a distributor, by Khun Pavin Rodloytuk, Retail Banking Director said the global economic recovery continues to provide a supportive backdrop for commodity prices in 2010 and 2011. Citi’s economists expect emerging markets to continue to lead the world recovery, growing at an estimated 6.3% and 6.0% in 2010 and 2011, respectively; compared with 2.3% and 2.2% in industrialized countries. On the inflation front, price pressures are expected to remain subdues, especially in G3 where monetary policy tightening is likely to start in 2010 Q4 (in the US ) at the earliest. Inflation is more of a concern in emerging markets, and especially in emerging Asia where economic recoveries are stronger. The combination of robust economic recovery and low interest rates continues to provide an attractive backdrop for risky assets generally, and commodity prices in particular.

One of the strategic opportunities for equities investors is global infrastructure, with spending estimated to average US$2 trillion annually through 2015 with more than half to occur in emerging economies where government policies are aimed at driving infrastructure development. “Again this basic materials fund offers investors yet another avenue of long-term growth outside the broader markets. However investors should always take disciplined investment approach in building a diversified portfolio and realign their portfolio with changing goals and the economic environment” Khun Pavin concluded.

sianbun on April 21, 2010, 03:01:20 PM
  บลจ. กรุงไทย เพิ่มทางเลือกใหม่ ขายกองทุนเปิดเคแทมออยล์ฟันด์

           นายสมชัย  บุญนำศิริ  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เสาะหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆให้กับผู้ลงทุนตลอดเวลา  เพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุน ให้มีความหลากหลายมากขึ้น  นอกเหนือจากการเปิดจำหน่ายกองทุนพันธบัตรทั้งในต่างประเทศ   โดยในระหว่างวันที่ 19-27 เมษายน 2553   บริษัทจะเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดเคแทม ออยล์ ฟันด์ ( KT-OIL)   มูลค่าโครงการ  2,000 ล้านบาท โดยกองทุนเน้นลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในหน่วยลงทุนของกองทุน PowerShares  DB Oil Fund     ซึ่งบริหารและจัดการโดย   DB    Commodity   services  LLC      โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์ของน้ำมันดิบ  ( light sweet crude oil –WTI )  จุดประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนี   Deutsche  Bank  Liquid  Commodity  Index –Optimum Yield  Crude  Oil  Excess  Return

          โดยจุดเด่นของกองทุน  KT- OIL     มีสภาพคล่องสูง  สามารถซื้อ-ขาย ได้ทุกวันทำการ   มูลค่าขึ้นต่ำในการลงทุน 2,000  บาท ขึ้นไป    ซึ่งกองทุนเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนอีกหนึ่งทางในการบริหารพอร์ตการลงทุน เนื่องจากการปรับตัวของราคาน้ำมันมีความสัมพันธ์น้อยมากกับการปรับตัวของตราสารหนี้และหุ้น   นอกจากนี้  น้ำมันเป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถป้องกันการสูญเสียความสามารถในการซื้อ  ( Inflation  Hedged  )  เนื่องจากน้ำมันเป็นสินทรัพย์ที่ไม่เสียมูลค่าที่แท้จริงไปตามภาวะเงินเฟ้อ   

             นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า กองทุน KT-OIL เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในน้ำมันดิบ จากเดิมที่ในอดีตการลงทุนในน้ำมันดิบในรูปแบบต่างๆจะจำกัดอยู่เฉพาะบริษัทผู้ค้าน้ำมันและสถาบันการเงินรายใหญ่ๆเท่านั้น แต่พัฒนาการของกองทุนอีทีเอฟ ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในน้ำมันดิบได้ผ่านการลงทุนในกองทุนอีทีเอฟ ซึ่งมีต้นทุนต่ำ และสะดวก โดยน้ำมันนั้นถือได้ว่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญของโลก ซึ่งหากพิจารณาแนวโน้มในระยะสั้น จะพบว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตรา 4.4% ในปี 2553 และ 4.5% ในปี 2554 ซึ่งน่าจะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันกลับฟื้นตัวขึ้น ส่วนในระยะยาวนั้น ตราบเท่าที่เรายังคงต้องอาศัยพลังงานและเชื้อเพลิงอยู่ โลกก็ยังคงมีความต้องการน้ำมันอยู่เสมอไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร

             ด้านฝ่ายวิจัยของบลจ. กรุงไทย   ได้มีการประเมินราคาน้ำมันดิบ WTI  Light  Sweet  Crude  Oil  ในไตรมาสที่2ของปี 2553  เฉลี่ยอยู่ที่ 79.67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล  เพิ่มขึ้น 1.1%   จากราคาเฉลี่ยไตรมาสที่แล้ว  โดยแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ  WTI ในครึ่งปีหลังคาดว่า จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  เนื่องจาก   Driving  Season  ในช่วงกลางปี  และปริมาณความต้องการใช้น้ำมันที่ให้ความร้อน (  Heating   Oil)  ที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี  นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมของโลกยังเป็นบวก ต่อการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันอีกด้วย     

                จึงคาดการณ์   ว่า  ในระยะยาว ราคาน้ำมันน่าจะเป็นขาขึ้นต่อเนื่อง  ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นของทั้งโลก  รวมทั้ง  Supply ที่มีค่อนข้างจำกัด  และต้นทุนการผลิตและสำรวจที่เพิ่มขึ้น เพราะแหล่งสำรวจใหม่ๆ อยู่ในชั้นหินที่ลึกและยากต่อการขุดเจาะ  ขณะที่การเติบโตของพลังงานทางเลือกอื่นๆยังไม่สามารถทดแทนได้

             โดยผู้ลงทุนที่สนใจสามารถซื้อหน่วยลงทุนผ่าน สาขาธนาคารกรุงไทย  และตัวแทนสนับสนุนการซื้อขายหน่วยลงทุนทั่วประเทศ  รวมทั้งการซื้อหน่วยลงทุนผ่านระบบอออนไลน์  KTAM Smart Trade (www.ktamsmarttrade.com)